"เดฟ ฟรีแมน" ผู้ร่วมแต่งหนังสือท่องเที่ยวสุดแหวกแนว 100 Things to Do Before You Die เสียชีวิตจากการสะดุดล้มที่บ้านพักริมหาดของตัวเองง่ายๆ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
เดฟ ฟรีแมน เสียชีวิตจากการสะดุดพื้นในห้องชมวิวในบ้านพักที่เมืองเวนิซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะจนจากโลกไปด้วยวัยเพียง 47 ปี
ผู้บริหารบริษัทโฆษณาผู้นี้มีชื่อเสียงในวงการหนังสือหลังจาก 100 Things To Do Before You Die ที่เขาและ นีล เทปลิกา คู่หูได้รวบรวมข้อมูลจากสถานที่แปลกๆ และเทศกาลประหลาดๆ ที่ผู้อ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่พวกเขาสร้างขึ้นเองได้ส่งเข้ามา และทั้งคู่ก็เริ่มออกเดินทางไปพิสูจน์ตามสถานที่ดังกล่าวทีละแห่ง จนกลายมาเป็นหนังสือท่องเที่ยวสุดแหวกแนวเมื่อตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1999 และโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนนับแต่นั้น นำมาซึ่งแนวของหนังสือที่ขึ้นด้วยหัวว่า "100 เรื่องก่อนตาย" ที่ตามออกมาอีกนับไม่ถ้วน
เดฟ ฟรีแมน ที่ได้ไปเยือนสถานที่ครึ่งหนึ่งที่กล่าวไว้ในหนังสือ ทั้งเส้นทางจาริกแสวงบุญ ของวูดูในไฮติและการเทศการวิ่งหนีวัวในเมืองแพมโพลนาของสเปน จนไปถึงสถานที่แปลกๆ อย่างที่แก้ผ้าเซิร์ฟในยามราตรีที่ออสเตรเลียและการแข่งตะโกนเสียงดังที่สุดในนอร์ธ คาโรไลนา
ฟรีแมนเป็นชายโสดและชอบเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพียงลำพัง เพราะเขาเชื่อว่ามันจะทำให้การเดินทางของเขานำไปสู่ผู้คนที่น่าสนใจกว่าและสถานที่ที่แปลกประหลาดยิ่งกว่า
ใน 100 เรื่องที่คุณต้องทำก่อนตาย เขาเปิดเรื่องด้วยข้อความว่า "ถ้าชีวิตคือการเดินทางที่แสนสั้น คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถเติมเต็มมันด้วยที่สุดแห่งความสนุกสนาน และได้ไปเยี่อมเยือนสถานที่เด็ดๆ บนโลกมาหมดแล้ว ก่อนที่คุณจะเก็บกระเป๋ากลับบ้านเก่าเป็นครั้งสุดท้าย?"
ครอบครัวของเขาออกมาเผยว่า จริงๆ แล้วฟรีแมนไปตามที่หนังสือบอกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะที่เหลือเป็นผลงานเขียนของนีล เทปลิกา ซึ่งหมายความว่านักเขียนของหนังสือดังเล่มนี้ก็ไปตามที่หนังสือบอกเพียงครึ่งเดียวเช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ฟรีแมนโปรดปรานที่สุดได้แก่เทศกาล Las Fallas festival ในเมืองบาเลนเซียของสเปน ที่เมื่อถึงเวลาสองยามจะมีการจุดดอกไม้ไฟใส่รูปจำลองที่ทำด้วยกระดาษกับแป้งเปียกของนักการเมืองและคนดังจนลุกไหม้เป็นจุล
เขาเผยว่าการดิ่งพสุธาแถบหมู่เกาะแปซิฟิกตอนใต้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานที่สุดของเขา พิธีกรรมดังกล่าวที่สืบทอดกันมานับร้อยปีได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นตำรับของการบันจี้ จัมป์ โดยเป็นการทิ้งตัวลงมาจากที่สูงโดยมีเพียงเถาวัลย์ผูกที่ขาไว้เท่านั้น ซึ่งพระราชินีของอังกฤษทรงเคยมาทอดพระเนตรเห็นชาวเกาะพลาดตกมาเสียชีวิตในพิธีต้อนรับเมื่อปี 1974 มาแล้ว
"การจากไปของเขามันทั้งประหลาดทั้งเศร้า มันไม่ใช่เพราะโรคหัวใจ ร่างกายของเขาแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ใช่คนที่อยู่ๆ จะสะดุดล้มง่ายๆ การตายของเขาเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดจริงๆ" นีล เทปลิกา คู่หูที่เขียนหนังสือด้วยกันกล่าวถึงเพื่อนที่ล่วงลับ
ตามการเปิดเผยของเทปลิกา คติพจน์ของฟรีแมนคือ "คุณควรจะใช้ชีวิตทุกๆ วันเหมือนกับมันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งคุณส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน"
"เขามีวันที่ว่าน้อยไปซักหน่อย แต่เขาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขียนเอาไว้อย่างแท้จริง" เทปลิกาทิ้งท้าย
เดฟ ฟรีแมน เสียชีวิตจากการสะดุดพื้นในห้องชมวิวในบ้านพักที่เมืองเวนิซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะจนจากโลกไปด้วยวัยเพียง 47 ปี
ผู้บริหารบริษัทโฆษณาผู้นี้มีชื่อเสียงในวงการหนังสือหลังจาก 100 Things To Do Before You Die ที่เขาและ นีล เทปลิกา คู่หูได้รวบรวมข้อมูลจากสถานที่แปลกๆ และเทศกาลประหลาดๆ ที่ผู้อ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่พวกเขาสร้างขึ้นเองได้ส่งเข้ามา และทั้งคู่ก็เริ่มออกเดินทางไปพิสูจน์ตามสถานที่ดังกล่าวทีละแห่ง จนกลายมาเป็นหนังสือท่องเที่ยวสุดแหวกแนวเมื่อตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1999 และโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนนับแต่นั้น นำมาซึ่งแนวของหนังสือที่ขึ้นด้วยหัวว่า "100 เรื่องก่อนตาย" ที่ตามออกมาอีกนับไม่ถ้วน
เดฟ ฟรีแมน ที่ได้ไปเยือนสถานที่ครึ่งหนึ่งที่กล่าวไว้ในหนังสือ ทั้งเส้นทางจาริกแสวงบุญ ของวูดูในไฮติและการเทศการวิ่งหนีวัวในเมืองแพมโพลนาของสเปน จนไปถึงสถานที่แปลกๆ อย่างที่แก้ผ้าเซิร์ฟในยามราตรีที่ออสเตรเลียและการแข่งตะโกนเสียงดังที่สุดในนอร์ธ คาโรไลนา
ฟรีแมนเป็นชายโสดและชอบเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพียงลำพัง เพราะเขาเชื่อว่ามันจะทำให้การเดินทางของเขานำไปสู่ผู้คนที่น่าสนใจกว่าและสถานที่ที่แปลกประหลาดยิ่งกว่า
ใน 100 เรื่องที่คุณต้องทำก่อนตาย เขาเปิดเรื่องด้วยข้อความว่า "ถ้าชีวิตคือการเดินทางที่แสนสั้น คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถเติมเต็มมันด้วยที่สุดแห่งความสนุกสนาน และได้ไปเยี่อมเยือนสถานที่เด็ดๆ บนโลกมาหมดแล้ว ก่อนที่คุณจะเก็บกระเป๋ากลับบ้านเก่าเป็นครั้งสุดท้าย?"
ครอบครัวของเขาออกมาเผยว่า จริงๆ แล้วฟรีแมนไปตามที่หนังสือบอกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะที่เหลือเป็นผลงานเขียนของนีล เทปลิกา ซึ่งหมายความว่านักเขียนของหนังสือดังเล่มนี้ก็ไปตามที่หนังสือบอกเพียงครึ่งเดียวเช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ฟรีแมนโปรดปรานที่สุดได้แก่เทศกาล Las Fallas festival ในเมืองบาเลนเซียของสเปน ที่เมื่อถึงเวลาสองยามจะมีการจุดดอกไม้ไฟใส่รูปจำลองที่ทำด้วยกระดาษกับแป้งเปียกของนักการเมืองและคนดังจนลุกไหม้เป็นจุล
เขาเผยว่าการดิ่งพสุธาแถบหมู่เกาะแปซิฟิกตอนใต้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานที่สุดของเขา พิธีกรรมดังกล่าวที่สืบทอดกันมานับร้อยปีได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นตำรับของการบันจี้ จัมป์ โดยเป็นการทิ้งตัวลงมาจากที่สูงโดยมีเพียงเถาวัลย์ผูกที่ขาไว้เท่านั้น ซึ่งพระราชินีของอังกฤษทรงเคยมาทอดพระเนตรเห็นชาวเกาะพลาดตกมาเสียชีวิตในพิธีต้อนรับเมื่อปี 1974 มาแล้ว
"การจากไปของเขามันทั้งประหลาดทั้งเศร้า มันไม่ใช่เพราะโรคหัวใจ ร่างกายของเขาแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ใช่คนที่อยู่ๆ จะสะดุดล้มง่ายๆ การตายของเขาเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดจริงๆ" นีล เทปลิกา คู่หูที่เขียนหนังสือด้วยกันกล่าวถึงเพื่อนที่ล่วงลับ
ตามการเปิดเผยของเทปลิกา คติพจน์ของฟรีแมนคือ "คุณควรจะใช้ชีวิตทุกๆ วันเหมือนกับมันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งคุณส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน"
"เขามีวันที่ว่าน้อยไปซักหน่อย แต่เขาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขียนเอาไว้อย่างแท้จริง" เทปลิกาทิ้งท้าย
