xs
xsm
sm
md
lg

สี่แผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สี่แผ่นดิน เป็นบทประพันธ์ลักษณะนวนิยายสมัยใหม่ ซึ่งมุ่งสื่อสารกับคนร่วมสมัย เนื้อหาในเรื่องจะแบ่งเป็นทั้ง 4 แผ่นดิน หรือ 4 รัชกาล

แผ่นดินที่ 1 รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช

รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยะมหาราช พลอย เกิดที่บ้าน คลองบางหลวง บิดาคือ พระยาพิพิธฯ มารดาชื่อ แช่ม เป็นภรรยาเอกของพระยาพิพิธฯ แต่มิใช่ฐานะคุณหญิง เพราะคุณหญิงเอื้อม เป็นคนอัมพวา แต่ไม่ได้อยู่กับท่านเจ้าคุณ แต่ไปอยู่บ้านเดิมของท่าน

ตั้งแต่ก่อนที่พลอยเกิด คงเหลือแต่บุตรของคุณหญิง อยู่ในบ้าน 3 คนคือ คุณอุ่น พี่สาวใหญ่ อายุ 19 ปี คุณชิด พี่ชายคนรอง อายุ 16 ปี คุณเชยพี่สาวคนเล็ก อายุแก่กว่าพลอย 2 ปี พลอยมีพี่ชายร่วมมารดาอีกคนหนึ่งชื่อ เพิ่ม อายุแก่กว่าปีเศษ และมีน้องสาวคนละมารดาเกิดจากแม่แวว ภรรยาท่านเจ้าคุณคนรองจากแม่แช่มมารดาพลอยชื่อ หวาน

เมื่อ แม่พลอยมี อายุได้ 10 ปี ใน พ.ศ. 2435 แม่แช่มและคุณอุ่นก็มีเรื่องตึงๆกันเสมอมา เนื่องจากฐานะทางบ้าน และการ บังคับบัญชา ตกอยู่ในมือของคุณอุ่นแต่เพียงผู้เดียว แม่แช่มจึงตัดสินใจพาพลอยออกจากบ้าน เพื่อไปถวายตัวกับเสด็จ พระองค์หญิง ในพระบรมมหาราชวัง พลอยได้รับพระกรุณาจากเสด็จพระองค์หญิงเป็นพิเศษ

โดยมีคุณสายข้าหลวงชั้นผู้ใหญ่ ในตำหนักเสด็จคอยดูแลและสอนขนบธรรมเนียมประเพณีชาววังให้แก่พลอยอย่างใกล้ชิด คุณสายมีหลานสาววัย เดียวกับ พลอยชื่อ ช้อย เป็นเด็กผู้หญิงแก่นแก้วแต่มีน้ำใจ ช้อยมีพี่ชายชื่อ เนื่อง ซี่งมักมีของกินเล็กๆน้อยๆติดมือมากฝากพลอยอยู่เสมอ

แม้หายไปนานจนกระทั่งวันหนึ่ง นางพิศ บ่าวของแม่ได้นำความมาบอกคุณสายว่า บัดนี้แม่กำลังตั้งท้องกับพ่อฉิม เมื่อเสด็จ ทรงทราบจึงตัดสินพระทัยจัดงานโกนจุกให้พลอยและช้อยพร้อมๆกัน ทำให้พลอยรู้สึกปลาบปลื้มยินดี เมื่อเสร็จงานคุณสาย จึงพาพลอยและช้อยกลับเข้าวังพร้อม กับข่าวแม่แช่มตายเพราะลูกในท้องคลอดก่อนกำหนด

เมื่อพลอยเป็นสาวเต็มตัว ก็กลายเป็นข้าหลวงคนโปรด ส่วนทางบ้านคลองบางหลวงนั้นคนที่ติดต่อเป็นครั้งคราวคือ เพิ่ม ซึ่งบัดนี้เป็นข้าราชการที่กรมพระคลัง ส่วนคนที่พลอยได้พบมากกว่าพี่น้องของตนคือ พี่เนื่อง ระยะเวลาต่อมาความสัมพันธ์ ระหว่างพี่เนื่องและพลอยก็พัฒนาขึ้นเป็นความรู้สึกฉันหนุ่มสาว

คืนหนึ่ง พลอย คุณเชย และช้อยพากันไปดูละครที่ข้าราชการฝ่ายหน้าจัด ด้วยสัญชาตญาณ พลอยก็พบไปสบกับสายตา คู่หนึ่ง ที่จ้องพลอยด้วยความสนใจ นับตั้งแต่นั้นมาพลอยก็ได้พบชายคนนั้นบ่อยๆ จนวันหนึ่งช้อยก็สืบทราบว่าชายคนนั้นชื่อ คุณเปรม เป็นมหาดเล็กหลวง ลูกพระยาเช่นเดียวกับพลอย

ช้อยเอาจดหมายที่พี่เนื่องเขียนถึงตนมีใจความว่าพี่เนื่องมีเมียแล้วที่นครสวรรค์ชื่อ สมบุญ และขอให้พลอยลืมพี่เนื่องเสีย ร.ศ.118 บังเกิดความตื่นเต้นนิยมขี่จักรยานหรือเรียกในขณะนั้นว่า "ไบซิเกิ้ล" เจ้านายข้างในเกือบทุกพระองค์ทรงหัดขี่จักรยาน ช้อยขี่จักรยานเป็นก่อนคนอื่น พลอยได้แต่เฝ้าฝันที่จะได้จักรยานเป็นของตนเองบ้าง

เมื่อช้อยได้ทูลเสด็จว่าพลอย อยากได้จักรยาน จึงประทานรถจักรยานส่วนพระองค์ให้ ในขณะที่คุณเปรมก็ส่งข้าวของกำนัลมาทำให้คุณสายสรรเสริญ บ่ายวันรุ่งขึ้น พลอยขึ้นไปเฝ้าเสด็จตามที่ปฎิบัติทุกวัน เสด็จจึงรับสั่งกับพลอยว่า เจ้าคุณพ่อของพลอยมาทูลขอตัวพลอยออกไปแต่งงานกับคุณเปรม

พลอยแต่งงานไม่นานก็เป็นที่ยอมรับจากบรรดาญาติและบ่าวไพร่ที่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่พลอยรู้สึกสงสัย และแคลงใจอยู่เงียบๆนั่นคือ เรือนหลังบ้านหลังหนึ่งซึ่งปลูกอยู่ชิดรั้วปิดอยู่เงียบๆก็จริง แต่บางครั้งก็มีเสียงเด็กร้องออกมา

วันหนึ่งพลอย จึงเอ่ยปากถามคุณเปรม คุณเปรมจึงพาไปในบ้านนั้น และก็ยอมรับว่าเด็กคนนั้นชื่อ ตาอ้น เป็นบุตรชายของตนซึ่งเกิดจากบ่าวหญิงในบ้าน และบ่าวหญิงคนนั้นก็สมัครใจไปจากบ้านนี้ เพราะอยากมีผัวใหม่ ทำให้พลอยรู้สึกเอ็นดูและสงสารตาอ้นเป็นพิเศษ ถึงกับออกปากขอตาอ้นเป็นลูกของพลอย และรับตาอ้นเข้ามาอยู่บนตึก

อีกไม่นานพลอยก็ตั้งท้อง และคลอดบุตรชาย ช้อยตั้งชื่อให้ว่า ตาอั้น วันหนึ่งท่านเจ้าคุณป่วยหนักและอยากเห็นหน้าหลานมาก พลอยจึงขออนุญาตสามีไปค้างที่บ้านบิดา ต่อมาท่านเจ้าคุณพ่อก็ดีขึ้น เช้าวันหนึ่งขณะที่ท่านเจ้าคุณกำลังเล่นกับตาอั้น ท่านก็เป็นลมสิ้นใจไปในอ้อมแขนของพลอย คุณอุ่นประณามพลอยว่าพลอยกลับมาฆ่าท่าน เมื่อสิ้นบุญบิดาคุณอุ่นก็เริ่มสำแดง อำนาจกดขี่ที่ไม่เป็นธรรมต่อคุณเชยและพ่อเพิ่ม จนคุณเชยทนไม่ไหวจึงหนีตามหลวงโอสถ พ่อม่ายที่รักษาท่านเจ้าคุณ

วันหนึ่งเกิดดาวหางดวงใหญ่สว่างพุ่งเป็นทางยาว พลอยเห็นแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาว่าจะเกิดหายนะแก่บ้านเมือง ต่อมาอีกไม่กี่วัน คุณเปรมกลับออกมาจากในวังแล้วบอกพลอยว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรประทับอยู่ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน แล้ววันรุ่งขึ้นก็สวรรคต

แผ่นดินที่ 2 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในรัชกาลที่ 6 ระหว่างงานพระเมรุพระพุทธเจ้าหลวงมหาราช พลอยก็คลอดลูกชายคนที่สองชื่อ ตาอ๊อด ตั้งแต่ผลัดแผ่นดินมาคุณเปรมก็ได้รับตำแหน่งมหาดเล็กหุ้มแพร มีพระราชทินนามว่า นายสนองราชกิจ ต่อมาอีกปีหนึ่งก็ย้ายจากกองมหาดเล็ก ไปอยู่กรมวังเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระบริบาลภูมินารถ

แผ่นดินปัจจุบันแตกต่างจากแผ่นดินก่อนมาก แผ่นดินก่อนนั้นเป็นแผ่นดินของผู้ใหญ่สูงอายุ แต่พอผลัดแผ่นดินใหม่ ซึ่งเป็น แผ่นดินของคนหนุ่ม บรรยากาศในพระราชสำนักก็เป็นบรรยากาศของคนหนุ่มแน่น ทางบ้านคลองหลวงนั้นพ่อเพิ่มอยู่ได้ไม่นานก็ได้ภรรยาชื่อ เยี้ยน ในไม่ช้าพลอยก็คลอดลูกคนที่สามลูกคนนี้เป็นหญิงสมดังปรารถนา และตั้งชื่อให้ว่าประไพ

แล้ววันหนึ่งแขกที่พลอยไม่คาดฝันที่มาเยี่ยมถึงบ้านคือ คุณอุ่น พี่สาวคนใหญ่ของพลอยซึ่งชราภาพมาก เธอมาหาพลอยเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะหลังจากที่คุณพ่อถึงแก่กรรม คุณชิดก็ข่มขู่เอาเงินจากคุณอุ่นไปเที่ยวสำมะเลเทเมา พลอยให้คุณอุ่นอาศัยอยู่ที่เรือนเดิมของตาอ้น

เมื่ออั้นและอ็อดอายุได้ 10 ขวบ คุณเปรมจึงตัดสินใจส่งลูกชายทั้งคู่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ส่วนประไพ เมื่อเป็นสาวก็งดงาม น่ารัก และสนิทสนมกับคุณอุ่นมากขึ้น ส่วนอ้นเรียนจบเป็นทหาร และถูกส่งไปรับราชการที่อยุธยา ต่อมาคุณเปรมก็ได้เป็น "พระยาบทมาลย์บำรุง" พลอยได้เป็น "คุณหญิงพลอย"

อั้นกลับมาเมืองไทยพร้อมกับลูซิลล์ เมียแหม่มซึ่งทำให้พลอยใจหวิว แทบจะเป็นลม ต่อมาในหลวงก็ทรงประชวรทรุดลงเรื่อยๆ พร้อมกับข่าวตาอ๊อดเรียนและกำลังเดินทางกลับมา พอเช้าวันรุ่งขึ้นช้อยมาหาพลอยแต่เช้าเพื่อบอกข่าวพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต.

แผ่นดินที่ 3 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

คุณเปรมก็เจ็บกระเสาะกระแสะและดูแก่ลงไปถนัดใจนับตั้งแต่วันสิ้นแผ่นดิน คุณเปรมก็แก่เกินไปที่จะปรับตัวกับสมัยใหม่ จึงลาออกจากราชการ ความสัมพันธ์ระหว่างพลอยกับลูซิลล์ดูเหมือนว่าจะดีขึ้น บางครั้งลูซิลล์ก็มาปรึกษาความในใจให้พลอยฟังเรื่องน้อยใจที่อั้นไม่เคยพาลูซิลล์ออกงานนอกบ้านเลย ทำให้พลอยไปตักเตือนตาอั้น บ่อยเข้าอั้นก็ไม่พอใจ

ในจำนวนลูกทั้งหมดประไพ ทำให้พลอยเวียนศีรษะยิ่งกว่าคนอื่น เพราะกิริยามารยาทเลียนแบบฝรั่ง ช้อยยังไปมาหาสู่กับพลอยอยู่เป็นนิตย์จึงเป็นคนให้สติพลอยในเรื่องลูกเป็นอย่างดี แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วันหนึ่งคุณเปรมออกไปขี่ม้า ตามปกติ พอตอนสามโมงเช้าตาอ๊อดรีบเข้ามาบอกว่า คุณเปรมตกม้า ตาอ๊อดกลับมาพร้อมร่างอันปราศจากชีวิตของคุณเปรม

งานศพจัดขึ้นที่บ้าน ตาอ๊อดมีสติเตรียมงานรดน้ำศพทั้งหมด และกลายเป็นผู้ใหญ่บังคับบัญชาคนทั้งบ้าน และสั่งเสียการงานได้อย่างถูกต้อง ส่วนอ้นลาราชการงานมางานศพบิดาด้วยความโศกเศ้ากว่าใครทั้งหมด ส่วนประไพร้องไห้เฉพาะเวลาแขกมางานศพเท่านั้น ตาอั้นตัดสินใจด้วยตนเองว่า ตนเป็นทายาทอันถูกต้องของคุณเปรมมีหน้าที่บัญชาคนในบ้านแทนบิดา ซึ่งตาอ้นก็ยอมโดยดุษฎี ทำให้พลอยยิ่งรักยิ่งสงสารตาอ้นมากขึ้น

วันหนึ่งพ่อเพิ่มมาบอกกับพลอยว่าเวลานี้กำลังมีคนคิดกันจะล้มพระราชอำนาจและได้ยินมาว่าตาอั้นเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้

งานฉลองพระนครใกล้เข้ามาทุกที คนที่ติ่นเต้นมากที่สุดคือ ประไพ งานฉลองพระนครสิ้นสุดลงก็มิได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามคำทำนาย วันหนึ่งพ่อเพิ่มมาบอกพลอยว่าเกิด "กบฎ" โดยคณะราษฎร์ ซึ่งต่อไปจะให้ในหลวงอยู่ใต้กฎหมายแล้วจับเจ้านายหลายพระองค์ไปขังแล้ว ตาอั้นหายไปถึงสามวันก็ยังไม่กลับบ้าน เมื่อตาอั้นกลับมาแล้วรายงานว่า ในหลวงทรงตกลงยอม จะมีรัฐธรรมนูญและทรงรับเป็นกษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ตาอั้นขอร้องไม่ให้พลอยเรียกผู้ก่อการในวันนั้นว่ากบฎขอให้เรียกเสียว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตาอั้นมาบอกพลอยว่า ทหารโคราชและทหารหัวเมืองยึดดอนเมืองได้แล้ว ยื่นคำขาดให้รัฐบาลแก้ไขปกครองแผ่นดินใหม่ แต่รัฐบาลไม่ยอมจึงจำเป็นต้องสู้รบกันจนแพ้ชนะไปข้างหนึ่ง และทหารในอยุธยาซึ่งมีตาอ้นประจำการอยู่ฝ่ายโน้น

ตาอ้นและตาอั้นถูกการเมืองเข้ามาแบ่งแยกให้อยู่กันคนละฝ่าย ตาอ้นถูกคุมขังในฐานะจำเลยกบฎ คราวนี้และต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลพิเศษเพื่อพิพากษา พลอยได้แต่เป็นทุกข์ทรมานเพราะสงสารตาอ้น มีตาอ๊อดเพียงผู้เดียวที่เป็นฝ่ายคอยปลอบและให้กำลังใจพลอย ไม่นานตาอ๊อด ก็นำความมาบอกพลอยว่าศาลตัดสินประหารตาอ้นในคดีกบฎ

แผ่นดินที่ 4 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล

พลอยเริ่มใช้ชีวิตในแผ่นดินที่ 4 ในอายุของตนด้วยความรู้สึกนั้นอยู่ในวัยชรา พลอยมีอายุได้ 50 ปี พลอยใจหายเมื่อตาอ๊อดนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่มาให้ดู ยังทรงพระเยาว์พระชนมพรรษาเพียง 8-9 ปี

ประไพเป็นคนมีเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันมาก วันหนึ่งประไพขอให้พลอยจัดงานวันเกิดที่บ้าน ในบรรดาเพื่อนชายที่ประไพคบอยู่นั้นมีคนหนึ่งที่ประไพพูดถึงบ่อยๆชื่อ เสวี เป็นข้าราชการกระทรวงเดียวกับตาอั้น เสวีให้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอประไพ ซึ่งประไพเองก็ไม่ขัดข้อง หลังจากพิธีหมั้นของประไพกับเสวี เสวีก็ออกทุนปลูกตึกหลังใหญ่ทันสมัยเพื่อเป็นเรือนหอ

แล้ววันแต่งงานของประไพก็มาถึง มีแขกมาในงานมากมาย อีกคนหนึ่งที่ไม่พอใจในข่าวการแต่งงานของประไพคือ ตาอ้น เมื่อพลอยมีโอกาสไปเยี่ยมที่คุกบางขวาง ส่วนตาอั้นต้องการให้น้องสาวได้กับพรรคพวกทางการเมืองของตน ทั้งยังมีข่าวดีบอกกับพลอยทางรัฐบาลจะคัดตัวนักโทษไปอบรมแล้วปล่อยตัวออกไป

ในไม่ช้าในหลวงก็เสด็จกลับเยี่ยมพระนคร ไม่นานนักคุณอุ่นเสียชีวิตด้วยหัวใจหยุดเต้นในระหว่างหลับ งานศพคุณอุ่นเสร็จลง ตาอ๊อดก็บอกว่าทางการส่งตาอ้นไปคุมขังที่เกาะตะรุเตา

นับตั้งแต่อ้นถูกส่งตัวจากบางขวางไปเกาะตะรุเตา พลอยรู้สึกว่าตาอ๊อดเปลี่ยนไป จากเดิมมาก ในที่สุดตาอ๊อดตัดสินใจสมัครเข้ารับราชการวิสามัญชั้นโทที่กระทรวงธรรมการ แต่ไม่นานความขัดแย้งในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้านระหว่าง ตาอ๊อดกับตาอั้น รวมทั้งเสวี และประไพ ก็ได้ทำให้ตาอ๊อดตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่ปักษ์ใต้

ต่อมาไม่นาน เกิดการเรียกร้องดินแดนคืนจากอินโดจีนฝรั่งเศส ในที่สุดญี่ปุ่นก็มาเป็นผู้ระงับกรณีพิพาทเป็นผลทำให้ไทยได้รับดินแดนคืน เสวีเชื่อว่าต่อไปญี่ปุ่นจะเป็นชาติผู้นำ เสวีร่ำรวยขึ้นมากเพราะทำการค้ากับญี่ปุ่น ในยุคนั้นเองก็เกิดวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมาคือให้ใส่หมวก และห้ามกินหมาก ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาหมากพลูก็เป็นของหายากและเปลี่ยนสภาพเป็นของผิดกฎหมาย

ในช่วงสงคราม วันหนึ่งตึกใหญ่ก็โดนระเบิดลงพังเสียหายมากไม่มีทางที่จะกลับเข้าไปอยู่ได้อีก พลอยจึงอพยพลูกหลานไปอยู่บ้านคลองบางหลวง พลอยมาอยู่ที่คลองบางหลวงไม่นานก็ได้ข่าวตาอ๊อดป่วยเป็นมาลาเรีย พลอยจึงส่งยาไปให้แต่ทางรถไฟสายขาด วันหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น รัฐบาลสั่งปล่อยนักโทษการเมือง พลอยจึงเตรียมรับตาอ้นกลับบ้าน

ถึงวันนัดตาอั้นและพ่อเพิ่มก็กลับมาหาพลอยพร้อมกับจดหมายตาอ้นว่า ตาอ๊อดเจ็บหนัก ตนเองต้องคอยพยาบาลน้องชาย พลอยเริ่มเจ็บ กระเสาะกระแสะตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พลอยฝันว่าไปนั่งเล่นที่สนามหน้าบ้าน แล้วตาอ๊อดก็มานอนหนุนตัก แล้วบอกว่าลูกกลับมาแล้ว และจะอยู่กับแม่ตลอดไป ต่อมาตาอ้นกลับมากราบที่เท้าพลอยและร้องไห้แล้วบอกว่า ตาอ๊อดเพ้อถึงคุณแม่จนหมดลม

ตาอ้นตัดสินใจบวชให้อ๊อด พลอยเจ็บอยู่นานหลายเดือน ขณะนั้นเองก็มีข่าวใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ที่ดึงดูดความสนใจของพลอยด้วยกำลังแรงยิ่งกว่าข่าวใด นั่นคือ ข่าวพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 เสด็จนิวัติพระนคร พลอยได้เห็นพระเจ้าอยู่หัวถนัดชัดเจน ประทับบนรถที่นั่งมีสมเด็จพระอนุชาประทับอยู่เคียงข้าง

วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน พ่อเพิ่มเดินหน้าซีดมาบอกข่าวพลอยว่าในหลวงสวรรคต พลอยรู้สึกตัวลอยขึ้นสู่เบื้องบน ความทุกข์ทั้งหลายดูเหมือนจะหลุดพ้น พลอยนึกถึงคุณเปรมซึ่งดูเหมือนจะมาอยู่ใกล้ทุกครั้งที่ความทุกข์โทมนัส

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2498 น้ำในคลองบางหลวงลงแห้งเกือบขอดคลอง หัวใจพลอยที่อ่อนแอลง ด้วยโรคและความทุกข์ทั้งหลาย ทั้งปวงก็หลุดลอยไปตามน้ำ.

นักแสดง

ธีรภัทร์ สัจจกุล คุณเปรม
สิริยากร พุกกะเวส พลอย
ม.ล.สราลี จิราธิวัฒน์ แม่แช่ม
ธัญญา โสภณ เสด็จ
นิรุตติ์ ศิริจรรยา ท่านเจ้าคุณ (พระยาพิพิธ)
ชาคริต แย้มนาม อั้น
เกริกพล มัสยวานิช อ๊อด
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล อ้น
สุจิรา อรุณพิพัฒน์ ประไพ
นินนาท สินไชย พี่เนื่อง
สุนิสา บราวน์ ลูซิลล์
สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ ช้อย
ชุดาภา จันทเขตต์ คุณอุ่น
ชลิดา เถาว์ชาลี คุณเชย
ตฤณ เศรษฐโชค ท่านเจ้าคุณ (พระพิพิธ)
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ เสวี
พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร พ่อเพิ่ม
สถาพร นาควิสัย พ่อฉิม
ดารณีนุช โพธิปิติ คุณสาย
ศักราช ฤกษ์ธำรง หลวงโอสถ
นิลุบล อมรวิทวัส คุณหญิงเอื้อม
ณหทัย เล็กบำรุง แม่แวว
เบญจศิริ วัฒนา บุญสม
ณัฐพล คงสิน คุณชิด
มยุรี อิสระเสนา ณ อยุธยา นางพิศ
กฤต โพธิปิติ พ่อนพ
ปัณณทัต โพธิเวชกุล แม่ชั้น

นักแสดงวัยเด็ก

อรไพลิน พึ่งพันธ์ พลอย
ณัฐพร สุภาโชค ช้อย
มณิศา บุงกสิกร คุณอุ่น
รวิสุต มันตะเสรี พ่อเพิ่ม
รุจิษยา ทิณรัตน์ คุณเชย
แอนโทนิเดเนียม ฮา คุณชิด
ชินภัทร พึ่งพันธ์ พี่เนื่อง
ภัทรภณ จรดล อ้น
กฤณ โพธิปิติ อั้น
กฤตยชญ์ ทิมเนตร อ๊อด

(ภาพและข้อมูลจาก http://www.mcot.net/sipandin/)
กำลังโหลดความคิดเห็น