ผลประโยชน์บนความตายของ "ยอดรัก" ชีวิตจบ แต่ผลประโยชน์ไม่จบ

เมื่อครั้งที่ออกมาแถลงข่าวเปิดเผยว่าเป็นโรคมะเร็งตับ นอกจาก "ยอดรัก สลักใจ" นักร้องลูกทุ่งชื่อดังจะได้รับความช่วยเหลือจากคนในวงการบันเทิงมากมายแล้ว ก็ยังโดนกลุ่มบุคคลแฝงตัวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีพ่อค้าแม่ค้ายาบริษัทต่างๆ ที่พยายามเข้ามาเสนอขายยาวิเศษนับร้อยๆ รายเลยทีเดียว ไหนจะบริษัทเทปที่ยอดรักไปรับจ้างร้องเพลง ก็ดันมาเปิดตัวอัลบั้มพร้อมกันกับอัลบั้มที่ยอดรักทำขายเพื่อรักษาตัวเองอีก เล่นเอาแฟนเพลงงงว่า ผลงานเพลงชุดไหนกันแน่ที่เป็นของยอดรักจริงๆ

ก่อนที่ยอดรักจะเสียชีวิตก็เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า "ถ้าผมตายเมื่อไหร่ คงมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นอีกหลายราย" หลังจากยอดรักเสียชีวิตไปเพียงหนึ่งวัน แค่ตั้งศพสวดพระอภิธรรมวันแรกก็เกิดเรื่องชุลมุนขึ้นซะแล้ว ภายในวัดไร่ขิงซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของยอดรักนั้น ได้มีการตั้งโต๊ะจำหน่ายผลงานเพลงของยอดรักถึงสองราย โดยตั้งอยู่คนละฝั่งของทางเข้า

โดยรายแรกเป็นของ "บริษัทแมงป่อง" ที่จัดจำหน่ายผลงานของยอดรัก 3 อัลบั้มคือ พ่อตาเรียกพี่ , อะไรก็กู และคอนเสิร์ตเพื่อนช่วยเพื่อน ในราคา 99 บาท นอกจากนั้นแล้วก็ยังได้จัดจำหน่ายเสื้อยืดสีขาวเป็นที่ระลึก

ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งนั้น "พ.ต.ท.ไพรรัตน์ ไพรพรรณรัตน์" อดีตเพื่อนร่วมอาชีพและนักแต่งเพลงให้กับศิลปินลูกทุ่งหลายคน ร่วมกับ "เสรี รุ่งสว่าง" ได้นำบทเพลงที่เคยแต่งให้กับนักร้องลูกทุ่งซุปเปอร์สตาร์จำนวน 10 เพลงออกจำหน่ายเช่นกัน ในชื่อชุด "เชื่อเถอะพ่อ (พ่อตาเรียกพี่)" บนปกซีดีสกรีนด้วยว่า "รายได้ช่วยเหลือครอบครัว ยอดรัก สลักใจ" ซึ่งผลิตแผ่นล็อตแรกเป็นจำนวน 5,000 แผ่น และนำมาขายภายในงานจำนวน 800 แผ่น ในราคา 100 บ. และขายดีจนเกือบหมด ซึ่งพ.ต.ทไพรรัตน์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า

"ผมได้คุยกับคุณยอดรักเมื่อ 3 วันที่แล้วแต่เผอิญแผ่นเพิ่งปั้มเสร็จวันนี้และก็พอดีเขาเสียพอดีจึงนำมาขายวันนี้ครับ ซึ่งถ้าจำหน่ายหมดก็จะผลิตมาอีกไม่มีจำนวนที่แน่นอน ซึ่งรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วกำไรมอบให้กับครอบครัวคุณยอดรักทั้งหมดโดยผ่านทางพี่เสรีครับ"

อย่างไรก็ตามถึงจะมีการกล่าวอ้างว่า จะนำรายได้ไปมอบให้กับครอบครัวของยอดรัก แต่ "เกรียงไกร ไพรวัลย์" ลูกชายของยอดรักกับให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบถึงที่มาที่ไปและไม่ทราบว่าจะมีการมอบเงินให้อย่างไร ส่วนการตั้งโต๊ะจำหน่ายผลงานเพลงยอดรักของบริษัทแมงป่องนั้น เจ้าตัวเปิดเผยว่า ทางครอบครัวได้มอบหมายให้บริษัทแมงป่องเป็นผู้จัดจำหน่ายให้

นอกจากนี้แล้วทาง "ชมรมคนรักลูกทุ่ง" ก็ยังร่วมมือกับ "เสรี รุ่งสว่าง" ในการหารายได้ให้กับครอบครัวของยอดรักด้วยการ เปิดให้แฟนเพลงส่ง SMS เข้ามาให้กำลังใจยอดรัก คิดอัตราค่าบริการครั้งละ 50 บาท และสามารถส่งมาได้เพียง 2 แสนข้อความเท่านั้น โดยจะมีการหักให้กับครอบครัวยอดรัก 25 บาท ส่วนอีก 25 บาทเป็นของบริษัท ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ที่วัดไร่ขิง ซึ่งทางชมรมคนรักลูกทุ่งก็ได้ชี้แจงถึงการเก็บค่า SMS ในราคาสูงลิ่วให้ฟังว่า

"ที่ทำ SMS คิดว่าบางทีคนอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ อยากจะช่วยตรงนี้ก็ทำได้ยากแต่ถ้าส่ง SMS นั้นทำได้ง่ายกว่าเราจึงคิดตรงนี้ ซึ่ง 50 บาทเราได้ครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งต้องจ่ายให้กับทางบริษัท จริงๆ เราได้แค่ 25 บาทเท่านั้นเพราะการทำ sms มีเรื่องที่ต้องเสียค่าใช่จ่ายมากมายแต่เขาลดให้เราอีกสเตปนึง เราจึงได้คนละครึ่ง ตรงนี้เรื่องเงินเรามีการเคลียร์ชัด เงินที่ได้ทั้งหมดมีการเข้าบัญชีแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง"

ส่วนในวันที่ 17 และ 30 สิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้ ก็จะมีการจัดคอนเสิร์ต "รวมพลคนรักยอดรัก" เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของยอดรัก หลังจากที่เคยจัดไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นได้มีการประกาศบนเวทีว่า ได้เงินช่วยเหลือไปถึง 8 แสนบาท อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวออกมาว่า ทางครอบครัวของยอดรักได้รับเงินไม่ถึง 8 แสน ส่วนจะเกิดการผิดพลาด เป็นความเข้าใจผิด หรือหักค่าใช้จ่ายในภายหลัง ก็ยังไม่มีใครออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดก็มีกระแสข่าวออกมาว่า มีบุคคลคนหนึ่งได้นำเอกสารสัญญาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์มาให้ลูกชายของยอดรักเซ็นต์ เพื่อมอบลิขสิทธิ์ให้กับบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ดูแลแทน ทำให้ลูกชายของยอดรักไม่ยอมเซ็นต์ชื่อลงในสัญญา ซึ่งความพยายามดังกล่าวได้เกิดขึ้นก่อนที่ยอดรักจะเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน

ถึงแม้ว่าวันนี้ ละครชีวิตของ "ยอดรัก สลักใจ" นักร้องลูกทุ่งชื่อดังจะปิดฉากรูดม่านไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดจากยอดรัก จะยังไม่จบแค่นี้ คงต้องดูกันอีกยาวว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร