เปิดตัวโครงการ "ร้อยรัก สลักใจ” เร่งระดมหาเงินไถ่บ้านให้ "ยอดรัก" ตัวแทนชมรมแจงเหตุค่า sms แพงหูฉี่ครั้งละ 50 บาทเพราะต้องการได้เงินเร็วๆ ด้านเมียยอดรักขอบคุณเมียอดีตนายกฯ ช่วยเหลือค่ารักษา ขณะที่ "เสรี" บอกไม่มีปัญหากับลูกชายนักร้องดังผู้จากไป แต่บอกเสร็จงานจะไม่ยุ่งอีกแล้ว
เร่งระดมช่องทางเพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัวของอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "ยอดรัก สลักใจ" กันเป็นการใหญ่สำหรับบรรดาเพื่อนๆ และบุคคลในแวดวงการเพลงลูกทุ่ง ซึ่งในช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันวาน (13 ส.ค.) นางลัดดา ไพรวัลย์ ภรรยายอดรัก, ชมรมคนรักลูกทุ่ง โดย คณะผู้ก่อตั้งชมรมเสรี รุ่งสว่าง, ชัย ศิษย์ประเสริฐ, ช้าง เดชาธร สุวิณิจิต, บริษัทเอเชีย เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด
ร่วมด้วยผู้ผลิตรายการเวทีไท โดยยุวดี บุญครอง, บริษัท สไปซี่ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด โดย ชวลิต วชิรปิดานนธ์ กรรมการผู้จัดการก็ได้เปิดแถลงข่าวการจัดตั้งโครงการ “ร้อยรัก สลักใจ” ขึ้นในการหาเงินไถ่ถอนบ้านที่ติดจำนองเพื่อปลดความกังวลเป็นครั้งสุดท้ายให้กับอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง
โดยช่องทางต่างๆ นั้นประกอบไปด้วยการส่ง sms ที่หมายเลข 4689666 ให้กำลังใจผ่านโครงการในราคาครั้งละ 50 บาท ระหว่างวันที่ 15 ส.ค.-31 ต.ค. 2551, การจัดคอนเสิร์ตเวทีไทโดยมีศิลปินที่ขึ้นเวที อาทิ เสรี รุ่งส่วาง, ไชยา-แอน มิตรชัย, แคทลียา มารศรี, ไมค์ ภิรมย์พร, โจนัส แอนเดอร์สัน, มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ฯลฯ"
ในวันที่ 16 ส.ค. พร้อมจัดทำเป็นดีวีดี “อาลัยยอดรัก” ความยาว 4 ชม.(บริจาค 100 บาทรับดีวีดี 1 แผ่น) รายได้ทั้งหมดนำไปทอดกฐิน ณ วัดหาดแตงโม จ.พิจิตร
นอกจากนี้แฟนเพลงที่ต้องการจะทำบุญก็ยังสามารถโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของครอบครัวยอดรัก รวมไปถึงการซื้อแผ่นเสียงที่วางแผงในร้านแมงป่องทุกสาขาได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับในส่วนของค่าส่ง sms ที่มีราคาสูงถึงครั้งละ 50 บาทนั้นทางด้านผู้จัดทำโครงการชี้แจงว่าเนื่องจากต้องการความรวดเร็วในการสมทบทุนรายได้ให้ได้มากที่สุดเพื่อการไถ่ถอนบ้านของยอดรัก โดยส่วนแบ่ง 25 บาทจะนำไปมอบให้กับครอบครัว “ยอดรัก สลักใจ” ส่วนอีก 25 บาทให้กับทางหน่วยงานที่รับสัมปทาน ซึ่งทางตัวแทนชมรมฯ ยืนยันว่าไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับเรื่องนี้เด็ดขาด
ด้านของนาง “ลัดดา” เองก็ได้ฝากคำขอบคุณไปถึงภรรยาอดีตนายกฯ คุณหญิงพจมาน ชินวัตรที่ได้ช่วยบริจาคเงินค่ารักษาพยายาบาลทั้งหมดให้กับสามีตนเอง ขณะที่เสรี รุ่งสว่างก็ได้เปิดเผยว่าได้ทำความเข้าใจกับ “เอส เกรียงศักดิ์” ลูกชายอดีตนักร้องลูกทุ่งแล้ว
ก่อนจะบอกว่าเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทองนั้นจะปล่อยให้ “นางลัดดา” และลูกชายจัดการเองทั้งหมด พร้อมเผยว่าหลังจากนี้ไปตนจะไม่ขอยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว
"ไม่มีปัญหาอะไรกันเลยพูดคุยกันอยู่ทุกวัน แต่มีบางเรื่องที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องรายได้ทั้งหมดที่ทำผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งใจทำให้ ผมขอวิงวอนถึงเพื่อนเก่าแอ๊วให้มาช่วยเหลือกันบ้างเพราะตอนนี้ไม่มีเลยสักคนที่เป็นเพื่อนเก่ามีแต่เพื่อนใหม่ๆ ขอเถอะขอให้ออกมาช่วยกัน”
“เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นพวกท่านออกมาบ้างเลย ข้อเท็จจริงมีข่าวเหมือนผมโกงเงินอาจเป็นเพราะว่าผมทำงานเร็วจนคนอื่นตามไม่ทันก็ได้ แต่จริงๆ ตั้งใจจะสานเจตนารมณ์คุณยอดรัก เรามีเจตนาดีในการทำงาน ส่วนเรื่องรายได้ต่างๆ อย่าถามผมให้ไปถามภรรยาและตัวน้องเอสเองผมไม่ขอออกความเห็นไม่ขอพูดเรื่องนี้ใดๆ แล้ว ผมไม่น้อยใจ ไม่ท้ออะไรขนาดนั้น ยังไงก็จะช่วยเพื่อนต่อไป”
ส่วนลิขสิทธิ์การทำหนังสืออัตถชีวประวัติของนักร้องลูกทุ่งผู้ล่วงลับ “เสรี” เผย เป็นของลูก เมีย ยอดรัก ส่วนตนจะช่วยสานต่อให้เสร็จ พร้อมปัดผิดใจหลาน “เอส” เพราะเรื่องนี้
“กับหลานเอสไม่มีอะไร จากข่าวที่ออกมาว่าทะเลาะกับหลานเรื่องหนังสือ ผมว่าหลานพูดไม่ได้คิดอะไรมากกว่า แต่ก็ได้ตกลงกันแล้วว่าต่อไปถ้าจะมีการให้สัมภาษณ์ต้องมาบอกกันก่อน เราคุยกันแล้ว หลานก็บอกไม่ได้คิดอะไร หลานบอกดีใจมากที่ได้มาช่วย แต่ช่วงนี้คนเข้ามาฉวยโอกาสจากงานนี้เยอะเลยทำให้คนอื่นเข้าใจผิดในตัวผม แต่จริงแล้วไม่ใช่”
ส่วนเรื่อง “สายัณห์ สัญญา” จะมาเคารพศพ “ยอดรัก” เป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ “เสรี” เผยไม่อยากพูดถึงคนที่พูดไม่รู้เรื่อง ก่อนบอกจะมาไม่มาขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของความเป็นคน...“สายัณ ไม่ได้ติดต่อมาเลยตั้งแต่ยอดรักเสีย แล้วผมก็ไม่อยากพูดกับคนพูดไม่รู้เรื่อง อยากให้เขาคิดเองว่าจะมาหรือไม่มา เราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว น่าจะคิดได้”
ส่วนนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ก๊อต จักรพรรณ์ ครบุรีธีระโชติ'” ได้เดินทางมาร่วมสวดอภิธรรมในงานวันนี้ กล่าวถึง “ยอดรัก สลักใจ” ว่าเป็นเหมือนครูที่สอนร้องเพลงลูกทุ่งของตนในสมัยแรกๆ พร้อมบอก “แอ๊ว ยอดรัก” สั่งเสีย ฝากพัฒนาเพลงลูกทุ่งกับตนก่อนตาย
“เป็นเหมือนครูครับ ก็อตร้องเพลงเป็นเพราะเพลงของพี่แอ๊วครับ แล้วก็ตั้งแต่ทำเพลงลูกทุ่งอัลบั้มแรก แล้วก็ได้ร้องเพลงพี่แอ๊วเยอะมาก จริงๆ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวนะ แต่จำได้ว่าวันที่ไปบันทึกเสียงวันแรกที่ห้องอัดเสียงเดียวกัน แล้วก็เข้าไปสวัสดีพี่แอ๊ว ตอนนั้นไม่กล้าคุยเพราะว่าเป็นเหมือนครู เราได้ร้องเพลงเขา แล้วได้เห็นตัวจริงเขา ก็รู้สึกประทับใจมาก แล้วก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีและคุยสนุกมากๆ”
“ก่อนพี่แอ๊วเสีย ก๊อตได้ไปเยี่ยม ตอนแรกไปสวัสดี ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปพูดหลายๆ อย่าง แต่พอไปเห็นแล้วเราพูดไม่ออก แต่พี่แอ๊วบอกก็อตว่าอยากฝากให้ดูแลเพลงลูกทุ่งไม่อยากให้มันมีเนื้อเพลงสองแง่สองง่ามเพราะว่าอยากให้วงการลูกทุ่งพัฒนาครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปทำอย่างอื่นนะ”
เผยดีใจที่เห็นแฟนเพลง “ยอดรัก” มาร่วมไว้อาลัยกันอย่างคับคั่ง พร้อมฝากหากคิดถึงยอดรัก ก็ให้เอาแผ่นเพลงเก่าๆ มาเปิดฟัง
“พี่แอ๊วเสีย ใจหายครับ เพราะว่าเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ ผมว่าคงไม่มีใครเหมือนพี่แอ๊วอีกแล้ว แล้ววันนี้ประทับใจมากๆ ได้เห็นแฟนเพลงพี่แอ๊วรักพี่แอ๊วมาร่วมงานเยอะแยะ ถึงผมจะไม่ได้สนิทกับพี่แอ๊วมากมายแต่ผมก็มีการร้องเพลงลูกทุ่งแบบพี่แอ๊วเป็นต้นฉบับคอยสอนการร้องเพลงลูกทุ่งให้ผม”
“อยากให้ทุกคนร่วมไว้อาลัยให้พี่แอ๊วนะครับ ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่พี่แอ๊วทำไว้คงทำให้พี่แอ๊วฮิตตลอดนะครับ แล้วก็เสียงเพลงเป็นพันๆ ของพี่แอ๊วยังคงอยู่ ถ้าเกิดคิดถึงพี่แอ๊วและรักพี่แอ๊วเรามีผลงานเพลงที่บ้านก็เอามาฟัง”
เร่งระดมช่องทางเพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัวของอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "ยอดรัก สลักใจ" กันเป็นการใหญ่สำหรับบรรดาเพื่อนๆ และบุคคลในแวดวงการเพลงลูกทุ่ง ซึ่งในช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันวาน (13 ส.ค.) นางลัดดา ไพรวัลย์ ภรรยายอดรัก, ชมรมคนรักลูกทุ่ง โดย คณะผู้ก่อตั้งชมรมเสรี รุ่งสว่าง, ชัย ศิษย์ประเสริฐ, ช้าง เดชาธร สุวิณิจิต, บริษัทเอเชีย เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด
ร่วมด้วยผู้ผลิตรายการเวทีไท โดยยุวดี บุญครอง, บริษัท สไปซี่ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด โดย ชวลิต วชิรปิดานนธ์ กรรมการผู้จัดการก็ได้เปิดแถลงข่าวการจัดตั้งโครงการ “ร้อยรัก สลักใจ” ขึ้นในการหาเงินไถ่ถอนบ้านที่ติดจำนองเพื่อปลดความกังวลเป็นครั้งสุดท้ายให้กับอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง
โดยช่องทางต่างๆ นั้นประกอบไปด้วยการส่ง sms ที่หมายเลข 4689666 ให้กำลังใจผ่านโครงการในราคาครั้งละ 50 บาท ระหว่างวันที่ 15 ส.ค.-31 ต.ค. 2551, การจัดคอนเสิร์ตเวทีไทโดยมีศิลปินที่ขึ้นเวที อาทิ เสรี รุ่งส่วาง, ไชยา-แอน มิตรชัย, แคทลียา มารศรี, ไมค์ ภิรมย์พร, โจนัส แอนเดอร์สัน, มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ฯลฯ"
ในวันที่ 16 ส.ค. พร้อมจัดทำเป็นดีวีดี “อาลัยยอดรัก” ความยาว 4 ชม.(บริจาค 100 บาทรับดีวีดี 1 แผ่น) รายได้ทั้งหมดนำไปทอดกฐิน ณ วัดหาดแตงโม จ.พิจิตร
นอกจากนี้แฟนเพลงที่ต้องการจะทำบุญก็ยังสามารถโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของครอบครัวยอดรัก รวมไปถึงการซื้อแผ่นเสียงที่วางแผงในร้านแมงป่องทุกสาขาได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับในส่วนของค่าส่ง sms ที่มีราคาสูงถึงครั้งละ 50 บาทนั้นทางด้านผู้จัดทำโครงการชี้แจงว่าเนื่องจากต้องการความรวดเร็วในการสมทบทุนรายได้ให้ได้มากที่สุดเพื่อการไถ่ถอนบ้านของยอดรัก โดยส่วนแบ่ง 25 บาทจะนำไปมอบให้กับครอบครัว “ยอดรัก สลักใจ” ส่วนอีก 25 บาทให้กับทางหน่วยงานที่รับสัมปทาน ซึ่งทางตัวแทนชมรมฯ ยืนยันว่าไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับเรื่องนี้เด็ดขาด
ด้านของนาง “ลัดดา” เองก็ได้ฝากคำขอบคุณไปถึงภรรยาอดีตนายกฯ คุณหญิงพจมาน ชินวัตรที่ได้ช่วยบริจาคเงินค่ารักษาพยายาบาลทั้งหมดให้กับสามีตนเอง ขณะที่เสรี รุ่งสว่างก็ได้เปิดเผยว่าได้ทำความเข้าใจกับ “เอส เกรียงศักดิ์” ลูกชายอดีตนักร้องลูกทุ่งแล้ว
ก่อนจะบอกว่าเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทองนั้นจะปล่อยให้ “นางลัดดา” และลูกชายจัดการเองทั้งหมด พร้อมเผยว่าหลังจากนี้ไปตนจะไม่ขอยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว
"ไม่มีปัญหาอะไรกันเลยพูดคุยกันอยู่ทุกวัน แต่มีบางเรื่องที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องรายได้ทั้งหมดที่ทำผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งใจทำให้ ผมขอวิงวอนถึงเพื่อนเก่าแอ๊วให้มาช่วยเหลือกันบ้างเพราะตอนนี้ไม่มีเลยสักคนที่เป็นเพื่อนเก่ามีแต่เพื่อนใหม่ๆ ขอเถอะขอให้ออกมาช่วยกัน”
“เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นพวกท่านออกมาบ้างเลย ข้อเท็จจริงมีข่าวเหมือนผมโกงเงินอาจเป็นเพราะว่าผมทำงานเร็วจนคนอื่นตามไม่ทันก็ได้ แต่จริงๆ ตั้งใจจะสานเจตนารมณ์คุณยอดรัก เรามีเจตนาดีในการทำงาน ส่วนเรื่องรายได้ต่างๆ อย่าถามผมให้ไปถามภรรยาและตัวน้องเอสเองผมไม่ขอออกความเห็นไม่ขอพูดเรื่องนี้ใดๆ แล้ว ผมไม่น้อยใจ ไม่ท้ออะไรขนาดนั้น ยังไงก็จะช่วยเพื่อนต่อไป”
ส่วนลิขสิทธิ์การทำหนังสืออัตถชีวประวัติของนักร้องลูกทุ่งผู้ล่วงลับ “เสรี” เผย เป็นของลูก เมีย ยอดรัก ส่วนตนจะช่วยสานต่อให้เสร็จ พร้อมปัดผิดใจหลาน “เอส” เพราะเรื่องนี้
“กับหลานเอสไม่มีอะไร จากข่าวที่ออกมาว่าทะเลาะกับหลานเรื่องหนังสือ ผมว่าหลานพูดไม่ได้คิดอะไรมากกว่า แต่ก็ได้ตกลงกันแล้วว่าต่อไปถ้าจะมีการให้สัมภาษณ์ต้องมาบอกกันก่อน เราคุยกันแล้ว หลานก็บอกไม่ได้คิดอะไร หลานบอกดีใจมากที่ได้มาช่วย แต่ช่วงนี้คนเข้ามาฉวยโอกาสจากงานนี้เยอะเลยทำให้คนอื่นเข้าใจผิดในตัวผม แต่จริงแล้วไม่ใช่”
ส่วนเรื่อง “สายัณห์ สัญญา” จะมาเคารพศพ “ยอดรัก” เป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ “เสรี” เผยไม่อยากพูดถึงคนที่พูดไม่รู้เรื่อง ก่อนบอกจะมาไม่มาขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของความเป็นคน...“สายัณ ไม่ได้ติดต่อมาเลยตั้งแต่ยอดรักเสีย แล้วผมก็ไม่อยากพูดกับคนพูดไม่รู้เรื่อง อยากให้เขาคิดเองว่าจะมาหรือไม่มา เราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว น่าจะคิดได้”
ส่วนนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง “ก๊อต จักรพรรณ์ ครบุรีธีระโชติ'” ได้เดินทางมาร่วมสวดอภิธรรมในงานวันนี้ กล่าวถึง “ยอดรัก สลักใจ” ว่าเป็นเหมือนครูที่สอนร้องเพลงลูกทุ่งของตนในสมัยแรกๆ พร้อมบอก “แอ๊ว ยอดรัก” สั่งเสีย ฝากพัฒนาเพลงลูกทุ่งกับตนก่อนตาย
“เป็นเหมือนครูครับ ก็อตร้องเพลงเป็นเพราะเพลงของพี่แอ๊วครับ แล้วก็ตั้งแต่ทำเพลงลูกทุ่งอัลบั้มแรก แล้วก็ได้ร้องเพลงพี่แอ๊วเยอะมาก จริงๆ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวนะ แต่จำได้ว่าวันที่ไปบันทึกเสียงวันแรกที่ห้องอัดเสียงเดียวกัน แล้วก็เข้าไปสวัสดีพี่แอ๊ว ตอนนั้นไม่กล้าคุยเพราะว่าเป็นเหมือนครู เราได้ร้องเพลงเขา แล้วได้เห็นตัวจริงเขา ก็รู้สึกประทับใจมาก แล้วก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีและคุยสนุกมากๆ”
“ก่อนพี่แอ๊วเสีย ก๊อตได้ไปเยี่ยม ตอนแรกไปสวัสดี ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปพูดหลายๆ อย่าง แต่พอไปเห็นแล้วเราพูดไม่ออก แต่พี่แอ๊วบอกก็อตว่าอยากฝากให้ดูแลเพลงลูกทุ่งไม่อยากให้มันมีเนื้อเพลงสองแง่สองง่ามเพราะว่าอยากให้วงการลูกทุ่งพัฒนาครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปทำอย่างอื่นนะ”
เผยดีใจที่เห็นแฟนเพลง “ยอดรัก” มาร่วมไว้อาลัยกันอย่างคับคั่ง พร้อมฝากหากคิดถึงยอดรัก ก็ให้เอาแผ่นเพลงเก่าๆ มาเปิดฟัง
“พี่แอ๊วเสีย ใจหายครับ เพราะว่าเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ ผมว่าคงไม่มีใครเหมือนพี่แอ๊วอีกแล้ว แล้ววันนี้ประทับใจมากๆ ได้เห็นแฟนเพลงพี่แอ๊วรักพี่แอ๊วมาร่วมงานเยอะแยะ ถึงผมจะไม่ได้สนิทกับพี่แอ๊วมากมายแต่ผมก็มีการร้องเพลงลูกทุ่งแบบพี่แอ๊วเป็นต้นฉบับคอยสอนการร้องเพลงลูกทุ่งให้ผม”
“อยากให้ทุกคนร่วมไว้อาลัยให้พี่แอ๊วนะครับ ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่พี่แอ๊วทำไว้คงทำให้พี่แอ๊วฮิตตลอดนะครับ แล้วก็เสียงเพลงเป็นพันๆ ของพี่แอ๊วยังคงอยู่ ถ้าเกิดคิดถึงพี่แอ๊วและรักพี่แอ๊วเรามีผลงานเพลงที่บ้านก็เอามาฟัง”