“หนูแหม่ม” มือขึ้น! เปิดธุรกิจตัวใหม่ ภูมิใจไม่ต้องกู้ธนาคาร

"หนูแหม่ม" เทกระเป๋า เปิดร้านเสื้อผ้าไซส์บิ๊กแบรนด์ตัวเอง เผย สุดภูมิใจ เพราะเป็นธุรกิจตัวแรกที่ไม่ต้องกู้ธนาคารมาลงทุน

เป็นพิธีกรมากความสามารถ ที่เฮงทั้งเรื่องงานและธุรกิจ สำหรับ "หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา" หลังประสบความสำเร็จจากการทำร้านทำเล็บ และศูนย์คาร์แคร์มาแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวก็หันมาจับธุรกิจเสื้อผ้าบิ๊กไซส์ เอาใจสาวร่างอวบในชื่อแบรนด์ "SURI by SURIVIPA" ที่ สยาม พารากอน พร้อมเผยอย่างภูมิใจ นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเป็นธุรกิจตัวแรกที่ไม่ต้องกู้ธนาคารมาลงทุน

“จริงๆ แล้วมันเป็นประสบการณ์ ที่หนูแหม่มถูกถามในตลอดการทำงาน 20 ปีที่ผ่านมา ทุกคนมักจะถามว่าหนูแหม่มซื้อเสื้อผ้าที่ไหน ทำไมกล้าใส่แบบนี้ ทำไมใส่สายเดียว ไม่อายเหรอ มักจะถูกถามแบบนี้เสมอ หนูแหม่มแขนใหญ่ทำอย่างไรดี ก็คงต้องบอกเลยว่าหนูแหม่มก็แขนใหญ่เหมือนกัน ทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ที่ความมั่นใจ แล้วก็ต้องอยู่ที่การดีไซน์ การออกแบบการมิกซ์แอนด์แมท เพราะฉะนั้นคนถามหนูแหม่มเยอะ ก็เลยมีความรู้สึกว่า เราก็มีประสบการณ์แบบที่พวกเขากำลังเจอมาเหมือนกัน”

“อย่างเวลาไปซื้อเสื้อผ้าจะซื้อหายากมากต้องไปที่ช็อปที่มีซื้อผ้าของแม่ๆ มันดูเป็นแบบที่ไม่ใช่วัยเราหรือก็ไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับคนท้อง ซึ่งมันจะเป็นไซส์กว้างๆ หนูแหม่มคิดว่าเราเป็นคนปกติเหมือนกับนางแบบตัวเล็กๆ ทุกคนที่อยากจะสวย อยากจะเดิ้น อยากจะทันแฟชั่น”

“หนูแหม่มก็เลยรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว ที่จะมีโอกาสจะให้เรามายื่นตรงที่มีช่องว่าง ที่มีตัวเลือกไม่มากนัก ก็เลยคิดตัดสินใจทำแบรนด์ของเรา สำหรับเสื้อผ้าแบบนี้โดยตรง คือทุกคนอยากสวยหมดเลย แต่ว่าหาตัวเลือกยาก มีตัวเลือกน้อยหนูแหม่มคิดมาตลอดว่าหนูแหม่มจะทำอย่างไรดี ใครถามจะได้บอกว่าซื้อที่ไหนก็เลยตัดสินใจทำเองเลยดีกว่า”

“บ๊อบบี้ (สามี) เป็นคนที่ช่วยทั้งหมดเลย ตลอด 1 ปีที่ทำมา บ๊อบบี้หัวฟูมาตลอดคิดทั้งเรื่องโครงหลักๆ เป็นเรื่องทั้งของการลงทุน การตลาดทั้งหมดซึ่งหนูแหม่มไม่มีความสามารถทางนั้นเลย มีอย่างเดียวเลยคือใช้ชื่อ แล้วก็ประสบการณ์ที่เรามีบอกเขาไป”

ส่วนเรื่องงบประมาณของการลงทุนนั้น พิธีกรคนดังกล่าวเพียงว่า ธุรกิจครั้งนี้คือความภูมิใจที่ไม่ต้องกู้ธนาคาร อุบเรื่องตัวเลข บอกเป็นเพียงเรื่องหน่อมแน้ม
“ต้องบอกตามตรงเลย อันนี้เป็นความภาคภูมิใจอันหนึ่ง ที่เป็นการลงทุนโดยไม่ต้องกู้ธนาคาร ใช้ระบบคือเรามีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น ไม่ได้ทำเป็นสเกลใหญ่ แล้วเราก็โชคดีเหลือเกิน ที่ได้โรงงานที่เขาบอกว่าเขารักสุริวิภาเขาทำให้เราได้ในจำนวนที่คุณมีเท่าไหร่ คุณก็ได้ทำแค่นั้น”

“ตัวเลขอย่ารู้เลยมันหน่อมแน้ม (หัวเราะ) มันเป็นการเริ่มต้น แล้วหนูแหม่มก็มีแค่เคาท์เตอร์เดียวในสยามพารากอน เราคิดว่าเราน่าจะมองเผื่ออันข้างหน้าไว้ด้วย แต่อันนี้เราก็จะทำให้มันดีที่สุดก่อน ให้คนไซส์พิเศษรู้สึกปลาบปลื้ม สิ่งที่เขาโหยหาครบตามที่เราคิดไว้ เดี๋ยวอันอื่นก็ตามมา”