เรื่องเสียทองเท่าหัวที่ดูเหมือนฝ่ายถูกกระทำอย่าง "เจนนิเฟอร์ อนิสตัน" นิ่งเฉยอยู่นานจะเพิ่งมาถึงจุดเดือดเอาในการให้สัมภาษณ์ต่อทางนิตยสาร Vogue ของอเมริกาเล่มล่าสุดนี้ เมื่อสาวเจนที่แทบจะไม่เอ่ยปากถึงเหตุการณ์เตียงหักของตัวเองมาก่อน ได้พูดถึงชื่อของสาวคู่กรณีอย่าง "แองเจลินา โจลี" เป็นครั้งแรกออกมาจนได้
เป็นที่รู้กันดีในฮอลลีวูดว่าเหตุที่ทุกวันนี้สาว เจนนิเฟอร์ อนิสตัน วัย 39 ต้องเป็นหม้ายทรงเครื่องและมีข่าวกับหนุ่มๆ แบบปีละคนเนื่องมาจากความล้มเหลวในชีวิตคู่ 5 ปีระหว่างเธอและ แบรด พิตต์ อดีตสามีเมื่อปี 2005 โดยทุกวันนี้หนุ่มพิตต์ไปปฎิบัติตัวเป็นพ่อลูกครึ่งโหลให้กับสาวรุ่นน้องอย่าง แองเจลินา โจลี วัย 33 อย่างขะมักเขม้นในขณะนี้
แต่เรื่องราวความบาดหมองของสองสาวที่เกิดมากว่า 4 ปีแล้ว ต้องกลับมาปะทุอีกครั้งจากการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของสาวแองจี้ที่ยอมรับแบบเปิดอกว่าเธอและแบรดพบรักแบบเกินห้ามใจกันในกองถ่ายหนังเรื่อง Mr. and Mrs. Smith เมื่อปี 2004 ซึ่งขณะนั้นแบรดยังเป็นสามีของเจนอย่างที่ใครๆ รู้ดี
ซึ่งในการเปิดใจของสาวเจนในการให้สัมภาษณ์ต่อทาง Vogue ที่ทางสื่ออย่าง Daily Mail ของอังกฤษ และ Life & Style ของอเมริกานำออกมาเผยแพร่แม้จะเป็นเพียงวลีสั้นๆ แต่ก็จับอารมณ์ของผู้พูดได้ชัดเจนที่สุด กับคำกล่าวที่ว่า "สิ่งที่แองเจลินาทำนั้นไม่สวยซะเลย"
ซึ่งผู้ที่ออกมาขยายความวลีดังกล่าวได้แก่แหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนของเจนที่เผยว่า "การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้พิสูจน์ให้รู้ว่าเจนนิเฟอร์ไม่ได้หงอต่อแองเจลินาอีกต่อไป เป็นการเปิดตัวที่ชัดเจนมาก"
ในการสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่นิวยอร์กและในบ้านใหม่ของเจนที่เบเวอร์ลี ฮิลส์ ยังเป็นการเปิดใจถึงเรื่องการย้ายบ้านใหม่, ความสัมพันธ์ที่อธิบายยากกับพ่อแม่ของเธอ, และเรื่องราวความลับในชีวิตรักของเธอด้วย
"เธอไม่เคยเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ครั้งไหนๆ เท่าครั้งนี้มาก่อน เธอพูดถึงเรื่องชีวิตเซ็กซ์, การงาน, และชีวิตหลังจากการหย่า เธอต้องมีอะไรเก็บไว้ในใจมากมาย เพราะเธอปล่อยออกมาหมดเลย" แหล่งข่าวที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับสมบูรณ์ของ Vogue ฉบับเดือนธ.ค.ที่จะวางขายในอเมริกาเร็วๆ นี้กล่าว
รายงานเผยว่าสาวเจนยังเป็นแบบหน้าปกให้กับ Vogue เล่มนี้ด้วย ซึ่งเธอโพสต์ท่าเซ็กซี่ในชุดสวยบนแสงแดดของหาดมาลิบู
"นี่จะเป็นการกลับมาสร้างชื่อเธอในฐานะเซ็กซ์ซิมโบลอีกครั้งหนึ่ง หุ่นเธอไม่เคยเฟิร์มเท่านี้มาก่อน" แหล่งข่าวเปิดใจ แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่คนสนใจจริงๆ ก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับโจลีในหนังสือมากกว่า
การรุกกลับครั้งนี้ของเจนเป็นเหมือนกับการตอบแทนคำชวนของแองจี้ในการให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารฉบับเดียวกันนี้เมื่อปี 2007 ที่แองจี้เผยว่ายินดีที่จะเจอกับเจนตัวๆ เพื่อสะสางปัญหาต่างๆ ให้หายข้อข้องใจกันไปเสียที
"ถ้าหล่อนอยากจะมาพบ ฉันก็พร้อมเสมอ" แองจี้พูดถึงเมียเก่าของคนรักของเธอเมื่อปีก่อน
"โจลี" เปิดปากยอมรับรักกับ"แบรด พิตต์"ก่อนหย่า"อนิสตัน"