เป็นการรวมตัวกันเฉพาะกิจ ของสุดยอดขุนพลเพลงเพื่อชีวิต อย่าง "แอ๊ด,หงา,ปู,เที่ยรี่,เล็ก" ที่สร้างความประทับใจได้ดีทีเดียว สำหรับคอนเสิร์ต "คาราบาว" ในรูปแบบ "Road To Country Carabao & Friend" ณ โบนันซ่า เขาใหญ่
โดยปีนี้ ผู้จัดบอสใหญ่อาร์เอสเฟรชแอร์ "วินิจ เลิศรัตนชัย" ถึงกับหน้าบาน เป็นปลื้มที่มีสาวกคาราบาวแห่ไปดูกันแน่นเต็มขุนเขา ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเย็น แม้จะมีปัญหาเรื่องห้องน้ำห้องท่าที่น้ำไม่ค่อยไหล เนื่องจากจำนวนคนที่ไปชมคอนเสิร์ตร่วมหมื่นคน ทำให้การส่งน้ำติดขัดอยู่บ้าง แต่งานนี้ทางเจ้าภาพได้ลงทุนตัดถนนใหม่ ฉะนั้นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นอย่างเรื่องรถติด และอาหารการกินจึงไม่มีปัญหาเหมือนอย่างปีที่ผ่านๆ มา
ในส่วนของคอนเสิร์ต ความสนุกเริ่มต้นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน โดยมี "ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์" กระโดดขึ้นเปิดเวทีก่อนเป็นคนแรก นำเพลงของตัวเองในกว่า 23 อัลบั้ม ทั้งเพลงฮิต ตลอดเวลา, โรงเรียนของหนู, พเนจร, คืนสู่รัง, ผีโรงเย็น, เสือ 11 ตัว, ไถ่เธอคืนมา และเพลงอื่นๆ อีกเพียบมาเล่นกว่า 2 ชั่วโมง เป็นการเรียกน้ำย่อยแบบหอมปากหอมคอ
จากนั้นอาจารย์ใหญ่แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต "น้าหงา คาราวาน" (สุรชัย จันทิมาธร) ออกมากระหน่ำเพลงฮิตเอาใจคอเพลงเพื่อชีวิตกันต่อแบบไม่มีหยุด จนคนดูในค่ำคืนนั้นยืนเต้นกันมันหยด และถึงคิวของ "คาราบาว" ที่มากันแบบครบวง ทั้ง แอ๊ด ยืนยง โอภากุล, เที่ยรี่ เมฆวัฒนา, เล็ก ปรีชา ชนะภัย, อ๊อด อนุพงษ์ ประถมปัทมะ, หมี ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ, ดุก ลือชัย งามสม, โก้ ชูชาติ หนูด้วง, อ้วน เทพผจญ พันธุ์พงษ์ไชย
เปิดตัวเพลงแรกด้วยเพลง พระเจ้าตาก ต่อด้วยเพลง เมดอินไทยแลนด์, มหาลัย, ล้างบาง, ยายสำอาง, หลงวัด, คนหนังเหนี่ยว ทั้งเพลงเร็วเพลงช้าสาวกคาราบาวก็ไม่พลาดที่จะร้องตามกันดังสนั่นได้ทุกเพลง และ "ปาน ธนพร แวกประยูร" หญิงเดียวบนเวทีก็ออกมาแจมในเพลง หนุ่มบาว-สาวปาน, เหงาไม่เข้าใจ, บัวผัน แม้ ปาน จะออกมาร้องแค่ 3 เพลง แต่ก็ช่วยเพิ่มความสนุกสนานได้ไม่น้อย
มาถึงช่วงท้ายที่เป็นไฮไลท์ของงาน กับการประชันกันของขุนพลแห่งตำนานเพลงเพื่อชีวิตอย่าง "แอ๊ด,หงา,ปู,เที่ยรี่,เล็ก" ที่รวมตัวกันเฉพาะกิจบนเวที โดยแต่ละคนคว้ากีต้าร์คู่ใจขึ้นมาโซโลเพลงช้าๆ ซึ้งๆ ในสไตล์อะคูสติก แถมแลกเพลงกันร้องอย่างครื้นเครง ในแบบฉบับที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน
ก่อนปิดท้ายค่ำคืนแห่งความหนาวเย็น คาราบาวขนเพลงมาเล่นกันแบบนันสต็อป เป็นที่ถูกอกถูกใจสาวกกันถ้วนหน้า ท้ายสุดได้มีการมอบเงินรายได้ จากการจำหน่ายบัตรบางส่วนให้กับวัดพระบาทน้ำพุ และได้ดูพุสุดอลังการบนท้องฟ้ายามดึกแบบสบายตา ก่อนลากันไปเข้านอน ภายใต้บรรยากาศอันหนาวเย็นของเขาใหญ่
