"ผิง" ยันเปล่าแทคทีม "แอริณ" รับงานแพ็คคู่ เปรยเคยระบายทุกข์ถูกแย่งแฟนจากผู้หญิงคนเดียวกัน พร้อมจับคู่โต้คนนอกรู้ดีตนเป็นแฟนใครแม้ "เจนี่" เคยตอกกลับแย่งใครไม่ได้เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตใคร บอกคู่หมั้นหนุ่มเข้าใจใหม่แล้วตนเปล่าต่อว่าอีกฝ่าย เหน็บอย่าร้อนตัว ย้ำรักกันดี เปรยทำใจได้หากไปไม่รอดตามคำนายหมอดูคนดัง
เล่นออกงานแพ็คคู่กันเลยทีเดียวสำหรับสองสาว "แอริณ สิริภรณ์ ยุกตะทัต" และสาว "ผิง พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์" แก๊งค์เพื่อนสาวซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าถูกนางเอกแอ๊บแบ๊ว "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" แย่งอดีตแฟนหนุ่ม "หมูตั้ง ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล" และคู่หมั้นสาว "ผิง" "บอย ภาณุศักดิ์ เดชธีรศิริ" ก่อนหน้านี้ โดยทั้งคู่ได้เปิดใจพร้อมกันครั้งแรกในงาน "LongChamp ฉลองครบรอบ 60 ปี" ซึ่งสาว "ผิง" แง้มให้ฟังก่อนว่า....."ไม่ทราบนะคะว่าแอมาเพิ่งเห็นตอนหลังเวทีนะคะ นี่มันการทำงานแอเขาเป็นแขกรับเชิญอยู่แล้วส่วนผิงเป็นนางแบบ แทคทีมอะไร ไม่ได้สนิทกันมากคะ"
ตอกที่นางเอกสาว "เจนี่" เคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีใครสามารถแย่งของใครได้เนื่องจากไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร เชื่อคนข้างนอกรู้ดีสองสาวคบกับใครอยู่แม้ไม่ใช่เจ้าของชีวิตก็ตาม บอกที่ผ่านมาเคยระบายทุกข์เรื่องแฟนหนุ่มบ้าง แต่พอผู้สื่อข่าวถามว่าได้คุยถึงเรื่องนางเอกสาวบ้างหรือไม่ สองสาวแทคทีมพูดพร้อมกันปนเสียงหัวเราะ "ขอไม่ตอบดีกว่า"
ผิง "หนูก็ไม่ทราบนะคะว่าหนูเป็นเจ้าของใครหรือเปล่าแต่หนูคิดว่าพี่ๆ ก็ทราบว่าหนูเป็นเจ้าของใครบ้างหรือเปล่า (ยิ้ม)"
แอ "ก็มีปรึกษากันบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องข่าวมากมาย"
ผิง "คุยเรื่องความรู้สึกแต่ไม่ได้คุยว่าเราจะทำยังไง"
แอ "ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วคนเราจะเป็นเจ้าของใครไม่ได้ก็ถูกของเขาแต่ถ้าเราจะคบใครเราก็ต้องหวงของเรา ถามว่าเขาสร้างความร้าวฉานและชิ่งไปด้วยหรือเปล่า เขาไม่ได้ชิ่งหรอกคะ (หัวเราะ) ไม่มีใครชิ่ง ต่างคนต่างอยู่มากกว่า เขาก็อยู่ของเขา แอก็อยู่ของแอ"
ถามต่อถึงประเด็นที่นางเอกแอ๊บแบ๊วชอบโทรหาสาว "แอ" พร้อมทั้งเย้ยว่า "หมูตั้ง" อดีตแฟนอยู่กับเธอด้วย เรื่องนี้นักแสดงหน้าใหม่บอกไม่อยากพูดซ้ำ ..... อันนี้แอพูดไปแล้วไม่อยากขุดขึ้นมาเป็นประเด็นอีกรอบ ไม่อยากพูด" ผิงสวนทันควัน "ผิงไม่โดนคะ โชคดีใช่ไหมคะ" จากนั้นสาวแอเผยต่อ ..."เคยเจอกันแล้วไม่มีปัญหา งานก็คืองานถ้าเขาไม่ยุ่งไม่ก้าวก่ายไม่มีปัญหากันอยู่แล้ว" ถ้ามีโม (ภัทรธิดา) อีกคน ? "เราไม่ใช่แก็งค์นะคะอย่าเข้าใจผิด ไม่มีรวมแก็งค์เรารู้จักกันเฉยๆ ไม่ได้คิดไปแก้แค้นหรือจะจับกลุ่มตบกันไม่มีแน่ๆ ไม่ใช่คนแบบนั้นกัน
เผยตั้งแต่อดีตแฟนประสบอุบัติเหตุรถยนต์เย็บใบหน้าไป 50 เข็ม ยังไม่ได้ไปเยี่ยมเพียงโทรถามอาการเท่านั้น ยันอีกฝ่ายไม่เคยตบตีเป็นสาเหตุให้ใจแข็งไม่ยอมคืนดี
"วันก่อนก็เจอไปงานเดียวกัน ตอนที่เขารถชนก็ทราบ ก็ยังโทรไปเป็นไงบ้างเย็บกี่เข็มก็ยังเป็นห่วงอยู่ ข่าวบอกตบตีเลยไม่คืนดี อุ้ย ! เป็นเรื่องเข้าใจผิดคะเพราะว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษเขาไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่มี ไม่จริงแน่ๆ เดี๋ยวข่าวอะไรก็ออกมาเยอะมากอย่างเช่นเรื่องที่ไปด่ากันหน้าผับ ไม่ทราบใครให้ข่าวแต่ไม่จริงทั้งนั้น ส่วนเรื่องที่พี่ชายออกมาพูด ใช่เป็นเรื่องเข้าใจผิด เหมือนมีคนพูดมาเขาก็ต้องรักน้องเขาไว้ก่อน ไม่ทราบเขาโกรธไหมแต่คงเข้าใจกันอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องจริงคะ"
นักแสดงสาว "ผิง" ย้ำต่อถึงคำที่เคยให้สัมภาษณ์ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น ....."อันนั้นก็คิดอย่างนั้นมานานแล้วคะ"
แอ "ใช่ เราอยู่ของเราดีๆ นะ"
ผิง "เราไม่เคยคิดจะออกมาตอบโต้ไม่คิดทำอะไรอยู่แล้ว ไม่ใช่วิสัย"
จากนั้นสาว "ผิง" เปิดใจถึงข่าวที่คู่หมั้นหนุ่ม "บอย" ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งด้วยอาการฉุนเฉียวกรณีที่ไม่พอใจคู่หมั้นสาวออกมาให้สัมภาษณ์ต่อว่าตนและสาว "เจนี่" ยิ่งทำให้เรื่องบานปลาย ย้ำเกิดจากการเข้าใจผิดของฝ่ายชายเนื่องจากไม่เช็คข่าวให้ดีเอง ยันสัมพันธ์ยังรักกันดี
"เขาฉุนเหมือนผิงบอกว่าเขาเจ้าชู้ด้วยว่าคนอื่นด้วย ผิงไม่ได้พูดถึงเขาพูดถึงคนไทยทั่วไป มีหนังสือพิมพ์เล่มนึงตัดตรงที่ผิงบอกว่าไม่ได้หมายถึงเขา พูดว่าไม่ได้เจาะจงใครเขาก็เลยโมโหว่าไปว่าเขาไปเสนอแล้วอีกคนไปสนองทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ได้พูดถึงเขาเลยไม่รู้จะร้อนตัวไปทำไม (หัวเราะ) งง ผิงก็บอกไม่เชื่อไปอ่านหนังสือพิมพ์เล่มอื่นเลยผิงพูดว่า ผู้ชาย 90 เปอร์เซ็นต์และไม่ได้เจาะจงใครนะคะ เขาก็เลยเข้าใจว่าเขาร้อนตัวไปเอง หนูไม่ได้ว่า (เจนี่) นะค่ะ เขาจะคิดว่าเป็นเขาทำไม งง"
"กับบอยยังเป็นคู่หมั้นกันเหมือนเดิมถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องแจ้งให้ทราบอยู่แล้วคะแต่ตอนนี้ไม่มี ไอ้เลิกยังไม่เลิก ที่เขาให้สัมภาษณ์ต้องตอบว่าเขาโดนกดดันนะคะ สงสารเขาเขาโดนกดดัน เขาโดนต้องให้ออกมาพูด เขาก็เป็นคนตอบตามอารมณ์ไม่คิดถึงผลที่ตามมาแต่ก็ให้อภัยคะ ได้ถามไหมจริงๆ หนูทราบตั้งแต่แรกว่าเขาโดนกดดัน"
"หลังจากวันนั้นก็ขอโทษที่พูดแบบนั้นวันนั้นใช้อารมณ์ตอบ ผิงก็เตือนเขาไปว่าอารมณ์ไม่ใช่เรื่องที่ควรมาตอบ จริงๆ โดนกดดันมากแค่ไหนต้องคิดให้ดีก่อนที่เอามาพูด หนูว่าเขาก็ยังเหมือนเดิมสำหรับหนู ส่วนเรื่องที่เขาสัก (สักชื่อผิงที่ข้อมือ) หนูไม่ได้บังคับนะคะ หนูอยู่บ้านวันนั้นบอยโทรมาถามว่าอยู่ไหนเดี๋ยวมารับที่บ้านได้ไหม พาไปสักหน่อยบอยไม่รู้จักร้านสัก ผิงเลยพาไปร้านสักแต่ผิงไม่เคยสักที่ร้านนี้เหมือนกันไม่รู้จะพาไปที่ไหนเลยพาไปร้านนั้น"
"โกรธ วันนั้นอ่านแล้วรู้สึกแย่นะคะไม่คุยกับบอยวันนึงแต่ว่าพอตอนเย็นบอยก็โทรมาถามว่า อ้าว...นี่จะไม่คุยกับบอยแล้วเหรอ ผิงก็งงว่าบอยอยากเลิกหรือบอยไม่อยากเลิก ถ้าโทรมาถามว่าไม่อยากเจอกันแล้วเหรอก็คงจะแปลว่าไม่อยากเลิก"
ต่อข้อถามถึงภาพปาปาราซซี่ควงหนุ่มคนใหม่หวังประชดคู่หมั้นด้วยหรือเปล่า เจ้าตัวโร่ปฏิเสธ แจงฝ่ายชายรู้ดีแค่น้องชายเพื่อน
"อันนั้นรูปน้องชายเพื่อนนะคะ ในรูปที่มีหลายๆ คน คนที่ถูกถ่ายข้างหนูที่เป็นผู้หญิงคือพี่สาวของคนนั้น ถามว่าสนิทกับน้องไหม คือสนิทตอนช่วงนั้นที่น้องไปอังกฤษ น้องเขาไปแข่งโปโลก็รู้จักเป็นน้องคือน้องเพื่อนก็เหมือนน้องเรา อยู่ดีๆ จะไปกินน้องเพื่อนก็ไม่ใช่นะคะอย่าเข้าใจผิด"
"แล้วในข่าวมีจุดที่ไม่จริง บอกเห็นผิงไปเที่ยวกับเขามาหลายครั้งแล้วไม่จริงเลย เพราะตั้งแต่กลับมาเจอกันสองครั้งเอง เจอแบบบังเอิญคืออยู่ร้านที่เที่ยวเขามากับพี่สาวแล้วพี่สาวเขาก็เพื่อนหนู บอยไม่เข้าใจผิดคะเพราะว่าบอยรู้จัก ไม่กระทบความสัมพันธ์อะไร ทีแรกตกใจเพราะผู้ใหญ่โทรหาบอยว่าผิงไปถ่ายรูปกับใครก็ตกใจรีบไปซื้อหนังสือพิมพ์ รูปนี้นานสี่เดือนแล้วมั้งค่ะคือก่อนที่จะมีเรื่องราวต่างๆ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ประชดแน่นอน ซีเรียสไหม รูปนี้หนูโกรธมากเพราะมันอยู่ในเฟสบุ๊คส์ ฉะนั้นคนที่เอารูปหนูออกมาขายต้องเป็นเพื่อนหนู แต่คงหาตัวคนดึงรูปไม่เจอหรอกคะเพราะมีเพื่อนหลายร้อยคนในเฟสบุ๊คส์ ต่อไปคงระวังตัวหนูเชื่อว่าถึงจะมีออกมายังไงอธิบายได้ หนูคงไม่โง่เอารูปกิ๊กมาทำเฟสบุ๊คส์"
ถามต่อถึงคำทำนายของ "หมอกฤษณ์" ซึ่งได้คอนเฟิร์มไว้หลังมีกระแสรักร้าวคู่ของ "ผิง-บอย" ว่าถึงอย่างไรคู่นี้ต้องเลิกกันแน่นอนเหตุเพราะฝ่ายชายจะเป็นคนเอือมสาว "ผิง" ไปเอง ซึ่งนักแสดงสาวได้ยินคำถามถึงกับหน้าถอดสี บอกตนเป็นคนเชื่อเรื่องดวง ยอมรับทุกวันนี้เหนื่อยใจกับแฟนหนุ่มพอสมควร
"หนูเป็นคนเชื่อดวงนะคะแต่ยังไงก็ต้องรอดู เขาบอกผู้ชายเบื่อเราไปเอง อ๋อ เหรอคะ ก็ดีคะเมื่อไรจะเบื่อไม่รู้ (หัวเราะ) หนูไม่โทรหาเขาวันนึงเขาก็โทรตามทำไมไม่โทรมา หนูก็งงเมื่อไรจะเบื่อ ถ้ามีวี่แววก็ดีสิคะ ถามว่าอยากเลิกไหมก็เหนื่อยคะ ถามว่ารักไหมรักแต่เหนื่อย เหนื่อยหลายอย่าง หนูรู้สึกว่าชีวิตมีหลายอย่างให้เหนื่อยเยอะแยะแล้ว เรื่องนี้น่าจะมีความสุขใช่ไหมคะมาเติมความสุขให้เราไม่ใช่มาบั่นทอนความสุขจากเรา"
"ก็ไม่อยากจะพักจริงๆ แล้วหนูไม่อยากกะเกณฑ์อะไรแน่นอนว่านี่คือการเบรก นี่คือเราเลิกนะตามความรู้สึกดีกว่า อยากโทรมาก็โทร อยากเจอก็เจอ ถามว่ามีแว๊บไหมอยากถอนหมั้น ปัจจัยมันเยอะนะคะ ผู้ใหญ่ด้วยคือต้องเกรงใจผู้ใหญ่นิดนึงเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ ผิงอยากรีบบินกลับไปเรียนก่อนจะได้พักนิดนึงจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองได้มีเวลาคิด จริงๆ ผิงให้อภัยเขาเยอะมากตั้งแต่คบมา 6 ปี คิดว่าอยากให้เขาโตไม่มีอะไรมาก"
"เหนื่อยใจก็เหนื่อยคะ ตอบไม่ได้ว่าที่ทำนายมีเปอร์เซ็นต์เพราะหนูก็รักของหนูมาก อยู่ดีๆ จะให้แบบเสียความรู้สึกถึงขนาดต้องเลิกไม่ง่ายขนาดนั้น เราไม่ได้คบกันปีสองปีเราผ่านอะไรมาเยอะแล้วคะ ไม่เชื่อคำทำนายหัวปักหัวปำแต่ไม่ลบหลู่เรากำหนดชีวิตเราเหมือนกัน หนูแค่อยากให้เขาคิดได้แต่ถ้าเผื่อเขาคิดว่าเขาไม่ผิดเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน สักวันเขาคงโตขึ้นอาจะไม่ใช่กับหนูแต่อยากให้มีชีวิตรักที่ดี เขาเป็นคนหัวดื้อพูดอะไรนึกว่าเราพูดเล่น ไม่รู้ว่าผิงซีเรียสนะเวลาพูดให้เขาอยากคิดได้จริงๆ คนเราไปบอกร้อยทีไม่ทำตามหรอกสู้ให้เขาคิดเองทำเองดีที่สุดแล้ว"
แจงเรื่องของอนาคตหากไปกันไม่รอดทำใจรับได้
"แล้วแต่คะเขาจะดีขึ้นหรือเขาจะแย่ลงผิงกำหนดเขาไมได้ใจผิงมีให้เขามากแค่ไหนรักเขามากคะไม่อย่างนั้นคงไม่หมั้นหรอก เราไม่รักกันไม่หมั้นหรอกก็ยังร้อยเปอร์เซ็นต์ถึงแม้ผิงจะทำอะไรผิดก็แล้วแต่ผิงก็ยังรักบอยเท่าเดิม บางทีก็โทษตัวเองด้วยว่าไม่อยู่หรือเปล่า ไปเรียนหรือเปล่าก็เลยเป็นอย่างนี้แต่ว่าผิงก็ต้องเรียนสำคัญกว่าเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ถามว่าเขาเคยคุยถึงเรื่องเวลากับเราไหม บอกให้เลิกเรียนเลยละคะแต่ว่าทำให้ไม่ได้จริงๆ"
"ถามว่าเขาลดความเจ้าชู้บ้างหรือยัง อันนี้หนูไม่ทราบจริงๆ ที่เขาบอกว่าหนูอยู่กับเขาตลอดเวลาหนูไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลาหนูก็เลยไม่ทราบว่าทำอะไรบ้าง มารู้อีกทีตอนที่เรื่องมันแดงแล้ว เขาเจ้าชู้อยู่ไหมหนูก็เลยไม่ทราบ ที่ผ่านมาจับได้เยอะแต่คงมีที่จับไม่ได้บ้างแหละใช่ไหมค่ะ"
