xs
xsm
sm
md
lg

“สายสวรรค์” ลั่นจ้อข่าวช่อง 3 ท้าทายกว่าวิก 7 สี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หนิง” เผยเหตุจ้อข่าววิก 3 ด้วยบทบาทที่ท้าทาย อบอุ่น และชัดเจนกว่าวิกหมอชิต จนยอมเซ็นสัญญาเป็นพนักงาน แจงช่วงที่ผ่านมาเจอวิกฤตอยู่ในช่วงต้องรีบตัดสินใจว่าจะไปช่องไหนแน่ บอกที่ใหม่ไม่ถูกลดบทบาท ด้านกระแสวิจารณ์เชิงลบทำใจรับด้วยการสงบนิ่ง ลั่นหลังตีจากทีไอทีวี เงินเดือนตามเคลียร์ย้อนหลังครบ

หลังจากเจอวิกฤตช่องทีไอทีวีอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงที่จะกลายเป็นทีวีเสรีในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นหน้าผู้ประกาศหญิง “หนิง สายสวรรค์ ขยันยิ่ง” โลโก้ประจำสถานีทีไอทีวี โผล่ไปนั่งจ้อข่าวให้กับวิก 7 สี ในรายการ “จมูกมด” และเมื่อไม่นานมานี้เอง ก็เห็นหน้าของเธอมาโผล่ที่วิกพระราม 4 อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะได้รับบทบาทที่เด่นกว่าเมื่อครั้งอยู่วิกหมอชิต โดยมานั่งอ่านข่าวในช่วง “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ซึ่งเหตุผลที่เธอตัดสินใจย้ายไปย้ายมาหลายช่อง ผู้ประกาศข่าวหญิงเปิดใจให้ฟังว่า...

“คือจังหวะแบบนี้นะต้องคิดให้เร็ว ต้องตัดสินใจให้เร็ว ถ้าเรายังอยากทำงานฟรีทีวี ซึ่งก็มีไม่กี่ช่อง เพราะฉะนั้นถือว่าช่อง 3 ให้โอกาสมากๆ ใช่ช่วงเวลาที่มันแกว่ง ต้องยอมรับว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมางานมันแกว่งมันก็ไม่นิ่ง คุณประวิทย์ กรุณามากให้โอกาส ลองมาคุยดูว่าสมมติถ้าเรามาเราจะอยู่ตรงไหน ก็ปรากฏเป็นเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ซึ่งเขาก็บอกว่าโจทย์ใหม่ของเที่ยงวัน อยากให้เป็นทางการขึ้นมา ขณะที่ยังทำให้สบายๆ อยู่ ก็เลยเข้าทางเรา บรรยากาศอบอบอุ่น ผู้ใหญ่กรุณาเลยตัดสินใจมาที่นี่”

ต่อข้อซักถามหลายคนมองว่า ผู้ประกาศข่าวสาวเปลี่ยนช่องบ่อย จุดยืนไม่ชัด เจ้าตัวก็ยอมรับว่า เปลี่ยนเก้าอี้จ้อข่าวหลายช่อง แต่ลงเอยที่ช่อง 3 และเซ็นสัญญาไปแล้วเรียบร้อย

“เข้าใจคะ ที่จมูกมด ไม่มีสัญญานะ สัญญาใจค่ะ ก็ไปทำงานอยู่สักระยะหนึ่ง ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ต้องย้อนกลับไปว่าก่อนไปอยู่จมูกมดเกิดอะไรขึ้น ตอนที่อยู่ทีไอทีวี เราทำรายการคนก็มองว่าก็ดีอยู่แล้ว จะไปไหนอ่ะ แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้ปัญหาข้างในว่าการบริหารจัดการมันวิกฤตสุดๆ แล้วก็รายการที่เราทำ 5 วันต่อสัปดาห์ ทำเองทุกอย่าง ตอนนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะเอายังไง คนที่ทำงานร่วมกับเราก็ถอดใจไปทีละคน ทุกวันเลย ก็เลยเป็นเหตุให้ตัดสินใจตอนที่รายการจมูกมด บอกว่า อยากปรับให้มีผู้หญิงเข้าไปเสริม แต่ออกมาแล้วถึงชัดเจน เงินเดือนก็จ่ายย้อนหลัง เขาค่อยเคลียร์ตามมาทีหลังก็เลยเป็นประเด็นอยู่เหมือนกัน”

“เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเราก็ต้องรับได้คะ พอตอนจมูกมดเปลี่ยนแปลงตอนช่วงปีใหม่ ทางนี้ก็จะปรับช่วง เที่ยงวันทันเหตุการณ์ คือ มันลงตัวพอดีคะ ต้องเลือกชีวิตจะเอายังไงดี ตอนนั้นจมูกมดก็ไม่มีแล้วเขาจะปรับทีม ทางผู้ใหญให้ลองอ่านข่าว ก็ไปคุยกับทางฝ่ายข่าว ระหว่างที่ยังไม่ออนแอร์ทางนี้ก็ให้โอกาส พอมาคุยปุ๊บเนี่ยเราชอบที่จะให้มันชัดเจนมากกว่า”

“บางคนบอกว่า อยู่ prime time แล้วมาอยู่ข่าวเที่ยง หนิงไม่ได้คิดเรื่องนั้น เพราะที่นี่เขาจะลุยให้ทุกช่วงเวลาของเขาให้เป็น prime time แม้กระทั่งตี 1 ครึ่ง ก็ยังลุยเลย งั้นในข่าวเที่ยง ก็บอกมาช่วยไหม ก็เลยลงตัวพอดีคะ มันก็ต้องคิดให้เร็วอ่ะ ไม่นั้นก็เลยไปแล้วไปเลยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีกในชีวิต”

ลั่น ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจทำงานให้กับวิก 3 เพราะท้าทายกว่าวิก 7 สี พร้อมตัดสินใจเป็นพนักงานเรียบร้อยแล้ว
“คือ หนึ่งท้าทายกว่า สอง คือ ความชัดเจนในแง่ตารางการทำงาน เจอสายสวรรค์ที่ไหน อะเที่ยงวัน อะไรอย่างเนี้ยคะ ถูกลดบทบาทลงไหม ไม่ๆ เราลองฟังนโยบายที่นี่เขาจะรุกให้ข่าวทุกช่วงเป็นช่วงที่น่าสนใจ ข่าวที่ไม่เคยมีเรตติ้งก็จะกลายเป็นช่วงเวลามีเรตติ้งขึ้นมา เขาก็จะบูมตั้งแต่ตอนเช้า เมื่อก่อนไม่ใช่นาทีทองเลยแต่ตอนนี้ อู้หู เราเห็นวิสัยทัศน์ตรงนี้ แม้กระทั่งหลังเที่ยงคืน คนอื่นไม่เอาแล้ว แต่ที่นี่ยังลุยเลย ฉะนั้น เป็นบ้านหลังนึงที่เหมาะกับคนข่าว ณ เวลานี้นะ”

“ทางผู้ใหญ่บอกว่า อยากให้เป็นพนักงานมากกว่า เพราะจะได้ผูกพันกับองค์กร ก็เซ็นสัญญาเป็นพนักงาน ตอนแรกก็อยากเป็นฟรีแลนซ์แต่เหตุผลผู้ใหญ่ชัดเจนก็แล้วแต่ผู้ใหญ่”

ถามต่อถึงกระแสวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตเชิงลบค่อนข้างเยอะ บอกวิธีแก้คือสงบนิ่ง...“สักพักถ้ารับได้ก็จะค่อยๆ ซาไปเอง แบบดุเดือดเลือดพล่าน เกลียดขี้หน้าเธออะไรอย่างเนี้ย (หัวเราะ) ไม่ใช่โกรธนะ ตรงมากกว่า เพราะที่โดนส่วนใหญ่ในอินเทอร์เน็ตมากกว่า ถ้าเกิดเป็นสื่อที่เปิดเผย คุยกันได้ก็จะคุยกันได้เขาก็จะนำเสนออีกแบบนึง แต่การที่คนไม่ชอบเราแล้วไปพูดในอินเทอร์เน็ตมันต้องทำใจนะคะ เพราะเราก็ทำอะไรไม่ได้ วิธีการคือต้องสงบสักพักนึง”


กำลังโหลดความคิดเห็น