เผย "เอ็นบีที" ยังไม่ถอดรายการ "สนทนาประสาสมัคร"

พนักงานกรมประชาสัมพันธ์เผย "เอ็นบีที" ยังไม่ถอดหรือหารายการอื่นมาแทน "สนทนาประสาสมัคร" แม้มีความเป็นไปได้สูงที่ตัวพิธีกรจะไม่มาดำเนินรายการ เชื่อรอลุ้น "สมัคร" กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกครั้งหลังสส.พลังประชาชนบางส่วนออกมาให้ข่าวพร้อมสนับสนุน

ถือว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้งสำหรับความเคลื่อนไหวในแวดวงการเมืองของไทย ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้ขาดออกมาเมื่อวันวาน(9)ว่านายสมัคร สุนทรเวช ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรีจากการไปรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ "ชิมไป บ่นไป" และ "ยกโขยงหกโมงเช้า" ตามคำฟ้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สว.ระบบสรรหา

ผลจากการหล่นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวชนี้เองที่ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ในส่วนของรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ที่อดีตนายกฯ คนที่ 25 คนนี้จัดเป็นประจำในทุกๆ วันอาทิตย์ เวลา 08.30 - 09.30 น. ทางช่องเอ็นบีทีจะยังคงมีอยู่เช่นเดิมหรือไม่?

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อสงสัยดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของช่องเอ็นบีที ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ก็ได้รับคำบอกเล่าในเบื้องต้นว่า แม้จะมีความเป็นไปได้สูงว่านายสมัครจะไม่มาจัดรายการดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน ทว่าในตอนนี้ทางเอ็นบีทีเองก็ยังไม่มีนโยบายที่จะตัดรายการ "สนทนาประสาสมัคร" หรือหารายการอื่นมาออกอากาศแทนแต่อย่างใด

โดยการสงวนท่าทีในครั้งนี้ของช่องเอ็นบีทีนั้นคาดว่าคงจะมีสาเหตุมาจากการที่ก่อนหน้านี้ได้มีสส.ของพรรคพลังประชาชนส่วนหนึ่งได้ออกมาให้ข่าวว่า ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้หัวห้นาพรรคของตนเองมีความผิดจากกรณีของรายการชิมไป บ่นไปจริง ทางสส.ในส่วนนี้ก็พร้อมที่จะโหวตให้นายสมัครกลับมารับตำแหน่งนายกฯ อีกครั้งในการคัดหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันศุกร์ที่ 12 กันยายนนี้อย่างแน่นอน

สำหรับรายการ "สนทนา ประสาสมัคร" ที่ดำเนินรายการโดยนายสมัคร สุนทรเวชนั้นเริ่มออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 โดยที่ผ่านมารายการนี้รวมไปถึงรายการต้นแบบอย่าง "นายกพบประชาชน" ในยุคที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการและผู้มีความรู้ว่าเป็นการใช้สื่อของรัฐฯ ที่มีที่มาจากเงินภาษีของประชาชนสร้างความชอบธรรมให้กับพรรคร่วมรัฐบาล

เฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ของนายสมัคร สุนทรเวช ที่มักจะใช้เวลาในช่วงนี้ตอบโต้ไปยังกลุ่มคนที่ออกมาวิจารณ์การทำงานของฝ่ายรัฐบาลด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างจะรุนแรง หยาบคาย ซึ่งแม้จะมีหลายฝ่าย หลายองค์กรออกมาว่ากล่าวตักเตือนด้วยความห่วงใยอันเนื่องจากการพูดจาตลอดจนการกระทำของนายสมัครในหลายๆ ครั้งนั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่เหมาสมเป็นอย่างยิ่งกับภาวะของการเป็นผู้นำ ทว่าอดีตนายกหมาดๆ คนนี้ก็หาที่จะรับฟังและยอมรับแต่อย่างใด