xs
xsm
sm
md
lg

"วินิจ" ยันไม่เคยหยาบคายพูดด่า "บอย" กรณีจัดคอนเสิร์ตแข่งกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วินิจ เลิศรัตนชัย
"วินิจ" โต้ไม่เคยพูดเท้าเหยียบหน้า พาดพิง "บอย" จัดคอนเสิร์ตแข่ง บอกเป็นการพูดเล่นขำๆแค่นั้น ลั่นไม่มีนิสัยหยาบคาย เชื่ออีกฝ่ายไม่เข้าใจผิดแน่นอน บอกไม่คิดฟ้องร้องสื่อเพราะไม่อยากบานปลาย ด้าน "บอย" ขอยุติไม่สาวต่อ แต่บอกอ่านบทสัมภาษณ์แล้ว

หวิดงานเข้า! "วินิจ เลิศรัตนชัย" บอสใหญ่ อาร์ เอส เฟรชแอร์ แจง หลังจากที่มีข่าวบทสัมภาษณ์ที่ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ลงว่า "...ถ้า "บอย โกสิยพงษ์" จัดคอนเสิร์ต แล้วทำได้อย่างที่ผมทำให้เอาเท้ามาเหยียบหน้าผมเลย.. " จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความบาดหมาง "วินิจ" โต้ ไม่เคยพูดรุนแรง แค่เป็นการพูดเล่นขำๆระหว่างเพื่อน คงไม่ถึงขนาดที่จะผิดใจกัน แม้ว่าฟาก "บอย โกสิยพงษ์" เจ้าตัวบอกเพียงสั้นๆว่าไม่ขอพูดในประเด็นดังกล่าวแต่เห็นข่าวแล้ว แต่วินิจบอกอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น

"คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่มีบอยครับ เพราะบอยจะไปทำของเขา ครั้งที่แล้วมี คือเราก็จะทำในส่วนของเรา คือเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะครับ คือที่ผมพูดไปนะ มันเป็นเแค่การพูดเล่นกันระหว่างเพื่อน คือถ้าบอยทำแล้วไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้มาเหยียบผมเลย ผมไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น แค่ขำๆกันนะ"

"ผมไม่อยากให้เป็นประเด็น เพราะเดี๋ยวมันจะไม่จบอีก เราพูดกันขำๆนะครับ ผมพูดแบบขำๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องขำไม่เป็นไร ความจริงๆลึกๆแล้วผมเองเนี่ยก็เป็นมิตรกับทุกคน แล้วก็เหมือนแบบคนมาถามห้องน้ำทำเสร็จยัง บอกเสร็จแล้ว เสร็จแล้ว เสร็จแล้วมันยังไงถ้ามันเต็มจะทำยังไง เออๆน่า คือคุยกันในวงนะครับ แบบมึงมาเหยียบกูแล้วกัน คุยกับเพื่อนอะไรอย่างนี้มากกว่าไม่ได้ ไปคิดอะไรมากมาย"

"บทสัมภาษณ์ที่บอกถ้าทำแล้วเอาเท้ามาเหยียบหน้าคือ รู้สึกขำๆไง ก็เหมือนตอนห้องน้ำก็รู้สึกว่าเราพูดไปเล่นๆ ก็มีคนมาถามงานคุณยกเลิกเหรองานที่นู้นที่นี่คือถามอยู่แบบเนี้ย งานเราก็ไม่ได้ยกเลิกยังจัดเหมือนเดิมแต่ว่าที่อื่นผมได้ข่าวว่าไม่ได้ทำนี้ เออ มันก็เลยเกิดความเข้าใจผิด ว่าเออน่าถ้าจัดได้ก็ให้มาเหยียบผมเลย คือผมพูดถึงแต่ไม่ได้มีคำเกินจากนี้ครับ ผมไม่ได้อยู่สองคนผมอยู่หลายคน ไม่อยากจะให้พูดต่อเพราะพูดต่อคนก็จะไม่เข้าในเรื่องข่าว คงไม่ถึงขนาดต้องผิดใจมั้งครับ แล้วทุกอย่างต้องใช้เวลา จริงๆผมเปิดเวลาอยู่แล้ว คือจริงๆครั้งหนึ่ง เราก็ยังสามารถร่วมงานกันได้"

ยันไม่ขอเคลียร์ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และที่ "บอย" แยกไปเป็นเพราะอีกฝ่ายปรารถนาที่จะไปเอง ไม่เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ

"คือจิตใจผมจริงๆผมไม่มีอะไรครับ ผมไม่คิดอะไรตรงนั้นอยู่แล้ว ผมไม่มีการเคลียร์อะไรกันนะครับ คือก็ขำมากกว่าครับ ไม่ได้คิดอะไรมากครับ คือมันขำจริงๆพอเราพูดเราก็ขำนะ เออ เพราะตอนคุย คุยนอกรอบนะ ไม่ได้ถึงขนาดโห ไมค์จ่อ ผมไม่ได้เป็นคนประเภทแบบอะไรอย่างั้นอารมณ์ดีจะตาย"

"บอยเขาออกไปก็ปรารถนาของเขาเองครับ แล้วเราก็ตามใจในสิ่งที่เขาปรารถนา เสร็จงานแล้วไม่สบายใจ คือบอยป็อดจริงๆต้องทำด้วยกัน เพราะมันเป็นสัญญาสุภาพบุรุษ เราก็เตรียมการไปตั้งเยอะแล้ว ประกาศทางสื่อก็แล้วแต่พอวันหนึ่งเขาบอกว่าไม่สบายใจขอพักไว้ก่อน ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งถ้าเราไม่ยอมป่านนี้เป็นเรื่องไปตั้งนานแล้วคือทุกวันนี้พอเห็นก็เอาอีกแล้วเหรอ"

" เข้าใจผิดกันมากกว่าครับ ตอนนั้นเหมือนเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เราก็ไปด้วยกันคนก็เยอะแยะเลย เรือรั่วผมก็โดดไป อะไรอย่างเนี้ยครับ บางคนก็ไปนั่งเรือบด ถึงฝั่งแล้ว ผมก็ค่อยๆไป แล้วมันก็ไปถึง ถึงช้าหน่อยแต่ก็ถึง ไปของผมก็คือตอนนี้ผมทำห้องน้ำเสร็จแล้วนะ"

ถามต่อว่าจะฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ที่นำข้อความมาลงหรือไม่ "วินิจ" บอกยังไม่เห็นบทสัมภาษณ์ แต่ไม่คิดที่จะฟ้อง เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย

"ยังไม่เห็นบทสัมภาษณ์เลยครับ ผมไม่คิดที่จะฟ้องหรอกครับ เพราะผมไม่ได้ติดใจอะไร คือผมอยากให้เรื่องมันจบตรงนี้ ไม่อยากให้เป็นประเด็นอะไรขึ้นมาอีก อย่างที่ผมพูดไปแล้วว่าผมพูดกันในหมู่เพื่อนคือมันไม่มีอะไร ซึ่งนิสัยผม ผมคงไม่ได้หยาบคายหรือผมจะพูดคำอย่างนั้นออกไปจากปากผมอยู่แล้วครับ ซึ่งผมคิดว่าผมปล่อยให้เรื่องมันจบลงไปดีกว่า ไม่อยากต่อประเด็นอะไรอีกครับ"

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับคอนเสิร์ต "Love is Winter Festival 07" ปีที่แล้ว "วินิจ" บอก เพิ่มความมั่นใจจัดครั้งนี้จะไม่ให้เกิดแบบครั้งที่แล้วแน่นอน รับปรุงใหม่ทั้งหมดทั้ง ทั้งระบบขายตั๋ว สร้างห้องน้ำถาวร ที่จอดรถ พร้อมทั้งสร้างถนนเองอีกด้วย

"จากครั้งที่แล้วเกิดปัญหาจากการที่ หลักๆเลยคือ มีตั๋วผี ขายกันหน้างาน แล้วคือคนที่ไม่ได้ก็คิดว่าถ้าไปงานก็จะมีขายหน้างานซึ่งจริงๆมันไม่มีอยู่แล้วไง แต่พอเขาไปแล้วมันมีคนขาย แล้วอีกอย่างคือ ตั๋ววนคือเขาใช้บัตรนี้ไปแล้วแต่มีอีกคนเข้ามาก็ใช้บัตรเดิมคือมันวนกันไปมา ซึ่งในส่วนตรงนี้เราคิดว่าเราจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก เราจะมีการประชาสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าตั๋วหมดก็คือจะบอกว่าหมดจริงๆ จะไปหาหน้างานอะไรไม่มีแล้ว คือในส่วนตรงนี้เราก็จะแก้ไขการประชาสัมพันธ์ของเราเองว่าต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะในครั้งที่แล้วคนที่ไปเขาคิดว่าเราบัตรขายหน้างาน ทำให้คนเกินจำนวน รวมไปถึงระบบการอำนวยความสะดวกต่างๆด้วย"

"ซึ่งการที่คนล้นห้องน้ำเต็มตรงนี้เราก็ได้สร้างห้องน้ำเพิ่มขึ้นแบบถาวรเลยห้าสิบห้อง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนที่ไปชมคอนเสิร์ตมากยิ่งขึ้น คือเราทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนนึกถึงคอนเสิร์ต ตอนฤดูหนาว พอนึกถึงฤดูหนาวก็จะนึกถึงตอนเสิร์ตที่เขาใหญ่มาเป็นอันดับแรกเพราะเราอยากจะให้เป็นแบบคอนเสิร์ตเฟสติเวอร์ระดับโลกอย่าง ของเกาหลี อะไรพวกนี้ คือคนที่จะทำได้มันต้องมีความตั้งใจ มีความตั้งใจอย่างเดียวไมได้ ต้องมีความบ้าอยู่ด้วยนะ"

"เมื่อครั้งที่แล้วมีทั้งคำชมและคำติ เราก็เอาส่วนตรงนั้นมาคิดปรับปรุงในครั้งนี้ ในส่วนของห้องน้ำสร้างไปแล้วก็มี การสร้างถนนซึ่งคนที่เป็นเจ้าของโบนันซ่าเขาเป็นผู้ออกให้ส่วนหนึ่ง เราก็ออกส่วนหนึ่ง ซึ่งถนนที่ทำก็เป็นถนนของเจ้าของโบนันซ่าอยุ่แล้วซึ่งที่เราสร้างเพื่อให้คนที่ไปชมคอนเสิร์ตได้ขับรถเข้ามาที่คอนเสิร์ตได้เลยไม่ต้องไปวนให้ไกล คือจะเป็นถนนที่ตัดเข้ามาที่เขาใหญ่เลยซึ่งเราก็สร้างเอง เราสร้างไม่ใช่เพื่องานคอนเสิร์ตอย่างเดียว แต่เพื่อให้คนที่ไปเที่ยวหรืออะไรได้ใช้กันด้วยเราบอกได้เลยว่าครั้งนี้เราตั้งใจและปรับปรุงทุกอย่างที่เพื่อให้เกิดคอนเสิร์ตที่ดีที่สุด"

บอก ไม่เคยคิดที่จะแข่งขันกับใคร ถึงผลกำไรจะได้ไม่มาก แต่ก็จะขอทำต่อไป และ สปอนเซอร์ยังให้การสนับสนุนเหมือนเดิม

"ผมไม่คิดที่จะไปแข่งอะไรกับใคร ผมพูดอย่างนี้ไม่ได้กวนตีนใครนะ แต่คือผมไม่อยากไปแข่งหรือไปสู้อะไรกับใครเขา คือการที่ผมทำเนี้ย ผมทำเพื่อที่จะให้ทุกคนรู้ว่ามันไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันคือการที่เราจะสร้างอะไรสักอย่างอย่างตั้งใจ เพื่อให้คนมาดู ดูแล้วเกิดความสบายใจ คือบรรยากาศเย็นๆเพลงเพราะๆ ท่ามกลางป่าเขาซึ่งผมคิดว่า มันคงเป็นบรรยากาศที่รู้สึกสบายๆและที่เราเลือกที่โบนันซ่าเพราะ มันได้ทุกอย่าง บรรยากาศ มันเหมาะกับคอนเซ็บที่เราจะทำ และคิดว่าเราก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ"

"คือตรงนี้ผลกำไรจากครั้งที่แล้ว มันก็ได้กำไรบ้าง แต่มันไม่ถึงกับขนาด มากมายมหาศาล อะไรขนาดนั้น ก็แค่พออยู่ได้ เราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรตรงนี้ เพราะคนที่มางานเราแต่ละคนก็คืออยากมาดูอยากมาเอาบรรยากาศอยู่แล้วแล้วคอนเสิร์ตที่จะเอาศิลปินทั้ง 25 ศิลปินมาอยู่นบเวทีเดียวกันแบบนี้มันยากมาก แล้วผมคิดว่าบัตรราคาเท่านี้ไม่แพงนะถ้าคิดว่า ตั้ง 25 ศิลปินมาอยู่ในเวทีเดียวกันบัตรราคาแค่นี้ ตอนนี้สปอนเซอร์ก็มีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ มีที่เพิ่มมาก็มีเพราะเขาเห็นคอนเซ็ปต์ของเราก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี หน้าเก่าก็ยังอยู่หน้าใหม่ก็มีเข้ามาเหมือนเดิม ซึ่งเราก็ได้การสนับสนุนที่ดีตลอดมาครับ"



บอย โกสิยพงษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น