xs
xsm
sm
md
lg

"พริก" ประกาศแขวนเต้า! หลังขึ้นเวทีพันธมิตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"พริก กานต์ชนิต" เผยเหตุเลิกถ่ายบีกินี เพราะอยากให้เกียรติเวทีพันธมิตร หลังเข้ามาเป็นแนวร่วมกู้ชาติ บอกไม่อยากหากินแนวหวืออีกแล้ว ลั่นเสร็จศึกเตรียมบวช 7 วัน สุดภูมิใจที่สามารถทำเข็มกลัดและใบประกาศนียบัตรกู้ชาติขาย ได้เงินไปซื้อจานเอเอสทีวีบริจาคทั่วประเทศ

นอกจากจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำเข็มกลัดและใบประกาศนียบัตรกู้ชาติขาย เพื่อนำเงินไปซื้อจานเอเอสทีวีบริจาคแล้ว ล่าสุดสาว "พริก กานต์ชนิต ซำมะกุล" ยังออกมาประกาศเลิกถ่ายเซ็กซี่ถาวร หลังจากได้เข้ามาเป็นแนวร่วมกู้ชาติอย่างเต็มตัว โดยเจ้าตัวเผยถึงเหตุผลว่า อยากให้เกียรติเวทีพันธมิตร ไม่อยากให้เวทีฯดูไม่ดีจากข่าวคราวของตน ทั้งยังอยากทำความดีไม่อยากหากินกับงานลักษณะนั้นอีกแล้ว ลั่นเสร็จภารกิจกู้ชาติเตรียมบวชหนึ่งสัปดาห์

"ตั้งแต่มาที่นี่หนูประทับใจทุกครั้ง มันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว สายตาที่มองมา หนูรู้สึกว่าหลายคนพร้อมจะให้อภัย และพร้อมจะให้โอกาส มันทำให้หนูรู้ว่าทำความดีมันทำยากนะ แต่ก็ต้องทำดีต่อไป มันเป็นตัวกระตุ้นน่ะค่ะ โอเคในจำนวนคนที่ไม่เข้าใจ ก็ยังมีคนเข้าใจเรานี่ มันอยู่ที่เราจะมองด้านลบหรือด้านบวก แต่หนูจะมองด้านบวกดีกว่า ก็เลยคิดว่าเราเริ่มต้นใหม่ได้นี่นา"

"คนที่ยังหาว่ามาสร้างภาพ หนูไม่ว่าอะไรเค้าหรอก รู้แค่ว่าสิ่งที่หนูทำที่นี่มันกลายเป็นความผูกพันไปแล้ว มีความสุขที่ได้มาที่นี่ ตัวเองก็ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมานะ แต่มันอยากมา รู้สึกโชคดีที่ได้มาอยู่เต้นท์พยาบาลเพราะพี่ๆ จะคอยสอนตลอด มันรู้สึกปลอดภัยน่ะ เวลามาก็รู้สึกอบอุ่น"

เผยไม่ได้รับผลกระทบเรื่องงานอย่างที่หลายคนเป็นห่วง ตรงกันข้ามกลับมีหนังสือติดต่อให้ไปถ่ายบีกินี ถึง 3 เล่ม แต่เจ้าตัวปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า...
"มีหนังสือติดต่อถ่ายบีกินีมา 3 เล่ม หัวหนังสือถือว่าดีเลยแหละ แต่ปฏิเสธไปแล้วก็บอกเค้าไปตรงๆ ว่าหนูขอบคุณที่ให้โอกาส หนูได้มีโอกาสขึ้นเวทีพันธมิตรแล้ว หนูศรัทธาเวทีนี้ ไม่อยากให้ข่าวเรามาทำให้เวทีนี้ดูไม่ดี ฉะนั้นจะไม่ถ่ายบีกินีอีกแล้ว แต่ถ้าเป็นสายเดี่ยวหรือเซ็กซี่ที่เสื้อผ้ายังถ่ายอยู่ แต่ถ้าเป็นชุดชั้นในหรือชุดว่ายน้ำทูพีชอะไรแบบนี้หนูไม่ถ่าย หรือจะเปิดบนเปิดล่างก็ไม่เอาเหมือนกัน อยากถ่ายแนวอาร์ตแบบใส่เสื้อผ้าดีกว่า"

"มันเป็นโอกาสที่หนูจะได้ทำความดี และน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีได้ ไม่ได้ว่าคนที่ถ่ายเซ็กซี่ไม่ดีนะ แต่หนูมีโอกาสจะทำดีก็อยากจะรักษาตรงนั้น เหมือนกับตอนนั้นที่มีโอกาสทำงานตรงนั้น เราก็เลยอยากลอง โดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา ก็เลยคิดว่าอันไหนที่มันไม่ดี เลิกดีกว่า มันก็ยังไม่สายนะ (ยิ้ม)"

"ตอนนั้นยอมรับว่าเงินเป็นปัจจัยที่ทำให้ถ่าย แต่ตอนนี้หนูไม่จำเป็นต้องเลือกเงิน หนูก็มีความสุขดี กินข้าวบริจาคก็มีความสุขดี (หัวเราะ) อย่างแต่ก่อนเรื่องงานจะคิดเรื่องตัวเงิน ดูเงินเป็นหลัก ไม่สนเพราะคิดว่ามันเป็นอาชีพสุจริต เป็นความสามารถของเรา แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดหมดเลย แต่ไม่ได้บอกว่างานที่เคยทำไม่ดีไม่ใช่นะคะ"

"ปกติหนูก็เดินทางสายกลาง คือถ้าเกิดมีโอกาสเลือกที่ดีกว่า หนูก็คงไม่เลือก แต่ ณ ตอนนั้นมันมีโอกาสทางนี้ทางเดียว ก็เลยเลือกที่จะไม่ทิ้งโอกาส ชีวิตมันเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และต้องทันกับมัน ไม่ยึดติด เหมือนตอนนี้ที่หนูมีทางเลือกที่ดีกว่า ก็เลือกที่จะตรงนี้ ซึ่งวันข้างหน้าก็คงไม่กลับไปถ่ายแบบนั้นอีกแล้ว"

"ถ้าไม่ได้มามีส่วนร่วมกับพันธมิตร หนูคิดว่าตัวเองคงไม่หยุดถ่ายเซ็กซี่ แต่ก็คงไม่ถึงกับไปถ่ายนู้ด เพียงแต่คงยังถ่ายเซ็กซี่ไปเรื่อยๆ บอกได้เลยจุดนี้เบรกหนูไว้ การมาเวทีพันธมิตรนอกจากจะให้สติปัญญา แล้วยังเป็นเหมือนเครื่องคอยบอกว่าพริกหยุดเถอะ คือให้ทางเลือกที่ดีกว่า และให้ชีวิตใหม่จริงๆ นะ ไม่ได้บอกว่าที่ผ่านมาเป็นทางเลือกที่ไม่ดี แต่มันเป็นทางที่ยังไม่ถึงเวลา หรือไม่ควรหรือเปล่า รู้สึกว่าเวทีนี้ดึงกระชากเรากลับมาถูกทางแล้ว (ยิ้ม)"

"พูดถึงที่นี่เหมือนได้ให้ชีวิตใหม่กับหนู ที่ผ่านมาก็คิดว่าตัวเองเดินทางมาดีนะ แต่มันเหมือนกับมีอีกทางมาให้เราลองดูมั้ย แล้วเราก็เป๋ไป แต่พอมีพันธมิตรเกิดขึ้น มันทำให้หนูได้ฉุกคิดว่าที่ผ่านมาที่ผ่านไปมันเป็นยังไง แล้วตอนนี้มีทางดีๆ ให้เลือกจะเลือกเดินมั้ย ซึ่งหนูเลือก และก็เป็นทางที่ถูก นี่แหละทางที่หนูควรเดิน ที่ผ่านมาคือมันไม่ใช่ แต่หนูก็ไม่ได้เสียใจ เพราะมันก็เหมือนเป็นการทดลอง ทำให้วันนี้ได้รู้แล้วว่าจริงๆ ควรจะทำอะไร และก็เชื่อว่าชีวิตต่อจากนี้ หนูรู้วิถีทางเดินที่ดีแล้วล่ะ"

พร้อมเล่าถึงความภูมิใจที่ได้ทำเข็มกลัดและใบประกาศนียบัตรกู้ชาติออกมาขาย เพื่อหาเงินไปซื้อจานเอเอสทีวีบริจาคให้กับแหล่งชุมชนที่ต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วประเทศ
"ครั้งที่แล้วทำเข็มกลัดกู้ชาติขาย รวมเงินแล้วก็ซื้อจานเอเอสทีวีได้ 371 จาน มอบให้ท่านจันทร์หมดแล้ว ได้มีการแจกจ่ายไปตามสถานที่ต่างๆ หลายที่แล้ว ทั่วประเทศเลย ซึ่งจะเน้นติดตั้งตามแหล่งชุมชน และสถานที่ที่คนอยู่เยอะๆ หรือไม่ก็มอบให้วัดเพื่อที่ชาวบ้านจะได้เข้ามาดูง่ายๆ เท่าที่ทราบคืออย่างมอบให้ทางภาคใต้ ทหารก็ได้ดูด้วย"

"ตอนนี้เราทำใบประกาศนียบัตรแทน ราคา 100 บาทเท่าเดิม ไอเดียมาจาก จะได้ยินแกนนำพูดตลอดว่าเราจบจากมหาวิทยาลัยราชดำเนิน หนูก็เลยปิ๊งไอเดีย เอามาทำเป็นใบประกาศฯ แล้วด้านล่างก็จะมีลายเซ็นของ 5 แกนนำ เป็นที่ระลึกด้วย ซึ่งขายดีมากพันใบแปบเดียวขายหมดเกลี้ยง คือทุกคนดีใจที่ได้ใบประกาศฯ ได้ไปทุกคนจะยิ้ม เราก็ภูมิใจที่หาเงินไปซื้อจานฯบริจาคกระจายความรู้ต่อๆ ไปอีก"

"คนที่มาเป็นคนดี ฉะนั้นหนูก็จะมีความสุขและสนุกมาก บางทีคนเยอะๆ เดินเบียดเสียดกันร้อนๆ แต่เวลามาซื้อเข็มกลัดทุกคนจะเข้าแถวเป็นระเบียบ บางคนต่อคิวนานๆ อาจจะหงุดหงิดบ้าง หนูก็ต้องใจเย็นๆ แล้วก็พูดกับเค้าดีๆ ยิ้มแย้มให้ แค่นี้ลุงป้าก็ยิ้มตอบแล้ว บรรยากาศก็ดีแล้ว"

"หนูเชื่อว่าทุกคนที่มาโดยพื้นฐานจิตใจดี แต่อาจจะมีบ้างที่ไม่ได้ดั่งใจทำให้เราเหนื่อยแล้วก็ท้อ แต่โชคดีที่หนูผ่านเหตุการณ์ที่ต้องอดทนมาเยอะ และพี่ๆ ที่เต้นท์ก็จะคอยบอกตลอดว่า การทำความดีมันก็ยากอย่างนี้แหละ จะมีมารหรือปัญหามาผจญตลอด แต่เราก็หยุดทำไม่ได้"

"ที่ดีใจก็คือหนูเพิ่งมารู้ว่าการที่เราได้เงินมาซื้อจาน แล้วบริจาคออกไปทำให้ช่างติดตั้งเขามีงานทำ มีการฝากขอบคุณมาด้วยว่าเนี่ยหนูทำให้พี่มีงานทำนะ หนูก็เฮ้ย จริงเหรอ (ยิ้มภูมิใจ) มันมีประโยชน์หลายทอด ได้ดูเอเอสทีวีได้ความรู้แล้วยังสร้างงานให้คนด้วย แล้วยังทำให้ชุมชนเข้มแข็งด้วย เพราะเวลามาดูก็จะมาด้วยกัน 4-5 คน เป็นเพื่อนกันเป็นคนในครัว ได้สร้างความสัมพันธ์กัน ล่าสุดมีคนโทรมาถามขนาดของใบประกาศนียบัตร เพราะเขาจะมาเปิดร้านรับทำกรอบรูป รู้สึกดีที่เราได้ส่งเสริมรายได้ด้วย มันยิ่งกว่าความภูมิใจค่ะ"

เจ้าตัวบอกหลังจากภารกิจกู้ชาติเสร็จสิ้นเตรียมบวชรักษาศีล 7 วัน...
"มันคงเหมือนเรียนจบ ที่เป็นความดีใจในความเสียใจ เพื่อนๆ หายไปไหน ไม่ได้เจอกันแล้วเนอะ คงคิดถึงมากเลยค่ะ คงแปลกๆ ชีวิตคงเปลี่ยนไป ตื่นมาจะไปไหนเนี่ย (หัวเราะ) แต่ตั้งใจไว้ว่าถ้าทุกอย่างยุติลงหนูจะไปบวช 7 วัน ที่พุทธิกสมาคม ไปนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ปีนี้เป็นปีชงของหนูด้วย ก็เลยอยากทำบุญด้วยการรักษาศีล และบำเพ็ญบารมีเยอะๆ เพื่อให้มีสิ่งดีๆ คุ้มครองเรา"

กำลังโหลดความคิดเห็น