“สา” เผยเหตุ “คุณแดง” เมิน “ขวัญ” เพราะติดพันคุยเรื่องน้องหมา

“สา” โต้เปล่าขึ้นแท่นลูกรัก “คุณแดง” บอกไม่สนใจ “ขวัญ” เดินเข้ามาทักทายเหตุติดพันคุยกับน้องหมาอยู่ก่อนหน้านี้ เผยบอสใหญ่เอ่ยปากถาม หนูเป็นใคร ช่วงที่นางเอกสาวเข้ามาไหว้ทักทายแค่แซวเล่น ยันแค่หมาตัวเดียว ไม่ทำให้เกิดการเขม่นกัน ฟุ้งแม่นางเอกสาวยังไม่เคยโทร.เคลียร์

กลายเป็นเรื่องอีกจนได้ เพราะแม้ขนาดบอสใหญ่วิกหมอชิต “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ยังไม่สนใจนางเอกฉาวรายวัน “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” ที่เข้าไปไหว้ทักทายเมื่อครั้งงาน “เยี่ยมเยียน 7 สี” มิหนำซ้ำกลับถูกมองผ่านเหมือนเป็นอากาศ แต่กลับไปสนใจเจ้าตูบของนางเอกสาว “สา มาริสา แอนนิต้า” ที่เข้ามาทักทายก่อนหน้านี้มากกว่าเสียอีก เล่นเอานางเอกสาวหน้าเจื่อนเดินกลับไปยังโต๊ะ และไม่ยอมถ่ายรูปหมูร่วมเฟรมบนเวทีด้วย

จนมีกระแสว่า บอสวิกหมอชิตกำลังปลุกปั้นนางแบบสาว เพื่อเป็นตัวแทนนางเอกจอมเกาเหลา ขึ้นแท่นเป็นลูกรักอีกคน งานนี้พอเจอตัวสาว “สา” สอบถามเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวปัดลูกรักตัวจริง คือ น้อง “ไอติม” สุนัขพันธุ์ชิวาว่าต่างหาก

“น้องหมาหนูกลายเป็นลูกรักคุณแดง ไม่ใช่สากลายเป็นลูกรักคุณแดง ลงให้ถูกนะ ไอติมเป็นลูกรักคุณแม่ ไม่ใช่สาเป็นลูกรักคุณแดง จริงๆ ประเด็นมันไม่มีอะไรเลยค่ะเพียง แต่วันนั้นสาก็พกหมามาเหมือนเวลาออกงานก็ไปสวัสดีคุณแดงตามปกติค่ะ คุณแดงก็ถาม อุ้ยเลี้ยงหมาด้วยเหรอ หมาชื่ออะไร คุณแดงเองก็เลี้ยงเหมือนกัน ก็มัวแต่คุยกันเรื่องหมาคุณแดงก็ไม่ทันสังเกตเห็นน้องขวัญเดินมาค่ะ แค่นั้นเอง ก็มัวแต่คุยเพราะว่าสานั่งอยู่กับพื้นแล้วน้องขวัญเดินมาทางด้านขวาของสาอีกทีค่ะไม่ได้ตามหลังมาหรือว่ามาทางเดียวกันค่ะพอดีสากับคุณแดงก็คุยกันติดพันเรื่องน้องหมาอยู่พอดี”

รับ “คุณแดง” แกล้งแซวเล่นถามสาว “ขวัญ” ที่เข้ามาไหว้ทักทายว่า หนูเป็นใคร เปรยสาเหตุที่นางเอกผิวหยวกถูกเมิน เพราะติดพันคุยเรื่องน้องหมา พ้อที่ถูกมองเป็นเรื่องใหญ่โต

“หนูว่าคุณแดงคงแซวเล่นมั้งคะ อันนี้สาก็ไม่ทราบ สาว่าจริงๆ มันไม่มีอะไรค่ะก็เหมือนกับเวลาที่สากำลังคุยติดพันอะไรสักอย่างแล้วก็ไม่ทันสังเกตอีกคนที่เดินเข้ามาค่ะจริงๆ มันไม่มีอะไรเลยค่ะพอน้องขวัญสวัสดีคุณแดงก็คุยปกติค่ะก็ทักน้องขวัญก็คุยหรืออะไรอย่างนี้ค่ะทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเลยค่ะ”

“สารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เกินไปค่ะจริงๆ มันไม่มีอะไรเลยค่ะแล้วบางเล่มก็ไปลงว่าแบบ อุ๊ย ต้องเกาเหลากันแน่เลย สาเอาหมาเข้าแลกเพื่อจะได้งานบ้างอะไรบ้างอย่างนี้ สาว่ามันไม่มีอะไรเลยอย่างที่สาไปงานมายาชาแนล สาก็เจอพี่หลุยส์ ดาราวีดีโอ สาก็เข้าไปสวัสดีพี่หลุยส์ปกติค่ะมันก็เป็นมารยาทของคนทำงานอยู่ช่อง 7 เจอผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าไปไหว้ฝากเนื้อฝากตัวเข้าไปแนะนำตัวมันก็ปกติค่ะสาว่าอย่าเพิ่งไปสร้างประเด็นอะไรกับมันมาก เพราะว่ามันไม่มีอะไรเลย"

ปัด “คุณแดง” เตรียมปั้นเป็นนางเอกคนใหม่แทนน้องบาร์บี้

“อุ้ย! สาว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะว่าน้องขวัญก็อยู่ช่อง 7 มานานแล้ว สาก็เพิ่งมาหลังจากที่ไม่ได้อยู่ช่อง 7 มา 7 ปี สาเพิ่งกลับมาเมื่อปีที่แล้วก็อย่าเพิ่งไปมองประเด็นตรงนั้นน้องเขาอยู่มานานกว่า สายังไงก็ต้องดูแลคนของเขาอยู่แล้วค่ะสาเองไม่ได้เซ็นสัญญากับช่อง 7 เพราะฉะนั้นมันก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่คุณแดงจะปั้นค่ะ เพราะถ้าเซ็นสัญญาแล้วจะปั้นก็น่าจะเป็นอีกเรื่องนึง ตอนนี้สาไม่ได้เซ็นสัญญากับช่อง 7 ค่ะ แต่สาก็ให้ความเคารพและรักที่จะทำงานกับช่อง 7 อย่างเต็มที่”

บอกถูกมองกลายเป็นลูกรักคนใหม่ เพราะความบังเอิญที่เห็นคุยกันนาน
“ใช่ค่ะ สาว่าเป็นแค่เหตุบังเอิญแค่นั้นเองเพราะว่าน้อยคนที่จะเห็นสาได้เจอคุณแดงด้วย พอมีคนเห็นวาสานั่งคุยกับคุณแดงนานก็เลยแบบแตกตื่นกันใหญ่เลยจริงๆ คุยกันเรื่องน้องหมาเป็นหลักค่ะเรื่องงานนี้ไม่ได้คุยกันเลยค่ะคุณแดงถามแค่ถ่ายเสาร์ 5 เป็นยังไงบ้างเหนื่อยมั้ยแค่นั้นเองค่ะนอกนั้นไมได้คุยกันเรื่องงาน”

เผยตั้งแต่มีข่าวยังไม่เคยเจอสาว “ขวัญ” ยันไม่มีเกาเหลาแน่นอน ส่วนแม่นางเอกสาวไม่เคยโทร.มาหาเช่นกัน

“คงไม่หรอกค่ะ เพราะว่าสาทำงานมาเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยมีปัญหากับใคร แล้วก็ไม่มีใครมีปัญหากับสา สาว่ามันไม่มีอะไรค่ะประเด็นแค่หมาตัวเดียวสาว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้คนทะเลาะกันนะ ไม่ได้เจอน้องอีกเลยค่ะก็เจอกันแค่งานเยี่ยมเยียน 7 สีนั่นแหละค่ะ แต่ปกติน้องขวัญก็เป็นน้องที่น่ารักมากเลยนะคะ เวลาเจอตามงาน หรือว่าเจอที่ไหนน้องเขาจะทักทายและสวัสดีตลอดค่ะไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ถามว่าคุณแม่น้องขวัญโทร.มาบ้างไหม ไม่มีค่ะ ไม่มีใครโทรมาทั้งสิ้นเลยค่ะ"

บ่นอุบเรื่องเล็กแต่ถูกทำให้กลายเป็นประเด็นใหญ่

“สาว่าคนที่ทำให้เป็นเรื่องมากกว่า คือ คนที่พูดกันปากต่อปากจนกลายเป็นเรื่องมากกว่า สาว่าหลายๆ คนน่ะค่ะ สาไม่ได้เจาะจงที่สื่อ เพราะว่าสื่อก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างถูกต้องที่สุดที่จะต้องทำอยู่แล้วค่ะสาว่ามันไม่ได้มีแค่สื่อค่ะมันต้องมีบุคคลที่สามที่สี่ที่ห้าที่เห็นเหตุการณ์หรือได้ยินคำพูดบางอย่างแล้วก็พูดต่อๆ กันไปค่ะคนนึงอาจจะพูดเล่าสัก 10 เปอร์เซ็นต์คนไปต่อก็ 20 – 30 – 50 -80 – 100 – 200 มันก็เพิ่ม”