"มด" ยันแม่ไม่ว่า ภาพฉาวบนเตียงกับหนุ่มกระจายว่อนเน็ต

"มด" บอกแม่ไม่ว่า ภาพหลุดสวีตหนุ่มบนเตียง แจงสัมพันธ์แค่เพื่อน แม่รู้จักดีไม่มีปัญหา ด้านต้นสังกัดบอกให้ระวังตัว ปฏิเสธผอมเพราะเครียดข่าวฉาว วอนอย่ามองตนเป็นเด็กก๋ากั่น

มีข่าวกับหนุ่มๆ มากมายทีเดียวสำหรับ นักร้องสาว "มด คุณัชญา ชัยรัตน์" หรือ "มด" แห่งวง "โฟร์-มด" ก็ออกมาบอกว่าเสียใจที่ทำให้แม่ผิดหวัง ก่อนเจ้าตัวสัญญาขอพักเรื่องรักไปก่อนแต่ทิ้งช่วงได้ไม่นานก็มีเหตุอีกแล้ว เมื่อมีภาพหลุดนอนเล่นจิ๊จ๊ะชักภาพกับหนุ่มนอกวงการบนเตียงสองต่อสอง ว่อนอินเทอร์เน็ตไปทั่ว

พอเจอสาวมดที่งาน "It's my MTV" โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ เจ้าตัวแจงถึงเรื่องนี้ว่า ชายในภาพแค่เพื่อนเท่านั้น ไม่ทราบต้นตอใครเป็นคนปล่อยภาพ แต่ยืนยันตนมองทุกคนเป็นเพื่อน และแม่ไม่ได้ตำหนิกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

"เขาเป็นเพื่อนมดค่ะ กับภาพนี้ มดไม่ได้สนใจเลยตรงนั้น มดยอมรับว่ามดถ่ายรูปกับเพื่อนเยอะมากกับน้องในกามิกาเซ่มดก็ถ่าย ไม่ใช่ไม่ถ่าย โอเคยอมรับเลยว่าทุกคนเห็นอาจจะเข้าใจผิดแต่มดจะบอกว่าแค่เพื่อนเท่านั้นค่ะ คือมดเข้าใจว่าคนเราสามารถมองได้หลายมุมมอง แต่มดรู้ว่าคนนั้นคือเพื่อนเรา คุณแม่ก็รู้จักเพื่อนคนนั้น ก็ไม่ได้อะไร"

"ถามว่าภาพหลุดได้ไง หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ หนูไม่ค่อยได้เล่น hi5 หรืออะไรแบบนี้มานานแล้ว ส่วนมากจะทุ่มเวลากับการเรียนหนังสือกับการทำงานมากกว่า เจอเพื่อนมดก็ถ่ายภาพกับเพื่อนแค่นั้น"

วอนอย่าเรียกตนว่าเป็นนักร้องสาวก๋ากั่น เพราะเป็นแค่การถ่ายรูปกับเพื่อนธรรมดาเท่านั้น แต่ยอมรับข่าวดังกล่าวทำให้โดนผู้ใหญ่ต้นสังกัดตำหนิ

"คงไม่ต้องใช้คำว่าก๋ากั่นก็ได้ค่ะ คงไม่ขนาดนั้นมั้งคะ มดก็เป็นตัวมดแบบนี้ พูดตรงๆ ว่าถ่ายรูปกับเพื่อนทุกคนนั่นแหละค่ะ เพื่อนผู้หญิง เพื่อนผู้ชาย เพื่อนสาวมดก็ถ่ายมดแหละ เราไม่คิดอะไรอยู่แล้ว กับผู้ใหญ่ก็อธิบายให้เขารับทราบค่ะ ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าหรืออะไร เขาก็เตือนว่าระวังตัวด้วยนะ แค่นี้ แต่หลังจากได้รับบทเรียนนี้ต่อไปมดก็คงต้องระวังตัวมากขึ้นค่ะ"

ส่วนรูปร่างที่ผอมลงนั้นเจ้าตัวบอกไม่เกี่ยงกับการเครียดกับข่าว แต่เป็นเพราะอาการป่วยท้องเสียคราวที่แล้วยังไม่หาย...

"มดชิวมากเลย ไม่ได้เครียดแบบบ้าไปแล้ว แต่ตอนนี้มดทำงานหนักพอสมควรค่ะ ช่วงนี้ก็ถ่ายท้องตลอดเลย ตอนออกจากโรงพยาบาลคุณหมอบอกแล้วว่าอาการแค่ดีขึ้นแต่ไม่หายสนิท ก็ทานยาตามที่หมอสั่งค่ะ แต่ที่ไม่หายสักที ก็วอร์รี่ค่ะ เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวเรา แล้วเราก็ยังไม่มีเวลา ว่างไปหาหมอเลย ต้องเรียนหนังสือ ทำงานอีก มันหนักค่ะแต่ถ้าเป็นหนักกว่านี้คงจะต้องไป ตรวจร่างกายว่าเป็นอะไรกันแน่"