xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยอู๊ด” ย่องเงียบพบ “ดีเอสไอ” คดีฉ้อโกง!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“เสี่ยอู๊ด” ย่องเงียบ พบ “ดีเอสไอ” ก่อนวันนัด หลังพนักงานสอบสวนออกหมายนัดเรียกให้ปากคำในคดีฉ้อโกงในวันที่ 9 ม.ค.ยังไม่ให้ปากคำ ดีเอสไอ ขอเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนเชิญตัวมาสอบอีกครั้ง เผยตรามหามงกุฎ "เสี่ยอู๊ด” เป็นคนออกแบบมาเสนอเจ้าอาวาสวัดสุทัศนฯ ส่วนมวลสารดอกไม้ เจ้าอาวาสให้การรับพระราชทานมาจริง

วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิทธิกร บุญฉิม หรือ “เสี่ยอู๊ด” ประธานบริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ ผู้จัดสร้าง “พระสมเด็จเหนือหัว” ได้เดินทางเข้าพบกับ นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและเข้าให้ปากคำในคดีฉ้อโกง หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้มาพบในวันที่ 9 ม.ค. ทั้งนี้ นายสิทธิกร หรือเสี่ยอู๊ด ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ พร้อมกันนี้ได้อาศัยจังหวะเวลาหลบผู้สื่อข่าวเข้ามามอบตัวในวันนี้

ทางด้าน นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการที่นำหมายศาลเข้าค้นสำนักงานของ “เสี่ยอู๊ด” ก็เป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวน เมื่อเข้าไปก็มีขั้นตอนการเก็บเอกสารหลักฐาน ซึ่งมีการเก็บเป็นอย่างดี และเมื่อจะเปิดเอกสารออกมาตรวจสอบก็ต้องมีเจ้าของและเจ้าหน้าที่มาเป็นพยานว่าจะเปิดเอกสาร ซึ่งในวันนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เพราะยังไม่ได้ตรวจเอกสาร การตรวจเอกสารเพื่อให้ได้ข้อมูลในการสอบถามและเมื่อมีความคืบหน้าก็จะเชิญตัวเสี่ยอู๊ดมาอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำอะไรมาบ้าง โดยหลังจากที่เสี่ยอู๊ดเดินทางกลับได้ทิ้งเจ้าหน้าที่ไว้ 2-3 คนเพื่อให้พนักงานสอบสวนได้สอบถาม

นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดถึงขั้นตอนการคืนเงิน แต่เท่าที่พิจารณาคาดว่าคงไม่มีอะไรขัดข้อง เมื่อธนาคารมาสอบถามว่ามีลูกค้าต้องการขอเงินคืนจึงแนะนำให้รวบรวมรายชื่อไว้ก่อน และประสานกับ ปปง.อีกครั้ง ส่วนบ้านของเสี่ยอู๊ดไม่ได้ทำการตรวจค้น แต่ให้เจ้าหน้าที่ไปส่งหนังสือว่าต้องการเอกสารหรือข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ซึ่งทางเสี่ยอู๊ดได้ขอเวลาในการส่งมอบเอกสารเนื่องจากต้องใช้เวลาค้นหา นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ขอเวลา 1 สัปดาห์ แล้วจะเชิญตัวเสี่ยอู๊ดมาอีกครั้ง

นายสรรเสริญ ยังกล่าวต่อว่า ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ในคอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นหลักฐานอ้างอิงที่จะใช้ในชั้นศาลได้ แต่เอามาเป็นข้อมูลเท่านั้น ซึ่งเอกสารที่พบจากคอมพิวเตอร์ก็เป็นเอกสารการโต้ตอบกันระหว่างบริษัทกับทางห้างร้านต่างๆ ที่เปิดให้สั่งจอง เอกสารการเชิญพระมาประกอบพิธี และการออกเอกสารรับรอง ซึ่งเอกสารที่ทำการตรวจสอบทั้งหมดถ้ามีความชัดเจนก็ไม่จำเป็นจะต้องเรียกเสี่ยอู๊ดมาให้ข้อมูลเพิ่มเติ่ม ส่วนวัดและมูลนิธิยังเหลือประเด็นสอบสวนความเกี่ยวข้องว่าวัดและมูลนิธิรู้เห็นหรือร่วมกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าอาวาสได้ให้การว่า นำเรื่อง “สมเด็จเหนือหัว” เสนอที่ประชุมมูลนิธิเพื่อขออนุมัติจัดสร้าง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าอาวาสกับเสี่ยอู๊ดพบว่าเป็นเด็กวัดและเคยบวชเณร แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ลงลึกในรายละเอียดเรื่องนี้

นายสรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติ่มว่า สำหรับตราพระมหามงกุฏนั้น เจ้าอาวาสได้ให้การว่า เสี่ยอู๊ดได้ออกแบบมาเสนอให้เจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสก็พอใจแต่จะนำคำพูดเพียงเท่านี้มาสรุปและมัดว่าเป็นความผิดของเจ้าอาวาสรู้เห็นด้วยมันไม่ถูกต้อง ต้องพิจารณาหลักฐานและข้อมูลอื่นมาประกอบด้วย ส่วนเรื่องดอกไม้ที่นำมาทำมวลสาร เจ้าอาวาสให้การว่าเป็นดอกไม้ที่ได้รับพระราชทานมา ซึ่งในกุฏิมีเป็นจำนวนมากก็เลยนำไปเป็นมวลสร้างในการจัดสร้าง
นายสิทธิกร บุญฉิม หรือ “เสี่ยอู๊ด” ประธานบริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ ผู้จัดสร้าง พระสมเด็จเหนือหัว ขณะเข้าพบพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ
ธุรกิจรัดตัว เสี่ยอู๊ด


กำลังโหลดความคิดเห็น