"นาธาน" โกอินเตอร์ เล่นหนังผจญภัยแนวแฟนซีไตรภาคของ "วูล์ฟ กัง" ประกบ "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" เผยติดเรื่องสัญญาเลยยังให้รายละเอียดไม่ได้ แต่ตกลงค่าตัวกันแล้วอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท เจ้าตัวบอกเหตุถูกเลือกเพราะอีกฝ่ายชอบเรื่องที่ส่งไป และตนมีหน้าตาบวกคาแรกเตอร์ที่เหมาะสม
เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของนักร้องหนุ่มจากค่ายอาร์เอสฯ “นาธาน โอมาน” เลยทีเดียว เมื่อเจ้าตัวกำลังจะได้มีโอกาสแสดงฝีมือทางด้านงานภาพยนตร์ประกบกับดาราดังของฮอลลีวูด "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" กำกับโดย "วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) เจ้าของผลงานอาทิ Outbreak (1995), Troy (2004), Poseidon (2006), Ender's Game (2008)
ทั้งนี้เจ้าตัวได้บอกถึงที่มาของการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เริ่มต้นจากการที่ตนได้นำเรื่องที่ตัวเองเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง "ผมมันเด็กหลังเขา(หิมาลัย)" ส่งไปขายเป็นพล็อตหนัง แต่กลับโชคดีถูกทาบเข้าไปแคสฯ เล่นเป็นพระเอกในหนังเรื่องนี้ด้วย โดยเตรียมตัวที่จะเดินทางไปถ่ายทำประเทศโอมานอีกประมาณสองเดือนนี้
"เพื่อนที่อเมริกาเขาบอกมาว่าทางค่ายหนังค่ายใหญ่ที่อเมริกาเขากำลังหาพล็อตเรื่องหนังแขกๆ เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นผจญภัยอยู่ ผมสนใจเลยเอาเรื่องของตัวเอง ผมมันเด็กหลังเขา(หิมาลัย) ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและเคยได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นของยูเอ็นส่งไปให้เขาดู หลังจากที่เขาอ่านแล้วบอกว่าได้อ่านมาแล้วเป็นพันเรื่อง แต่พอมาเห็นของเราเขาสนใจและอยากจะลองเรียกเด็กคนที่เราเขียนไว้ในหนังสือซึ่งก็คือตัวผมเองเข้ามาเทสต์หนังดู"
"ผมรีบบินไปแคสฯ ปรากฏว่าได้เจอกับผู้กำกับ วูลฟ์กัง ที่เคยกำกับหนังเรื่อง ทรอย วิธีการแคสฯ ของเขาเหมือนการพูดคุยกันปกติกับเราให้เล่าถึงความสามารถและชีวิตของตัวเองว่าเคยเจออะไรมาบ้างมีความพิเศษยังไงผมไปแคสฯ ทิ้งไว้ประมาณปีที่แล้ว เขาติดต่อกลับมาเมื่อสามเดือนที่แล้วตกลงให้เราไปเล่นหนังกับเขา ผมรู้สึกดีใจมากๆ ทางครอบครัวพอรู้ข่าวก็ดีใจกันยกใหญ่"
เผยเหตุที่ถูกเลือกเพราะอีกฝ่ายชอบในเรื่องของการผจญภัยที่ไม่เหมือนเด็กธรรมดาและบังเอิญว่าเรื่องที่ส่งไปนั้นก็มีลักษณะคล้ายๆ กับการ์ตูนที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น..."เพราะตอนที่ไปแคสฯ เราไม่มีความหวังอะไรเลย(หัวเราะ) มีคนไปแคสฯ เป็นหมื่นเรียกว่ามาจากทั่วโลก ไม่เคยคิดว่าจะได้เล่นอยู่แล้ว"
"แค่อยากจะเอาเรื่องของตัวเองไปขายแค่นั้นเอง แต่ปรากฏว่าเราได้เล่นรู้สึกไม่น่าเชื่อผมเคยถามว่าทำไมถึงเลือกผมเขาบอกว่า ชอบการผจญภัยของนาธานที่มันไม่เหมือนเด็กธรรมดา แต่มีสัมผัสที่หก ซึ่งเด็กแบบนี้มีอยู่ทั่วโลก แล้วเวลาที่ผมเข้ากล้อง ตา ปาก จมูก เด่นมากหน้าก็แปลกเป็น จีน ไทย ฝรั่ง ได้หมดเลย"
"และส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเลือกผม อาจเป็นเพราะบุคลิกในหนังสือที่มันเป็นตัวตนของผมนั้นบังเอิญไปตรงกับตัวการ์ตูนที่เขาสร้างขึ้นมา เป็นตัวละครเอกในหนังเรื่องนี้ซึ่งต้องพูดได้ถึง 5 ภาษาเด็กคนนี้มีดวงตาเหมือนหางปลาเป็นเด็กผิวสีแทนตรงนั้นมันตรงกับเราทุกอย่าง แล้วตอนที่ไปแคสฯ เขาไม่รู้นะว่าอยู่ที่เมืองไทยเราเป็นนักร้อง พอเซ็นสัญญาไปแล้วเขาถามว่ายูเป็นนักร้องที่เมืองไทยเหรอ"
"ผมก็บอกว่าใช่ แต่เป็นนักร้องแค่เมืองเดียวนะไม่ได้ดังไปทั่วโลก ผมเอาเพลงที่ผมเคยร้องให้เขาฟังและถือโอกาสบอกว่า ถ้ามีโอกาสขอร้องเพลงประกอบในหนังได้มั้ยเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในเทปที่เขาจะทำขายก็ได้ เขาหัวเราะแล้วบอกว่า ได้ๆ"
สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ นั้นเจ้าตัวบอกว่าหนังจะออกไปในแนวของการผจญภัยกึ่งแฟนตาซีและจะมีการสร้างกันถึง 3 ภาคด้วยกันแต่ไม่สามารถบอกชื่อและบริษัทผู้สร้างได้ โดยที่บอกได้ก็คืองานนี้เจ้าตัวได้ประชันบทบาทการแสดงกับดาราฮอลลีวูดอย่าง "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" แน่นอน
"ในเรื่องผมรับบทเป็นตัวละครชื่อ ซี เคีย (C KIE) แล้ว บรูซ วิลลิส จะเป็นเหมือนอาจารย์ของเรา ส่วน คริสติน่า ริชชี่ เป็นตัวช่วยคู่กัน เหมือนเราเป็นตัวดำเนินเรื่อง คอยเชื่อมทุกอย่าง ถ้าจะบอกว่าเป็นพระเอกของเรื่องก็ได้ มันเป็นครั้งแรกในชีวิตทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่สุดในชีวิต มันอธิบายไม่ถูกเหมือนกับเราถูกหวย ขนาดละครช่อง 5,3,7,9 บ้านเรายังไม่เคยเล่นเลยสักครั้งแล้วจู่ๆ ได้มาเล่นหนังของต่างประเทศได้ประกบดาราฮอลลีวูด"
"ครั้งแรกที่ผมได้เจอกับบรูซ วิลลิสรู้สึกอึ้งๆ อารมณ์เหมือนคนบ้าดาราขอถ่ายรูปคู่เลย(หัวเราะ) เขาตัวสูงดูดีมากๆ มีความเป็นสตาร์ ดูเท่ห์ เดินมานี่เราเป็นตัวประกอบไปเลย หลังจากที่ได้คุยกันเขาสอนเทคนิคการแสดงว่าการแสดงมันเหมือนชีวิตของเรา ถ้าเราคิดว่าไม่ใช่เรามันก็ไม่ใช่เรา แต่ถ้าเราคิดว่าเป็นเรามันก็เป็นเรา"
"ผมงงเลยถามว่าสรุปมันคืออะไร เขาบอกว่านาธานอยากเป็นอะไร ผมบอกว่าอยากเป็น บรูซ วิลลิส เขาบอกว่าเป็นได้เลยแล้วคอยสังเกตว่าเขาทำอะไรบ้างแล้วทำให้เหมือนเขามันเหมือนการก๊อปปี้คน พยายามสะกดคนให้เชื่อเราให้ได้ แล้วบทมันจะส่งให้เราดังเอง ส่วน คริสติน่า ริชชี่ ก็ได้เจอกันแล้วครั้งแรกที่เจอเขาบอกว่ายูเป็นคนเอเชียคนแรกที่มาเล่นหนังกับไอ และไม่ต้องกลัว บทนี้เหมาะกับยูมาก ยูเป็นคนที่มีบุคลิกแปลกเหมือนในตัวละครเลย ทันทีที่เขาเห็นเราเขาบอกว่ายู คือตัวละครตัวนั้นหลุดออกมาจริงๆ"
เพราะไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อนเจ้าตัวเลยต้องเริ่มต้นจากการนับหนึ่งใหม่
"อยู่ที่โน่นเหมือนกับเราต้องไปนั่งนับหนึ่งใหม่ เพราะไม่มีใครรู้จักเรา และเราไม่เคยเล่นหนังเลยในชีวิตทำให้ต้องมีการเตรียมพร้อมวอร์มร่างกายให้แข็งแรง เพราะในเรื่องนาธานต้องใส่ชุดแต่งตัวเป็นแบบอาหรับถ่ายทำอยู่ในทะเลทรายตลอด ส่วนเรื่องของเสื้อผ้า หน้า ผม จะมีฝ่ายแคสติ้งของอเมริกามาดูแลให้"
"ในเรื่องการแสดงจะมีครูสอน แต่วิธีของเขาจะเป็นการสอนดึงการหายใจการดูแลตัวเองให้ดีการศึกษามองคนมองภาพแรกที่เรามอง และมองไปเรื่อยๆ ทำไมเขาถึงเดินขาโกง เดินหลังค่อม แล้วเราก็จำบทนั่นมาแล้วเอามาใส่ในตัวเราให้เราทำเหมือนคนนั้นที่เรามองเห็น แต่มันได้ผลจริงๆ ไม่น่าเชื่อ และช่วงนี้นาธานต้องเอาการ์ตูนซินแบดมาดูเยอะๆ พยายามหาหนังอินดี้ของตุรกี อิสราเอล มาดูศึกษาบุคลิกของเด็กว่าเป็นยังไง"
ไม่หวั่นหากจะต้องมีบทเลิฟซีน แต่ตอนนี้ที่ต้องทำก็คือการลดน้ำหนัก
"บทเลิฟซีนในเรื่องยังไม่รู้เลยว่ามีมั้ย(หัวเราะ) ต้องถามทางผู้จัดการอีกทีว่ามีบทอะไรบ้าง หรือถ้ามีก็คงแสดงเต็มที่ ไม่มีลิมิตอะไร(หัวเราะ) แต่เราจะอายหรือเปล่าผมไม่เคยเล่นเลิฟซีนเลยอย่างมากแค่กอด ครั้งนี้เป็นการเล่นหนังครั้งแรกคงต้องศึกษาอีกที แต่เคยถาม กับ บรูซ วิลลิส เขาให้คำแนะนำว่าไม่ยากหรอกเวลายูเล่นก็ให้นึกถึงเวลาที่ยูมีอะไรกับแฟนนั่นล่ะ(หัวเราะ)แล้วบอกว่าให้เล่นเต็มที่ไปเลยถ้ามันไม่ดีผู้กำกับเขาจะบอกเองเล่นให้เยอะๆ ไปก่อน"
"ตอนนี้ที่นาธานต้องทำเป็นอันดับแรกคือการลดน้ำหนัก เพราะช่วงซีนแรกๆ เราจะต้องผอมแห้งเหลือแต่กระดูก พอต่อๆ ไปจะเริ่มอ้วนหน่อยร่างกายเฟิร์มขึ้น มีกล้ามเนื้อท้องจนจบ แต่พอภาคสองจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แข็งแกร่ง และภาคสามต้องแก่ด้วย ช่วงนี้เลยต้องลดน้ำหนักเยอะมาก จาก 67 กิโลกรัม จนเหลือ 61 กิโลกรัม แล้วลดลงไปหกกิโลฯ ตอนนี้แทบจะกินมดแล้ว(หัวเราะ)"
ฟันค่าตัวไปก่อนเหนาะๆ ในภาคแรกกว่า 40 ล้านบาท และอาจจะถึง 100 ล้านหากเล่นจนครบ โดยนักร้องหนุ่มบอกว่าส่วนหนึ่งที่ได้มาก็คงจะนำไปทำบุญในการสร้างสุเหร่าให้กับชาวมุสลิม..."สำหรับเรื่องค่าตัวที่ได้รับจากการเล่นหนังเรื่องนี้ก็หายเหนื่อยเลยนะ มันเหมือนเศษเงินของเขาแต่มันเยอะมากสำหรับเรา เขาให้เป็นเงินปอนด์ถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณสี่สิบกว่าล้านบาทได้ เขาเสนอมาให้ตามบท"
"แต่มันเป็นหนังไตรภาค นี่แค่ค่าตัวตอนแรกเห็นผู้กำกับ วูลฟ์ กัง บอกว่าถ้ายูเล่นดีเดี๋ยวภาคสองอาจจะพิจารณาเพิ่มให้อีก เพราะว่าบทมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเงินค่าตัวที่ได้จากหนังเรื่องนี้ สำหรับนาธานคิดว่ามันเยอะพอสมควรเลยอยากที่จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเอาไปสร้างสุเหร่า โดยจะตั้งชื่อเป็นชื่ออาหรับของนาธานเอง"
"ผมรู้สึกว่าอยากที่จะทำอะไรเพื่อเพื่อนมุสลิมของเราบ้าง นาธานช่วยเหลือสังคมอื่นมาเยอะแล้ว อีกอย่างหนึ่งมีบางจังหวัดที่สุเหร่าไม่เพียงพอเขาต้องเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อที่จะมาละหมาดกัน คิดว่าน่าจะสร้างสุเหร่าเพิ่ม อย่างตอนสึนามิผมก็ไปช่วยเขาเยอะเหมือนกันและทำให้เราได้รับรางวัลจากยูเอ็น"
"ซึ่งมันนานมาแล้ว แต่มันก็ยังทำให้เราคิดว่าเราน่าจะช่วยเหลือสังคมได้อีก และศาสนาเป็นอะไรที่สำคัญมากมันทำให้จิตใจเราดีขึ้น และการสร้างสุเหร่าเหมือนเป็นการทำบุญของมุสลิม ทำเลที่นาธานดูเอาไว้นาจะเป็นแถวๆ มีนบุรี หรือ อาจเป็นแถวๆ พระราม 5 ส่วนต่างจังหวัดก็อาจจะเป็นเกาะลันตา หรือไม่ก็เป็นร้อยเอ็ด ที่คิดไว้คร่าวๆ แต่เรื่องนี้น่าจะเริ่มทำตอนที่ถ่ายหนังเสร็จก่อนแล้วจะให้ทางครอบครัวมาช่วยจัดการให้ด้วย"