ชุดเหลืองสดใส กับคอนเสิร์ตที่แสนประทับใจของ "นัตสึมิ อาเบะ"

สิ้นสุดไปอย่างประทับใจสำหรับแฟนคลับของสาว "นัตสึมิ อาเบะ" อดีตสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Morning Musume ที่กลับมาเยือนเมืองไทย (อย่างเป็นทางการ) เป็นครั้งที่ 2 ในมินิคอนเสิร์ต Japan Festa in Bangkok 2008 by Mainichi เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่ลานสยามพารากอน

ซึ่งนอกจากแฟนๆ ส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นั่นจะได้ชมการแสดงของ นัตสึมิ อาเบะ ที่ขนเพลงเด็ดๆ มาโชว์กับแบบฟรีๆ แล้ว สาวกผู้โชคดีจำนวน 60 คนและผู้สื่อข่าว ได้ร่วมมีตแอนด์กรีตในการเปิดใจสัมภาษณ์เฉพาะกิจสำหรับการมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ของนัตจิด้วย

1.อยากฝากอะไรถึงแฟนเพลงที่ไม่ได้มาในวันนี้บ้าง

เมื่อกี้นี้เพิ่งจะไปเปิดการแสดงมา แปลกใจมากๆ ที่แฟนเพลงเมืองไทยร้องเพลงได้เยอะขนาดนี้ ดีใจมากๆ ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วที่มีแฟนๆ มาตอนรับที่สนามบิน เพราะที่ญี่ปุ่นแฟนเพลงส่วนใหญ่ของฉันเป็นผู้ชายซะ 80% แต่ที่นี่แฟนคลับผู้หญิงเยอะมาก กับแฟนเพลงที่ไม่ได้มาดูวันนี้ก็ขอสัญญาว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาเปิดการแสดงอีกแน่นอนค่ะ

2.คอนเสิร์ตที่เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้นี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

ตกใจมากๆ ไม่คิดว่าคนจะมาดูเยอะขนาดนี้ ที่แปลกใจสุดๆ ก็คือมี Cover Dance มาขึ้นแสดงด้วย ซึ่งแต่ละคนทำได้ดีมากๆ อยากจะให้แฟนเพลงที่ญี่ปุ่นได้มาเห็นบ้างจัง

3.คิดอย่างไรเกี่ยวกับธีม Respect the World ของงาน Japan Festa ในปีนี้

ปัญหาโลกร้อนสำคัญมากค่ะ ที่ญี่ปุ่นก็ฝนตกหลงฤดูเยอะมาก ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้สามารถเริ่มได้ด้วยตัวเราเอง เช่นไม่ควรเร่งแอร์มากถ้าไม่จำเป็น อยากให้ทุกคนช่วยกันถนอมโลกเอาไว้น่ะคะ

4.การมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้มีความประทับใจแตกต่างจากครั้งที่แล้วมากแค่ไหน

ฉันมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อม.ค.ปีที่แล้ว เพื่อมาถ่ายทำโฟโตบุ๊คที่เมืองไทย รู้สึกว่าตอนนี้เมืองไทยดูสะอาดมากขึ้น แถมเดี๋ยวนี้มีตึกสูงๆ ในกรุงเทพฯ เยอะมากๆ เลย

5.หลังจากงานครั้งนี้นัตสึมิมีแผนที่จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยหรือเปล่า

แผนการมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แต่จากการมาเปิดการแสดงครั้งนี้ฉันรู้สึกประทับใจมากๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมาเปิดการแสดงที่เมืองไทยอีก

6.ถ้ามีเวลาว่าง 1 วันกับแฟนคลับชาวไทยนัตสึมิจะทำอะไร

ฉันเป็นคนชอบทำอาหารมาก หลังจากทำงานเหนื่อยๆ ก็ชอบไปเดินช็อปปิ้งที่ซูเปอร์เพื่อซื้อของมาทำอาหารที่บ้าน กับแฟนคลับก็อยากจะไปซื้อผักแล้วมาทำอาหารญี่ปุ่นกินด้วยกัน

7.เคยได้รับของจากแฟนคลับที่เมืองไทยบ้างหรือเปล่า

อยู่ที่ญี่ปุ่นฉันได้รับจดหมายและของขวัญจากแฟนคลับทั้งไต้หวันและเมืองไทยด้วยค่ะ

8.พูดภาษาไทยได้บ้างไหม

สบายดีไหมคะ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ แล้วก็ตุ๊กตุ๊กตุ๊กตุ๊กตุ๊ก (รถตุ๊กตุ๊ก)

9.ทำไมวันนี้นัตสึมิถึงใส่ชุดเหลืองขึ้นเวที

เพราะรู้มาว่าสีเหลืองเป็นสีมงคลของคนไทย และรู้ว่าคนไทยเทิดทูนพระมหากษัตริย์อย่างสูง ฉันเลยตัดสินใจใส่ชุดเหลืองขึ้นแสดงค่ะ

10.สุดท้ายมีอะไรจะฝากบอกถึงแฟนเพลงชาวไทยบ้าง

รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมงาน Japan Festa ปีนี้ รู้สึกประทับใจคนไทยที่มาร่วมงานในวันนี้มากๆ เพราะว่าสิ่งที่ฉันชอบที่สุดก็คือการร้องเพลง มีความสุขทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าเมืองไทยจัดงานดีๆ อย่างนี้อีก ถ้าได้รับเชิญก็อยากจะมาอีก และหวังว่าจะได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงชาวไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่งค่ะ

***************

หลังจากนั้นก็เป็นส่วนของงานมีตแอนด์กรีตที่แฟนคลับผู้โชคดี 60 คนจะได้ร่วมยิ่งคำถามกับนัตจิในระยะประชิด ซึ่งในงานยังมีการเซอร์ไพรส์ด้วยการเป่าเค้กอวยพรวันเกิดย้อนหลังครบรอบ 27 ปีไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับเพาเวอร์พ็อยต์สไลต์โชว์ที่แฟนๆ ทำขึ้นมาเพื่อต้อนรับนัตจิโดยเฉพาะ ก่อนจะเข้าสู่การสัมภาษณ์ในช่วงที่ 2

11.รู้สึกอย่างไรกับแฟนคลับชาวไทย

ตกใจค่ะ ไม่รู้ว่ามีแฟนคลับเยอะอย่างนี้ ตั้งแต่ที่สนามบินแล้วที่แฟนๆ เอารูปเอาอะไรมาโชว์เยอะแยะ ไม่รู้เอามาจากไหนมากมาย แถมร้องเพลงตามได้อีกต่างหาก เห็นอย่างนี้แล้วอยากกลับขึ้นไปร้องเพลงอีกครั้งเลย

12.มีความทรงจำอะไรพิเศษจากการเป็นสมาชิกของ Morning Musume บ้าง

ประทับใจมาก หลังจากออกมาจาก Morning Musume ก็ได้รับประสบการณ์เยอะมาก มีสิ่งให้เรียนรู้มากมาย อยากให้ทุกคนที่มีความหวังตั้งใจและทำตามความฝันให้จงได้ กับเพื่อนเก่าๆ ใน Morning Musume ก็ยังเจอกันอยู่บ่อยๆ เมื่อก่อนจะรวมตัวกันไปกินโอนาเบะ แต่เดี๋ยวนี้โตแล้วก็นัดไปดื่มด้วยกันบ้างค่ะ

13.นัตจิรู้หรือเปล่าว่าแฟนเมืองคลับไทยเยอะขนาดนี้

ไม่รู้เลย (หัวเราะ) ถ้ากลับญี่ปุ่นจะเล่าให้เพื่อนฟังว่าฉันมีแฟนเพลงที่เมืองไทยเยอะมากๆ

14.มาเมืองไทยนี่ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาบ้าง

เมื่อวานนี้ฉันไปลองนวดมา เพราะได้ยินชื่อเสียงมาก แต่แรกนึกว่าจะนวดเบาๆ ไม่รู้ว่าเขาจะบีบแรงขนาดนี้ โดนพับขาด้วย แรงมาก (หัวเราะ) แล้วก็ไปกินอาหารเวียดนามมาแล้ว อร่อยดี ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยก็เยอะมาก ถ้ามีเวลาก็อยากจะไปเที่ยวอีกเยอะ

15.ฝากอะไรถึงแฟนคลับชาวไทยบ้าง

อยากเจอแฟนคลับทุกๆ คน จะได้มีช่วงเวลาที่สนุกสนานด้วยกันอีกครั้งค่ะ

หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาพิเศษที่แฟนคลับทั้ง 60 คนรอคอยเมื่อทางค่ายเพลง Hello! Project เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้จับมือกับนัตจิอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นช่วงทิ้งท้ายของการมาเยือนเมืองไทยของนัตจิที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่ตื้นตันของแฟนคลับทุกๆ คนในช่วงเย็นของวันนั้น

***************

ย้อนไปเมื่อเวลาบ่ายสองของวันอาทิตย์ตอนที่แดดกำลังระอุที่ลานพาร์ค พารากอน เป็นเวลาที่ นัตสึมิ อาเบะ ได้มาเปิดมินิคอนเสิร์ตแบบเดี่ยวๆ ครั้งแรกที่เมืองไทย ทันทีที่เธอออกมาก็ได้เสียงต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างท่วมท้น เริ่มต้นด้วยเพลง Furusato (Hometown) อันเป็นเพลงเก่งที่เธอได้ร้องเดี่ยวสมัยอยู่กับ Morning Musume ซึ่งเหล่าโอตากุหนุ่มๆ ทั้งหลายที่ตามมาก็ส่งเสียงเชียร์ชื่อของนัตจิตามจังหวะเพลงไม่แพ้บรรยากาศแฟนๆ ที่ญี่ปุ่นเลย ต่อด้วยเพลง Iki o Kasanemashou (Let's Keep Breathing) ที่เนื้อหาเหมาะกับงาน และจังหวะเพลงที่ทำให้อากาศอันอบอ้าวของวันนั้นร่มรื่นขึ้นมาทันตาเห็น

ระหว่างพักช่วงได้มีการสัมภาษณ์นัตจิซึ่งเธอเปิดใจว่าอาหารไทยที่ชอบมีทั้ง ผัดไท ปอเปี๊ยะสด แกงเขียวหวาน และสถานที่ที่ชอบก็คือวัดโพธิ์ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงของ 2 วง Cover Dance สาวที่ผ่านการตัดเลือกอย่าง Fairy Merrily และ Girl Paradise ขึ้นมาเต้นโชว์ให้นัตจิดู ซึ่งนัตจิก็ดูอย่างตั้งใจ แถมเรียกเสียงเฮในอินโทรเพลง The Peace ที่นัตจิไว้ลายเด็กเก่า MM ในการทำท่าประจำของเพลงนี้ไปพร้อมๆ กับน้องๆ Fairy Merrily ที่เต้นอยู่ข้างหน้าด้วย และปิดท้ายด้วยการแปลอักษรต่อหน้านัตจิในช่วงท้ายเพลง Honey pie ของ Girl Paradise ที่เล่นเอาเจ้าตัวประทับใจจนน้ำตาไหลออกมาทีเดียว

จากนั้นก็เป็นช่วงที่ 2 ของนัตจิโชว์ที่เปิดด้วยเพลง Kuchibiru de Tomete (Stop at My Lips) และต่อด้วยแฟนที่เหล่าสาวก Morning Musume รู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง Love machine ที่นัตจิเล่นกับแฟนที่หน้าเวทีอย่างสนุกสนาน แม้เจ้าตัวจะยอมรับว่าเหนื่อยไม่เบาที่ต้องร้องเพลงนี้คนเดียว

ส่งท้ายความประทับใจกันด้วยเพลงสุดซึ้งอย่าง Itoshiki Hito (ผู้อันเป็นที่รัก) ที่นัตจิเลือกมาให้กับแฟนๆ ในวันนั้น ซึ่งในความรู้สึกของแฟนเพลงก็คงอยากจะส่งความรู้สึกนั้นกลับไปถึงคนที่มอบมาให้เช่นกัน ซึ่งหลังจากหันมาทักทายแฟนเพลงอีกหนึ่งครั้งนัตจิก็เดินกลับไปข้างหลังเวทีพร้อมกับเสียงของแฟนเพลงที่ยังเรียกชื่อเธอกึกก้องไปทั่วลานพาร์ค พารากอน

***************

ช่วงก่อนที่จะเริ่มให้มีการสัมภาษณ์ในช่วงเย็น ทางทีมงานได้บอกถึงสิ่งที่ทางค่าย Hello! Project ขอร้องต่อนักข่าวถึงประเด็นที่ไม่ต้องการให้ถามนัตจิ ทั้งเรื่องส่วนตัว ความรัก ความสัมพันธ์ของอดีตเพื่อนร่วมวง (รวมทั้งข่าวอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเธอที่ไม่มีการพูดถึงในวันนั้น)

เช่นเดียวคำถามเรื่องผลงานชิ้นใหม่ของนัตจิที่ถูกขอร้องไม่ให้ถามว่าจะออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งขณะที่ทางค่าย Hello! Project กำลังทำเงินทำทองในญี่ปุ่นจากชื่อเสียงของวงรุ่นน้องทั้ง Berryz Koubou, C-ute หรือ Morning Musume รุ่นใหม่ วงที่เธอสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังทุกวันนี้ อย่างน้อยด้วยเสียงตอบรับของแฟนๆ ในวันนั้นก็เชื่อได้ว่าแฟนเพลงของเธอที่เมืองไทยยังคงรอคอยผลงานใหม่ๆ ของเธออยู่เสมอ เช่นเดียวกับการกลับมาสร้างรอยยิ้มแห่งความประทับใจกันอีกครั้ง