“บิ๊ก” ไม่สนภาพสวีต “เสี่ยอู๊ด” ทริปเที่ยวฮ่องกงหลุด ยันไม่ได้ชวนแต่ตามไปเอง ย้ำความสัมพันธ์แค่คนรู้จัก พร้อมแจงไม่เคยแบมือขอเงินอย่างดาราชายหลายคนที่ผ่านมา ส่วนกรณี ปปง.จะตรวจสอบทรัพย์สินนั้น บอกไม่กลัว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยแน่นอน
หลังจากที่ผ่านมามีดาราชายหลายคนที่มีรายชื่อติดอยู่ในโผเป็นเด็กอุปการคุณในความดูแลของ “เสี่ยอู๊ด-สิทธิกร บุญฉิม” ไม่ว่าจะเป็น “ฟิล์ม-รัฐภูมิ”, “โบกี้-จักรินทร์”, “ออย ธนา”, “แทค ภรัณยู” และ “นิว-วงศกร” ล่าสุด ก็มีอีกหนึ่งนักแสดงหนุ่มอย่าง “บิ๊ก-ภุชิสสะ ธนพัฒน์” ที่ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนแฉว่าเป็นดาราหนุ่มที่ชอบซื้อข้าวมันไก่ไปฝากเสี่ยคนดัง จนได้รับฉายาว่า “ข้าวมันไก่ห่อละหมื่น” มาแล้ว ซึ่งล่าสุดก็กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยภาพหลุด ขณะที่ทั้งคู่ควงกันไปสวีตไกลถึงฮ่องกง
ทางผู้สื่อข่าวก็ได้ติดต่อสอบถามไปยังนักแสดงหนุ่ม “บิ๊ก-ภุชิสสะ” เพื่อสอบถามถึงกระแสข่าวดังกล่าว นักแสดงหนุ่มเปิดใจว่า ความสัมพันธ์กับเสี่ยคนดังกล่าวว่าเป็นแค่พี่น้องกัน พร้อมทั้งท้า ปปง.(สำนักงานและป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) สอบ เหตุมั่นใจตนไม่เคยมีส่วนข้องเกี่ยวทรัพย์สินสุดอื้อฉาว
“สำหรับภาพที่ออกมานั้น ผมยังไม่ได้เห็นอะไรเลย แต่ก็มีเพื่อนโทร.มาบอกแล้วเหมือนกัน คือกับภาพนั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ผมก็เฉยๆ คือ ผมยอมรับนะว่าผมไปฮ่องกงจริง แต่ผมไปกับเพื่อนก่อนแล้ว และผมก็เลยลองโทร.ไปหาพี่เขาว่าผมอยู่ฮ่องกงแล้ว อยู่ดีๆ พี่เขาก็ตามมาเอง แต่พอดีวันนั้นผมก็กำลังจะกลับแล้วก็เลยได้มีโอกาสเจอพี่เขาก็เลยได้คุยกันตามประสา ก็แค่ประมาณว่าพี่มาเที่ยวเหรออะไรประมาณเนี้ย”
“ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดนะว่าภาพนี้จะหลุดออกมา และก็ไม่ได้คิดว่าพี่เขาจะเป็นคนปล่อยภาพนี้ออกมาด้วย คือ ผมก็ไม่รู้ว่าถ้าเขาปล่อยภาพออกมาจริง เขาจะปล่อยไปออกมาเพื่ออะไร เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ผมว่าเขาไม่ทำอยู่แล้วล่ะ อันนี้ด้วยความรู้สึกผมนะ”
เชื่อภาพที่หลุดออกมาไม่ใช่ฝีมือของเสี่ยใจป้ำ บอกคงเป็นคนไทยที่อยู่ฮ่องกงปล่อยออกมามากกว่า...“คือ ผมดูลักษณะคนประมาณแบบว่าเขาก็อายุไม่เยอะนะ อายุเขาก็ประมาณ 30 กว่าๆ เอง ผมยังเคยเจอคนที่อายุเยอะกว่าพี่เขาอีก แถมเขายังมาพูดเสนอโน้น เสนอนี่ให้ผมด้วย แต่เพียงแค่ว่าพี่เขาดันเป็นข่าวเยอะที่สุดเท่านั้นเอง”
“ส่วนภาพที่ออกมามันอาจจะมาจากคนไทยที่นั้นก็ได้ เขาอาจจะไปเที่ยวอยู่แถวๆ นั้น เพราะว่าตอนที่ผมไปนั้นผมก็ไปเจอคนไทยเยอะนะ ผมก็ยังไปคุยกับคนไทยที่นั้นอยู่เลย”
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปถึงความสัมพันธ์กับ “เสี่ยอู๊ด” ดีเจหนุ่มเผยว่าแค่คนรู้จักกันมานานเท่านั้น ไม่ใช่เชิงชู้สาว
“ผมก็รู้จักกับพี่เขามานานแล้ว และก็มีโอกาสได้คุยกันอยู่เรื่อยๆ แต่แค่ว่ามันไม่มีข่าวออกมาเท่านั้นเอง สงสัยเป็นเพราะว่าข่าวมันไปตกกับคนอื่นหมดแล้ว แต่การที่ผมคุยกับเขานั้นเพราะผมเห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้คิดแบบว่าเชิงชู้สาวเลย”
“กับการที่ผมคุยกับพี่เขานั้นก็ต้องบอกก่อนว่าเราจะคุยกันเรื่องงานมากกว่า มันจะเป็นคนแบบว่าอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเห็นข่าวผมก็จะโทรไปถามว่าพี่เห็นข่าวหรือยัง ใช่พี่หรือเปล่าประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดที่จะต้องคุยกับเขาทุกวัน ก็นานๆ ทีก็โทร.ไปอย่างนี้”
“ส่วนความสนิทนั้นก็แค่คนรู้จักทั่วไป เพราะเราก็ไม่ได้เป็นญาติกัน เป็นแค่คนรู้จักกันธรรมดา คือปกติถ้าเขาจะโทร.มาคุยเขาก็โทร.มาคุยเองครับหรือไม่เราก็โทร.ไปบ้าง”
ต่อข้อถามที่ว่ากลัวไหมว่าจะมีคนมองเราเป็นดาราหนุ่มหลายๆ คนที่ต้องการให้ “เสี่ยอู๊ด” มาเป็นผู้อุปการะใน “เรื่องเงิน” นักแสดงหนุ่มเปิดใจว่า
“ไม่กลัวครับ เพราะว่าบิ๊กก็ทำงานของบิ๊ก เรามีเงินใช้อยู่แล้ว จริงๆ แล้วเรื่องของเรื่องมันไม่มีอะไรด้วยไง คือ ผมรู้ว่าคนส่วนใหญ่ก็มองภาพผมเสียไปหมดแล้ว ผมก็เสียเป็นปกติอยู่แล้ว มันไม่มีใครเชื่อหรอกเวลาว่าผมพูดอะไรออกไป”
“คือ ถ้าถามผมว่าถ้ามีคนมาซื้อของให้ผม แต่เขาไม่ได้อะไรจากผมไป ผมก็รับนะ เพราะผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว แต่มันคงจะไม่มีใครอยู่ดีๆ แล้วเดินเอาเงินมาให้คนอื่นหรอก แต่ถ้าเขาให้ด้วยความรู้สึกว่าอยากให้ผมก็รับแน่นอน เพราะเขาอุตส่าห์ให้ แต่เผอิญเขาไม่ได้ให้อะไรผมนะ มันก็เลยไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“แต่พี่เขาก็เคยพูดเล่นๆ กับผมนะ เขาก็พูดว่าบิ๊กอยากมีรถเปล่า แต่ผมก็ตอบไปว่าไม่ต้องหรอกพี่ผมมีรถใช้ ผมมีเงินใช้ตามประสาของผม เราก็บอกเรามีรถของเราแล้วทำงานได้เงินของเราเราก็ใช้เงินของเรา ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปถึงกระแสข่าวที่ว่าตอนนี้ ปปง.กำลังตรวจสอบทรัพย์สินของ “เสี่ยอู๊ด” อยู่ กลัวไหมว่าตนเองจะตกเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินต่างๆ ด้วย นักแสดงหนุ่มเผยเพียงสั้นๆ ว่า
“จริงๆ แล้วทางโน้นต้องสอบสวนกันเอาเอง เพราะว่าผมอยากจะบอกว่าพี่เขามีเงินมาตั้งนานแล้ว แค่ตอนนี้เขาเพิ่งจะมาโปรโมทการทำงานของพี่เขาล็อตใหม่อะไรอย่างนี้และผมก็ไม่กลัวด้วย เพราะว่าผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องตรงนั้นอยู่แล้ว”
