ฮายาโอะ มิยาซากิ ตำนานผู้ยังมีลมหายใจตัวจริงเสียงจริงแห่งวงการแอนิเมชั่นของญี่ปุ่น ผู้ที่ทำให้ผลงานจากค่าย Ghibli ยกระดับวงการการ์ตูนไปอีกขั้นหนึ่ง ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามความในใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสที่ Ponyo on the Cliff by the Sea ผลงานชิ้นล่าสุดภายใต้การดูแลของเขาโดยตรงได้เป็นตัวแทน 1 ใน 2 ผลงานแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นที่ได้เข้าชิงเกียรติยศในเทศกาลภาพยนตร์ Venice International Film Festival ประจำปีนี้
Pixar...รักนะเด็กโง่
"เหล่านักวาดที่ Pixar เป็นกลุ่มคนที่ผมเอ็นดู"
ฮายาโอะ มิยาซากิ การ์ตูนนิสต์วัย 67 ปี กล่าวถึงบริษัทสร้างการ์ตูนคู่แข่งที่โด่งดังจากสไตล์การใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกสร้างผลงานอันบรรเจิด ที่กลายเป็นกระแสของการสร้างการ์ตูนทุกวันนี้ ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นการยุติการคาดเดาการดำรงอยู่ในสถานนะ "คู่แข่ง" ของสองค่ายการ์ตูนยักษ์ใหญ่ที่มีวิถีทางการสร้างสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันนี้
"เราทั้งสองฝั่งไม่ได้แก่งแย่งชิงดีกัน ความสัมพันธ์ของสองบริษัทอยู่บนรากฐานของความเป็นมิตร"
แต่ถึงอย่างไร แม้ทุกวันนี้การ์ตูนส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมาจะเน้นไปที่การใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ในฐานะผู้ก่อตั้ง Ghibli ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งของการ์ตูนลายเส้นแบบดั้งเดิม มิยาซากิเผยว่าบริษัทจะยังคงยึดถือแนวทางในการวาดการ์ตูนด้วย "ลายมือ" ต่อไป
"ตอนนี้ CG เข้ามามีส่วนในการสร้างสรรค์อย่างมาก ซึ่งในบางครั้งดูเหมือนมันจะมากเกินไป"
"ผมคิดว่าแอนิเมชันเป็นงานที่ต้องการดินสอ ต้องการมือของมนุษย์ในการสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรายึดเส้นทางนี้ในการทำงาน และเป็นเหตุผลที่ผมจะยังจับดินสอวาดรูปต่อไป นานเท่าที่ผมจะทำได้" มิยาซากิยืนยันเจตนารมณ์เดิม
การเดินทางของลูกปลาน้อย...ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับ "สึนามิ"
Ponyo on the Cliff by the Sea เป็นผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจาก The Little Mermaid นิทานคลาสสิกของ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เรื่องนี้กล่าวถึงปลาทองตัวน้อยที่ฝันอยากจะกลับไปเป็นคนเพื่อจะกลับไปหาคนรักของเธออีกครั้ง ซึ่งได้แก่เด็กชายวัย 5 ขวบนามว่าโซซูเกะ ได้เป็นตัวแทน 1 ใน 3 ผลงานจากแดนอาทิตย์อุทัยในการชิงชัย Venice International Film Festival ประจำปีนี้ จากผู้เข้าแข่งขันจำนวน 21 เรื่อง รวมกับ The Sky Crawlers ผลงานการ์ตูนอีกเรื่องของ โอชิอิ มาโมรุ และ Achilles and the Tortoise ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ทาเคชิ คิตาโน
ซึ่งผลงานที่วาดด้วยมือตลอดทั้งเรื่องเรื่องนี้สวนกระแสความนิยมในการมาถึงของการ์ตูน CG อย่างแท้จริง เมื่อการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาสามารถกวาดเงินไปได้ถึงหมื่นล้านเยน หรือเทียบเป็นเงินถึง 93 ล้านเหรียญทีเดียว และจะออกฉายที่ประเทศอังกฤษเดือนเม.ย. ปี 2009 ต่อไป
ซึ่งหนึ่งในฉากประทับใจของเรื่องคือตอนที่โปเนียวเจ้าปลาน้อยแหวกว่ายผ่าคลื่นยักษ์เพื่อไปยังชายฝั่ง
ซึ่งมิยาซากิเผยว่าฉากดังกล่าวตัวเขาไม่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2004 แต่อย่างใด
"ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องสึนามิเลยตอนที่ทำเรื่องนี้ มันมีวัฏจักรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมายที่มนุษย์ไปอาจต้านทานได้"
"ผมคิดว่ามันได้ถ่ายทอดออกมาจากวิธีคิดแบบญี่ปุ่นของเรา และในฐานะการเป็นประเทศที่สร้างขึ้นมาจากหมู่เกาะ"
ในผลงานที่เชื่อมโยงเรื่องราวในชีวิตประจำวันเข้ากับเหตุการณ์มหัศจรรย์ได้อย่างกลมกลืนอันเป็นเอกลักษณ์ในการเล่าเรื่องของมิยาซากิเรื่องนี้ ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากบรรดานักวิจารณ์ที่เวนิซ
เดโบราห์ ยัง นักวิจารณ์จาก Hollywood Reporter ยกย่องผลงานชิ้นนี้ว่า "ดั่งการดับกระหายจากการรอคอยอันแห้งแล้งและเนิ่นนาน"
"มันเป็นผลงานแฟนตาซีที่ยอดเยี่ยม เสน่ห์ของมันจะเป็นที่รักของเด็กตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึง 100 ขวบ"
ก่อนหน้านี้ผลงานของมิยาซากิมักไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการเปิดตัวครั้งแรกกับผู้ชมตะวันตก แม้ต่อมามันจะได้สร้างฐานแฟนๆ ที่ติดตามผลงานในภายหลังก็ตาม
ซึ่งในผลงานล่าสุดนี้เขาคิดว่าการนำกลิ่นอายตะวันตกจากนิยายคลาสสิกของแอนเดอร์เซนมาผสมกับวิธีการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่น จะทำให้ผลงานเรื่องนี้ "เป็นที่รักของคนทั้งโลก" ที่แม้ว่าจะทำขึ้นมาเพื่อแฟนหนังเยาวชนเป็นหลัก แต่เขาก็ไม่ได้จำกัดกลุ่มเป้าหมายแต่อย่างใด
นิทานที่ไม่มีวันจบ
จากเด็กหนุ่มที่จบการศึกษาจากภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการเมือง แต่สนใจในวรรณกรรมเยาวชน ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับฝึกวาดลายเส้นให้กับบริษัท Toei Animation จนออกมาตั้ง Ghibli ด้วยตนเอง ที่ซึ่งเขายังคงดำรงตำแหน่งหัวเรือใหญ่จนทุกวันนี้ แม้จะเคยประกาศอำลาตำแหน่งมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 1985
ทุกวันนี้ ฮายาโอะ มิยาซากิ ในวัย 67 เจ้าของตำแหน่งผลงานสร้างหนัง 3 เรื่องจาก 5 เรื่องที่ทำเงินสูงสุดของญี่ปุ่นในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการคว้ารางวัลออสการ์ สาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยมจาก Spirited Away เมื่อปี 2003 และเคยได้รับรางวัลผู้ประสบความสำเร็จทางวิชาชีพจากการประกวดที่เวนิซมาแล้วเมื่อปี 2005 เผยว่าทุกวันนี้เรื่องการวางมือจากวงการไม่มีอยู่ในหัวของเขาเลย แต่สิ่งที่เขาต้องการสร้างตอนนี้คือขุนพลการ์ตูนรุ่นใหม่ที่พร้อมด้วยพลังและทักษะที่จะมาช่วยงานของเขา ที่แฟนๆ อาจจะต้องรอยาวถึง 3 ปีต่อจากนี้
"กว่าผมจะทำหนังเรื่องต่อไปก็คงจะอายุ 70 เข้าไปแล้ว ผมจึงต้องการเลือดใหม่ที่จะเข้ามาช่วยงานของผม"
แม้จะรับรู้ถึงสังขาร แต่สิ่งที่ทำให้มิยาซากิมีพลังในการสร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุด ได้มาจากบรรดาลูกๆ หลานๆ ของพนักงานในบริษัทของเขานั่นเอง
"ทุกครั้งที่ผมได้เจอเด็กๆ เหล่านั้น ผมจะค้นพบพลังที่จะเดินหน้าต่อไป"