"แมว-นิโคล" ประกาศหย่า ยันเหตุไม่ใช่เรื่องมือที่สามแต่เพราะต่างฝ่ายไม่มีเวลาให้กัน ลั่นแม้เลิกกันแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและยังอยู่คอนโดเดียวกันเพื่อลูก ส่วนบ้านนักร้องแอ๊บแบ๊วรีบชิงบอกขายพร้อมปฏิเสธข่าวทอมตามจีบ ด้านร็อคเกอร์หนุ่มรับเป็นสามีที่บกพร่อง ออกปากอยากกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกันอีก
มีข่าวออกมาได้สักระยะแล้วถึงข่าวเตียงหักของคู่นักร้องดัง "แมว จีระศักดิ์ - นิกกี้ นิโคล" แต่ทั้งคู่ก็ได้ปฏิเสธข่าวมาตลอด ล่าสุดวันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. "แมว-นิกกี้" ได้จัดแถลงข่าวด่วนที่ตึกแกรมมี่ ชั้น 21 เพื่อประกาศว่าได้เซ็นใบหย่ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.พ.) ก็ทำเอาช็อควงการไปเลยทีเดียวซึ่งเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาก็เป็นวันครบรอบ 5 ปีที่แต่งงานกันมาอีกด้วย
ทั้งนี้นักร้องหน้าแอ๊บเด็กมีสีหน้าเศร้าสลดและก้มหน้าอยู่ตลอดการแถลงข่าวส่วนฝ่ายชายมีสีหน้าที่เคร่งเครียดเล็กน้อยและพยายามฝืนยิ้มพร้อมยอมรับว่าตนยังทำใจไม่ได้กับการหย่าร้างในครั้งนี้
กี้ : "ที่เราออกมาแถลงให้เร็วที่สุดเพราะอยากให้แฟนเพลงเข้าใจเราทั้ง 2 คนว่าเป็นอย่างไรเนื่องจากมีคนถามกันมาเยอะมาก ตอนนี้เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแต่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันไม่ได้มีเรื่องกัน ไม่ได้ทะเลาะกันมากมายแต่ว่าเรามานั่งตัดสินใจ ไตร่ตรองกันว่าวิธีการที่ดีที่สุดคือวิธีไหนก็คือวิธีนี้ ถามว่าการตัดสินใจง่ายมั้ยมันไม่ง่ายหรอก เราคิดกันทุกมุมคิดดีที่สุดแล้ว"
"เราได้หย่ากันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ เราไม่อยากหย่ากันวันวาเลนไทน์เพราะไม่อยากทำให้วันแห่งความรักเป็นวันโศกเศร้าหรือเป็นวันที่เราจะมีความทรงจำที่ไม่ดี เราเลยเลือกที่จะหย่าหลังวาเลนไทน์วันหนึ่ง"
แมว : "ถ้าเราหย่ากันวันวาเลนไทน์ คงเป็นความทรงจำที่แย่มากและเลวร้ายมากสำหรับผมนะครับ ไม่ว่าเราจะแยกกันอย่างไรผมบอกตรงๆว่าผมก็ยังทำใจไม่ได้"
กี้ : "ถามว่ารู้สึกอย่างไรกี้ใจหายนะ เป็นเรื่องที่เสียใจอยู่แล้วเพราะเวลาใครแต่งงานก็อยากแต่งแค่ครั้งเดียวแล้วเราก็แต่งมาตั้ง 5 ปีแล้วเราก็อยากมีชีวิตคู่ที่ดีต่อไปแต่พอมาถึงวันนี้เราก็ต้องช่วยกันเลี้ยงทิกเกอร์ต่อไปเรื่อยๆ"
ทั้งคู่ยืนยันเหตุเลิกราไม่ใช่ปัญหามือที่สามแต่เป็นเรื่องของเวลาที่ไม่เคยมีให้กันทำให้ไม่ได้ใช้ชีวิตครอบครัวในแบบที่สมบูรณ์
แมว : "มันไม่ใช่เรื่องของมือที่สามแต่เป็นเรื่องของมือที่สี่ คือมือของเรา 2 คนรวมกันเป็นสี่มือ บอกเลยว่ามันไม่ใช่สาเหตุที่รุนแรงถึงขนาดแย่งสมบัติหรือเธอมีกิ๊กแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเรางานเยอะด้วยกันทั้งคู่ สังเกตเห็นว่ากี้จะไปไหนคนเดียวตลอดทั้งที่เมื่อก่อนไปไหนก็ไปคู่ ผมขอสรุปเลยละกันว่าผมทำหน้าที่สามีบกพร่อง ผมอยากดูแลเขาให้ดีกว่านี้"
"ที่ผ่านมาเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย อยู่ด้วยกันแต่แทบไม่คุยกันเลยมันเลยทำให้กลับไปคิดว่าตอนที่เราเป็นเพื่อนกันเราดูแลกันดีกว่านี้ พูดง่ายๆคือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแต่เป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ทุกวันนี้ก็ยังดีต่อกันนะแต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมตอนนี้คือต้องดูแลทิกเกอร์ ผมรักลูกมากแค่ไปทองหล่อผมก็ไม่ไหวแล้ว บอกตรงๆเลยนะถึงเราไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียกันแล้วแต่ลูกเป็นเรื่องที่สำคัญก็ต้องช่วยกันดูแลต่อไป"
กี้ : "อย่างตัวกี้เองก็ต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตบ้าง ครอบครัวไม่เคยอยู่พร้อมกันเลย อีกคนอยู่อีกคนไม่อยู่ กี้อยู่พี่แมวไม่อยู่ พี่แมวอยู่กี้ก็ไม่อยู่ เราไม่เคยมีโอกาสอยู่พร้อมหน้าพ่อ-แม่-ลูกเลยค่ะ เราอาจจะเป็นคู่สามีภรรยาที่แปลกมากคือไม่ค่อยได้คุยกันและไม่ได้ทะเลาะกันเลยแต่ก็เลิกกัน จริงๆเรื่องหย่ากี้ก็ปรึกษาคุณแม่มาตลอด คุณแม่ก็ทราบเรื่องมาตลอดก็ไม่ได้ตกใจอะไรกัน"
แมว : "ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่เฟคนะ ไม่ได้พูดเพื่อให้ออกมาดูดี เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ผมกลับบ้านมาไปเจอกี้ กี้ก็ทำงานดึกๆดื่นๆพอมันเป็นแบบนี้สักระยะก็เห็นปัญหา ชีวิตครอบครัวมันยากน่ะ มันละเอียดอ่อนพี่ๆนักข่าวเคยแต่งงานรึเปล่า นั่นแหละมันจะมีช่วงหนึ่งที่เราก็หาคำตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ต้องเคยผ่านตรงนี้"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าก่อนที่จะตกลงหย่ากัน ทั้งคู่ได้มีการพูดจาประนีประนอมกันหรือไม่ นิกกี้บอกพูดไปก็ป่วยการพร้อมออกปากถึงหย่าขาดจากกันแต่คู่ตนยังอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเพื่อลูก
กี้ : "ตอนนี้ทิกเกอร์ 3 ขวบแล้วคือการประนีประนอมเราก็มานั่งคุยกันแต่เรารู้สึกว่าลูกโตขึ้นเรื่อยๆแล้ว โตขึ้นทุกวัน มันป่วยการแล้ว มันไม่ใช่เวลาที่มาประนีประนอมกัน"
แมว : "จริงๆเมื่อวันวาเลนไทน์นี้เรายังให้ดอกไม้กันอยู่เลยนะ เรามีความสุขกันมาตลอด เราเป็นเพื่อนที่ดีกันมาก่อนความสัมพันธ์ก็เลยไม่ได้ลดน้อยลงไป ดีต่อกันเหมือนเดิมตอนนี้ถึงหย่ากันแล้วก็ยังอยู่คอนโดเดียวกัน เป็นเหมือนรูมเมทกัน แล้วที่ใครบอกว่าเราแยกกันอยู่ไม่จริงนะครับ เรายังอยู่ด้วยกันยังเห็นกันทุกมุม ถามว่าเราได้บอกทิกเกอร์มั้ยที่เราหย่ากัน เราไม่ได้บอกลูกครับเพราะเดี๋ยวลูกจะถามว่า Daddy ,what is หย่า ?"
กี้ : "ลูกเราจะสลับกันเลี้ยงค่ะ เราก็อยู่คอนโดเดียวกันที่สุขุมวิทแหละค่ะเพราะต้องดูแลทิกเกอร์ ส่วนบ้านก็ประกาศขายตรงนี้เลยนะคะ"
การหย่าร้างถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตครอบครัวซึ่งต้องมีผลกับทางด้านจิตใจของคู่สามี-ภรรยาพอสมควร อีกทั้งทั้งคู่เป็นศิลปินต้องคิดงานเพลงและทำงานบันเทิง ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเรื่องร้ายนี้มีผลต่อการทำงานมากน้อยแค่ไหน ร็อคเกอร์หนุ่มนิ่งไปอึดใจก่อนตอบว่า...
แมว : "ไม่น่าถามเรื่องงานเลย ผมกำลังหนักใจอยู่เลย บางทีผมก็ไปดูหนังนะจะได้ไม่ต้องคิดมาก เพิ่งได้หนังเรื่องช็อกโกแลตมา แล้วก็ไปดูเรื่องที่โจวซิงฉือเล่นแล้วรู้เลยว่าลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
กี้ : "จริงๆเรื่องงานเนี่ย เรากำลังจะได้ร้องเพลงประกอบละครคู่กันด้วยในเรื่อง "นิมิตมาร" ชื่อเพลง "ผิดด้วยหรือ" ซึ่งป็นเพลงที่เศร้ามากน่ะค่ะ (แมวพูดแทรก) ประกอบละครเรื่องที่น่ากลัวมากครับ"
ต่อข้อซักถามที่ว่าในอนาคตทั้งคู่มีสิทธิ์จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้งหรือไม่ ฝ่ายชายออกปากอยากให้เป็นอย่างนั้น
แมว : "เราไม่ได้ปิดกั้นกันนะ ถ้าพูดกันแฟร์ๆเลยว่าทั้งเขาและผมก็มีสิทธิ์ที่จะมีคนใหม่ได้ทั้งคู่ แต่ถ้ารีเทิร์นได้ก็จะดี"
กี้ : "เรื่องอนาคตก็ต้องเป็นเรื่องของอนาคต ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติดีกว่าค่ะ"
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสาวกี้มีทอมมาขายขนมจีบนั้น หม้ายสาวหมาดๆบอกสาวหล่ออาจเป็นแค่แฟนคลับ เปล่าตามจีบตนอย่างที่เป็นข่าว
"ไม่มีค่ะ ถ้ามีก็ขอดูรูปหน่อย กี้นึกไม่ออก อาจจะเป็นแฟนคลับก็ได้เพราะกี้เจอคนเยอะแต่คิดว่าไม่มี คิดว่าเป็นแฟนคลับมากกว่าที่บางคนก็ตามเอาขนมมาให้ตามงาน ถ้ามีรูปขอด้วยนะคะ"
แมว "ทำไมไม่มีคนถามผมบ้างว่าผมมีผู้ชายมาติดมั้ย"
สุดท้ายคู่ร้างคู่ล่าสุดของวงการบันเทิงได้ฝากถึงแฟนเพลงว่า...
กี้: "อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วการเลิกกันครั้งนี้เป็นเหตุผลที่ดี ผ่านการคิดการไตร่ตรองมาแล้ว การกระทำทุกอย่างมีเหตุผลค่ะ"
แมว: "ผมรู้ว่าผมต้องเป็นแบบอย่างของเยาวชน ทุกครั้งที่กระดิกตัวทำอะไรก็มีคนมอง ผมอาจจะเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เป็นสามีที่ไม่ดีแต่จะเป็นพ่อที่ดีของลูกครับ"