อันดับที่ 2 รัก/สาม/เศร้า ฉบับอมตะของ "เจน-แบรนเจลินา"
หากจะกล่าวถึงข่าวกอสซิปแห่งปีที่สามารถพูดได้ยาวนานไม่จบไม่สิ้น เห็นจะเป็นเรื่องรักสามเศร้าของคนดังฮอลลีวูด แม้ว่าจะมีลูกด้วยกันปาเข้าไป 6 คนแล้ว แต่เรื่องราวระหว่างคู่รักคนดังแบรนเจลินา และ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ยังคงไม่จบถึงเรื่องราวความรักฉันท์สามีภรรยาของเธอและแบรด พิตต์ จะจบไปนานแล้วหลายปีก็ตาม
เรื่องราวรักสามเศร้าของพวกเขายังคงตกเป็นขี้ปากและเป็นข่าวให้เมาท์อยู่ได้ตลอดเวลา แม้ฝ่ายสาวเจนจะไปมีรักใหม่กับหนุ่มๆมากหน้าหลายตา แต่ข่าวคราวของเธอที่ต้องถูกโยงไปยังแบรนเจลินานั้นก็คอยมีออกมาให้ได้เมาท์อยู่เรื่อยๆ
อย่างล่าสุดการออกมายอมรับทางอ้อมของแองเจลินาที่เธอเผยว่าเธอตกหลุมรักกับแบรด พิตต์ เมื่อครั้งแสดงภาพยนตร์ด้วยกัน เมื่อไม่นานที่แบรดเองก็ออกมายอมรับเช่นกันว่าเขารักแองจี้ขณะที่ยังคงสถานภาพสมรสกับเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ซึ่งการยอมรับของแบรด พิตต์ ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ที่พูดถึงแองจี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
โดยสงครามน้ำลายย่อมๆที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มขึ้นจากการที่เธอไปถ่ายแบบพร้อมให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vouge ถึงเรื่องที่แองเจลินา ตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้ไปทำงานในกองถ่ายภาพยนตร์ Mr. & Mrs. Smith โดยเจนทิ้งระเบิดไว้สั้นๆว่า “ที่เธอทำมันไม่สวย” พร้อมยืนยันว่าจากข่าวที่เกิดขึ้นในกองถ่ายจนปรากฏไปทั่วตามสิ่งพิมพ์แท็บลอยด์ทั้งหลายนั้นเธอเริ่มเชื่อก็เมื่อแองเจลินาออกมายอมรับเองแม้เธอจะบอกว่ามันไม่สวยก็ตามที "ฉันเซอร์ไพร์สไหมเหรอ? จะพูดยังไงดีล่ะ? พิจารณาจากแหล่งข่าวแล้ว ก็ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์สำหรับฉันนะ"
ด้วยเหตุนี้สงครามระหว่างพวกเธอจึงยังไม่จบไปง่ายๆ และเมื่อไม่นานนี้เองที่เธอลงทุนเปลือยเหลือแต่เนคไทขึ้นปกนิตยสาร GQ แม็กกาซีน เธอก็ยังคงเหน็บแนมพูดถึงครอบครัวของอดีตสามีในประโยคที่ว่า "เรื่องตลกก็คือ ผู้คนลืมนึกไปว่าพวกเราทั้งหมดไปเที่ยวกันในวันหยุดที่แฮมป์สตัน ฉันมีซาฮาราอยู่บนตัก แล้วก็น็อกซ์..."
หลายๆ อย่างเป็นตัวชี้ชัดดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงเกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ แม้เจนจะบอกว่ามันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคนอื่นแต่พิจารณาจากข่าวคราวที่เกิดขึ้นแล้วคนที่ยังหมกมุ่นอยู่กับอดีตจึงยังคงเป็นสาวเจนนิเฟอร์ที่ยังไม่จบลงง่ายๆ แม้ความรู้สึกที่เธอมีกับคู่รักแบรนเจลินาจะไม่มีอะไรเหลือแล้วแม้แต่ความแค้นหรือความเศร้าโศกเสียใจ เพราะตอนนี้เธอได้ยาดีคือ จอห์น เมเยอร์ มาช่วยรักษาจนเกือบจะหายดีแล้วแต่จากการที่เธอยังคนติดนิสัยชอบกัดและเหน็บแนมคู่รักและครอบครัวนี้อยู่บ่อยๆ ข่าวคราวกอสซิปของ 3 คนนี้จึงเป็นข่าวที่ขายดี ขายได้ และจะคงเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วโลกอยู่อย่างนี้ต่อไป...
อันดับที่ 1 มหกรรมภาพฉาว...และการมาของ "คิระ"
ตั้งแต่เทปลับ One Night in Paris ของไฮโซสาว ปาริส ฮิลตัน ได้ออกมาสร้างความอื้อฉาวไปเมื่อหลายปีก่อน ปี 2008 นี้ถือเป็นปีที่มีเหตุการณ์คลิปหลุดภาพสยิวของคนดังออกมาระบาดทางอินเตอร์เน็ตอย่างมากมายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะการที่พิษจากเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ขาดความระวังได้ข้ามมาระบาดถึงเอเชีย จนมาถึงกรณีที่เกิดกับคนดังของบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กรณีภาพฉาวคลิปหลุดของคนดังเมืองนอกที่เด่นๆ ในปีนี้มีด้วยกันมากมาย ตั้งแต่ภาพสุดวาบหวิวที่ลงถ่ายด้วยตัวเองของสาวน้อยมหัศจรรย์ ไมลีย์ ไซรัส ภาพเปลือยล่อนจ้อนของสาวดีสนีย์อนาคตไกล เวเนสซา ฮัดเจนส์ รวมไปถึงเวทีการประกวดนางงามเกาหลีในปีนี้ ที่นางแบบผู้ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายอย่าง คิมฮีคยอง ต้องถูกยึดตำแหน่งคืนเนื่องจากภาพอดีตที่เธอยึดอาชีพเป็นนางแบบภาพสยิวหลุดออกมาให้แฟนๆ ให้ชมกันนั่นเอง
ใช่ว่าจะเป็นผู้ชายแล้วจะไม่มีคลิปสยิว เพราะแม้แต่ร็อกเกอร์รุ่นใหญ่อย่าง จีน ซิมมอน นักร้องนำวง Kiss ก็มีคลิปสยิวออกมาให้ตะลึงเหมือนกัน แม้แต่รายที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 3 ทศวรรษอย่าง จิมมี เฮนดริกซ์ ก็ยังมีคนค้นไปเจอเซ็กซ์เทปเอามาขายกันได้ รวมถึงรายที่ไม่มีใครคิดจะได้เห็นเซ็กซ์เทปของเขาอย่างตลกแคระร่างจิ๋วที่คนรู้จักกันในชื่อ มินิมี ก็มีคลิปวาบหวิวกับแฟนสาวหุ่นนางแบบมาให้สยิวกิ้วกันเล่นๆ ด้วย
ยังไม่นับกรณีสาวหน้าเหมือนที่ออกมาอีกเป็นตัน ทั้ง บริทนีย์ สเปียร์ส และ ลินซีย์ โลแฮน
แต่เหตุการณ์ภาพฉาวที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการบันเทิงฮ่องกง เกิดขึ้นเมื่อนักแสดงหนุ่ม เฉินกว้านซี ได้นำโน้ตบุ๊คของเขาไปซ่อมที่ร้านคอมพ์แห่งหนึ่ง โดยภาพสุดสยิวของเจ้าตัวและสาวๆ คนดังในนั้นได้ถูกพนักงานของร้านลักลอบนำออกจากเครื่อง ซึ่งตามการเปิดเผยของหนึ่งในเพื่อนสนิทของอาเฉินเผยว่าอาเฉินมีนิสัยชอบบันทึกลีลารักของตนเองกับสาวๆ เอาไว้ดูเล่น และจะนำภาพสุดสยิวฝีมือการถ่ายของเขาออกมาดูกันสนุกสนานในหมู่เพื่อนสนิทเท่านั้น โดยรูปส่วนใหญ่ถูกบันทึกเอาไว้ระหว่างปี 2003 ถึง 2006
จนเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ได้มีผู้นำภาพแรกของเหตุการณ์ดังกล่าวมาเปิดเผย ซึ่งเป็นภาพนัวเนียของอาเฉินและเหยื่อคนแรกอย่าง ไซ่จัวเหยิน หรือ อาเจียว ดารา/นักร้องสาวคนดังของวง Twins ออกมาโพสต์ทางฟอลั่มในอินเตอร์เน็ต แม้มันจะถูกลบในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาแต่มันก็ถูกอีเมล์ต่อๆ กันไปแบบไฟลามทุ่ง ซึ่งครั้งแรกนั้นผู้คนยังตั้งข้อสงสัยกันว่ารูปภาพดังกล่าวเป็นการตัดต่อเพื่อมุ่งทำลายชื่อเสียงของดาราทั้งคู่หรือเปล่า
จนกระทั้งอีก 2 วันต่อมา ทุกอย่างก็ชัดเจนเมื่อเหยื่อรายที่ 2 และที่ 3 อย่าง เฉินเหวินเหวียน และนางเอกดัง จางป๋อจือ มีภาพอล่างฉ่างออกมาให้ชมกันเป็นชุดๆ จนในที่สุดอาเฉินที่ใบ้กินอยู่นานก็ได้ออกมากล่าวขอโทษทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 4 ก.พ. และขอให้ผู้ที่มีรูปอยู่ในครอบครองลบมันเสียเพื่อให้เรื่องจบๆ กันไป
แต่อีก 2 วันต่อมา ได้มีการปรากฏตัวในโลกไซเบอร์ของมือโพสต์ที่ตั้งชื่อตัวเองว่า "คิระ" ที่ทำการเย้ยตำรวจฮ่องกงที่กำลังสืบสวนคดีนี้ด้วยการออกมาโพสต์ภาพสยิวสุดใหญ่นับร้อยรูป โดยเฉพาะลักษณะของภาพที่โพสต์ในอีก 2 วันถัดมาตามที่เขาสัญญาไว้ได้ทำให้รูปคดีพลิกกลับโดยสิ้นเชิง เพราะแต่เดิมมีคนตั้งข้อสงสัยว่านายเฉินถ่ายภาพเหล่านี้ในขณะที่สาวๆ อยู่ในอาการมึนเมาหรือเปล่า แต่ภาพชุดหลังที่ปรากฏออกมาแสดงให้เห็นว่าสาวๆ แต่ละคนให้ความร่วมมือในการโพสต์ท่าสยิวต่างๆ เป็นอย่างดี ตามมาด้วยข่าวลือถึงสาวคนอื่นๆ ที่อาจมีเอี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้ง ซูฉี, โจลิน ไช่, เม็กกี คิว จนถึงเจ๊ใหญ่อย่าง หลิวเจียหลิง (ดาราสาวไทยบางคนก็โดนร่างแหไปด้วย) ที่สร้างความปันป่วนในวงการจนหลายฝ่ายเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รีบหาต้นตอออกมาเพื่อหยุดยั้งความเสียหายต่อผู้บริสุทธิ์ในวงการไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้
ในบรรดารูปมากมายที่ถูกปล่อยออกมา ภาพที่ถือว่าสำคัญที่สุดกลับเป็นภาพถ่าย 3 รูปขณะกำลังอาบฝักบัวธรรมดาๆ ของ วินซี เหยียง แฟนสาววัย 18 ของอาเฉินเอง ซึ่งเธอก็คือหลานสาวของเจ้าพ่อ อัลเบิร์ต เหยียง ประธานบริษัท Emperor Entertainment Group ผู้เสียหายโดยตรงของเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเหยื่อสาวอย่าง อาเจียว และ เซี่ยถิงฟง สามีของ จางป๋อจือ ต่างเป็นศิลปินในสังกัดของเขา ที่ต้องมาเสียอนาคตเพราะอดีตเด็กในสังกัดอย่างอาเฉินที่เคยอยู่กับค่ายถึง 5 ปีก่อนจะออกไปเมื่อปี 2005 จนนำมาซึ่งข้อสันนิฐานว่าต้นตอเรื่องทั้งหมดมาจากความขัดแย้งระหว่างสองอิทธิพลมืดในวงการบันเทิงฮ่องกงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ภาพสยิวครั้งนี้
หลังจากภาพสยิวล็อตสุดท้ายถูกปล่อยออกมาเมื่อวันวาเลนไทน์ อาเฉินก็หนีความฉาวไปกบดานที่อเมริกา พร้อมกับข่าวลือต่างๆ นานาเกี่ยวกับชะตากรรมของสาวๆ เจ้าทุกข์ทั้งหลาย รวมทั้งค่าจ้างจำนวน 5 แสนเหรียญฮ่องกงเพื่อแลกกับการเฉือนมือของอาเฉิน ทำให้การกลับมาเยือนฮ่องกงอีกครั้งในวันที่ 21 ก.พ.เจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยต้องมารักษาความปลอดภัยให้เขา ซึ่งเจ้าตัวได้กลับมากล่าวขอขมาต่อสาธารณะชนอีกครั้งและประกาศหันหลังให้กับวงการบันเทิงฮ่องกงอย่างเป็นทางการ
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชีวิตของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับกรณีภาพฉาวครั้งนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อาเจียว ต้องเสีย Twins ของเธอไปจากการประกาศพักงานอย่างไม่มีกำหนดจากต้นสังกัด การกลับมาปรากฏตัวในงานการกุศลทางโทรทัศน์เธอถูกผู้ชมทางบ้านโทรมาต่อว่า ขณะที่ผลงานในภาพยนตร์อย่าง Forever Enthralled ทีมงานก็ตัดสินใจตัดฉากที่เธอแสดงออกไป รวมทั้งประกาศแบนเธอจากการไปปรากฏตัวในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งอีกด้วย
จางป๋อจือ และ เซี่ยถิงฟง ต้องเจอกับช่วงที่ยากลำบากของชีวิตคู่จากภาพหลุดดังกล่าว จนมีข่าวลือว่าเตียงของทั้งคู่กำลังจะหักเพราะลือกันว่าลูกชายของทั้งคู่นั้นอาจจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเซี่ยถิงฟงก็เป็นได้ แต่โชคยังดีที่ครอบครัวนี้ไม่ได้แตกสลายสังเวยความซุกซนชั่ววูบของหนุ่มสาว
ในรายของอาเฉินนั้น หลังจากเขาประกาศหันหลังให้กับวงการบันเทิงของฮ่องกงแล้ว เขาก็บินไปใช้ชีวิตใหม่ที่อเมริกา ปล่อยให้หนังอย่าง Jump ผลงานที่เขารับเล่นต้องคัดนักแสดงใหม่ ส่วน Sniper ที่ถูกแบนในการฉายที่เมืองจีนก็จะได้ออกฉายที่ฮ่องกงในช่วงอิสเตอร์ปีหน้านี้
หลังจากไปโผล่แค่เสี้ยววินาทีในหนังดังแห่งปีอย่าง The Dark Knight อาเฉินที่กำลังเรียนการแสดงอยู่ในอเมริกาก็หวังจะโกอินเตอร์กับเขาบ้าง โดยล่าสุดเจ้าตัวกำลังเอาดีกับงานออกแบบเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ของเขาเอง โดยมีสาวคู่ใจคนเดิมอย่าง วินซี เหยียง หนึ่งในเหยื่อภาพฉาวคอยเป็นกำลังใจอยู่ที่นั่น ซึ่งน่าสงสัยว่าชีวิตที่ยังอยู่ดีมีสุขของนายเฉินทุกวันนี้เพราะการยังควงอยู่กับหลานสาวเจ้าพ่ออย่างวินซีหรือเปล่า
แต่ที่น่าสังเกตก็คือ แม้เวลาจะผ่านมาเกือบปีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการปล่อยภาพฉาวครั้งมโหฬารครั้งนี้ และโฉมหน้าที่แท้จริงของ "คิระ" ผู้ที่เขย่าวงการบันเทิงของเอเชียจนกลายเป็นข่าวดังประจำปี 2008 ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป
10 ข่าวบันเทิงเทศ 2008 (10-9) : เพลงและหนังแห่งปี
10 ข่าวบันเทิงเทศ 2008 (8-7) : "การกลับมา" และ "กู่ไม่กลับ" แห่งปี
10 ข่าวบันเทิงเทศ 2008 (6-5) : แต่งๆ หย่าๆ ประจำปีหนูของคนดัง
10 ข่าวบันเทิงเทศ 2008 (4-3) : ทายาทดารา และการจากลาของ "ฮีธ เลดเจอร์"
****************
10 ข่าวเด่นบันเทิงเทศ 2007 (1)
10 ข่าวเด่นบันเทิงเทศ 2007 (2)