"ปู-อนุวัฒน์" แจงข่าวหนีปัญหาชีวิต บวชไม่สึก รับไปบวชมาจริงเกือบ 100 วันเหตุอยากให้ชีวิตรู้แจ้งเห็นจริงมากขึ้น เผยตอนนี้เปลี่ยนศาสนาจากคริสต์เป็นพุทธแล้ว ย้ำครอบครัวสนับสนุนดีไร้ปัญหาบ้านแตกแน่นอน พร้อมเผยมีโอกาสเมื่อไหร่จะกลับไปบวชอีกครั้ง
กลายเป็นกระแสข่าวใหญ่โตเมื่อจู่ๆ นักแสดงมากฝีมืออย่าง "ปู-อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์" ตัดกิเลสจากทางโลก หันหน้าเข้าศึกษาธรรมะอย่างเป็นจริงเป็นจัง เลยทำให้มีกระแสข่าวลือว่านักแสดงรุ่นใหญ่มีปัญหาครอบครัวอย่างรุนแรงถึงขึ้นคิดที่จะบวชไม่สึก
ล่าสุดพอมีโอกาสเจอ "ปู-อนุวัฒน์" ที่กองละคร "ตราบสิ้นดินฟ้า" ของค่าย "เอ็กแซ็กท์" เจ้าตัวเลยขอออกมาเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า
"อ๋อ...ที่ผมหายจากวงการไปก็ประมาณปีเศษๆ ครับ ผมไปบวชมาที่วัดอินทราราม จังหวัดอยุธยา นี่ก็เพิ่งจะเปลี่ยนศาสนามามาเป็นศาสนาพุทธตอนแรกผมนับถือศาสนาคริสต์ ผมเป็นคาทอลิกส่วนครอบครัวผมก็ยังเป็นคาทอลิกเหมือนเดิม คือตอนแรกผมอยากลองศึกษาพระธรรม แล้วผมก็เลยลองไปบวชดูครั้งแรกประมาณ 9 วันพอบวชเสร็จแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรน่าศึกษาดี พอมีโอกาสอีกครั้งผมก็เลยไปบวชอีกเกือบ 100 วัน คือต้องบอกก่อนว่าที่ผมไม่ได้บอกใครนั้นเพราะผมอยากบวชแล้วเราอยากปฏิบัติธรรม อยากศึกษาธรรมะจริงๆ ก็เลยเงียบ ไม่มีคนรู้มาก"
“กับการที่ผมไปบวชนั้นจริงๆ แล้วตอนแรกผมได้มีโอกาสไปพบกับพระอาจารย์ ได้เข้าไปคุยแล้วรู้สึกว่าท่านมีอะไรที่อาจจะสอนเราได้รู้เรื่อง มีคำตอบอะไรเยอะที่เราคิดว่ามันมีเหตุมีผลมากกว่าความคิดของเรา ใช่เรานับถือพระเจ้าคนเดียว แต่ศาสนาเขาก็ไม่ได้ห้ามนับถือพระศาสดา ซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นพระศาสดาแล้วผมก็สนใจอยากจะลองมาศึกษาดู พอศึกษาแล้วอาจารย์บอกว่าลองบวชดูไหม ผมก็เลยตกปากรับคำว่าบวชก็บวชเลย โดยที่ยังไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย"
เผยบวชตั้ง 100 วัน เป็นเพราะความตั้งใจจริง
“บวชไปเรื่อยๆ คือเราไม่มีกำหนดสึก บวชจนกว่าเราคิดว่าเราต้องออกมาทำงานจริงๆ แล้วถึงได้สึกและหลังจากนี้ถ้ามีเวลาผมก็จะกลับไปบวชใหม่ ไม่ได้คิดว่าจะถึง 100 วันนะ ก็ยังคุยเล่นๆ กับเพื่อนว่าถ้าเกิดเราจะสึกก็คงต้องสึกก่อนเข้าพรรษา พอดีวันที่ผมสึกก็เป็นวันสุดท้ายก่อนเข้าพรรษา 1 วัน ถ้าตัดสินใจช้าไปคงต้องรอเข้าพรรษาอีก 3 เดือนเลย อันนั้นก็คงจะไม่ไหว ผ้าเหลืองร้อนตายเลย (หัวเราะ)”
ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่านักแสดงหนุ่มคิดจะบวชไม่สึก-หนีปัญหาชีวิตนั้น เจ้าตัวเเผยว่าข่าวมั่วแจงมีครอบครัวต้องรับผิดชอบจะทำอย่างที่ข่าวลงได้อย่างไร...
“อุ๊ย...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ผมยังมีลูกมีเมียอยู่เลย ยังมีหน้าที่ต้องทำงานอยู่ เพียงแต่ว่าเวลาอยู่ในผ้าเหลืองเราจะสงบมาก เราก็คิดว่าถ้าเราตั้งใจจะบวชทั้งที เราก็ต้องทำอะไรให้เต็มที่เลยและถ้ามีโอกาสก็อยากนะครับ เพราะเขาบวชได้หลายรอบ ดีได้บุญ(หัวเราะ) ”
“กับการบวชของผมทางครอบครัวเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ เขาก็ไม่ได้อะไร เพราะครอบครัวก็มาเยี่ยมกันได้อยู่แล้ว เขาก็มาถวายเพล มาดูแลบางทีก็มานิมนต์กลับไปฉันเพลที่บ้านบ้าง แล้วลูกมาเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม เขาก็มาได้บ่อยอยู่แล้ว อีกอย่างตอนที่ผมบวชผมก็ได้ปรึกษากันอยู่แล้วกับครอบครัว ยิ่งบวชเขาก็ยิ่งได้บุญด้วย ผู้หญิงเขาบวชไม่ได้ เราเป็นสามีเราก็บวชให้แทน"
"คือที่ผมบวชขวัญเขาก็ไม่ได้มีการคัดค้านอะไรที่ไม่อยากให้บวชเลย จริงๆ แล้วเขาอยากให้บวชตลอดชีวิตเลยมั้ง (หัวเราะ) ไม่หรอก เขาก็คงอยากให้บวชแหละ ปูว่าดีด้วยซ้ำไปบวชเนี่ย ออกมาเราก็น่าจะเป็นคนดีขึ้น ปูว่าปูก็ดีขึ้นบ้างนะ (หัวเราะ) ดีไหมอันนี้ต้องไปถามน้องขวัญเขาดูเอาเอง”
“แต่สำหรับผมแล้วการที่เราได้บวชมันทำให้เราคิดว่าเรามีเหตุผลในการตัดสินใจอะไรเยอะขึ้น ดูมีสติมากขึ้น อย่างเมื่อก่อนเวลาทำงานเราจะชอบโมโหและหงุดหงิดง่าย แต่เดี๋ยวนี้มันก็รู้สึกสงบได้เร็วขึ้น รู้ตัวเองขึ้น”
