xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่แฟชั่น "บีม" สุดปลื้มรับหน้าที่ทูตสิ่งแวดล้อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"บีม" เชื่อการเป็นฑูตต่างๆของศิลปินไม่ใช่แฟชั่น ปลื้มถูกเลือกให้เป็นทูตคนแรกของสิ่งแวดล้อม (WWF)ในไทย วอนอยากให้ทุกคนอย่าเบียดเบียนธรรมชาติมากนัก เพื่อคนรุ่นต่อไป ไม่สนคนมองเป้นแฟชั่น ศิลปินอาร์เอสนิยมมาเป็นทูต ยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

กลายเป็นทูตไปอีกหนึ่งคน สำหรับนักร้องสังกัดอาร์เอส "บีม กวี ตันจรารักษ์" ที่กลัวน้อยหน้าเพื่อนร่วมค่ายอย่าง "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ที่รับหน้าที่ทูตมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติประเทศไทย (Habitat Thailand) และ "เกิร์ลลี่ เบอร์ลี่" พรีเซ็นเตอร์สงกรานต์ของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ต้องแถลงข่าววุ่นวายกรณีแต่งโป๊รับงานช่วงสงกรานต์ จึงหันมาเป็นทูตรณรงค์ทำงานเพื่อสังคมบ้าง ซึ่งครั้งนี้ "บีม" ได้รับเกียรติคัดเลือกให้เป็นทูตWWFคนแรกของไทย

"โครงการนี้ถือเป็นการร่วมมือระหว่างWWFกับอาร์เอส ซึ่งเขาอยากจะหาคนที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของการอนุรักษ์ เพราะจริงๆแล้วองค์กรนี้อยู่ในประเทศไทยนานแล้ว แต่ยังไม่มีทูตที่ออกมาเป็นทางการ ซึ่งWWFเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ เรื่องภูมิอากาศที่มันเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาโลกร้อน"

"ผลงานการทำหน้าที่ทูตของบีมที่ผ่านมาที่ถือว่าเป็นที่รู้จักกันก็คือโครงการ Earth hour ซึ่งบีมถือว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะโครงการนี้เคยทำมาแล้วในปีที่แล้วแต่แค่ปิดไฟ 5 นาทีแต่ปีนี้เพิ่มระยะเวลาขึ้นเป็น 1 ชั่วโมง ในปีต่อไปอาจจะเพิ่มระยะเวลามากขึ้น เพราะปีที่แล้วที่ประสบความสำเร็จจริงๆในประเทศออสเตรเลีย ปีนี้ก็มีประเทศเข้าร่วมมากขึ้น ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แสดงให้กับชาวโลกเห็นว่าเราก็สนใจในเรื่องการประหยัดทรัพยากรไม่แพ้ชาติอื่นเหมือนกัน"

"บีมมีความรู้สึกว่าสิ่งที่น่าจะกระทบกับทุกคนมากที่สุด อาจจะไม่ใช่เรื่องของจำนวนเสือในป่าที่ลดลง แต่แม้เสือจะลดลงไปแต่คนในเมืองก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่อากาศที่ร้อนขึ้น หรือสภาพอากาศความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น อันนั้นมันกระทบกับมนุษย์จริงๆ เพราะฉะนั้นบีมว่าสิ่งแรกที่อยากจะทำก็คือการใช้พลังงาน การจะดำเนินชีวิตโดยการจะเซฟพลังงานให้แก่คนรุ่นต่อไปให้ได้มากที่สุด เพื่อโลกเรามีความสุขด้วย เพราะทุกวันนี้ที่เราฟังข่าวก็จะมีแต่ข่าวโลกเราเกิดภาวะวิกฤติต่างๆ มันน่าจะเป็นจุดที่คนต้องหันมาสนใจให้มากขึ้นได้แล้วครับ"

ส่วนที่มาของการได้เป็นทูตในครั้งนี้ เนื่องจากทางWWFมองว่าบีมมีคุณสมบัติที่เหมาะสม และสามารถสื่อสารให้คนเข้าใจได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

"เหตุผลที่เขาเลือกบีมมาเป็นทูตในครั้งนี้เขาบอกว่าต้องการคนที่สื่อสารให้คนเข้าใจได้ คือพูดแล้วมีคนสนใจฟัง มีภาพลักษณ์ที่ดี สามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตขององค์กรนี้คนแรกที่เป็นคนไทย ที่อยู่ในเมืองไทยครับ เพราะบีมคิดว่าเราอยากทำอะไรเพื่อสังคมอยู่แล้ว ที่ผ่านมาถือว่าเราได้อะไรจากสังคมมาเยอะ ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ซึ่งเป็นการเอาชื่อเสียงที่เราได้รับนี้มาทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด"

"ตอนแรกผมก็กังวลเหมือนกันครับว่าในฐานะทูต เราจะทำประโยชน์เพื่อสังคมได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเราก็ทำเต็มที่ เท่าที่เราทำได้ แต่คงไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าเราจะทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่บีมก็พยายามจะศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าเป็นตัวอย่างได้ เราก็จะทำให้เป็นตัวอย่าง แต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าพอผมมาเป็นทูตปุ๊บ ค่าไฟทุกบ้านจะต้องลดลง(หัวเราะ) ผมคงไม่สามารถบอกอย่างนั้นได้ แต่ตัวผมมีความตั้งใจจริงที่จะทำงานครับ อย่างน้อยการมีก้าวแรกก็ดีเสมอครับ"

โดนมองเป็นว่าการมาทำหน้าที่ทูตของดาราและศิลปินกลายเป็นแฟชั่นหรือไม่ “ หนุ่มบีม” บอกสำหรับตนแล้วมองเป็นเรื่องที่ดี เปรียบเหมือนสไปเดอร์แมนที่มีพลังวิเศษ

"บีมมองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วครับ บีมว่ามันเป็นเหมือนสไปเดอร์แมน มีพลังวิเศษ บางที่เขาก็มีอะไรในตัวที่มันพิเศษ มันกับพูดอะไรคนก็อ๋อคนนี้เรารู้จักหน้า พอเขาพูดถึงเรื่องอะไรที่มันดีๆคนก็จะรับรู้ได้ง่าย มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่ควรจะทำ เหมือนเกิดมาพร้อมกับอำนาจวิเศษ เราก็ต้องทำอะไรให้พิเศษ"

กำลังโหลดความคิดเห็น