"หนุ่ม" แจงยังไม่มีหมายกำหนดแต่ง "เมย์" ตอนนี้ เผยอยากสร้างความมั่นคงไว้รับลองลูกและเมียก่อน ส่วนกระแสข่าว "หมอลักษณ์" ฟันธงเป็นคู่แท้และจะต้องแต่งงานภายในปีนี้ บอกตนไม่ขอเชื่อพร้อมย้ำชีวิตตนขอเป็นคนตัดสินชะตาเอง
กลายเป็นข่าวโด่งดังตั้งแต่ต้นปีสำหรับการฟันธงของหมอดูชื่อดัง "อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ" ที่ออกมาดูดวงให้กับคู่รักตำนานมินิคูเปอร์อย่าง "หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" และนางร้ายสาว "เมย์ เฟื่องอารมย์" ว่าทั้งคู่เป็น "คู่แท้" ดวงชะตาเหมาะสมกันและจะต้องแต่งงานกันในปีนี้แน่นอน
พอมีโอกาสเจอหน้า "หนุ่ม-กรรชัย" ในงานเลี้ยงปีใหม่ของร้าน "ไอซ์ มอนสเตอร์" ที่ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กชายปากเกร็ด จ.นนทบุรี เลยขอออกมาเปิดใจถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า
"กับข่าวที่บอกว่าผมกับคุณเมย์จะแต่งงานกันนั้นไม่เป็นความจริงนะ แต่ก็ยอมรับว่าก็มีการคุยกันบ้าง คือมันยังไม่มีกำหนด กับการที่มีข่าวออกมาผมก็ยังงงอยู่เลย เพราะข่าวที่ออกมานั้นมันมีกระทั้งหมายกำหนดการเลย เอาเป็นว่าผมขอย้ำอีกครั้งว่ามันยังไม่มีกำหนดจริงๆ และถ้าเกิดมีกำหนดผมก็จะแจ้งให้ทราบไม่ปิดบังอยู่แล้ว ถ้าเกิดวันไหนที่ผมแต่งงานผมก็จะเชิญสื่อมวลชนทุกคนไปอยู่แล้ว ไม่มีการปิดกั้นแน่นอน"
"ผมเป็นคนเปิดเสมอ อย่างที่ผ่านมาผมก็ไม่มีอะไรที่จะต้องมาปิดกั้นอยู่แล้ว เพราะว่าความจริงทุกอย่างมันได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะชนหมดแล้วว่าทุกอย่างเป็นอย่างไรและมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเพราะฉะนั้นเรื่องแต่งงานถ้าเกิดมีกำหนดการเมื่อไหร่ผมบอกแน่นอนอย่าเพิ่งไปเดาสุ่มกันเลยนะ"
"ขนาดเรื่องที่ไม่ดีผมยังกล้าออกมาพูดให้ทุกคนได้รู้เลย กับเรื่องนี้มันเป็นเรื่องมงคล เรื่องดี ทำไมผมจะไม่ออกมาบอกล่ะ อีกอย่างช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงของการไว้อาลัยด้วย ฉะนั้นเรื่องพิธีมงคลต่างๆ ผมว่าน่าจะงด เพราะว่ามันเป็นการไม่สมควรจริงๆ เอาเป็นว่าอย่างที่บอกหากผมมีกำหนดการเมื่อไหร่ผมจะแจ้งให้ทราบ"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าแล้วมีการไปดูฤกษ์กันไว้บ้างหรือยัง นักแสดงหนุ่มเผยว่า
"อันนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ผมคงจะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่ว่าต่อให้จะมีฤกษ์อะไรยังไง ฤกษ์มันก็คือฤกษ์ แต่ว่าความเป็นจริงมันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะเอาอย่างไรหรือทำอย่างไรต่อไป ส่วนเรื่องต่างๆ รายละเอียดต่างๆ นั้นทางผู้ใหญ่เขาเป็นคนคุยกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคุยกันเอง"
"แต่กับเรื่องการเจรจานั้ยจะมีหรือเปล่าเรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมทราบอยู่อย่างหนึ่งว่าที่มีข่าวออกมาว่าเราทั้งคู่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันขณะที่เราไปทานข้าวกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งอันนั้นผมก็ทราบว่าใช่ มันเป็นความจริงและกับสิ่งที่เกิดขึ้นทางคุณป้าของผมท่านก็ได้มีการไปขอโทษทางคุณพ่อคุณแม่ของคุณเมย์แล้ว เนื่องจากมันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร"
"มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นโดยการขอโทษก่อน เพราะฉะนั้นอย่างเรื่องอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่จะต้องตามมามันอาจจะมีหรือไม่มีอันนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่าสำหรับตอนนี้ผมยืนยันได้ว่ากำหนดการยังไม่มีแน่นอน"
ต่อข้อถามที่ว่าโดยส่วนตัวหนุ่มแล้วคิดว่าเรื่องแต่งงานใกล้ความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน นักแสดงหนุ่มคิดก่อนที่จะตอบว่า
"เรื่องนี้ตอบไม่ได้จริงๆ เพราะมันยังไม่ได้มีกำหนดการอะไรเลย คือตอนนี้ผมอยากบอกว่าอย่าเพิ่งเชื่ออะไรกับข่าวที่ออกมา เอาเป็นว่าอยากรู้อะไรมาถามจากปากผมดีกว่ารับรองเชื่อได้แน่นอนและถ้าหนุ่มมีกำหนดการที่จะแต่งแล้ว แต่หนุ่มไม่แจ้งเนี้ยอันนี้มันก็ต้องย้อนมาที่ตัวหนุ่ม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือผมไม่อยากที่จะพูดเรื่องนี้เลย เพราะผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดไปมันจะถูกแปลงสารอีกหรือเปล่า"
"อย่างครั้งที่แล้วบนเวทีคอนเสิร์ตบีมายเกสต์มันทำให้ผลลัพท์มันย้อนกลับมาที่ตัวผมว่ากลายเป็นคนเหลาะแหละเพราะว่าผมเคยขึ้นไปขอแต่งงานคุณเมย์บนเวทีซึ่งในครั้งนั้น ผมขอยืนยันเลยว่าผมไม่ได้ขอแต่งงานแน่นอน ฉะนั้นในครั้งนนี้เราก็มีบทเรียนแล้วตอนนี้เราจะพูดอะไรเราก็ต้องระวังให้มากขึ้น"
"เพราะว่าบ้างครั้งต้องยอมรับอย่างหนึ่ง แต่อันนี้ผมไม่ได้โทษสื่อนะ แต่ปัจจุบันเนี้ยบ้างสิ่งบ้างอย่างที่เราพูดออกไปบางทีเราอาจจะไม่เครียส บางทีผมพูดกำกวม ทำให้สื่อช่วยตีประเด็นให้มันก็เลยทำให้เรื่องทุกอย่างมันไปกันใหญ่"
"คือบางทีผมพูดอะไรมากไปมันก็ทำให้ฝ่ายผู้หญิงเขาเสียได้ เพราะฉะนั้นจะต้องเอาให้มันแน่นอน เอาให้มันชัวร์ๆ แล้วคำพูดนั้นมันจะออกมาจากปากผมเอง อย่าเพิ่งไปฟังข่าวจากที่อื่น คือตอนนี้ใครก็พูดได้ แต่ความจริงทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวผมทั้งหมด"
เผยส่วนตัวยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานตอนนี้ บอกอยากหาความมั่นคงเพื่อเป็นอนาคตให้ลูกเมีย..."ส่วนตัวแล้วในเรื่องแต่งงานนั้นตอนนี้ยังคงไม่คิดนะ คือมันต้องรอให้ผมพร้อมก่อน ตอนนี้ผมคิดว่าผมต้องทำงานหรือหาอะไรทำให้มันเป็นชิ้นเป็นอันให้มันมากกว่าตอนนี้ เพื่อรับลองอนาคตตัวเอง รับลองลูกเมียผม เพราะผมไม่อยากออกมาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอีกแล้ว"
"เพราะถ้าอยู่ดีๆ ผมออกมาพูดว่าแต่งแน่ครับปีนี้ พอถึงเวลามันไม่ได้แต่งอย่างนี้ ผมก็ซวย ผู้หญิงก็เสีย คราวนี้ผมก็กลายเป็นแม่พวงมาลัย พ่อพวงมาลัย ที่เอาแต่ลอยไปลอยมาคำพูดอะไรก็เชื่อถือไม่ได้ ตอนนี้ผมอยากจะลบภาพของตัวเองให้หมด อยากพูดอะไรให้มันชัดเจน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปถึงกระแสข่าวของ "หมอดูฟันธง" ที่ออกมาทำนายว่า "เมย์-หนุ่ม" เป็นคู่แท้และจะได้แต่งานกันภายในปีนี้แน่นอน นักแสดงหนุ่มเปิดใจว่า
"อันนั้นมันเป็นเรื่องของหมอดู แต่สำหรับตัวผมผมมองว่าชีวิตมันอยู่ที่เรากำหนดเอง มันเป็นเรื่องของเรา ส่วนการดูหมอนั้นผมยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่ง มันเป็นการเตรียมตัวของเราเองที่จะฟังแล้วก็จะทำอย่างไรต่อไป แต่อีกส่วนหนึ่งผมมองว่าถ้าเกิดหมอดูบอกว่าอีก 7 วันผมจะตายผมคงตายไปตั้งแต่วันที่ 3 แล้วแหละ เพราะว่าผมคิดมาก อย่าเลยนะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า"
"เอาเป็นว่าคนเราจะตายก็คือตาย ถ้าจะแต่งก็คือแต่ง ถ้าจะเลิกก็คือเลิก ทุกอย่างมันเป็นความกลมกลืนอยู่แล้ว ทุกอย่างมันไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องหมอดูผมไม่อยากบอกว่ามันไร้สาระนะ แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล แต่ส่วนตัวผมเองผมไม่เชื่อแน่นอน คือดูได้นะหมอดู แต่ว่าไม่ได้มาปักใจว่าต้องแต่งวันนี้หรือวันไหน"
"แต่ผมอยากให้หมอดูทุกท่านเข้าใจด้วยว่าชีวิตทั้งหมดของผมมันขึ้นอยู่ที่ตัวผมมากกว่า ผมเป็นคนตัดสินทุกอย่างเองและผมจะแต่งหรือไม่แต่งนั้นหรือถ้าผมแต่งไปแล้วปีนี้แล้วมันไม่ดีอย่างที่หมอดูพูดจริงๆ หมอดูจะรับผิดชอบตัวผมไหม"
เผยอยากตัดสินทุกอย่างในชีวิตด้วยตนเองไม่ขอเชื่อคำหมอดู บอกไม่ได้คิดหักหน้าแต่ตนจะดี เลว ชั่วอยู่ที่ตนเองไม่ต้องทำนาย..."นี้มันชีวิตของผม ถ้าผมแต่งไปวันหนึ่งผมทำตัวไม่ดีผู้หญิงเขาเสียหายขึ้นมาผมจะโทษหมอดูได้ไหมล่ะ มันก็ไม่ได้อีก คือกลายเป็นผมอีกที่ผิด ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าจะตัดสินใจอย่างไร"
"อย่างที่หมอดูมาฟันธงว่าจะต้องแต่งปีนี้ ผมก็อยากจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ชีวิตผมเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่า ผมไม่สามารถที่จะเอาหมอดูมาตัดสินชีวิตของผมได้ ผมไม่สามารถบอกได้ว่าถ้าเกิดหมอดูบอกว่าอีก 5 ปี หนุ่มกรรชัยจะรวยมหาศาล วันนี้ผมคงไม่ทำอะไรเพราะว่าอีก 5 ปีผมจะรวยแล้ว"
"ที่พูดแบบนี้ผมไม่ได้หักหน้าหมอดูหรือว่าผมดูถูกหมอดูนะครับอย่างน้อยคนที่เชื่อหมอดูก็คือเป็นอะไรที่รู้ล่วงหน้า รู้หนทางแก้ไขก่อน แต่สำหรับตัวผมเองชีวิตผมอยู่ที่ตัวผม ผมจะดี จะเลว จะชั่ว มันก็อยู่ที่ตัวผม ผมเป็นคนทำทุกอย่างเอง"
"เพราะฉะนั้นอย่าเอาตัวผมไปตัดสินโดยการเอาคำคนอื่นมาตัดสินว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ทุกอย่างให้ผมเป็นคนตัดสินแล้วออกมาพูดเองดีกว่า"