xs
xsm
sm
md
lg

เว่ยอู๋เซี่ยน #อยู่ไม่เป็น (2) “เค้าไม่ใช่เกย์นะ ...ตะเอง” !

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เว่ยอู๋เซี่ยน #อยู่ไม่เป็น (2)

“เค้าไม่ใช่เกย์นะ ...ตะเอง” !

เว่ยอู๋เซี่ยน เปลื้องผ้าสารภาพ ประกาศชัด “เจ้าวางใจได้ ข้ามิได้ชอบบุรุษ ! ... หานกวงจวิน ข้าเพียงถอดเสื้อของพวกเราทั้งสองออก แค่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น เจ้ายังบริสุทธิ์ไร้มลทิน โปรดวางใจ " ......

(ต่อจากตอนที่แล้ว)

อ่านนิยาย ดูซีรีส์ ย้อนดูสังคม !

"เว่ยอู๋เซี่ยน" ถูกสร้างภาพ พูดต่อๆ ให้ดู "น่ากลัว" จนไม่มีที่ยืนในสังคม กระทั่งบรรดาสำนักต่างๆต้องร่วมมือกันปราบ ! ชาวยุทธทั่วไปใช้เพลงกระบี่เป็นอาวุธ แต่เขาสร้างวิชาพิสดาร ใช้ขลุ่ยเลาเดียว ผิวเป็นเพลงกำกับมนตร์คาถาควบคุมสรรพสิ่ง
"คนคิดต่าง" ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ยุคสมัยใด มักแย้งกับกรอบ กฎ และความเชื่อตามขนบเดิม เว่ยอู๋เซี่ยนนิยมเผชิญหน้า มีพฤติกรรม-รสนิยมต่าง กล้าตั้งคำถามกับสิ่งขวางหน้า ด้วยหวังว่า จะเกิด "สิ่งใหม่" ที่ดีกว่าและ "ถูกต้อง" บนโลก !
เมื่อย้อนดูอุปนิสัยและชีวิตของ "ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน" แล้ว การติดแฮกแทชด้วยคำร่วมสมัยก็มิได้กล่าวเกินจริง เพราะ เว่ยอู๋เซี่ยน #อยู่ไม่เป็น #ไม่ถอย #ไม่ทน ตามประสา "มนุษย์คิดต่าง" โดยแท้!

ในเล่ม1 หน้า 91 เว่ยอู๋เซี่ยน กล่าวแก่อนุชนตระกูลหลานว่า
“ข้าว่าสกุลหลานของพวกเจ้านี่นะ สั่งสอนจรรยามรรยาทของสำนักเซียนกับประวัติความเป็นมาของตระกูลผู้บำเพ็ญเพียรให้มันน้อยๆหน่อย ให้ท่องแต่เรื่องไร้สาระอะไรไม่รู้ ทั้งยาว ทั้งน่าเบื่อ สู้เอาเวลามาสอนสิ่งที่ใช้ได้จริงไม่ดีกว่าหรือ”

ระหว่างอยู่เมืองอี้ เว่ยอู๋เซี่ยน ใช้ "วิชาแต้มดวงตาและร่วมจิต" ให้ประจักษ์แก่อนุชนกูซู และจินหลิง เพื่อบอกเป็นนัยว่า เลิกความคิด ความเชื่อแบบเก่าๆอันคร่ำครึ กฎเกณฑ์จารีตโบราณของสำนัก มาสู่การปฏิบัติได้จริงย่อมดีกว่าเชื่อทฤษฎีที่บอกต่อกันมา บางข้อเชื่อโดยไม่มีข้อพิสูจน์ให้เห็นกับตาด้วยซ้ำ !
“บางที "วิชามาร" ก็สามารถหยิบมาใช้เป็น "คุณ" ได้”
ตอนนี้ดัดแปลงจากเรื่องเดิมที่อ่านสนุกมาก วิชานี้ ทำเอาเด็กๆ ตะลึง อ้าปากค้าง

เรื่องดำเนินว่า นักพรตเสี่ยวซิงเฉิน (แท้จริงคือเซวียหยางแปลง) ตาบอดอยู่นอกบ้านแม่เฒ่าที่เว่ยอู๋เซี่ยนและอนุชนเข้ามาหลบอาศัยอยู่ ด้านนอกมีหมอกพิษ และหุ่นเชิด ! เมื่อออกจากบ้านไม่ได้ ในสถานการณ์นี้เพื่อที่จะพาเสี่ยวซิงเฉินเข้ามาในบ้าน จึงใช้วิชา "แต้มดวงตา" ! ที่นวนิยายว่าไว้ต่างจากซีรีส์

ภายในบ้าน มีหุ่นกระดาษสาวใช้ 2 นาง เหมือนพี่น้องฝาแฝด ไม่ว่าจะเป็นการเขียนสีแต่งหน้า ทำผม สวมเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ล้วนลม้ายกัน ... วิชานี้เริ่มจากเอาเลือดเจ้าพิธี "แต้มดวงตา" ของหุ่นสาวใช้ทั้งคู่
"ตางามปิดด้วยขวยเขิน ปากแดงเปิดอ้าแย้มยิ้ม มิถามว่าดีหรือร้าย ข้าขอเบิกเนตรอัญเชิญ" (เล่ม 2 หน้า 50) จบคาถาอัญเชิญ หุ่นก็มีชีวิต หัวเราะคิกคัก เว่ยอู๋เซี่ยนกำกับคำสั่งว่า "พาคนเข้ามา นอกนั้นทำลายสิ้น ไม่มีเหลือ" .... แล้วหุ่นก็ล่องลอย ย่างเท้าว่องไว เมื่อหุ่นเชิดกรูเข้ามา สาวใช้ทั้งสองพลิ้วตัวโบกชายเสื้อเป็นอาวุธ บรรดาหุ่นเชิดหรือผีดิบทั้งหลายก็ถูกชายเสื้อบาดจนแขนขาด ตัวขาด ไม่มีชิ้นดี จนหมดสิ้น

อีกวิชาหนึ่งที่ ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน ใช้คือ ร่วมจิต (นวนิยาย) หรือ เชื่อมจิต (ซีรีส์) ซึ่งเป็นวิชาที่เขาถนัดที่สุด ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องราวของเซวียหยาง, เสี่ยวซิงเฉิน, ซ่งจื่อเชิน และอาซิ่ง ในเมืองอี้ทั้งหมด ซึ่งวิชานี้คือ การอัญเชิญวิญญาณอาซิ่งมาประทับร่าง โดยใช้ร่างกายของผู้อัญเชิญเป็นตัวกลาง ทะลวงความทรงจำ จิตวิญญาณของผู้ตาย โดยผู้ประทับจะต้องมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ด้วย !
ต่อมา วิชานี้ เว่ยอู๋เซี่ยนได้ใช้เมื่อเป็น "ตุ๊กตากระดาษ" เข้าห้องลับของจินกวงเหยา จนรู้ความลับอีกหลายอย่าง

กฎเพื่อ"กด" !

สายคาดหน้าผากของตระกูลหลานแห่งกูซู เป็นของสูง ! แท้จริงคือ สัญลักษณ์แทนการผูกมัดด้วยกฏเกณฑ์
ในเล่มที่ 2 หน้า 223 หลานซือจุย กล่าวว่า "หลานอัน บรรพชนผู้ก่อตั้งสกุลหลานแห่งกูซูกล่าวไว้ว่า เฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่ฟ้าลิขิตไว้ และปักใจมั่นเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องผูกมัดใดๆ ดังนั้นคำสอนที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น สายคาดหน้าผากของตระกูลพวกเราเป็นของล้ำค่าที่เป็นส่วนตัวและละเอียดอ่อนยิ่งนัก นอกจากตัวเองแล้ว ห้ามผู้อื่นแตะต้องหรือปลดออกมาส่งเดชเป็นอันขาด และมิอาจนำมันมาผูกบนตัวคนอื่น นี่คือข้อห้าม..."

ในซีรีส์ หลานจ้านเคยปลดสายคาด เพื่อรัดข้อมือเว่ยอู๋เซี่ยน เพื่อป้องกันวิถี "สายพิณพิฆาต" ! เมื่อเข้าไปยังถ้ำสระเหมันต์และพบกับ "หลานอี้" ปรมาจารย์หญิงคนเดียวในตระกูลหลานที่คิดค้นสายพิณพิฆาต
เล่ม 3 หน้า 59 เล่าว่า "หลานอี้คิดค้นสายพิณพิฆาตขึ้นเพื่อลอบสังหารผู้ขัดแย้ง ด้วยเหตุนี้ จึงถูกประณามอย่างรุนแรง สกุลหลานแห่งกูซูเองก็รับมือคำวิพากษ์ประมุขท่านนี้อย่างไม่ใคร่ชัดเจนนัก แต่ปฏิเสธมิได้ว่า วิชาสายพิณพิฆาตเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาลับที่มีพลังพิฆาตแข็งแกร่งที่สุดของสกุลหลานแห่งกูซู และเป็นยุทธวิธีที่มีกิตติศัพท์ระบือไกล"

อีกตอนหนึ่งในถ้ำเสวียนอู่ ขาของหลานจ้านได้รับบาดเจ็บ เว่ยอู๋เซี่ยน ถือวิสาสะดึงสายรัดมารัดแผลที่ขาให้กับหลานวั่งจี จนอีกฝ่ายถลึงตายใส่ !
เล่ม 3 หน้า 44 ว่า "ข้าทำไม ... เวลานี้อย่ามัวถือสาเรื่องหยุมหยิมอยู่เลย ต่อให้เจ้าชอบสายคาดหน้าผากเส้นนี้มากแค่ไหน แต่มันคงไม่สำคัญไปกว่าขาเจ้าหรอกนะ จริงหรือเปล่า"

เวลาเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน

16 ปีให้หลัง “หลานวั่งจี” แทบไม่เหลือ "มนุษย์กรอบผู้เก็บกดและเคร่งครัด" อย่างในอดีต คงเหลือแต่ "ความสง่างาม-พูดน้อย-ชัดเจน" เฉพาะเวลา "ไม่เมา" เท่านั้น ! ไม่ยี่หระ หรือ หวั่นไหวกับอนาคต แต่ขอเลือก "ชีวิตลิขิตเอง"!
เมื่อจินกวงเหยาเผยฐานะในเว่ยอู๋เซี่ยน ในจินหลินถาย (หอเกล็ดทอง)... เว่ยอิง บอกว่า "หานกวงจิน เจ้าไม่ต้องตามข้ามาหรอก ! ... เจ้าจะไปกับข้าจริงหรือ คิดให้ดี เมื่อพ้นประตูนี้ไป ชื่อเสียงของเจ้าจะย่อยยับป่นปี้ทันทีนะ !" (เล่ม 2 หน้า 361)

ที่ล่วนจั่งกั่ง (เนินป่าช้า) หลานวั่งจียืนข้างเว่ยอู๋เซี่ยน ไม่ยอมไปร่วมสังฆกรรมกับฝ่ายอาและบรรดาเซียนทั้งหลาย "หลานฉี่เหรินเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี นี่เป็นคำตอบอันเด็ดเดี่ยวและมิอาจสั่นคลอนของหลานวั่งจี" (เล่ม 3 หน้า 249)

เรื่องสายรัดนี้ ครั้งหนึ่ง ตอนเมา... หลานวั่งจีใช้สายคาดหน้าผากมัดมือทั้งสองข้างของเว่ยอู๋เซี่ยน แถมผูกปม เดินอ้อยอิ่ง ตอนแรกผูกเงื่อนเป็น แล้วเปลี่ยนเป็นเงื่อนตาย และผูกซ้ำอีกทบ แต่สายคาดมีความยาวมาก จึงมัดเงื่อนตาย 7-8 ทบซ้อนกันเป็นตะปุ่มตะป่ำ จนพอใจ จึงหยุดผูก ...

โม่เชียงถงซิ่ว คงไม่ได้ต้องการบอกแค่ เว่ยอู๋เซี่ยนคือ ผู้ที่ฟ้าลิขิตไว้ ! เท่านั้น แต่การที่หลานวั่งจีไม่เคร่งครัดกับกฎดังเมื่อก่อน ย่อมเป็นการประกาศ ชีวิตอิสระ ไร้พันธนาการ หลุดพ้น ละวางกฎเกณฑ์ บอกเลิกความเชื่อในวิถีเดิมๆ สู่มิติใหม่ โดยไม่แคร์ต่อเครื่องห่อหุ้ม ซึ่งแฝงด้วย “ทฤษฎีเหนี่ยวรั้ง” แต่ประการใด

กระต่าย "ผู้" สองตัวทับกัน!

เล่มที่ 1 หน้า 82 กล่าวว่า "นี่คือใบหน้าของหนุ่มแปลกหน้า มิใช่ใบหน้าของผู้เคยพลิกฟ้าถล่มปฐพี และก่อมรสุมคาวเลือดให้คละคลุ้งทั่วแผ่นดิน นามว่า ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน"

เล่มที่ 3 หน้า 47 ในถ้ำเสวียนอู่ เว่ยอู๋เซี่ยนจงใจเปลื้องผ้า เพื่อให้อีกฝ่ายโกรธจนหน้าเขียว กระอักเลือดคลั่งออกมา เขากล่าวว่า "เลือดพวกนี้ หากปล่อยไว้จะทำลายสุขภาพมากนะ แต่แค่ตกใจมันก็ออกมาแล้ว เจ้าวางใจได้ ข้ามิได้ชอบบุรุษ ไม่คิดจะฉวยโอกาสทำอะไรเจ้าหรอกน่า"

เล่ม1 หน้า 109 ว่า
"เว่ยอิงเสเพล เจ้าสำราญ ทำตัวกะลิ้มกะเหลี่ย หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า เขาชอบบุรษ ต่อให้ยึดร่าง ด้วยรสนิยมของเว่ยอิงแล้ว ไม่มีทางที่เขาขจะเลือกร่างเจ้าลักเพศ ละเลงหน้าราวผีผูกคอตาย"

"ชายรักชาย" เป็นพฤติกรรมและบุคลิกของ "โม่เสวี่ยนอวี่" ! และเพื่อเบนความสนใจ ให้ทุกคนคิดว่า เขามิใช่เว่ยอู๋เซี่ยน แต่เป็นโม่เสวียนอวี่ ! เขาจึงกล่าววาจาที่หลานจ้านฟังแล้ว ต้องร้องอี๋และขนพองสยองเกล้า "แบบหานกวนจวินไง ที่ข้าชอบมาก !"

16 ปีให้หลัง แทนที่อีกฝ่ายจะสะดุ้งตกใจ สาดสายตาอันคมกริบอย่างเมื่อก่อน แต่หานกวนจินกลับหันมาบอกว่า "คำพูดนี้ เจ้าพูดเองนะ" ! ก่อนที่ใครจะพูดความใด หลานวั่งจีชิงประกาศแก่ทุกคน อันได้แก่เจียงเฉิง และเหล่าอนุชนทั้ง 2 ตระกูลว่า "คนผู้นี้ ข้าจะพากลับสกุลหลาน" !?
ในซีรีส์ EP 25 มีคำกล่าว"พี่ใหญ่ ข้าอยากพาคนผู้หนึ่งกลับอวิ๋นเซินปู้จื้อฉู่ พากลับไป ซ่อนเขาไว้" !

อย่างที่ทราบกันว่า "ปรมาจารย์ลัทธิมาร" เป็นนวนิยายกำลังภายในแนววาย มีพรรณาโวหาร อุปมาอุปมัยให้มโน-ตีความกันไป พูดถึงการหลับนอนของคนทั้งคู่อยู่หลายตอน ให้มี "กลิ่น" สัมผัสเท่านั้น ไม่ได้ "ทะลวง-ฮาร์ดคอร์" แต่ประการใด !

เรื่องกระต่ายตัวผู้สองตัว ปรากฏบทสนทนา ในเล่มที่ 1 หน้า 189 ว่า "เจ้าดูพวกมันสิ ทับกันแบบนี้ ใช่กำลัง ... / พวกมันเป็นตัวผู้ทั้งคู่ / ตัวผู้รึ น่าประหลาดเหลือเชื่อ ... เป็นตัวผู้จริงด้วย แต่ตัวผู้ก็ตัวผู้สิ เมื่อครู่ข้ายังพูดไม่ทันจบ เจ้าจะเคร่งเครียดไปใย เจ้าคิดไปถึงไหนนี่ จะว่าไป สองตัวนี้ ข้าเป็นคนจับมา ไม่ได้สังเกตเลยว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย แต่เจ้ากลับดูตรงนั้น"

คราวหนึ่ง เว่ยอู๋เซี่ยน ชี้มาที่ตัวเอง แล้วถามหลานวั่งจีตอนเมาว่า "แล้วนี่เล่า เป็นเช่นไร" อีกฝ่ายตอบว่า "ของข้า" ! ครั้งนั้น เว่ยอู๋เซี่ยนคิดว่า ฝ่ายตรงข้ามคงเข้าใจและหมายถึงกระบี่ปี้เฉินของหลานวั่งจีที่เขาสะพายอยู่

ในอดีต หลานวั่งจี จะรังเกียจ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับกายผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ! แต่ในปัจจุบัน ...
เล่มที่ 1 หน้า 129 กล่าวว่า "ทั้งร่างของเว่ยู๋เซี่ยนอยู่เหนือหลานวั่งจี ในท่าสองขาแยกออก คุกเข่าคร่อมช่วงบั้นเอว มือสองข้างยันตั่งไม้ กักตัวหลานวั่งจีไว้ระหว่างสองแขน เขาค่อยๆโน้มหน้าลง ระยะห่างระหว่างใบหน้าทั้งสองก็ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และเรื่อยๆ จวบจนเว่ยอู๋เซี่ยนเริ่มหายใจลำบาก ในที่สุด หลานวั่งจีก็ยอมปริปาก
ลงไป-ไม่ลง - ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็นอนแบบนี้ทั้งคืนแล้วกัน ! ...
ระหว่างที่เขารู้สึกเหมือนมีคลื่นยักษ์ถาโถมชวนหวาดผวา จู่ๆ หลานวั่งจีก็ขยับตัวลุกขึ้นเล็กน้อย เว่ยอู๋เซี่ยนนึกว่า ในที่สุด ฝ่ายตรงข้ามก็ทนไม่ไหวแล้ว ในใจจึงพลันลิงโลด แต่ที่ไหนได้ หลานวั่งจีเพียงโบกมือเขาๆ ...ตะเกียงก็ดับลง"

เล่ม 1 หน้า 330 ว่า "พ่อบุรุษถือพรหมจรรย์ ! หานกวงจวิน ข้าเพียงถอดเสื้อของพวกเราทั้งสองออก แค่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น เจ้ายังบริสุทธิ์ไร้มลทิน โปรดวางใจ !"

เหตุเปลี่ยนไปแบบนี้ซะแล้ว หลานวั่งจี สุภาพชนเป๊ะทุกกระเบียด ไม่ว่า จะเป็นกฎสำนัก จนถึงการเข้าสังคม วางตัว เมื่อก่อนหลานวั่งจีจะทนไม่ได้ เมื่อเว่ยอู๋เซี่ยนทำอะไรผิดนิดๆหน่อยๆ เป็นต้องท้วงติง แต่ปัจจุบัน หลานวั่งจีกลับทนได้ทุกอย่าง ! ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะประพฤติตัวแสดงกิริยาแสร้งผิดเพศ หรือทำตัววิปลาสเช่นไรก็ตาม

ความลับใน "อวิ๋นเซินปู้จือชู่"

อาศรมเยือกเย็น (เรือนพำนัก) ในแดนเร้นเมฆา "อวิ๋นเซินปู้จือชู่" มีความลับ ! ความนี้ไม่เคยแพร่งพรายสู่คนนอก หลานซีเฉิน เล่าให้เว่ยอู๋เซี่ยนฟัง ขณะที่ไม่มีหลานวั่งจี ผู้เป็นน้องชายอยู่ด้วย ...
อาศรมเยือกเย็น ที่หานกวงจินใช้พักอาศัยในอวิ๋นเซินปู้จือชู่ แต่เดิม คือ บ้านพัก ซึ่งควรเรียกว่า คือ "ที่กักกัน" มากกว่า

ฮูหยินท่านนี้ แม้ประวัติ หรือ รูปโฉมก็ไม่เคยปรากฏให้คนเห็น ดังนี้ จึงมีคนคาดการณ์ไป ต่างๆนานา เช่น นางอาจจะ "พิการหรือเสียโฉม" ก็เป็นได้ ! ความจริงแล้ว ... ความลับของ "พ่อและแม่" ของ 2 พี่น้อง เป็นเรื่องน่าเศร้า ! ความรักที่พ่อของเขา "ซิงเหิงจวิน" ที่มีต่อนาง ทำให้จำต้องทำเช่นนี้ ฝ่ายหญิงไม่ได้มีจิตพิศวาสต่อพ่อของเขาแต่อย่างใด !

นางได้สังหารอาจารย์ท่านหนึ่งของชิงเหิงจวิน ! แต่เขาก็ยังแต่งงานและพานางเข้ามายังแดนนี้อย่างลับๆ โดยไม่สนคำทัดทาน พร้อมประกาศว่า ผู้นี้คือ "ภรรยา" หากใครจะแตะต้องนาง ต้องผ่านเขาไปก่อน ! เมื่อเข้ามายังอวิ๋นเซินปู้จือชู่ จึงสร้าง "อาศรมเยือกเย็น" แห่งนี้ขังแม่เขาไว้ และสร้างเรือนอีกแห่งหนึ่งเพื่อขังตัวเอง อ้างว่า ฝึกวิชา แท้จริงคือ สำนึกตน
สองพี่น้องพบแม่เดือนละครั้ง มีชีวิตและเป็นความหวังของหลานฉี่เหริน ผู้เป็นอา ! ด้วยหวังว่า ทั้งคู่จะไม่เลือกเดินทางผิดกฎเกณฑ์และทำนองคลองธรรม

อู๋เว่ยเซี่ยน กล่าวว่า "เขาทั้งมิอาจให้อภัยฆาตกรที่สังหารอาจารย์ผู้มีพระคุณของตัวเอง และมิอาจทนเห็นหญิงอันเป็นที่รักตายจาก จึงจะต้องแต่งงานกับนางเพื่อคุ้มครองชีวิตนางไว้ และบังคับตัวเองไม่ให้ไปพบนาง" (เล่ม 3 หน้า 208-209)
"ความรัก" มักจะซ่อนเรื่อง "น่าเศร้า" !ในฉากหลัง ที่ฉายภาพเบื้องหน้าแห่ง "ความสุข" ... 
..........
แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะจบลงโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ภาคนวนิยายแปลในเมืองไทยยังเหลืออีก 2 เล่ม ซึ่งเป็นรายละเอียดที่เหมือนหรืออาจจะแตกต่างกันในบางช่วงตอน ดังที่ละครออนไลน์ยกตัวอย่างมา "อ้างอิง"
ยืนยันว่า ถ้าคุณประทับใจซีรีส์เรื่องนี้ ก็ควร "อ่าน" ! เพราะจะได้เห็นเรื่องราวอีกหลายแง่มุมที่อาจจะไม่มีในซีรีส์

คุณๆ สามารถติดตามหนังสือชุดนี้ได้ที่ เบเกอรี บุ๊คหรือสอบถามรายละเอียด ที่ โทร. 082-796-6696หรือ www.bakerypublishing.com

แกะกล่อง "BOX SET THE UNTAMED" >> https://mgronline.com/drama/detail/9630000004112

เว่ยอู๋เซี่ยน #อยู่ไม่เป็น (1) >> https://mgronline.com/drama/detail/9630000006715

เว่ยอิง - เว่ยอู๋เซี่ยน - ปรมาจารย์อี๋หลิงกับขลุ่ยเฉินฉิง(ฟื้นอดีต)

ทั้งที่รู้ดีว่าทำไม่ได้ แต่ยังคงกระทำ !

อาศรมเยือกเย็น (เรือนพำนัก)กับความลับตระกูลหลาน !

พิณกู่ฉินกับบทเพลงวั่งจี (ลืมกิเลส)

กระต่าย (หลาน) จ้าน

สายคาดหน้าผาก ของสูง ! สัญลักษณ์แทนการผูกมัดด้วยกฏเกณฑ์

เว่ยอิง,หลานจ้าน, หลานฮ่วน, เจียงเฉิน, เวินหนิง

ปรมาจารย์ลัทธิมาร เล่ม 3 สนพ. เบเกอรี่บุ๊ค

เว่ยอิง -  คิดต่าง แย้งกฎ อดทนน้อย ไม่กลัวฟ้า-ดิน รักความถูกต้อง กล้าหาญ

เว่ยอู๋เซี่ยน(ในร่างโม่เสวียนอวี่) เนื่องจากใช้นักแสดงคนเดียวกัน สังเกตจาก ไฝเล็กๆใต้ริมฝีปาก

หลานจ้าน, หลานวั่งจี, หานกวงจิน รูปโฉมสง่างาม เที่ยงตรง เคร่งขรึม เย็นชา พูดน้อย ปิดกั้นตนเองจากผู้อื่น

หลานซีเฉิน, หลานฮ่วน, เจ๋ออู๋จวิน ประมุขสกุลหลานแห่งกูซู

ขุนพลผีเวินหนิง

เจียงเฉิง, เจียงหวั่นอิ๋น ประมุขสกุลเจียงแห่งอวิ๋นเมิ่ง

จินกวงเหยา, เมิ่งเหยา, เหลี่ยนฟางจุน ประมุขสกุลจินแห่งหลานหลิง เจ้าของกระบี่อ่อนเยิ่นเซิง (ชังชาติ)

เซวียหยาง ผู้บูรณะตราพยัคฆ์ทมิฬ เจ้าของกระบี่เจี้ยงจาย (นำภัย)

นักพรตเสี่ยวซิงเฉิน  เจ้าของกระบี่ซวงหวา (พราวน้ำค้าง)

นักพรตซ่งจื่อเชิน, ซ่งหลาน  เจ้าของกระบี่ฝูเสวี่ย (ปัดหิมะ)

หลานซือจุย หนึ่งในอนุชนสกุลหลาน

จินหรูหลาน , จินหลิง หลานชายเจียงเฉิน

อวี๋จื่อเยวียน แม่ของเจียงเฉิง

เจียงเฟิงเหมียน พ่อของเจิงเฉิง อดีตประมุขสกุลเจียง


กำลังโหลดความคิดเห็น