xs
xsm
sm
md
lg

“นิว” สู้มะเร็ง ! เปิดใจก่อนตาย อยากแต่งงาน-ขอคืนวงการโกยเงินช่วย พ่อ-แม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นิว กีรติกร” นักแสดงสาวเซ็กซี่ เผยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด เคยเครียดจัดถึงขั้นคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย กลุ้มใจไม่มีเงินรักษา อยากคืนวงการหาเงินรักษาตัว และช่วยเหลือพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เคลียร์ข่าวแต่งตัวโป๊ บอกช่างภาพชอบถ่ายงัด ประชดจะขึ้นขาหยั่งให้

รับบทนางเอกหนังเรื่อง “โบอาร์ งูยักษ์” แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม แต่ยังไม่ดังเท่าครั้งที่ตกเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โชว์ชุดซีทรูหวาบหวิวในงานสุพรรณหงส์ที่จัดที่โคราชปีทีแล้ว จนทำให้นักแสดงสาว“นิว กีรติกร รัตน์กุลธร” เป็นที่รู้จักและถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเจอคำสั่งประกาศิต “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” เจ้าของค่ายหนังออกมาสั่งแบนหายจ้อยไปจากวงการบันเทิง

เวลาผ่านไปหนึ่งปีสาวนิวตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งเนื่องจากต้องเผชิญกับโรคร้ายป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดมาเกือบสองปี อาการกำเริบหนักถึงขั้นช็อกหยุดหายใจไป 5 นาที ชีวิตหลังผ่านความตายทำให้นิวเข้มแข็งขึ้น แต่กว่าจะทำใจยอมรับกับโรคดังกล่าวได้ เจ้าตัวก็เคยคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว

“นิวหายไปจากวงการตั้งแต่หลังงานสุพรรรหงษ์ปีที่แล้ว บางคนคิดว่านิวหายไปเพราะโดนแบน แต่จริงๆ แล้วนิวป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดไม่สบายอย่างหนัก นิวไม่อยากบอกให้ใครรู้ว่าป่วยโดยเฉพาะสื่อ เพราะกลัวว่าถ้าสื่อรู้เป็นข่าว แล้วพ่อแม่รู้ท่านจะรับไม่ได้ยิ่งคุณแม่เป็นโรคหัวใจอยู่ด้วยเดี๋ยวจะมาเป็นอะไรไปอีกคน”

“นิวป่วยเป็นโรคนี้มาประมาณสองปีแล้ว แต่เพิ่งจะมารู้ตัวตอนที่ไปผ่าตัดซีสถึงได้ทราบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด เพราะว่าตอนที่ผ่าตัดเลือดนิวไหลไม่หยุดหมอบีบแผลเตรียมเย็บแผลแล้ว แต่เลือดก็ไม่หยุดไหลแล้วก็ช็อคไป ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่านิวหยุดหายใจไป 5 นาทีแล้ว หมอต้องช่วยกันปั้มหายใจกันยกใหญ่”

“พอฟื้นขึ้นมาหมอก็หลงๆ ลืมๆ เพราะเราหยุดหายใจไป 5 นาที กลับไปอยู่บ้านแม่จะต้องคอยมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง อย่างแม่เล่าเรื่องมหาลัยให้ฟัง นิวก็จำไม่ได้เถียงแม่ตลอดว่าไม่มีไม่เคยเรียน จนแม่ต้องเอารูปมาเปิดให้ดูทบทวน ความจำเราถึงค่อยๆ ฟื้นขึ้นได้”

“หลังจากที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้นิวรับไม่ได้เลย ร้องไห้ทุกวันมันเครียดและท้อแท้มาก ทำไมชีวิตเราต้องมาเจอแบบนี้ ไม่รู้จะทำยังไงชีวิตสับสนมันมืดไปหมด แม่ก็อายุ 70 แล้วแถมเป็นโรคหัวใจอีก ส่วนพ่อก็ 80 กว่าแล้ว นิวเป็นลูกคนเดียวด้วย รู้สึกเสียใจมากแต่ยิ่งเราเสียใจอาการก็ยิ่งทรุดหนัก เกล็ดเลือดต่ำลงเรื่อยๆ คิดว่าตัวเองไม่รอดแน่ๆ”

“ถามว่าตอนนั้นนิวกลัวตายไหม บอกเลยว่าไม่กลัว แต่กลัวว่าพ่อกับแม่จะอยู่ยังไงมากกว่า นิวตัดสินใจจะไม่รักษาตัว เพราะโรคนี้ต้องใช้จ่ายเยอะมาก เรามีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งเป็นก้อนสุดท้าย ถ้าเราใช้เงินก้อนนี้รักษาตัวแล้วมันจะหายหรือเปล่าก็ไม่รู้ รักษาไปแล้วเงินหมดเราตายไป แล้วพ่อกับแม่ล่ะจะอยู่กันยังไง ใครจะดูแล เพราะทุกวันนี้เราเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด แต่ถ้านิวหยุดรักษาตัว ถึงตายไปแม่ก็ยังมีเงินสักก้อนที่จะเลี้ยงตัวเอง ตรงนี้มันทำให้นิวตัดสินใจที่จะไม่รักษาตัวเอง และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ยอมบอกกับท่าน”

นิวเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวแม้แต่เพื่อนฝูงก็ไม่บอก สุดท้ายก็มาเครียดคนเดียว ไม่รู้จะหาทางออกยังไงเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว นิวไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป เพราะนิวกลัวว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นสู้เราตายไปทีเดียวเลยดีกว่า นิวมองแค่เรื่องเงินแต่ไม่ได้เคยคิดเลยว่า ถ้าเราตายไปพ่อกับแม่จะลำบากมากกว่าเดิมไหม ท่านจะเสียใจขนาดไหน เงินมันคงไม่มีความหมายเลย”

“ถ้าเราตายไปแล้วเขาต้องมานั่งอยู่ในงานศพลูกตัวเองเหรอ นึกถึงคำพูดแม่เมื่อครั้งที่เคยผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่งตอนผ่าตัดแล้วทำให้เรานึกขึ้นได้ ตอนนั้นแม่พูดหลังจากที่นิวฟื้นขึ้นมาว่า อย่างน้อยเขาก็เอาลูกมาคืนแม่แล้วแม่ก็กอดนิว เรารู้สึกว่ากอดของแม่อบอุ่นเราโชคดีที่ได้ฟื้นกลับมาอีกมันเหมือนกำไรชีวิตแล้ว ทำไมเราไม่ทำให้ชิวิตที่เหลือของเราให้มีแต่ความสุขล่ะ ตรงนี้เลยทำให้นิวมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมา”

“จนนิวได้มีโอกาสไปเจอพี่คนหนึ่งเขาป่วยเป็นโรคนี้มาสิบกว่าปีแล้ว แต่พี่เขาแตกต่างจากนิวมากเขาดูแข็งแรงเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลย พี่เขาแนะนำว่าถ้าอยากเป็นแบบนี้บ้างเราต้องเปลี่ยนมุมมองแนวคิดเกี่ยวกับโรคนี้ใหม่ให้มองว่ามันเป็นอุปสรรคเล็กน้อยของชีวิตเรา อย่างอาการของคนที่เป็นโรคนี้จะหนาวเราหนาวเราก็พกเสื้อกันหนาว อาหารที่ทานไม่ได้อย่างคนอื่นก็คิดซะว่าเราเลือกที่จะทานอาหารทีมีประโยชน์กับร่างกาย”

“ให้มองว่ามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานเวลาเหลือน้อย ฉะนั้นแทนที่จะมานั่งคิดมากจมกับความทุกข์ก็ให้เปลี่ยนเป็นมาดูแลเอาใจใส่ให้ความรักกับพ่อแม่ และคนที่เรารักให้มากขึ้น ควรที่จะใช้เวลาที่เหลือให้มันคุ้มค่า เราโชคดีกว่าคนที่เขาประสบอุบัติเหตุจากโลกนี้ไปอย่างกะทันหันเขาไม่ได้ทันทำอะไรให้ใครเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่พี่เขาสอนมันทำให้เรารู้สึกดีมากมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ขึ้นมาทันที”

“ตอนนี้สุขภาพนิวดีกว่าปีที่แล้วเยอะมาก สามารถออกไปไหนมาไหนใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ทุกอย่าง หลังจากที่ใช้วิธีที่พี่เขาแนะนำ แล้วนิวก็นั่งสมาธิรวบรวมพลังจิตด้วย เหมือนพอเรามีกำลังใจจิตใจดีสมาธิดีร่างกายเราจะดีตามไปด้วย เวลานี้ไม่รู้สึกกลัวตายเลยเราอยู่ด้วยกำลังใจ บอกได้เลยว่า ยาแผนปัจจุบันช่วยอะไรเราไม่ได้มากมันขึ้นกับกำลังใจและสภาพจิตใจมากกว่า”

“สิ่งที่นิวจะทำต่อไปนี้ก็คือเข้ารับการรักษา คุณหมอแนะนำให้นิวต้องเปลี่ยนไขกระดูกสันหลัง ตอนนี้ก็ต้องรอให้คนมาบริจาคสเตมเซลล์ก่อน ส่วนวิธีการรักษาอีกวิธีหนึ่งคือ จากการปลูกสเตมเซล์จากของเราเอง แต่วิธีนี้ค่าใช้จ่ายสูงมากๆ นิวเลยอยากกลับมาทำงานเก็บเงินเพื่อไปรักษาตัว แต่ถามว่าวันนี้นิวอยู่แบบนี้มีความสุขกับชีวิตหรือยัง ตอบได้เลยว่ามีแล้วและพอแล้ว แต่ก็ยังแอบหวังว่า วันหนึ่งถ้ามีเงินเข้ามาสักก้อนแล้วสามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ก็อยากที่จะทำ”

“หลังจากนี้นิวอยากรับงานและทำงานมากขึ้นเพื่อเก็บเงิน ที่ผ่านมาคนจะเข้าใจผิดคิดว่านิวเป็นเด็กในสังกัดบริษัทสหมงคลฯ เลยไม่ค่อยมีงานติดต่อมา จริงๆนิวเป็นนักแสดงอิสระ กับทางเสี่ยเจียงก็ยังเคารพท่านเหมือนเดิมเมื่อวันตรุษจีนที่ผ่านมาก็ไปไหว้ท่านมา ยังอ้อนๆ ขอหนังเล่นอยู่เลย อยากขอโอกาสผู้ใหญ่อีกครั้ง”

“ที่ผ่านมานิวเป็นข่าวเยอะมาก อย่างตอนสุพรรณหงส์ปีก่อนนิวก็โดนว่า ความจริงแล้วนิวไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวโป๊ทุกอย่างมันเซฟหมด นิวต้องการจะโชว์ผ้าไหม ต้องการจะโชว์ว่าผ้าไหมมันเป็นแฟชั่นได้ แต่ปรากฏว่าพอใส่ไปแล้วเวทีมันสูงมาก ซึ่งเราไม่รู้ว่าเวทีจะเป็นแบบนี้ ชุดก็ผ่าสูงช่างภาพก็งัดกันใหญ่ ตอนนั้นก็โมโหนะ อยากจะบอกว่า ให้หนูขึ้นขาหยั่งให้ไหม”

“พูดแบบนี้หลายคนจะบอกว่านิวแรง จริงๆ แล้วนิวเป็นคนตรงๆ นักข่าวเคยถามนิวว่าแต่งตัวแบบนี้อยากดังเหรอ นิวก็ตอบไปว่า แล้วพี่เป็นนักข่าวอยากเป็นบก.หรือเปล่า คือสังคมมันเป็นแบบนี้ อย่างปรางทอง ชั่งธรรมได้สุพรรณหงส์แต่ได้ลงรูปนิดเดียว แต่นิวแต่งตัวโป๊ได้ลงหน้าหนึ่งอันใหญ่มาก นิวก็บอกกับเพื่อนที่ตัดชุดว่านิวอยากขึ้นหน้าหนึ่ง(หัวเราะ) นั่นคือความคิดของนิวตอนนั้นนะ แต่ตอนนี้นิวอยากจะทำชีวิตของนิวให้มีความสุขมากที่สุด ไม่อยากเป็นข่าวไม่อยากอะไรแล้ว”

ถึงแม้ว่าตอนนี้อาการป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดจะดีขึ้น แต่นิวก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะอยู่ต่อสู้กับโรคนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ฉะนั้นกับช่วงระยะเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่บนโลกใบนี้จึงเป็นสิ่งที่มีค่ากับนิวมาก ทุกย่างก้าวทุกการกระทำต่อจากนี้ คือสิ่งที่เธออยากจะทำก่อนที่จะหมดลมหายใจ

นิวอยากแต่งงาน......แต่ก็สองจิตสองใจนะ ใจหนึ่งก็อยากแต่งงานกับเขา(แฟน) แต่ก็รู้สึกกลัวว่าเราจะไปเป็นภาระของเขา อีกอย่างแต่งงานกันไปเราก็มีลูกให้เขาไม่ได้ เมื่อเป็นแบบนี้เราเป็นเพื่อนคอยดูแลกันแบบนี้ก็ดีแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่ดี รู้สึกขอบคุณเขามากๆ วันที่นิวไม่มีใครเขามาอยู่เคียงข้าง วันที่เราเจ็บป่วยเขาไม่ทิ้งไม่รังเกียจเราถึงแม้จะอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นานแต่มันก็คุ้มแล้วนะที่ได้รู้สึกดีและได้เจอคนดีๆแบบนี้”

“อีกอย่างที่นิวอยากจะทำก่อนตายก็คือ อยู่บนแผ่นฟิล์ม นิวรู้สึกว่าอย่างน้อยคนที่คิดถึงเรา คนที่รักเราก็จะได้เห็นเราบนแผ่นฟิล์ม เขาจะได้เปิดดูผลงานของเรา อย่างล่าสุดนิวก็พึ่งจะเล่นเอ็มวีให้พี่แอม เสาวลักษณ์ ก็รู้สึกดีนะที่ได้เล่นเอมวีเพลงนี้ อย่างน้อยมันจะเป็นผลงานและภาพความทรงจำเมื่อนิวไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว

“สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตที่อยากทำและต้องทำให้ได้คือหาเงินมาให้พ่อให้แม่เยอะๆ ตอบแทนบุญคุณท่านก่อนที่เราจะตาย ส่วนเรื่องการหายป่วยนั้นนิวไม่ได้หวังอะไร แค่ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้มีความสุขและได้ทำในสิ่งที่อยากทำสำเร็จถึงแม้ว่าจะต้องตายก็ไม่เสียดายแล้วชีวิต”

“สำหรับใครที่กำลังท้อแท้และสิ้นหวัง นิวก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้ต่อไป อย่างน้อยถ้าไม่อยากทำเพื่อตัวเอง ก็ขอให้ทำเพื่อคนที่เรารักก็แล้วกัน”





กำลังโหลดความคิดเห็น