"สเตฟาน" เผยชีวิตเข้าข่ายเสี่ยง "โรคมะเร็ง" ตอนแก่ เหตุกลัวเป็นกรรมพันธุ์เพราะครอบครัวเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเกือบทุกคน ก่อนย้ำอาชีพนักแสดงที่ทำอยู่เสี่ยงต่อการตาบอดมากที่สุด เผยชีวิตกลัวเป็นแค่ 4 โรคร้าย คือมะเร็ง-อัมพาต-ตาบอดและเอดส์
กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากสำหรับพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง "สเตฟาน-สันติ วีระบุญชัย" ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าเครือญาติของพระเอกหนุ่มเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเกือบทุกคน ทำให้เจ้าตัวมีความเสี่ยงว่าอนาคตหนุ่มสเตฟานอาจจะเป็นโรคมะเร็งได้ ล่าสุดพอมีโอกาสเจอหน้า "สเตฟาน-สันติ" เลยเข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวของสุขภาพ นักแสดงหนุ่มเผยว่า
"ใช่ครับญาติๆ ผมเป็นมะเร็งเกือบทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นตาของผมที่เป็นมะเร็งที่ลำไส้ ยายผมเป็นมะเร็งเต้านม ไขสันหลัง สมอง คือมีส่วนไหนเป็นได้เขาก็เป็นกันเกือบหมดเลย (หัวเราะ) ส่วนผมเองผมก็ยังกลัวเหมือนกันนะ และที่ผ่านมาผมก็ยังไม่ได้ไปตรวจร่างกายเลย เพราะผมเป็นคนกลัวเลือด คือผมจะไปตรวจแบบสแกนด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า เพราะผมเชื่อว่าทุกวันนี้เราสามารถเสี่ยงกับโรคได้ตลอด"
"ผมยอมรับว่าผมชอบศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ผมจะชอบซื้อหนังสือมาอ่านมากๆ เพื่อหาความรู้เยอะ จะได้รู้เรื่องเกี่ยวกับโรคพวกนี้ ผมยอมรับนะว่าผมค่อนข้างที่จะกลัวเหมือนกันเพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าญาติๆ ผมที่เสียชีวิตไปแต่ละครก็เป็นด้วยสาเหตุเดียวกันเกือบหมดคือมะเร็ง ยอมรับตอนนี้กลัวมาก แต่จริงๆ แล้วแต่ตอนเราเป็นวัยรุ่นจะกลัวน้อยกว่าตอนเราแก่"
ต่อข้อถามที่ว่าโดยส่วนตัวคิดว่าการใช้ชีวิตประจำวันมีการเสี่ยงกับการเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ นักแสดงหนุ่มเผยว่าตนแอบห่วงเรื่องดวงตามากกว่า เพราะต้องโดนแสงแฟลชตลอด
"ไม่มีนะ แต่ผมว่าการใช้ชีวิตของผมค่อนข้างเสี่ยงกับเรื่องของการตาบอดมากกว่า เพราะผมเป็นคนที่ตาไวกว่าแสง อย่างตอนเด็กๆ เขาจะชอบบอกว่าฝรั่งตาไวสู่แสงไม่ได้ เพราะว่าแสงที่เมืองไทยค่อนข้างแรงตาผมเลยสู้แสงไม่ได้"
"อย่างตอนนี้ผมทำงานในวงการบันเทิงผมจะต้องอยู่กับแสงไฟตลอดเวลา มันเลยทำให้ตอนนี้สุขภาพตาผมเริ่มแย่ลงแล้ว คือผมจะชอบละคายเคืองตาบ่อย เดี๋ยวเป็นโน้นเป็นนี่กับตาเยอะ อย่างเดี๋ยวนี้ผมจะเล่นละครที่มีฉากร้องไห้ผมก็ร้องไห้ไม่ออกแล้ว ไม่มีน้ำตาแล้ว"
เผยที่ผ่านมาเข้าดรงพยาบาลปรึกษาหมอตลอดถึงอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก่อนย้ำอนาคตกลัวเป็น 4 โรคร้าย ได้แก่ มะเร็ง-อัมพาต-ตาบอดและเอดส์...
"ส่วนตัวแล้วผมจะชอบไปปรึกษาหมอตลอดว่าผมเป็นแบบนี้ แบบนั้นและเขาก็จะแนะนำผมว่าเวลาผมไปเดินเล่นที่ไหน ก็ให้ผมพยายามใส่แว่นไว้ตลอด คือตอนนี้ถ้าใครเห็นผมเดินเที่ยวแล้วใส่แว่ตตาก็อย่าหาว่าผมเก็กหล่อแล้วกันนะ (หัวเราะ) เพราะที่ผมทำแบบนี้ คือผมกลัวตาจะบอดตอนแก่ อีกอย่างคุณหมอก็จะแนะนำผมตลอดว่าไม่ให้ผมหยอดตาบ่อบ เพราะมันจะไม่ดี"
"อย่างการที่เราหยอดตาบ่อยๆ นั้นมันอาจจะเป็นผลทำให้ตาเราดีในช่วงนั้น แต่จริงๆ แล้วการหยอดตาตอนนั้นมันจะทำให้เส้นเลือดใหญ่ที่มันใหญ่ขึ้นในตามันบีบตัวเล็กลง มันเลยทำให้เลือดไปเลี้ยงตาเราไม่ทัน มันเลยทำให้เราเกิดความเสี่ยงที่จะตาบอด คือเราจะเห็นได้ส่วนมากคนที่ตาบอดตอนแก่ๆ จะเป็นคนที่ชอบหยอดตา"
"สำหรับตอนนี้อาการก็จะมีแค่ตาแห้งบ่อย ก็กลัวอยู่เหมือนกัน คือบอกตามตรงเลยนะว่าผมไม่อยากเป็นอยู่ 4 โรคในชีวิตก็คือ โรคมะเร็ง อัมพาต ตาบอดและเอดส์ อย่างอื่นยังพอรับไหว(หัวเราะ) คือผมเป็นคนชอบการขยับและมีการมองเห็น คือตอนนี้ผมก็พยายามดูแลร่างกายให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันโรคทุกอย่างแล้ว"