"ริงโก สตาร์" ชี้ดนตรีอังกฤษยิ่งใหญ่ เพราะไร้สงคราม

"ริงโก สตาร์" อดีตมือกลองของวงสี่เต่าทอง ออกมาแสดงทัศนะว่า เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงทางดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศอังกฤษเอาเมื่อทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นยุคแรกที่หนุ่มสาวในประเทศไม่ต้องไปเสียเลือดเสียเนื้อเป็นจำนวนมาก จากสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นตลอดครึ่งแรกของศตวรรษที่ผ่านมา

British Invasion เป็นเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนในวงการเพลงตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกขานถึงทศวรรษที่ 1960 ที่วงดนตรีจากเกาะอังกฤษยกทัพมาประสบความสำเร็จในทวีปอเมริกาเหนือมากมายเป็นประวัติการณ์ นำโดย The Beatles, The Animals, The Kinks, The Rolling Stones, The Who, The Yardbirds, Cream ฯลฯ นำมาซึ่งการเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการเพลงเพลงร็อคของโลกจนมาเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน

ซึ่ง ริงโก สตาร์ อดีตมือกลองของวงสี่เต่าทอง The Beatles ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ว่ามีส่วนอย่างมากจากการที่โลกเข้าสู่ยุคสงบสุขเป็นครั้งแรก หลังจากผู้คนทั่วโลกต้องเสียเลือดเสียเนื้อจากสงครามโลกทั้งสองครั้งไปกว่า 90 ล้านคน ซึ่งประเทศอังกฤษก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมรบในสมรภูมิดังกล่าวทั้งสองครั้ง การยุติของสงครามต่างๆ ส่งผลให้หนุ่มสาวในยุคดังกล่าวไม่ต้องถูกบังคับให้เข้าไปสู่สงครามอีกต่อไป

"พวกเราเป็นรุ่นแรกที่ไม่ต้องไปรบให้กับกองทัพ ผมพลาดการถูกเรียกตัวไปแค่ 10 เดือนเท่านั้น และพวกเราที่ไม่ต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารก็หันมาเป็นนักดนตรีกันอย่างที่รู้ๆ กัน"

ในการมาเปิดใจกับร็อกเกอร์รุ่นน้องอย่าง เดฟ สจ๊วร์ต ในรายการ On The Record ในสหรัฐฯ ริงโกยังเปิดใจถึงอดีตทั้งแต่ก่อนและขณะที่กำลังเป็นหนึ่งในสมาชิกของสี่เต่าทอง

"ผมเริ่มตีกลองได้ย่ำแย่มากๆ วงแรกที่ผมได้ร่วมแจมเป็นวงประเภทถ้าใครมีเครื่องดนตรีก็อยู่ในวงได้แล้ว เป็นวงที่ไม่สามารถไปเล่นโชว์ใครได้ และสำคัญก็คือตอนนั้นผมยังเล่นอะไรไม่เป็นเลย ผมมีกลองแล้วก็จริง แต่เรื่องจังหวะนี่ใบ้สนิท ยิ่งตีก็ยิ่งเร็วขึ้นๆ ก่อนจะมาเป็นอย่างที่คุณเห็น"

รวมทั้งเรื่องเล่าที่อยู่เบื้องหลังปกอัลบั้มแสนเรียบง่ายอย่างการเดินข้ามถนนของสมาชิกทั้ง 4 ใน Abbey Road ในผลงานชุดสุดท้าย

"พวกเรามักจะนั่งอยู่ในสตูดิโอด้วยแนวคิดอันบรรเจิดเสมอ 'เราจะไปที่อียิปต์ เราจะไปที่ภูเขาไฟ' เราจะทำอะไรที่มโหฬาร แต่สุดท้ายสิ่งที่เราทำก็คือการเดินข้ามถนน แค่เดินข้ามถนนหน้าสตูดิโอ แล้วคนก็พากันพูดว่า 'โอ้ พวกเขาช่างกล้าคิดน่ะ' "

รวมทั้งความเห็นที่ไม่ใยดีต่อการแตกวงก่อนเวลาอันควรของพวกเขาด้วย "ผมยังคิดอยู่เสมอว่าวงส่วนใหญ่จะมีอายุขัยอยู่แค่ 8 ปีเท่านั้น" แต่เขาก็ยอมรับว่ารู้สึกผูกพันต่ออดีตเพื่อนร่วมวงทุกคนอย่างมาก "เมื่ออยู่ด้วยกัน พวกเราช่วยชีวิตของกันและกันเอาไว้"