“ออย” ลั่นแนะนำ “นิว” ให้รู้จักกับ “เสี่ยอู๊ด” จริง บอกทำแบบนี้กับน้องๆ มาหลายคนแล้ว เหตุเห็นอีกฝ่ายมีการงานที่ดี และเป็นคนน่ารัก แต่ปฏิเสธข่าวเป็นพ่อเล้าส่งเด็ก เจ้าตัวรับสนิทกับเซียนพระมานานแล้ว ออกปากไม่กลัวถูกตราหน้าเป็นเด็กเสี่ย พร้อมแจงเบนซ์ป้ายแดงซื้อเอง
“ออย ธนา สุทธิกมล” ถูกกระแสเมาท์หนักว่าเป็นเอเยนต์ส่งเด็กหนุ่มให้ “เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม” หลังนักแสดงหนุ่มรุ่นน้อง “นิว วงศกร” ออกมาแฉว่ารู้จักกับเซียนพระชื่อดัง เพราะหนุ่มออยแนะนำ
งานนี้พระเอกติสต์แตกชี้แจงกลางงานบวงสรวงละครเรื่อง “รักนี้ เคียงตะวัน” อย่างอารมณ์ดีว่า...
“เอากันชัดๆ เลย ก็คือ เป็นคนที่รู้จักกันทั้งหมด เคยร่วมงานกัน มีการว่าจ้างไปทำงาน อย่างนิวเนี่ยเตะบอลอยู่กับทีมผม ผมก็แนะนำเขาให้รู้จักกัน ผมก็แนะนำพี่เขาให้รู้จักกับหลายๆคน มีน้องๆอีกหลายคนแต่ว่าข่าวลงอยู่คนเดียวเท่านั้นเอง”
“ส่วนคำว่าพ่อเล้าถามว่าผมรู้สึกอย่างไร ก็ดี ดูมีฐานะดีนะครับ มันดูมีการมีงานดีนะ ดูเป็นตำแหน่งใหญ่โตดี ข่าวส่งเด็กก็ไม่จริงครับเพราะว่ามันเหมือนแค่พี่คนหนึ่งแนะนำน้องให้รู้จักแค่นั้นเอง จริงๆพี่เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งครับผมก็แค่เหมือนเออนี่ เหมือนพาไปสวัสดีผู้ใหญ่เพราะพี่เขาก็มีกิจการมีงาน รู้สึกว่าถ้าเราได้รู้จักผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งก็ไม่เป็นไร”
เจ้าตัวลั่นสนิทกับเซียนพระเพราะทำธุรกิจด้วยกันพร้อมออกปากไม่กลัวถูกพ่วงจับตรวจสอบรายได้
“ผมก็สนิทกับเขาอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะคุณพ่อผมทำธุรกิจอยู่กับเขาช่วงหนึ่งน่ะครับ คุณพ่อผมทำพลอยกับบริษัทเขา จริงๆ อย่าใช้คำว่าสนิทสนมเลยเป็นว่าผู้ใหญ่ที่รู้จักดีกว่า ก็รู้จักกันนานมากแล้วครับ น่าจะก่อนที่เขามีข่าวดังๆอีกเพราะว่าธุรกิจนี้เขาทำมานานแล้ว ถามว่ายังได้ติดต่อกันมั้ย ก็น่าจะเป็นพ่อมากกว่าแล้วก็ผมเป็นตัวกลางถ้าเขาจะฝากบอกอะไรเกี่ยวกับพ่อ บางทีเขาก็จะเออบอกพ่อด้วยนะเอาโน่นเอานี่มา”
“ผมกลัวถูกตรวจสอบรายได้มั้ย เพราะทำธุรกิจกับพี่เขา ก็คือ ช่วงนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอกันแล้วครับ แต่จริงๆ ธุรกิจของพี่เขาน่าจะดีลกันเป็นพักๆ น่ะครับ เพราะธุรกิจพี่เขาเกี่ยวกับตัวเดินพระแต่พ่อผมทำพลอย และช่วงนั้นทำพระพิฆเนศวร์เป็นพลอย หมดล็อตก็คือหมดล็อตไป ช่วงหลังๆก็ไม่ค่อยได้ทำกันแล้วครับ ถามว่าเพราะเกี่ยวกับเรื่องที่พี่เขามีข่าวรึเปล่า..ผมก็โดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ดูข่าวเท่าไหร่”
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า “เสี่ยอู๊ด” ดาวน์รถเบนซ์ป้ายแดงให้หนุ่มออยนั้น พระเอกหนุ่มแจงเสียงหลง แค่อยากซื้อรถของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง
“เอ๊ย! เหงื่อตก ก็รถคันนี้ซื้อสักพักแล้วครับ จะปีหนึ่งแล้วครับก็ซื้อเอง ต้องบอกว่าเขาไม่เกี่ยวกับการดาวน์รถอะไรให้ผมเลยครับ คือ จริงๆ ก่อนหน้านี้ พี่เขามีรถอีกคันหนึ่ง เป็นเบนซ์ SLK เหมือนกันแต่สีดำแล้วผมชอบมาก ผมก็บอกขายผมเถอะ เพราะเห็นว่าเรารู้จักกัน เออ กะเขาขายในราคาที่ไม่แพงมากเราจะได้ประหยัดไง เขาก็เออๆ แล้วผมก็รู้สึกว่าเป็นการรบกวนพี่เขา ผมคิดว่าถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ชาตินี้เราคงทำงานหาตังค์ซื้อเองได้ ก็เลยซื้อเองซะ”
เมื่อถามต่อว่ามีข่าวในแง่ลบออกมาแบบนี้บ่อยครั้งกลัวถูกมองว่าเป็น 1 ในเด็กเสี่ยหรือไม่ หนุ่มออยสวนทันควัน...
“ผมไม่กลัวครับ เพราะว่ามองกันไปแล้วครับ ก็คงจะเขียนกันเรียบร้อยไปหมดแล้ว แต่ว่าผมรู้สึกไม่มีอะไร ก็ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ถ้าผมไปเดินกับพี่พจน์ ผมก็ไม่กลัวเหมือนกัน ถ้าผมกลัวผมคงไม่เดินกับพี่พจน์ หรือพี่คนนั้นคนนี้ ถึงเขาจะมีภาพเป็นอย่างไรถ้าเราไม่ได้คิดอะไรสักวันหนึ่งมันก็คือความจริงและผมก็สบายใจ เพราะว่าไม่มีใครรู้นอกจากตัวผมเอง”
“ชีวิตผมอยู่ในวงการบันเทิงมา 10 กว่าปี โดนข่าวมาตลอดผมคิดว่าผมไม่รู้สึกอะไร ผมคิดว่าพี่เขาเองคงไม่ได้เกลียดผมน่ะ เพราะผมก็ไมได้ทำอะไรให้เขา ผมว่าพี่เขาก็เป็นพี่ที่ดีนะถึงใครจะมองว่าเขาเป็นอย่างไรอะไร แต่ผมว่าเขาเป็นคนที่มีมุมมองในความคิดที่สอนผมในการทำธุรกิจ เขาเป็นคนน่ารักสำหรับผมคนหนึ่ง เป็นคนที่สอนผมทำการทำงานอะไรต่างๆ โอเคเลยถ้ามุมนี้นะ”
“ส่วนสาวๆ เข้าใจผิดก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว”