แพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ออกแถลงอาการ “สายัณห์” เผย อาการขั้นโคม่าต้องเข้าห้องไอซียูอีกครั้ง บอกเส้นเลือดดำเข้าอุดตันที่ขา และมีลิ่มเลือดออกในสมอง เผย ให้ญาติทำใจ ด้าน “ปู-เด๋อ” ร่ำไห้สุดสงสาร ลั่นถ้าบอกอาการได้เหมือนคนปกติ คงไม่เป็นถึงขนาดนี้ ส่วนพ่อเผยทำใจไม่ได้ เพราะแม่ของสายัณห์เพิ่งเสียไป
อาการป่วยเริ่มดีขึ้นในระยะแรกได้ไม่นาน สำหรับตลกชื่อดัง “สายัณห์ ดอกสะเดา” แต่เพียงไม่นานภาวะแทรกซ้อนก็เข้าทำร้าย โดยรองศาสตราจารย์นายแพทย์อดิศร ภัทราดูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ ออกแถลงการ สายัณห์ มีภาวะแทรกซ้อนสองอย่าง คือ เส้นเลือดดำอุดตันที่ขา และ ลิ่มเลือดออกในสมอง หมดทางเยียวยา อยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ หากถอดก็คงเสียชีวิต บอกไม่ผ่าสมองเพราะความเสี่ยงสูง
“อาการของคุณสายัณห์ตั้งแต่วันที่เข้ารับการรักษาจนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้หายใจเอง เราใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่แล้วก็ใส่สายหายใจโดยที่คนไข้ไม่ได้หายใจเอง แล้วจากการประเมินเรื่องการผ่าตัดผมคิดว่าอาจจะไม่คุ้มนะครับ เพราะผ่าตัดใหญ่มากผ่าตัดสมอง แล้วก็อัตราเสี่ยงค่อนข้างสูง สมมติผ่าได้ก็ตามเนี่ย ผลรับที่ได้อาจจะไม่ทำให้ฟื้นขึ้นมาได้ พอประชุมกันก็คิดว่าไม่สมควรที่จะผ่าตัด คือ ตอนนี้คุณสายัณห์ไม่ได้หายใจเอง หายใจด้วยเครื่อง ก็คือ ถ้าเราเอาเครื่องออกก็คงจะเสียชีวิต”
“ตอนนี้ยังไม่เอาเครื่องออกครับ คงดูต่อไปเรื่อยๆ ว่า อาการจะเป็นยังไงต่อ ตำแหน่งที่เลือดไหลออกในสมองเนี่ยเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากเป็นตำแหน่งใต้สมองถึงจะเป็นแค่จุดเล็กน้อยเนี้ยในคนไข้ที่มีปัญหาที่บริเวณนี้โดยทั่วๆ ไป ปกติโอกาสที่จะกลับมามีน้อยมาก ปัญหาของคุณสายัณห์ตอนนี้ คือ มีเลือดออกเยอะ จึงมีโอกาสที่จะกลับมาได้ค่อนข้างน้อย ณ ขณะนี้คงมองตรงแง่ที่ว่า เลือดที่ออกมันออกมากเรื่อยๆหรือว่าตำแหน่งที่กดที่เป็นตำแหน่งสำคัญได้ถูกทำลายไปมากน้อยแค่ไหน”
“ซึ่งคงต้องรอการประเมิณอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้ เพราะว่าเราจะประเมิณหลังจากที่คนไข้มีปัญหาประมาณ 48-72 ชั่วโมง ส่วนเลื่อดออกนี่น่าจะหยุดแล้วเพราะเท่าที่ดูนี้ คือ อันดับแรกเราได้แก้ภาวะเลือดแข็งตัวได้แต่ต้น ตอนนี้ระดับการแข็งตัวของเลือดก็เท่ากับคนปกติแล้ว ขณะเราไม่ได้หวังที่จะแก้ไขภาวะลิ่มเลือดต่ำ เพราะคณะนี้เลือดที่ออกทางสมองเป็นอันตรายถึงชีวิต ตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงมากแล้วครับเพราะว่าตอนนี้อยู่ในภาวะที่รุนแรง”
“ตอนนี้เท่าที่ดูแลก็มีการประเมินว่าต่อจากนี้จะมีการทำอะไรได้มากกว่านี้มั๊ย ถ้าผ่าตัดไม่ได้แล้วก็น่าจะดูจากอาการต่างๆ ที่น่าจะเปลี่ยนแปลงว่ามีโอกาสที่จะมีอะไรที่ดีขึ้นบ้างได้มั้ยคือปกติถ้าลิ่มเลือดไม่เยอะมันก็สามารถละลาย ทำให้อาการดีขึ้นได้แต่ว่าถ้าออกเยอะแล้วโอกาสที่ละลายกลับคืนปกตินะน่าจะยาก เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูอาการไปอีกสักระยะนึงนะครับว่าอาการจะดีขึ้นมั้ย แต่ตอนนี้จากที่เราดูทั่วๆ ไปแล้ว
เนี่ยอาการไม่ดีนัก”
บอกอาการแทรกซ้อนไม่เกี่ยวข้องกับไข้กาฬหลังแอ่น แต่เกิดจากการที่ผู้ป่วนนอนแน่นิ่งนาน เอ่ยขอโทษญาติสายัณห์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือสายัณห์ให้มีอาการดีขึ้นได้
“คือ ตอนนี้เราก็มีการคุยกับคุณพ่ออยู่ตลอดเวลา แล้วก็ได้คุยกับคุณเด๋อกับคุณปูด้วยว่าจะเอาอย่างไรต่อ ก็คงไม่อยากจะพูดตรงนี้นะครับว่าจะทำอย่างไงต่อ แต่ก็คงจะขึ้นอยู่กับภาวะสุดท้ายที่ทางแพทย์และญาติผู้ป่วยจะตกลงกันว่าอย่างไรครับ จริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากไข้กาฬหลังแอ่น”
“ เส้นเลือดดำอุดตันในขาเนี่ยเกิดขึ้นได้ทุกสภาวะที่ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ นานๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่ผ่าตัดสะโพก เนื่องด้วยการที่ไม่ได้ขยับขาแล้วเลือดมันก็อุดตันซึ่งกลุ่มของคุณสูงอายุที่เสียชีวิต เนื่องจากการผ่าตัด อย่างผ่าตัดสะโพกเนี่ยจะเกิดขึ้นมาก เพราะเลือดจะไปอุดตันในขากับผู้สูงอายุเกิดขึ้นง่ายกับพวกเด็กๆ ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่ โรคไข้กาฬหลังแอ่นอยูในภาวะทีดีแล้วครับรักษาแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ได้หายทีเดียวแต่สามารถควบคุมอยู่ได้แล้วครับ”
“ทางโรงพยาบาลก็เสียใจด้วยครับ เพราะทางโรงพยาบาลก็ดูแลคุณสายัณห์ได้ดีที่สุดแล้วนะครับแต่ว่าก็ได้เกิดภาวะแทรกซ้อนสองครั้งด้วยกันที่เราควบคุมลำบากขั้นที่หนึงก็คือเส้นเลือดดำอุดตันที่ขานะครับ พอควบคุมมาได้ระยะหนึ่งก็เกิดภาวะที่สอง คือ เลือดออกในสมองซึ่งเป็นจุดที่สำคัญที่เกิดขึ้นก็เลยทำให้เราควบคุมตรงนั้นไม่ได้ ก็คงต้องแสดงความเสียใจกับญาติทางคุณเด๋อและก็คุณปูด้วยครับที่ทางโรงพยาบาลไม่สามารถทำให้คุณสายัณห์กลับบ้านได้ คือ ทุกคนก็ช่วยกันทำกันดีที่สุดแล้วแหละครับ”
ด้าน “ปู -เด๋อ” ร่ำไห้ บอก เร็วเกินไปตั้งตัวไม่ทัน ด้านเด๋อบอกรักสายัณห์มากร่วมกันมา15 ปีเหมือนคนในครอบครัว
ปู : “ตอนนี้เราก็ได้แต่ทำใจนะคะ เพราะคนเรามันก็ว่าต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย แต่ที่เราผิดหวังในส่วนตัวมากที่สุดก็คือว่าเขายังโต้ตอบกับเราได้ ยังพุดคุยและคำพูดที่เขาพูด เราก็ยังพูดกันอยู่เลยว่าถ้าเรากลับไปเราจะทำอะไรกันอย่างไร ถ้าสายัณห์กลับไปเราก้ต้องจ้างคนมาดูนะ แล้วพอถึงเวลากายภาพเราก็ต้องพามากายภาพเราคิดไปไกลแล้ว เพราะเขาก็บอกว่ามันดีขึ้นตามลำดับ แล้วนี้อยู่ๆ เหตุการณ์มันพลิกมากเลยนะ ตอนแรกก็ยังตั้งรับไม่ทัน แต่คนเรามันก็เป็นธรรมชาติอย่างไรมันก็ต้องจากกัน”
“มันเร็วเกินไปเพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวน่ะค่ะ บางคนอาจจะเห็นว่าเขาเป็นดาวน์ซินโดรม แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เวลาที่เรากลับบ้านขับรถกลับบ้านด้วยกันแล้วถ้าเขาเห็นเราเงียบๆ เขาก็จะมาถามเราว่าเป็นอะไรเหนื่อยมั้ย ซึ่งคนทั่วไปอาจจะมองว่าเขาเป็นดาวน์ซินโดรมแต่เขาก็ยังมีความห่วงใย เราห่วงใยคนในครอบครัวน่ะค่ะ”
“อย่างเวลาพี่เด๋อเครียดๆ เขาก็จะมาตบไหล่ใจเย็นๆ ลึกๆ เลยที่เสียใจเนี่ยก็สงสารเขา คืออย่างถ้าเราเป็นอะไรปกติเนี่ยเราก็จะอาจจะบอกคุณหมอได้แล้วแต่สงสารสายัณห์ตรงที่เขาบอกอะไรคุณหมอไม่ได้ อยู่ด้วยกันมาสิบปีอยู่กับพี่เด๋อมานาน เราก็ดูแลเต็มกำลังเราเท่าที่เราจะดูแลได้ คือตอนนี้เราช่วยกันหมดคุณหมอก็ช่วย คือ ทุกคนได้ทำกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ถ้าผลออกมาเป็นอย่างไงก็ต้องยอมรับ ยอมรับมันนะคะ ก็ต้องกราบขอบพระคุณคุณหมอทุกๆท่านเราก็รู้ว่าคุณหมอก็เต็มที่แล้ว ก็เอาเป็นว่าให้ถึงที่สุดแล้วกันน่ะค่ะ ยังไงก็ขอบพระคุณค่ะ”
เด๋อ : “ดูแล้วหวังอะไรไม่ได้แล้วครับ ดูแล้วถ้าจะหมดหวัง..(ร้องไห้) คือ ตอนนี้คือสงสารเขาครอบครัวเรารักเขาได้ แล้วระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสิบห้าปีนี้อยู่ด้วยกันมาสามคนผมปูสายัณห์เนี่ยแกล้งทะเลาะกันบ้าง เขาแหย่ผมบ้าง พูดอะไรกันบ้างคุยกัน คือ พออยู่ด้วยกันแล้วมันมีความสุข แล้วพอมีลูกแล้วเขาก็เล่นกับลูกแหย่กับลูกลูกผมก็เล่นกับเขามีความสุขมาก ผมอยู่กับสายัณห์เนี่ยสายัณห์เขาก็ไม่มีอะไรเลย เขาจริงใจตลอด ผมรักเขามาก”
ด้านพ่อสายัณห์ นายทองหล่อ ม่วงเจริญบอก ทำใจไม่ได้ เพราะแม่ของสายัณห์ก็เพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้
“ขอบคุณนะครับที่มาให้กำลังใจกัน ก็อาการตอนนี้ก็ค่อนข้างหนักหน่อยนะครับ เพราะว่าร่างกายเขาไม่รับอะไรแล้วครับ ตอนนี้อยู่ได้ก็เพราะเครื่องช่วยหายใจ ก็ต้องดูไปเรื่อยๆก่อนนะครับเพราะอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ ทำไงได้ แต่หมอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องปล่อยไปอย่างนี้ก่อน ก็ต้องดูไปก่อนว่าอะไรยังไง เวลาถ้าถอดเขาก็ไปแล้วครับ เขาก็ไปมาทีนึงแล้วนะครับ ผมทำใจแล้วครับ เสียใจมาก แม่เขาก็ไปแล้วเมื่อสองสามวันเมื่อวันที่ 29 พ.ย.นี้เองครับ นี่ลูกก็จะมาไปอีกผมก็ยังทำใจไม่ค่อยได้”