“ตั้ว” เผยโปรเจกต์หนังรักสะดุด เพราะเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ บ่นสภาพจิตใจไม่พร้อมทำงานบันเทิง เพราะห่วงประเทศชาติ พร้อมโต้ เมาแล้วขับ ท้าใครไม่เชื่อเช็กหลักฐานกับตำรวจได้
มีโปรเจกต์สร้างหนังรักฟอร์มเล็ก แต่เน้นคุณภาพ “ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง” บอกทุกอย่างเตรียมการเรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องของนักแสดงหน้าใหม่ที่ตน และ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ร่วมกันปั้นมาประดับวงการ แต่แทนที่ผู้กำกับดีกรีพระเอกดังจะชื่นมื่น กลับแสดงอาการเหนื่อยใจ เพราะต้องเลื่อนการถ่ายทำไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากติดภารกิจกู้ชาติที่ทำเนียบ
“โครงการทำหนังเรื่องใหม่ เรียบร้อย พร้อมถ่าย เสี่ยก็อนุมัติแล้ว แต่ว่าติดภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลอยู่ครับ หมดภารกิจแล้วถึงจะมาทำหนังได้ครับ ทำหนังได้เมื่อไหร่ ก็เมื่อภารกิจรัฐบาลเสร็จสิ้น ตอนนี้เลยยังไม่อยากบอกชื่อเรื่อง มันอาจจะเปลี่ยนก็ได้ บอกได้แค่เป็นหนังรัก ที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่หมด เพื่อเป็นโอกาสดีในการสร้างคาแรกเตอร์นักแสดงใหม่ แล้วก็เรื่องคิวในการฝึกซ้อมมากขึ้น ทางเสี่ยเองก็ยินดีที่จะสร้างนักแสดงใหม่ด้วย”
“คือ จริงๆ มันต้องถ่ายแล้วแหละ แต่มันติดภารกิจ สภาพจิตใจยังไม่พร้อมที่ทำงานบันเทิง เสี่ยก็บอกเอาไว้เรียบร้อยก่อนค่อยมาทำ เสี่ยเข้าใจครับ เสี่ยผูกผ้าเหลืองด้วย ส่วนงบประมาณเรื่องนี้ก็ไม่แพงมาก เราทำหนังทุนต่ำมันสบายใจกว่า อย่างน้อยระหว่างเรากับผู้สร้างก็รู้ พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าหนังมันเจ๊งมันก็ไม่เจ็บตัวมาก คือ เราไม่ได้คิดจุดขายที่งบลงทุนทำหนัง แต่เน้นความละเอียดของบท”
ต่อข้อซักถามคิดว่าปีหน้าจะเริ่มถ่ายได้หรือไม่ ตั้ว บอกต้องถามรัฐบาล เมื่อไหร่ผมจะได้เริ่มงาน
“ก็ต้องถามรัฐบาลครับ ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานมา 6 เดือนแล้วครับ ไม่พร้อมครับ ก็คือ มีงานเท่าที่ทำได้ครับ อย่าพูดเลยพูดไปเดี๋ยวไม่ได้ออก งานหลักมันเป็นเรื่องชาติเรื่องบ้านเมืองครับ”
จากนั้นผู้สื่อข่าวเปลี่ยนประเด็นถามถึงอุบัติเหตุที่ผู้กำกับดีกรีพระเอกขับรถชนคน ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เจ้าตัวเผย ถือเป็นเคราะห์ครั้งใหญ่ ซึ่งได้มีการเคลียร์กับคู่กรณีเรียบร้อยแล้ว
“เรียบร้อยไม่มีอะไรครับ ก็รักษาเขาไป คือ เป็นจังหวะเคราะห์ เพราะกำลังจะเข้าซอยบ้านแล้วรถไม่มีความเร็ว แต่บังเอิญก่อนจะถึงซอยบ้านจะมีสะพานเราก็ชะลอความเร็วลง เปิดไฟเลี้ยวจะเข้าซอยตอนนั้นประมาณตี 3 กลับจากราชดำเนิน ถนนมันมืด เข้าใจว่า คุณลุงคนนี้กำลังนั่งเก็บอะไรอยู่ที่มืดๆ แกก็ขยับตัวก้าวเข้ามาในถนนจังหวะที่รถไปถึงตรงนั้นพอดี เลยเฉี่ยวตรงแก้มซ้ายของกันชน มันก็ทำให้เขาขาท่อนล่างหัก ก็รักษาดูแลกันเรียบร้อย”
“แต่วุ่นวายตรงหาญาตินิดหน่อย เพราะคนแถวนั้นบอกไม่มีญาติ ตอนแรกแกถอดเสื้อนุ่งกางเกงตัวเดียว ชอบออกจากบ้านมาตี 3 ตี 4 ออกจากบ้านไม่ใส่เสื้อ ไม่ใส่รองเท้า นุ่งกางเกงอย่างเดียว สภาพจิตใจก็ประมาณหนึ่ง ก็ไม่ได้โทษแกหรอกครับ สุดท้ายก็เจอญาติห่างๆ คนหนึ่งที่เขาดูแล เขาก็มาขอบคุณ บอกดีที่เป็นคุณตั้ว ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงชนแล้วทิ้งไว้แล้ว ก็ไม่มีการฟ้องร้อง ประกันชั้นหนึ่งก็ดูแลไป เสียค่าปรับเป็นปกติ เราเป็นคนขับรถยังไงสุดท้ายก็ถือว่าประมาท แต่ด้วยเหตุผลที่เขาโผล่เข้าในระยะที่หลบไม่ได้”
“มันคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อย่างที่บอกเป็นเคราะห์ก็ได้มันหลบไม่ทัน ตัวเขาก็คงไม่ตั้งใจมาตัดหน้า มันเป็นจังหวะชีวิตที่มันมาเจอกันโดยบังเอิญ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมกันไป เขาก็เข้าใจเราไม่ใช่ว่าเราเมาแล้วไปชนเขา มันอุบัติเหตุจริงๆ ถ้าเรามีน้ำใจก็เข้าใจกัน คนที่เสียหายมากหน่อยก็ต้องช่วย คนที่ทำให้เกิดก็ต้องช่วยดูแล เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคมที่เกิดขึ้น มันมีเรื่องโกงกินเลวๆ ที่เกิดขึ้นมากมายเยอะแยะครับ”
ต่อข้อซักถามเกี่ยวกับข่าวลือ มีสื่อบางฉบับลงว่าเมาแล้วขับ เจ้าตัวท้าดูหลักฐานที่สถานีตำรวจ พร้อมประชดตั้งวงเหล้ากลางทำเนียบรัฐบาล
“เพิ่งรู้นะเนี่ย ก็ไม่เป็นไรพูดอะไรก็ได้ พูดมากก็นี้ ก็ยังมีทุกวันนี้ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องปกติครับ(หัวเราะ) บอกเมาก็คงมาจากทำเนียบรัฐบาลก็ตั้งวงกินเหล้าก็คงจะเมาแอ๋เลย (หัวเราะ) ก็ถ้าเมาแล้วเป็นอย่างนั้นก็สุดแท้แต่ก็ไปดูสำนวนที่โรงพักก็ได้ เพราะมันก็ต้องลงบันทึกประจำวันว่าเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ย ไม่แน่ใจก็ไปดู”