xs
xsm
sm
md
lg

Actrices : ชีวิตผู้หญิง…ยิ่งกว่าละคร

เผยแพร่:   โดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี

วาเลอเรีย บรูนี่ เตเดสกี เป็นนักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสที่จัดว่าอยู่ในระดับ “เกือบๆ จะสวย” คนหนึ่ง อันที่จริงหน้าตาของเธอก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่บุคลิกอมทุกข์ และปล่อยเนื้อปล่อยตัวราวกับไม่เคยใช้มอยสเจอไรเซอร์มาเป็นปีๆ ทำให้เธอดูน่าเห็นอกเห็นใจมากกว่าจะดูสวยงามเย้ายวน

ในขณะที่น้องสาวของเธอ คาร์ลา บรูนี่ มีชีวิตที่สุขพร้อม (เป็นนักร้องและนางแบบชื่อดัง ล่าสุดเป็นภริยาของประธานาธิบดีฝรั่งเศส – นิโคลาส์ ซาร์โกซี่) วาเลอเรียกลับแสดงให้เห็นว่า ตัวเธอเหมือนบ่อน้ำเสียแห่งความทุกข์ที่ไร้รูระบาย

ใน It’s Easier for a Camel… หนังเรื่องแรกที่เธอกำกับ (โดยอิงมาจากชีวิตของตนเอง) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เฟเดอริก้า - ตัวละครของเธอไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากพยายามแสวงหาความสุขในชีวิตประจำวันแล้วล้มเหลว และดูเหมือนพระเจ้าจะจับเธอวางไว้ผิดที่ผิดเวลาในทุกครั้งที่ขยับเขยื้อนตัว

และอีกครั้งหนึ่งในผลงานกำกับ เขียนบทและแสดงนำด้วยตัวเองชิ้นล่าสุด Actrices (แปลว่า นักแสดงหญิง) วาเลอเรีย บรูนี่ เตเดสกี ขยายความสาหัสให้ถี่และใหญ่โตขึ้น แน่นอน มันเสียดสีได้รุนแรงขึ้น และเจ็บปวดกว่าเดิมมากทีเดียว

เธอรับบท มาร์เซลลีน นักแสดงสาวใหญ่ที่มีปัญหารอบด้าน ผมจะลองแจกแจงคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
1. เธอคิดว่าเธอแก่แล้ว (อีกไม่กี่วันจะ 40)
2. เธออยากมีลูก
3. เธออยากมีสามี
4. เธอเกลียดแม่ตัวเองเหลือเกิน
5. เธอจะต้องประสบความสำเร็จในอาชีพการแสดง
6. ไม่มีใครเข้าใจเธอ
7. เพราะทุกคนที่เข้าใจเธอ ได้ตายไปหมดแล้ว
8. คนดูไม่ทราบว่าปัญหาเรื้อรังเหล่านี้ เกิดขึ้นมานานแค่ไหน แต่ทันทีที่หนังเริ่มต้น เราก็ได้เห็นปัญหาและการหาทางออกของมาร์เซลลีนทันที ในฉากเปิดเรื่อง แม่และน้าของเธอบ่นไปเรื่อยๆ เรื่องสัพเพเหระ บ่นจนมาร์เซลลีนทนไม่ไหว และวิ่งหนีออกไปขึ้นแท็กซี่ ปล่อยให้คนที่เหลืออยู่ยืนอย่างงุนงง

ความอิหลักอิเหลื่อทยอยเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ ในฉากที่เธอต้องไปอธิษฐานต่อหน้าพระแม่มารีเพื่อขอให้มีลูก เธอสวดมนต์แรงไปจนเทียนดับและต้องจุดใหม่ หรือวันที่เธอไปว่ายน้ำ แต่ถูกไล่ออกจากสระ เพราะมันเป็นวันที่เปิดให้เฉพาะเด็กๆ มาเล่นเท่านั้น

ฉากที่น่าตกใจที่สุด คือตอนที่เธอพยายามเรียกพนักงานเสิร์ฟเพื่อจะสั่งอาหาร แต่กลายเป็นว่าไม่มีใครในร้านสนใจเธอเลยแม้ว่าเธอจะตะโกนเสียงดังมากแค่ไหน หนำซ้ำเพื่อนเธออีกคนหนึ่งกลับสำทับว่า อย่าทำเป็นเรียกร้องความสนใจให้มันมากนัก “เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเธอนะยะ” และทันทีที่เธอหยุดเรียก พนักงานเสิร์ฟคนดังกล่าวถือเค้กก้อนใหญ่มา สะดุดหกล้มจนเค้กตบลงที่หน้าเธอฉาดใหญ่…และทีนี้เองที่คนทั้งร้านก็หันมามอง

การโปรยฉากเหล่านี้พัฒนามาอย่างได้จังหวะจะโคนมากขึ้นกว่า It’s Easier for a Camel… และมันหนักแน่นและสม่ำเสมอพอที่จะกลายเป็นภาษาหนังของเธอเอง

อีกฉากหนึ่งคล้ายๆ กันนี้ที่ให้อารมณ์ในด้านลึกเป็นผลสำเร็จ เป็นตอนที่เธอและ เอรีก (หลุยส์ การ์เรล) นักแสดงหนุ่มที่แอบชอบเธอ จูบกันบนรถเมล์ หลังจากคุยกันแค่สั้นๆ มาร์เซลลีนก็รีบกระโดดลงจากรถเมล์และหนีหายไป โดยไม่สนใจจะอธิบายกับฝ่ายตรงข้ามว่าเกิดอะไรขึ้น

เช่นกัน เครื่องหมายคำถาม เกิดขึ้นกับคนดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า และชวนให้คิดไปว่า อันที่จริงปัญหาต่างๆ ของเธอ แค่ไปเข้าคอร์สบำบัดกับจิตแพทย์สัก 2-3 ครั้ง ก็น่าจะหายเป็นปกติ

เรื่องของเรื่องก็คือ คนดูพอจะเห็นทางออกอยู่ลางๆ ระหว่างปัญหาของมาร์เซลลีน เทียบๆ กันแล้ว ตัวเธอและ นาตาลี (โนเอมี ลอฟสกี้) เพื่อนที่มาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ – ฝ่ายหลังดูจะมีปัญหามากกว่าเสียอีก

นาตาลีเคยเรียนการแสดงชั้นเดียวกับมาร์เซลลีน แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ มีลูกมีสามี และทิ้งความฝันถึงการเป็นนักแสดงให้เป็นอดีต หากการเข้ามาทำงานในคณะละคร ทำให้เธอปรารถนาที่จะเป็นนักแสดงอีกครั้งหนึ่ง ทางเลือกเธอมี 2 ทางเท่านั้น และต้องเลือกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เธอเลือกที่จะเป็นนักแสดง เพราะฉะนั้น เธอต้องทิ้งครอบครัว และนาตาลีก็ไปไกลกว่านั้น เธอทิ้งสามี และพยายามรวบหัวรวบหางผู้กำกับขาวีน (มาติเออ อามาลริค) ก่อนจะสวมรอยเล่นแทนมาร์เซลลีนในบทนางเอก

โครงสร้างของหนังแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคละกันไป ส่วนแรกเป็นปัญหาในชีวิตประจำวัน ส่วนที่สอง คือส่วนของการพูดคุยระหว่างตัวมาร์เซลลีน และตัวละครที่ไม่มีอยู่จริง และส่วนสุดท้ายคือ ภาพเบื้องหลังการซ้อมละคร A Month in the Country จากบทละครของ ไอวาน เทอร์เกนิฟ

ส่วนแรกให้บรรยากาศครื้นเครงเหมือนดูละครตลก ส่วนที่สองเปลี่ยนเป็นอารมณ์เศร้า และส่วนสุดท้ายนั้นเคร่งเครียดจริงจัง - - อันที่จริงมันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่วาเลอเรีย บรูนี่ เตเดสกี กลับทำลายกรอบของมันและยำรวมกันจนทุกฉากดูทีเล่นทีจริงไปหมด

การตัดภาพเพื่อสลับฉากอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เผื่อพื้นที่ให้คนดูคิด อาจเป็นเรื่องหนักสำหรับการเข้าถึงเนื้อหา บวกรวมกับตรรกะที่หาไม่ใคร่จะได้ ทำให้ Actrices เป็นทั้งหนังเหนือจริงแบบ ฌากส์ รีแวตต์ หรือ หลุยส์ บุนเยล และหนังตลกแบบ The 40 Year-Old Virgin

ฉากไคลแม็กซ์ท้ายเรื่อง เป็นฉากที่ดูยุ่งเหยิงที่สุดจนขอแนะนำว่าคอหนังเดนตายว่าควรหามาชม ระดับความกดดันของมาร์เซลลีนข้นคลั่ก พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ และที่น่าดีใจก็คือ เตเดสกีทำให้มันไปไกลถึงจุดที่มันควรจะไป และไร้คำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น

หนังจะสนุกมากๆ หากดูควบคู่ไปกับหนัง American Chick-Flick ที่โดยเนื้อหาค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะในหนังอเมริกันนั้น มีสูตรที่น่าเอ็นดูเด่นชัดดังนี้

คุณเป็นหญิงสาวจากชนชั้นกลาง - คุณเก่งแต่คุณไม่โดดเด่น - คุณเจอผู้ชายหล่อเพอร์เฟกต์ - คุณเห็นคุณค่าในตัวเอง - เขาเห็นคุณค่าในตัวคุณ - คุณได้ผู้ชายรูปงามคนนั้นไปครอง

และ Actrices ก็คล้ายๆ กัน

คุณเป็นหญิงสาวจากชนชั้นกลาง - คุณไม่เก่งและคุณไม่โดดเด่น - คุณเจอผู้ชายหล่อเพอร์เฟกต์ - คุณมีดีไม่มากพอที่จะดึงดูดเขา - แต่เขาก็สนใจคุณด้วยเหตุผลแปลกๆ - คุณเป็นโรคประสาท - คุณเกลียดแม่ - ใครๆ ก็หาว่าคุณบ้า - ผู้ชายรูปหล่อคนนั้นหายไปแล้ว - คุณอยู่ตัวคนเดียว - ช่างมัน - คุณหวังว่าพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า คุณจะเจอความสุขแบบที่คุณหวังมาทุกๆ ปี - รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น