ใจลวง ตอนที่ 23
เพชรพริ้งเดินมาถึงหน้าบ้านเช่าของพายุ
เธอพยายามมองเข้าไปในบ้านแต่ไม่เห็นใคร เธอกดกริ่งที่หน้าประตู แต่ทุกอย่างก็เงียบ เพชรพริ้งหงุดหงิดจึงกดกริ่งรัวๆ
สักพัก... พัชชาก็ออกมาจากตัวบ้าน สองมือยังคงปรับแต่งผมให้เข้าที่ เพราะเพิ่งลุกจากเตียง เธอกึ่งแปลกใจ กึ่งตกใจเมื่อเห็นเพชรพริ้ง
"อ้าวพริ้ง จะมาทำไมไม่บอกก่อน"
"พริ้งโทร. หาแล้วคุณแม่ไม่รับ เลยส่งข้อความมาบอกแต่สงสัยคุณแม่คงไม่ได้อ่าน"
"แล้วนี่ลูกมาถูกได้ยังไง"
พายุเดินตามออกมาพอดี
"ก็มาตามรายละเอียดที่คุณแม่ส่งให้ทางโทรศัพท์น่ะค่ะ แล้วนี่..." เธอมองพายุอย่างสงสัย
พายุมองเพชรพริ้งอย่างรักใคร่ "พริ้ง"
"นี่ลุงพายุ ญาติของแม่ไง"
"ไม่เห็นคุณแม่บอกพริ้งเลยว่ามาพักอยู่กับญาติ ... ผู้ชาย" เพชรพริ้งไม่พอใจ
"ก็มีแต่เรื่องยุ่งๆ แม่คงลืมบอกน่ะ สวัสดีลุงพายุซะสิ ลูกเคยเจอลุงเขาเมื่อตอนลูกเป็นเด็กๆ"
"เข้าบ้านกันก่อนไหมพริ้ง กินน้ำกินท่าก่อน" พายุถาม
"ไม่ล่ะค่ะ แค่อยากมาดูว่าคุณแม่โอเคหรือเปล่า" เพชรพริ้งมองลักษณะบ้าน "แต่บ้านแบบนี้คุณแม่จะอยู่ได้ยังไง"
"ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นล่ะน่า แต่ถึงแม่จะอยู่ที่ไหนเป้าหมายของเราไม่เคยเปลี่ยน"
"เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณลุงเขาคงไม่ยกอะไรให้พริ้งหรอกค่ะ"
"เรื่องนั้นลุงจะช่วยเอง ทุกอย่างที่พริ้งควรจะได้ ลุงจะช่วยให้มันเป็นของพริ้ง"
รวิปรียายืนซึมอยู่มุมหนึ่งของบ้านสิริคุณานันท์ เพชรแท้เข้ามายืนมองถอนหายใจ
"พี่รวิ นี่พี่จะกลับมาอยู่บ้านแล้วหรือครับ"
รวิปรียาหันมามองเพชรแท้ แววตายังคงเศร้าหมอง
"เห็นเด็กบอกว่าพี่ขนของมาจากบ้านนั้นเกือบหมด"
"พี่คงจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว"
"เป็นเพราะดาวิกาใช่ไหมครับ"
"เพชรรู้ได้ยังไง"
"ก็เรื่องนี้แหละครับที่ผมอยากคุยกับพี่"
เพชรพริ้งนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องพักของเมฆา
"เมื่อไหร่จะกลับคะเมฆา พริ้งมารอที่ห้องนานแล้ว ...ไปประชุมแทนคุณเทวา? ทำไมถึงต้องไปกระทันหันแบบนี้ล่ะ" เธอรอฟังตาค่อยๆโตขึ้น
"คุณดาอยู่โรงพยาบาล ไม่สบายเป็นอะไรคะ"
เพชรพริ้งฟังเสียงเมฆาจากปลายสาย ค่อยๆนั่งตัวตรงขึ้น พลางใช้ความคิด ระหว่างฟังเรื่องราว
รวิปรียากับเพชรแท้คุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งในบ้าน เพชรแท้เล่าเรื่องระหว่างเขากับดาวิกาให้รวิปรียาฟังแล้ว
"นี่หมายความว่าเพชรกับคุณดาคบกัน"
"เราแค่กำลังจะเริ่มคบกันครับพี่ ตอนแรกเหมือนจะไปได้ดีแต่ผมมารู้ความจริงเข้าซะก่อน ผมเลยจำเป็นต้องถอยห่างออกมา"
"พี่ขอโทษนะเพชร เป็นเพราะพี่แท้ๆเลย ที่ทำให้เพชรกับคุณดาต้องจบลงแบบนี้ พี่ไม่คิดเลยว่าความผิดของพี่มันจะกระทบไปถึงเพชรด้วย"
"อย่าพูดอย่างนั้นสิครับพี่รวิ พี่รวิไม่ได้ทำผิดเพราะพี่ไม่ใช่คนที่ทำให้พี่พศินตาย"
"แต่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ พี่ก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออก แล้วในวันเกิดเหตุวันนั้น ถ้าพี่ไปหาพศินทันเวลา เขาก็คงไม่ตาย"
"เรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว แต่เราทำปัจจุบันให้ดีได้นี่ครับ อย่างเรื่องพี่กับคุณเทวา"
เพชรแท้ทิ้งท้ายไว้เพื่อรอดูท่าทีของรวิปรียา
"เราเลิกกันแล้ว"
"ผมรู้ว่าพี่เจ็บปวดและลำบากใจ แต่ถ้าพี่กับคุณเทวารักกัน ทุกอย่างแก้ไขได้นะครับ"
"คำว่ารักจากปากผู้ชายคนนั้นมันคือยาพิษ ทุกครั้งที่เขาเอ่ยคำว่ารัก เจตนาของเขาคือจะฆ่าพี่ให้ตายทั้งเป็นทีละน้อย พี่ไม่ควรจะรู้จักเขา ไม่ควรจะหลงเชื่อเขา ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการที่จะแก้แค้นพี่อยู่แล้วตั้งแต่แรกที่รู้จักกัน"
"แล้วถ้าวันนึง พี่ได้รู้ว่าพี่พศินเขาไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังจากพี่ พี่กับคุณเทวาจะกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม"
"ปัญหาระหว่างพี่กับเขาไม่เกี่ยวกับพศินเลย แต่มันเป็นเพราะเขาหลอกลวงพี่มาตลอด ทุกอย่างที่เขาทำมันเป็นเรื่องโกหก"
"แต่พี่แน่ใจหรือครับว่าคุณเทวาเขาหลอกพี่ แน่ใจหรือครับว่าเขาไม่ได้รักพี่"
"เขายอมรับกับพี่เอง ว่าเขาต้องการแก้แค้นให้ดาวิกา เพชรจะให้พี่กลับไปหาเขา ไปนอนข้างๆผู้ชายที่เห็นเราเป็นศัตรู พี่ทำไม่ได้ พี่กลับไปหาเขาไม่ได้อีกแล้ว"
มุมหนึ่งของผนัง ไม่ไกลจากจุดที่รวิปรียากับเพชรแท้คุยกัน เพชรพริ้งที่เพิ่งกลับเข้ามาในมือยังถือกระเป๋ายืนฟังเรื่องทั้งหมดอยู่ สีหน้าเพชรพริ้งยิ้มเย้ยหยันในโชคชะตาของรวิปรียา เรื่องที่เธอสร้างขึ้นในอดีตและคิดว่าเสียเวลาเปล่าเมื่อตอนนั้น
วันนี้กลับกลายเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล
ห้องพักคนไข้ ในโรงพยาบาล
ดาวิกานอนเหม่ออยู่บนเตียง เสียงเคาะประตูดังขึ้น เพชรพริ้งเปิดประตูเข้ามา ดาวิกาหันมามอง
"คุณพริ้ง"
"พริ้งได้ข่าวว่าคุณไม่สบายน่ะค่ะ ก็เลยมาเยี่ยม แล้วนี่อยู่คนเดียวหรือคะ"
"ค่ะ เดี๋ยวสักพักพี่เทวาก็คงมา"
"คุณดาเป็นยังไงบ้างคะ"
ดาวิกาเงียบเพราะไม่อยากพูดว่าเกิดอะไรขึ้น เพชรพริ้งมองที่ข้อมือดาวิกาซึ่งมีผ้าพันแผล อ่านสถานการณ์ออก
"พริ้งเข้าใจดีค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ไม่มีใครเข้าใจหรอก มีแต่คนเขาหาว่าดาบ้าแล้วก็โง่ที่ทำแบบนี้ลงไป"
"ที่พริ้งเข้าใจก็เพราะว่า... ที่จริงพริ้งก็เคยคิดจะทำแบบเดียวกับคุณดาเหมือนกัน"
"คุณพริ้งหมายถึง..."
"ค่ะ เมื่อหลายปีก่อนพริ้งเคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะรวิปรียา"
"รวิ..."
"รวิเขามีนิสัยประหลาดค่ะ เขามักจะทนไม่ได้เวลาเห็นคู่รักที่มีความสุข ทุกครั้งที่พริ้งมีคนรัก เขาจะทำทุกอย่างเพื่อแย่งผู้ชายของพริ้ง ตอนนิมมานนั่นไงคะที่รุนแรงที่สุด พริ้งคบกับนิมมานมาก่อน แต่รวิก็หว่านเสน่ห์ใส่นิมมานสารพัด จนนิมมานเผลอใจ ตอนนั้นล่ะค่ะที่พริ้งอยากจะตายที่สุด แต่ก่อนที่พริ้งจะทำร้ายตัวเอง พริ้งก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพริ้งจะลงโทษตัวเองไปเพื่ออะไร คนที่สมควรจะถูกลงโทษคือรวิ..ไม่ใช่พริ้ง"
"คุณพริ้งเข้มแข็งมากกว่าดาค่ะ"
"พริ้งต้องเข้มแข็งเพื่อที่จะเอาชนะผู้หญิงไร้ยางอายแบบนั้นให้ได้ไงคะ"
"ผู้หญิงสารเลวคนนั้นก็ทำร้ายจิตใจดาเหมือนกัน เขาทำให้พศินหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วที่พศินฆ่าตัวตายก็เป็นเพราะเขา"
"พศิน.." เพชรพริ้งแสร้งทำหน้าสงสัย
"แฟนเก่าดาเองค่ะ คุณพริ้งรู้จักหรือคะ"
"ต้องรู้สิคะ เพราะเขาไปหารวิที่บ้านบ่อยๆ พริ้งคิดว่าเขาสองคนเป็นแฟนกัน แต่ไม่เคยรู้ว่าพศินกับคุณดา.. แต่โอเคค่ะ ตอนนี้พริ้งเข้าใจแล้ว เมื่อเรามีศัตรูคนเดียวกัน เราก็ถือว่าอยู่ข้างเดียวกัน จริงไหมคะ"
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่หันไปมอง คราวนี้คนที่เปิดประตูเข้ามาคือเพชรแท้ เขามองพริ้งอย่างแปลกใจ
"พี่พริ้ง นี่พี่มาทำอะไรที่นี่"
"ก็เห็นอยู่แล้วนี่ว่าฉันมาเยี่ยมคุณดา นี่คุณดารู้จักน้องชายพริ้งด้วยหรือคะ"
"เป็นแค่คน “เคย” รู้จักน่ะค่ะ"
"ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ นี่คุณจะทำร้ายตัวเองแบบนี้ไปถึงไหน"
"มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณกลับไปได้แล้ว"
เพชรแท้ไม่ยอมง่ายๆ เขาหันไปหาเพชรพริ้ง
"พี่พริ้ง ผมขอคุยกับดาเป็นการส่วนตัว"
"งั้น.. เอาไว้พริ้งจะมาเยี่ยมใหม่นะคะคุณดา"
เพชรพริ้งออกจากห้องไป ปล่อยเพชรแท้ไว้กับดาวิกาตามลำพัง
ที่หน้าห้องพักผู้ป่วย เพชรพริ้งออกมาแล้วปิดประตู ยิ้มมุมปากพึมพำออกมา
"เรื่องชักจะสนุกขึ้นแล้วสิ" เพชรพริ้งเชิดหน้า
ภายในห้อง เพชรแท้จับจ้องดาวิกาอย่างเอาจริง
"ผมอยากให้คุณเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง"
"คุณเป็นน้องชายของศัตรูฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องฟังคำแนะนำจากคุณ"
"ก็เพราะผมเป็นห่วงคุณจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่ไง ที่คุณเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอาการป่วยของคุณ ยิ่งคุณจมอยู่กับความแค้น คุณก็ไม่มีทางหายจากโรคที่คุณเป็น"
แววตาดาวิกายังคงดื้อดึง ไม่อยากพูด
"พอได้ไหมดา ผมขอร้อง ตอนนี้คุณเทวากับพี่รวิก็เลิกกันแล้ว คุณยังจะต้องการอะไรอีก"
"ฉันต้องการให้พี่สาวคุณมาคุกเข่าขอโทษฉัน แต่ที่มากกว่านั้นคือฉันอยากเห็นพี่สาวคุณเจ็บปวดตรอมใจจน .... ตาย" ดาวิกาถลึงตาแบบโรคจิต
"เพื่ออะไร"
"เพื่อความยุติธรรมต่อพศิน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ชีวิตต่อชีวิต"
"พี่รวิเขาไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ เขาไม่มีทางเอาชีวิตไปทิ้งเพราะผิดหวังจากความรักเหมือนพี่พศินหรอก"
" คุณไม่มีสิทธิ์พูดถึงพศินแบบนั้น!" ดาวิกาบอก
"ผมรู้ว่าคุณรักเขามาก รักเขาจนลืมที่จะรักตัวเอง ผมถึงต้องพูด ฟังนะดา พี่รวิน่ะเขาตัดใจจากพี่เทวาไปแล้ว เมื่อไม่รักเขาก็จะไม่เจ็บปวดอีก เขากำลังจะเริ่มต้นใหม่ แต่คุณเองนั่นแหละที่กำลังจะตกนรก เป็นเพราะคุณทำให้พี่ชายคุณต้องอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต"
"หยุดพูดได้แล้ว ออกไป!"
"พี่รวิเป็นแม่เพียงคนเดียวที่ตะวันเคยมี แต่ตอนนี้คุณพรากแม่ไปจากตะวันด้วยมือของคุณเอง คิดบ้างหรือเปล่าว่า ตอนนี้ตะวันจะเสียใจขนาดไหน"
ดาวิกาเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีก อุดหูร้องลั่น "พอ หยุดพูดได้แล้ว ดาไม่อยากฟัง"
"ถึงคุณจะทำร้ายตัวเองอีกสักขนาดไหนก็ไม่มีใครได้อะไรเลย"
ดาวิกาหลับตาร้องลั่น ไม่ฟัง" แอร๊ย... หยุด !"
"ลืมตาขึ้นมามองผม แล้วฟังผมให้ดี ลืมเรื่องการแก้แค้นไปให้หมด คุณต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่"
ดาวิกาประสาทเสียขึ้นมา สมองกำลังสับสน ความรู้สึกต่อสู้กัน เธอได้แต่ร้องกรี๊ดลั่น
"ไม่! แอร๊ย..."
เทวาเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมพยาบาล พอเห็นภาพดาวิกาแล้วตกใจ
"ดา !"
"พี่เทวา เอาผู้ชายคนนี้ออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้"
เทวาตรงไปที่เตียงของดาวิกาช่วยจับตัวให้ดาวิกาใจเย็นๆ
เพชรแท้ทอดถอนใจอย่างเหนื่อยใจ ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหนก็ดูเหมือนดาวิกาจะไม่เปิดใจ เทวามองหน้า
เพชรแท้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เทวายืนคุยกับเพชรแท้ที่หน้าห้องดาวิกา
"หมอฉีดยาให้แล้ว ปล่อยให้ดานอนหลับสงบสติอารมณ์สักพัก ตื่นมาเขาน่าจะดีขึ้น"
"ขอโทษนะครับคุณเทวาที่ผมต้องพูดกับดาแรงแบบนั้น"
"เท่าที่คุณเล่ามา ผมก็พอจะเข้าใจว่าทำไมคุณต้องทำแบบนั้น ยังไงก็ต้องขอบคุณ คุณด้วยที่ช่วยดูแลดาตอนอยู่ที่อเมริกา"
"ตอนที่เห็นดาทำร้ายตัวเองครั้งแรกผมก็ตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน แต่ถ้าเราปล่อยให้สมองของเขาวนเวียนอยู่กับเรื่องเก่าๆเดิมๆไม่ไปไหน ดาเขาก็ไม่มีทางหลุดพ้นจากคุกของความทรงจำที่กักขังเขาอยู่"
"คุณพูดถูก ผมเองซะอีกที่ไม่กล้าลงมือทำอะไรให้เด็ดขาดเพราะผมไม่อยากให้จิตใจเขากระทบกระเทือน แต่ยิ่งผมทำตามใจเขาก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง นี่ถ้าดาเป็นอะไรขึ้นมา ผมคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต"
"แล้วชีวิตคู่ของคุณกับพี่รวิล่ะครับ จะปล่อยให้มันจบลงแบบนี้หรือ
"ผมยังมีหน้ากลับไปหาเขาได้อีกเหรอ"
"ผมถามจริงๆนะครับ คุณเทวาแต่งงานกับพี่รวิเพราะจะช่วยดาแก้แค้นจริงๆหรือเปล่าครับ"
"ตอนแรกผมก็ตั้งใจทำแบบนั้น แต่ไปๆมาๆ ผมก็รักรวิเข้าจริงๆ เขาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดไป"
"งั้นคุณเทวาก็ต้องดึงพี่รวิกลับมาสิครับ"
"ผมรับปากดาไปแล้วว่าผมจะไม่ไปเจอรวิอีก"
"แล้วถ้าผมบอกว่า ผมไม่เชื่อว่าพี่รวิกับพี่พศินจะมีอะไรกัน คุณเทวาจะว่ายังไง"
"ผมก็เชื่ออย่างนั้น แต่รวิเป็นคนพูดเองว่าเขาเป็นคนทำให้พศินตาย"
เพชรแท้อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เทวาขัดขึ้นซะก่อน
"ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ถึงผมจะรักรวิแค่ไหนแต่ดาก็สำคัญกับผมเหมือนกัน ผมไม่อยากทำให้ใครต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ถ้าจะต้องมีสักคนที่เจ็บ คนๆนั้นก็ควรจะเป็นผม"
ท่าทางเทวาเหนื่อยใจเหมือนจะยอมแพ้จริงๆ แต่เพชรแท้ยังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างตะหงิดในใจ
เลยไปจากมุมที่ชายหนุ่มทั้งสองคุยกัน เพชรพริ้งหลบฟังอยู่ ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ
เพชรพริ้งได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว รู้แล้วว่าจะทำอะไรต่อไป
ต่อมา รวิปรียามาจากที่ทำงาน เพิ่งจะกลับเข้าบ้าน เมื่อเข้ามาถึงก็เจอกับเพชรพริ้งยืนรอท่าอยู่แล้ว
"ซมซานกลับมาบ้านเหมือนนกปีกหักไม่เหลือสภาพนางหงส์ที่เคยหยิ่งผยองเลยนะรวิ"
"ฉันอาจจะเป็นเหมือนนกปีกหัก แต่ก็น่าจะดีกว่าพวกคางคกที่ร่วงตกจากวอ แม่เธอตกไปคนนึงแล้ว อีกไม่นานก็คงถึงเวลาของเธอเหมือนกัน"
"ที่แม่ฉันต้องไปจากที่นี่ก็เพราะแกคนเดียว"
"ที่แม่เธอถูกไล่ไปมันเป็นเพราะจิตใจชั่วๆ ของแม่เธอต่างหาก ทำตัวเป็นปลิงเกาะพ่อฉันมาไม่รู้ตั้งกี่ปี นอกจากจะไม่รู้สำนึกบุญคุณแล้วยังเนรคุณส่งคนมาทำร้ายฉันอีก ที่ฉันไม่แจ้งความจับเพราะยังเห็นแก่ความเป็นญาติกันอยู่ เธอสองคนควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำ"
"ปากดี.. ถ้าจะว่าคนอื่นเขาจิตใจชั่วก็มองดูตัวเองซะก่อนเถอะรวิ เรื่องเน่าๆฟอนเฟะที่เธอซุกเอาไว้ใต้พรมมาหลายปี ตอนนี้มันถูกขุดคุ้ยขึ้นมาแล้ว"
"เธอพูดอะไรของเธอ"
"เรื่องเวรกรรมไงล่ะ เวรกรรมที่เธอทำไว้ต่อพศินกับดาวิกา"
รวิปรียาอึ้ง โดนตอกเข้ากลางใจ ไม่คิดว่าเพชรพริ้งจะรู้
"สงสัยล่ะสิว่าฉันรู้ได้ยังไง ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ ไม่มีเรื่องไหนที่ฉันไม่รู้ แล้วฉันยังรู้ด้วยนะว่าสามีที่เธอภูมิใจนักหนาน่ะ เขาไม่ได้รักเธอเลย เขาแค่ใช้เธอเป็นเครื่องมือแก้แค้นให้น้องสาวเขาเท่านั้น พอเขาได้เธอแล้วเขาก็กำลังจะโละเธอทิ้งเหมือนขยะเน่าๆชิ้นนึง แต่จริงๆก็น่าเห็นใจคุณเทวานะ ต้องฝืนใจนอนกับผู้หญิงที่ตัวเองขยะแขยงมาตั้งนานสองนาน"
"เรื่องฉันกับคุณเทวามันจบไปแล้ว ถ้าเธอจะใช้เรื่องเขามาเป็นเครื่องมือทำร้ายจิตใจฉันล่ะก็ บอกได้เลยว่ามันไม่ได้ผล เพราะฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว หรือถ้าเธออยากจะกินของเหลือต่อจากฉันเหมือนตอนนิมมานก็เชิญตามสบาย นิสัยเธอมันก็ชอบกินซากของเหลือเดนจากคนอื่นอยู่แล้วนี่"
"เรื่องนั้นฉันทำแน่ ของเหลือคุณภาพคับแก้วอย่างคุณเทวาน่ะ ต่อให้เป็นของมือสอง ฉันก็ไม่ถือหรอก"
รวิปรียามองเพชรพริ้งอย่างสมเพชใจ
"นี่เธอต้องการจะเอาชนะฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ มากซะจนต้องยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเอง ยอมทำตัวเป็นผู้หญิงสำส่อนทอดกายนอนกับผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน ถามจริงๆเถอะพริ้ง.. ชีวิตนี้เธอเคยรักใครจริงๆบ้างไหม หรือเธอเคยถูกรักอย่างจริงใจสักครั้งหรือเปล่า"
เพชรพริ้งอึ้งไป
"นอกจากสมองจะกลวงแล้วจิตใจเธอก็ว่างเปล่าด้วยสินะ ชาตินี้เธอคงไม่มีทางได้สัมผัสความอบอุ่นจากความรัก เธอนี่มันน่าสมเพชจริงๆ ความสวยความมีเสน่ห์ของเธอนี่มันไม่ได้ช่วยให้จิตใจเธอสูงขึ้นมาเลย ชีวิตนี้เธอจะมีความสุขเหมือนคนอื่นเขาหรือเปล่าพริ้ง"
"ใครว่าฉันไม่มีความสุข ฉันแฮปปี้จะตายไปโดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นความพ่ายแพ้ของเธอ"
"ถ้าฉันแพ้ เธอกับแม่ของเธอก็แพ้เหมือนกัน แม่เธอไม่ได้อะไรติดตัวไปแม้แต่บาทเดียว ส่วนพ่อกับแม่ฉันก็กำลังจะคืนดีกัน ถ้าแม่ฉันย้ายกลับมาอยู่บ้านนี้เมื่อไหร่ สภาพเธอก็จะไม่ต่างอะไรกับสุนัขจรจัดที่มาขออาศัยชายคาบ้านฉันคุ้มหัว"
เพชรพริ้งโกรธ เงื้อมือจะตบ "นังรวิ"
รวิปรียาชี้นิ้วให้หยุด แววตาเอาจริง เพชรพริ้งชะงัก
"แล้วถ้าเธอยังไม่หยุด ฉันสัญญาได้เลยว่าต่อจากนี้ไป ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างกระเสือกกระสน ต้องคอยแบมือขอเงินจากฉัน แล้วเธอก็จะไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินอะไรเลยของสิริคุณานันท์ !"
ทั้งคู่มองหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร
เพชรพริ้งเข้ามาในห้องนอน ปิดประตูปังตามหลังอย่างแค้นเคืองใจ
"ฉันอาจเอาชนะแกไม่ได้ แต่ฉันจะลากแกให้ลงเหวไปพร้อมกัน"
บรรยากาศอาคารโรงพยาบาล วันใหม่
เพชรพริ้งถือกระเช้าดอกไม้มาตามทางเดินหน้าห้องพักในอาคารโรงพยาบาล จนมาถึงหน้าห้องพักของดาวิกา
พยาบาลคนหนึ่งออกมาจากห้องพอดี เพชรพริ้งยิ้มทัก
"สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมคุณดาวิกาน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณดาหลับอยู่หรือเปล่า"
"เพิ่งตื่นเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ นี่ใกล้ถึงเวลาทานยาแล้ว อีกสักพักจะเอายามาให้นะคะ"
พยาบาลทำท่าจะเดินไป แต่เพชรพริ้งเรียกไว้
"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณพยาบาล อาการคุณดาเขาแย่แค่ไหนหรือคะ"
"สภาพจิตใจคนป่วยยังไม่คงที่นะคะ คุณหมอกำชับไว้ว่าเพื่อนหรือญาติไม่ควรพูดเรื่องอะไรที่จะกระทบกระเทือนจิตใจคนไข้"
"คือ..ดิฉันเป็นพี่สะใภ้ของคุณดาน่ะค่ะ ดิฉันกลัวว่าคุณดาเขาอุดอู้อยู่ในห้องแบบนี้หลายวันแล้วเขาจะยิ่งเครียดน่ะค่ะ ถ้าจะพาออกไปรับลมข้างนอกห้องบ้างจะได้หรือเปล่า"
"คุณหมอสั่งไว้ค่ะว่าอย่าเพิ่งพาออกไปไหนเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าอาการเครียดจะกลับมาอีกเมื่อไหร่"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
เพชรพริ้งยิ้มให้กับแผนของตัวเอง แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง
ดาวิกาหันมามอง
เพชรพริ้งวางกระเช้าดอกไม้ไว้ที่โต๊ะข้างเตียงในห้อง การ์ดซึ่งห้อยอยู่กับกระเช้า
"สวัสดีค่ะคุณดา วันนี้พริ้งเอาดอกไม้มาฝากด้วยนะคะ คุณดาจะได้สดชื่น"
"ขอบคุณค่ะ"
เพชรพริ้งหาจังหวะที่จะเข้าเรื่อง
"เมื่อเช้าพริ้งเจอรวิที่บ้านด้วยนะคะ"
ดาวิกาชะงัก รอฟังต่อ
"พอพริ้งบอกเขาว่าคุณดาอยู่โรงพยาบาล ท่าทางเขาเหมือนรู้สึกผิดขึ้นมายังไงก็ไม่รู้"
"ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ จะรู้สึกผิดชอบชั่วดีเหมือนคนอื่นเขาเป็น"
"แต่เขาบอกนะคะ ว่าเขาอยากจะเล่าเรื่องทุกอย่างระหว่างเขากับพศิน อยากจะสารภาพผิดทุกเรื่องที่เขาเคยทำกับคุณ แต่เขาไม่กล้ามาที่นี่เพราะกลัวว่าจะเจอคุณเทวา"
"ดาไม่อยากเจอเขา หึ เริ่มคิดจะมายอมรับความผิดตอนที่ตัวเองโดนพี่เทวาทิ้งล่ะสิ"
เพชรพริ้งหาวิธีพูดโน้มน้าวใจต่อ
"เขายังพูดอะไรแปลกๆ ด้วยนะคะ พูดคล้ายๆกับว่าเขามีจดหมายที่พศินเขียนถึงเขา แล้วในจดหมายนั้นก็มีข้อความบางอย่างถึงคุณดาด้วย"
"ข้อความอะไรคะ"
"เขาไม่ได้บอกรายละเอียดค่ะ แต่เขาฝากพริ้งมาบอกว่าเขาอยากจะเอาจดหมายนั่นให้คุณ"
พอเป็นเรื่องของพศิน ดาวิกาก็ร้อนรน หวั่นไหวขึ้นมา ขาดความยั้งคิด
"ตอนนี้รวิเขาอยู่ไหนคะ"
"เขาบอกว่าเขาจะไปรอที่คอนโดของพศินน่ะค่ะ คุณดาอยากไปเจอเขาไหมคะ"
เพชรพริ้งพูดแล้วแอบยิ้มกับตัวเองเบาๆ
รวิปรียานั่งทำงานอยู่ในห้อง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นสายเข้าจากเพชรพริ้ง
รวิปรียามองชื่อเพชรพริ้ง ลังเลอยู่สักพักแล้วตัดสินใจรับสาย
"มีอะไรอีกพริ้ง ฉันว่าเราสองคนไม่น่าจะมีเรื่องต้องคุยกันอีกแล้วนะ"
"ฉันมาเยี่ยมคุณดา ตอนนี้เขากำลังเดินทางไปที่คอนโดของพศิน"
รวิปรียาตาโตตกใจ "เขาจะไปที่นั่นทำไม"
"เห็นเขาบ่นๆ ว่าเขาอยากตายตามพศินไป"
"ว่าไงนะ !"
รวิปรียารีบลุกจากโต๊ะหยิบกระเป๋าถือเดินไปที่ประตูเปิดออก เสียงประตูปิดกลับมา
เทวาเปิดประตูเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย แต่ไม่เห็นดาวิกาอยู่บนเตียง เขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็น
"ดา.."
เทวาเดินไปดูที่ห้องน้ำ แต่ประตูห้องน้ำก็เปิดอยู่
"ไปไหนของเขา"
ไม่นานนัก เพชรแท้ก็เข้ามาในห้องอีกคน
"อ้าว ดาไปไหนครับคุณเทวา"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เข้ามาก็ไม่เจอเขาแล้ว"
พยาบาลคนเดิม เข้ามาในห้องพอดี
"คุณพยาบาล น้องสาวผมหายตัวไปไหนครับ"
พยาบาลหน้าเสีย เป็นกังวล มองหา
"เมื่อเช้าก็ยังอยู่เลยนี่คะ เอ๊ะหรือว่า... เมื่อกี๊มีผู้หญิงคนนึงมาเยี่ยมคุณดาค่ะ เขาน่าจะเป็นคนที่พาคุณดาวิกาไปข้างนอกนะคะ"
"ใคร"
"เขาบอกว่าเป็นพี่สะใภ้คุณดาวิกาน่ะค่ะ" พยาบาลชี้ไปที่กระเช้าดอกไม้บนโต๊ะ "เนี่ยค่ะ กระเช้าดอกไม้ก็ยังอยู่"
เทวาเข้าไปดูที่กระเช้าดอกไม้ การ์ดที่แนบมาลงชื่อว่า “รวิปรียา สิริคุณานันท์”
"ดอกไม้ของรวิจริงๆ นี่เขาจะทำอะไรของเขา"
"แล้วพี่รวิเขาจะพาดาไปไหน หรือว่าจะไปพูดจาปรับความเข้าใจกัน"
"แต่อาการของดายังไม่ปกติ ถ้ารวิพูดอะไรผิดพลาดไป ผมเกรงว่าจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดเรื่องใหญ่"
"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสองคนนั้นไปที่ไหน"
เทวาคิดสักพักแล้วนึกออก
"ตามจากโทรศัพท์ของดา ผมลงแอพสำหรับติดตามโทรศัพท์ไว้ในเครื่องของดาตั้งแต่ที่ดาเข้าโรงพยาบาล"
"รอบคอบมากครับคุณเทวา"
เทวาคว้าโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาสไลด์หน้าจอทันที
เพชรพริ้งเดินนำดาวิกามาถึงดาดฟ้าของคอนโดฯ ความทรงจำแย่ๆเริ่มกลับเข้ามาหาดาวิกาอีกครั้ง สีหน้าเธอเริ่มว้าวุ่น ไม่มั่นคง
"เราขึ้นมาบนนี้ทำไม แล้วรวิอยู่ไหน"
"เขานัดไว้ที่นี่ล่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงมาแล้ว แต่กว่ารวิจะมา เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว คราวนี้ไม่ใช่เรื่องของพศินกับรวิ แต่เป็นเรื่องพศิน..กับใครอีกคนนึง"
ดาวิกาแปลกใจ
เทวากับเพชรแท้นั่งอยู่ในรถของเทวา ทั้งคู่มองหน้าจอโทรศัพท์ของเทวา ซึ่งเป็นแผนที่พร้อมสัญญาณที่มีจุดบอกตำแหน่งโทรศัพท์ของดาวิกา
"สัญญาณนี่บอกว่าดาอยู่แถว...."
"ทำไมเขาต้องไปแถวนั้น หรือว่า .. คอนโดพี่พศิน"
"คุณรู้จักคอนโดนั้นด้วยเหรอ"
"ผมรู้ว่าพี่พศินกระโดดลงมาจากตึกตรงนั้น น่าจะเป็นคอนโดเขาเองนั่นแหละครับ ไหนๆก็พูดเรื่องนี้กันแล้ว คุณเทวาครับ ผมกำลังสงสัยว่าคนที่บีบบังคับจิตใจจนพี่พศินต้องฆ่าตัวตาย ไม่ใช่พี่รวิ แต่เป็นคนอื่น"
"คนอื่น"
"ผมมีบางอย่างต้องให้คุณดู"
เพชรแท้เปิดภาพถ่ายในโทรศัพท์แล้วส่งให้เทวาดู เป็นภาพถ่ายเซลฟี่ของพศินกับเพชรพริ้งที่ดูใกล้ชิดกัน เป็ฯภาพเก่าเมื่อ 5 ปีก่อน
"พริ้ง"
"ครับพี่พริ้งกับพี่พศิน ผมไปค้นเจอในคอมพ์ของพี่พริ้งเมื่อคืน ตอนแรกผมก็แค่สงสัย แต่พอเห็นภาพถ่ายพวกนี้ ผมถึงค่อนข้างแน่ใจว่าพี่พริ้งเป็นอีกคนนึงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้"
"แล้วที่รวิเขาพูดเสมอว่าเขา..."
"ที่พี่รวิพูดแบบนั้นก็เพราะรู้สึกผิด เพราะก่อนตายพี่พศินโทร.หาพี่รวิ สองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนกันครับ ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน ผมรับประกันได้"
เพชรแท้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต พร้อมเล่าให้เทวาฟัง
เพชรแท้ เริ่มเล่า
"ช่วงที่เรียนมหาลัยพี่พศินมาหาพี่รวิที่บ้านบ่อย แต่พอเรียนจบแล้วก็มาแค่ 2-3 ครั้งแล้วก็หายไป คงจะทำงานยุ่ง ช่วงที่มาผมเลยขอให้เขาช่วยติวเรื่องเรียนให้"
พศินกำลังนั่งติววิชาเศรษฐศาสตร์ให้กับเพชรแท้ ตำราเรียนเปิดกางอยู่ตรงหน้า
"โธ่.. ผมงงเรื่องนี้อยู่ตั้งนาน พอพี่อธิบายแบบนี้นี่ผมเข้าใจเลยนะเนี่ย"
"พออ่านไปเรื่อยๆก็จะเข้าใจมากขึ้น" พศินบอก
"มีติวเตอร์ความรู้แน่นขนาดนี้ สอบคราวนี้ผมผ่านฉลุยแน่"
ประตูห้องซึ่งเปิดแง้มอยู่ เพชรพริ้งเดินมาหยุดมอง แล้ววางแผนที่จะหว่านเสน่ห์พศิน เธอเดินเข้ามาในห้อง
"เพชร พี่จะมายืมซีดีเพลงหน่อย"
"จะเอาของวงไหนล่ะ"
"วงไหนเพราะบ้างล่ะ ขอเลือกก่อนได้ป่ะ"
เพชรพริ้งไม่รอคำตอบ ถือวิสาสะเดินไปที่ชั้น CD ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับตรงที่พศินนั่งอยู่ เธอเหลือบมองพศินที่กำลังหลบตาอายๆ เพชรพริ้งเลือกCDอยู่แล้วทำแผ่นหนึ่งตกลงข้างตัวเธอ ระหว่างเธอกับพศิน
"อุ๊ย"
พศินก้มลงเก็บให้ เป็นจังหวะเดียวกับที่เพชรพริ้งก้มลงเช่นกัน มือทั้งคู่สัมผัสกันด้วยความจงใจของเพชรพริ้ง
พศินเก็บแผ่นซีดีขึ้นมา ส่งให้เพชรพริ้ง
"ขอบคุณค่ะ เป็นเพื่อนรวิเหรอคะ"
"ครับ"
"พริ้งนะคะ เป็นพี่สาวเพชร"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" พศินเขินๆ ขี้อาย
เพชรพริ้งยิ้มให้สวยๆ แล้วออกจากห้องไป เพชรแท้มองตามพี่สาวแล้วส่ายหน้า ประมาณรู้ว่าพี่สาวอ่อยเล่นไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้สนใจจริงจัง
วันหนึ่ง พศินกับรวิปรียาเดินออกมากถึงบันได้หน้าบ้าน กำลังจะออกจากบ้านพร้อมกัน รวิปรียานึกบางอย่างขึ้นได้
"อุ๊ย ลืม"
"อะไร"
"ลืมโทรศัพท์"
"เธอก็เป็นแบบนี้ตลอด รีบไปเอาเลย"
"รอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวเรามา"
รวิปรียาวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน พศินมองตามส่ายหัวยิ้มๆ
เพชรพริ้งยืนมองพศินกับรวิปรียาอยู่แล้วจากมุมหนึ่ง เธอเดินเข้ามาหาพศินเมื่อริปรียาคล้อยหลังไป
"มาหารวิเหรอพศิน"
"ครับ กำลังจะออกไปด้วยกัน พอดีนัดแจนเอาไว้"
"อืม.. รวินี่โชคดีจังเลยนะ มีบอดี้การ์ดมารับถึงบ้าน สนใจมาเป็นบอดี้การ์ดให้พริ้งบ้างไหม"
พศินหลบตาเขินๆ ไม่รู้จะตอบยังไง
เพชรพริ้งหัวเราะขำ
"ล้อเล่นน่ะ เออนี่ พศินมีเบอร์โทรศัพท์ไหม พริ้งขอหน่อยสิ เผื่อมีเรื่องฉุกเฉินจะได้โทร.หา"
พศินพยักหน้า เพชรแท้เดินมาจากอีกมุมหนึ่ง เขาชะงักหยุดมองเพชรพริ้งกับพศิน
พศินกับเพชรพริ้งกำลังแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ใบหน้าทั้งคู่ใกล้ชิด เพชรพริ้งเหลือบตามองพศินเป็นระยะ
บนดาดฟ้า เพชรพริ้งเพิ่งเล่าเรื่องบางอย่างให้ดาวิกาฟัง
ดาวิกายังคงสับสน เป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน
"หมายความว่าพศินกับคุณ.."
"ใช่ ฉันเอง ฉันนี่แหละเป็นผู้หญิงที่พศินรัก"
"แต่พศินเขารักรวิ เขาเก็บรูปของรวิไว้หมดเลย ฉันเห็นกับตา"
ดาวิกามองภาพถ่ายของสองคนนั้นอย่างสงสัย ใจคอไม่ดี
"ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนเธอนี่แหละ คิดว่ารวิกับพศินเป็นแฟนกัน ฉันก็เลยนึกสนุก อยากจะทำให้รวิเสียใจด้วยการแย่งพศินมา"
ในคอนโดพศิน
เพชรพริ้งกับพศินล้มตัวลงไปบนเตียงด้วยกัน ร่างของพศินอยู่บนร่างเพชรพริ้ง ใบหน้าทั้งคู่อยู่ใกล้ชิดกัน
"พริ้งอยากให้คุณรู้ไว้ ว่าพริ้งยังไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน คุณเป็นผู้ชายคนแรกของพริ้ง"
"คุณก็เป็นคนแรกของผมเหมือนกัน ผมรักคุณมากนะพริ้ง รักมากซะจนยอมตายเพื่อคุณได้"
"พริ้งก็รักคุณ"
ทั้งคู่กอดจูบกัน แต่สายตาของเพชรพริ้งยังคงฉายแววสะใจที่แย่งของรักของรวิปรียามาได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะปล่อยกายให้กันและกัน
เพชรพริ้งกับดาวิกา ยังคงคุยกันอยู่บนดาดฟ้าของคอนโด
"แต่พอคบกันไปได้สักพักฉันถึงรู้ว่า พศินไม่ได้มีความหมายอะไรกับรวิเลย เขาก็เลยกลายเป็นของเล่นที่ไร้ประโยชน์ ฉันเริ่มตีตัวออกห่างจากเขา ก็คงช่วงนั้นนั่นแหละที่เขาได้เจอกับเธอ แล้วเขาก็คงพยายามจะคบกับเธอเพื่อตัดใจจากฉันไงล่ะ"
ดาวิกามองพริ้งอย่างเคียดแค้น "แต่ถึงเขาจะคบกับฉัน เธอก็ไม่เคยปล่อยเขาไป"
"ใช่ เรื่องของความสัมพันธ์มันก็เหมือนเกมส์ ถ้าปล่อยให้จบง่ายๆ มันก็ไม่สนุกน่ะสิ"
เพชรพริ้งบอก
วันหนึ่ง เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
พศินเปิดประตูออก เพชรพริ้งยืนอยู่
"พริ้ง นี่คุณมาทำไมอีก"
"พริ้งได้ข่าวมาว่าคุณกำลังคบผู้หญิงคนนึงอยู่"
"ใช่ ผมมีสิทธิ์ที่จะคบใครก็ได้ ในเมื่อคุณบอกเองว่าไม่ต้องการผมแล้ว"
"ใครบอกล่ะว่าพริ้งไม่ต้องการคุณ ถ้าไม่ต้องการพริ้งจะมาหาคุณที่นี่เหรอ"
เพชรพริ้งเข้ามาโอบรอบคอพศินมองตายั่วยวน พศินหวั่นไหวตาม
"คุณยังรักพริ้งอยู่ใช่ไหม"
พศินไม่กล้าตอบ หวั่นไหวกับสายตาพิฆาตของเพชรพริ้ง
"พูดสิ ว่าคุณยังรักพริ้งอยู่"
เพชรพริ้งเริ่มจูบไซ้พศินไปมา จนพศินอ่อนลง ไม่อาจต้านทาน
"ผมรักคุณพริ้ง ผมรักคุณ คุณอย่าทิ้งผมไปไหนอีกนะ"
ทั้งคู่กอดจูบแล้วพากันไปที่เตียง
เพชรพริ้งกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกเตรียมจะกลับ พศินเข้ามากอดเพชรพริ้งจากด้านหลัง
"เรากลับมาคบกันอีกนะพริ้ง ผมรักคุณมาก ผมจะไปบอกเลิกเขา"
"คุณจะคบกับเขาก็คบไป แต่ฉันต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ แล้วก็ไม่ต้องโทร.หาฉันด้วย ถ้าฉันอยากเจอคุณเมื่อไหร่ ฉันจะโทรมาเอง" พศินคลายอ้อมกอด
"ผมจะพิสูจน์ความจริงใจที่มี ให้คุณเห็นพริ้ง"
เพชรพริ้งแค่ปลายตามองฉวยกระเป๋าถือแล้วออกจากห้องไป พศินมองตามอย่างผิดหวังเสียใจ
ฟังแล้ว ดาวิกากำมือแน่น ตัวสั่นเทา
"เธอทำแบบนั้นทำไม เธอปั่นหัวเขา เล่นสนุกกับความรู้สึกของเขา รู้ไหมว่าพศินเขาต้องเจ็บช้ำเพราะเธอมากขนาดไหน"
"ฉันก็อยากจะหยุดนะ แต่ไม่รู้สิ เวลาที่มีผู้ชายคนนึงมาหลงใหลเราคลั่งไคล้เรา รักเราบูชาเรา มันรู้สึกดีออกจะตาย แล้วพศินเขาก็อ่อนแอเอง เขาจะปฏิเสธฉันซะก็ได้ แต่เขาก็ไม่เคยทำ ตลอดเวลาที่เขาคบกับเธอ เขาก็มีฉันอีกคน"
"เลว..เลวที่สุด จิตใจเธอทำด้วยอะไรเพชรพริ้ง เธอถึงได้ใจดำกับเขาขนาดนี้ !"
"เธอควรจะฟังตอนสำคัญนะ ดาวิกา"
บรรยากาศในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพชรพริ้งกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่กับกลุ่มเพื่อน ขณะที่เพิ่งลุกออกจากโต๊ะหลังจากกินข้าวกันเสร็จ
ขณะที่เพชรพริ้งกับเพื่อนกำลังจะออกจากร้าน พศินก็เข้ามาในร้าน เขายืนดักหน้าเพชรพริ้งไว้ เพชรพริ้งกับเพื่อนชะงัก
"พริ้ง"
"บอกแล้วไงว่าอย่ามาหาฉัน ถ้ามีธุระฉันจะโทร.หาคุณเอง"
พศินล้วงเอากล่องแหวนใบเล็กออกมาจากกระเป๋า เปิดกล่องให้ดูแหวน
"แต่งงานกับผมนะพริ้ง"
"นี่เล่นบ้าอะไรของคุณ คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังรักหรือไง"
"ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงให้คุณเชื่อว่าผมรักคุณ ผมอยู่โดยไม่มีคุณไม่ได้ แหวนเนี่ย ผมเก็บเงินซื้อให้คุณ"
เพชรพริ้งรับแหวนไปพินิจดู สีหน้าเรียบเฉย
"มันอาจจะไม่แพงอะไรแต่ผมสัญญาว่าในอนาคตผมจะซื้อแหวนที่แพงกว่านี้ให้คุณให้ได้"
เพชรพริ้งส่งแหวนคืนให้พศิน "เก็บแหวนของคุณไว้เถอะ"
"พริ้ง..." พศินไม่ยอมรับแหวนคืน
คนในร้านเริ่มหันมามองพศินเป็นตาเดียวกัน เพื่อนๆของเพชรพริ้งพากันซุบซิบหัวเราะเยาะ
"ดูสารรูปตัวเองหน่อยสิว่าคุณมีอะไรเทียบกับฉันได้บ้าง" เธอโยนแหวนทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี "คนอย่างคุณจะมีปัญญาพาฉันมากินข้าวในร้านแบบนี้มั้ย คุณจะมีปัญญาดูแลฉันได้เหรอ เงินเดือนที่คุณได้แต่ละเดือนน่ะ ซื้อรองเท้าข้างนึงของฉันยังไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วยังมีหน้ามาประกาศว่ารักฉัน แถมยังกล้าขอฉันแต่งงานเนี่ยนะ ตักน้ำใส่กระโหลกชะโลกดูเงาตัวเองซะบ้างสิ"
พศินอึ้ง อับอายที่โดนดูถูกจากปากคนที่เขารักต่อหน้าคนทั้งร้าน
"แล้วที่คุณเคยบอกว่ารักผม"
"ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ คุณผิดเองที่เชื่อฉัน" เธอหันไปบอกเพื่อน "ไปกันเถอะ"
เพชรพริ้งจะเดินนำกลุ่มเพื่อนออกไป แต่พศินเข้ามาดึงแขนไว้อย่างหวงแหน
"เดี๋ยวสิพริ้ง"
"ปล่อยฉันนะ"
เพชรพริ้งสะบัดแขนออกจากพศิน ขณะที่เหวี่ยงแขนก็พาให้พศินเซไปชนเข้ากับเด็กเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี พศินล้มลงกับพื้น จานอาหารแก้วน้ำในมือเด็กเสิร์ฟตกหกแตกกระจาย
ทุกสายตาจับจ้องพศินอย่างสมเพช พศินมองเพชรพริ้งอย่างเจ็บปวด
"คุณหลอกผม สุดท้ายคุณก็ทำกับผมเหมือนเป็นลูกหมาเชื่องๆตัวนึง ที่พอคุณกระดิกนิ้วเรียกก็มาหา พอคุณเบื่อก็ถีบหัวส่ง"
"รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ คุณก็มีค่าแค่นั้นแหละ อย่าหวังอะไรที่มันเกินตัวไปนัก แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก"
"ไม่นะพริ้ง ชีวิตผมขาดคุณไม่ได้"
"ถ้าขาดฉันไม่ได้ก็ไปตายซะ"
เพชรพริ้งส่งสายตามองอย่างเหยียดหยามก่อนจะเดินออกจากร้านไปพร้อมกลุ่มเพื่อน พศินนั่งสิ้นหวังอยู่บนพื้นนั่น
ดาวิการ้องไห้ น้ำตาไหลพราก สงสารพศินจับใจ
"ฉันเป็นคนไล่ให้เขาไปตายเอง แต่ไม่ต้องถามนะว่าฉันรู้สึกผิดอะไรไหม ... ไม่เลย ที่เขาตายก็เพราะเขาอ่อนแอเกินไป มันไม่ใช่ความผิดของฉัน"
ดาวิกาเงื้อมือพุ่งเข้าหาเพชรพริ้งจะตบ
"แก"
เพชรพริ้งจับข้อมือดาวิกาไว้ แล้วผลักออกไป ดาวิกาเซถอยหลังไป
"เธอมันก็อ่อนแอพอกัน อย่างเธอจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้ดาวิกา"
ดาวิกาแทบหมดแรง ประสาทเสีย คร่ำครวญออกมา
"นี่ฉันเข้าใจรวิผิดมาตลอดเหรอเนี่ย ห้าปีที่ฉันเอาแต่อาฆาตแค้นเขา จงเกลียดจงชังเขา โดยที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย"
"ใช่ แล้วนั่นก็ยังไม่แสบเท่ากับที่เธอใช้ให้พี่ชายของเธอไปแต่งงานกับมัน คนที่เธอทำร้ายไม่ใช่แค่รวิ แต่เธอยังทำร้ายจิตใจพี่ชายตัวเองอย่างเลือดเย็นที่สุด นอกจากโง่แล้วเธอยังเห็นแก่ตัวอีกต่างหาก"
ดาวิกาได้แต่ร้องไห้เมื่อทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง
"ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันคงไม่มีหน้าไปเจอเทวาหรือรวิอีกแล้ว อ้อ! แม้แต่เพชรด้วย ถ้าเขารู้ว่าที่ผ่านมาเธอทำร้ายพี่สาวที่เขาบูชาโดยที่พี่สาวของเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย เขาจะรังเกียจเธอขนาดไหน"
"เพชร... ดาขอโทษ ดาขอโทษ"
"ที่ผ่านมา ฉันเฝ้าทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะนังรวิ รอเวลาที่จะได้สมน้ำหน้ามันตอนที่มันก้าวพลาด แต่ไม่คิดเลยว่าวันนั้นมันจะมาถึงเร็วขนาดนี้โดยที่ฉันแทบไม่ต้องลงแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ"
"นี่ฉัน.. นี่ฉันทำอะไรลงไป"
รวิปรียากำลังเร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดที่ตรงสู่ดาดฟ้าของอาคาร
ความทรงจำถึงพศินผุดขึ้นมาเป็นระลอก
พศินคุยโทรศัพท์กับรวิปรียา
"เราคงไปไม่ได้ แต่เราขอให้รวิโชคดีนะ..เราไม่รู้ว่าจะได้เจอรวิอีกหรือเปล่า"
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ เราแค่ไปเรียนต่อนะ ไปแค่สองปีก็กลับมาแล้ว พูดยังกับว่าจะไม่ได้เจอกันอีกอย่างนั้นแหละ"
พศินเงียบไป แต่เศร้าๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอรวิอีก
ทางรวิปรียาสังหรณ์ใจว่าพศินจะมีเรื่องบางอย่างในใจ แต่ไม่พูดออกมา
"พศิน ไว้ถึงอเมริกาแล้วเราจะโทรหานะ ถ้าเธอไม่อยากเล่าปัญหาให้เราฟังตอนนี้ เดี๋ยวค่อยเล่าทีหลังก็ได้"
"ไม่ต้องหรอกรวิ ไม่ต้องโทรมา ต่อไปนี้เราคงรับสายรวิไม่ได้อีกแล้ว"
รวิปรียา ยังคงวิ่งขึ้นบันได
"คราวนี้ฉันต้องไม่พลาดอีก ฉันต้องไปให้ทัน อย่าเพิ่งทำอะไรโง่ๆนะคุณดา"
เพชรพริ้งเดินเท้าเข้าใกล้ดาวิกา
"ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เธอมโนเอาเองทั้งนั้น เพราะเธอมันเป็นผู้หญิงโรคจิตไงล่ะ เพราะเธอมันเป็นผู้หญิงไร้ค่า พศินเขาถึงไม่เคยรักเธอ"
คำพูดของเพชรพริ้งเหมือนสุมไฟให้ดาวิกายิ่งเครียดจัด
เพชรพริ้งย่างเท้าเข้าหาดาวิกาเพื่อกดดันมากขึ้นเรื่อย ดาวิกาถอยหลังหนีเรื่อยๆ เหมือนจะหนีจากความจริงที่ไม่อยากได้ยิน
"เรื่องจริงเพียงเรื่องเดียวที่ไม่มีวันเปลี่ยนก็คือ..พศินเขารักฉัน เขาไม่เคยรักเธอ เขาตายเพื่อบูชาความรักที่มีให้ฉันไงล่ะ เข้าใจหรือยัง นังโรคจิต!"
"แอร๊ย" ดาวิกาหวีดร้อง
ดาวิกาถูกไล่ต้อนมาจนถึงขอบกำแพงของดาดฟ้า
"รับไม่ได้ใช่ไหม รับไม่ได้ก็ไปตายซะ ตายเหมือนพศินผู้ชายของเธอไงล่ะ ตรงนั้นไงที่เขากระโดดลงไป"
ภาพศพของพศินที่มีเลือดท่วมแวบขึ้นมาในสำนึกของดาวิกา
"เดี๋ยวนังรวิก็มาแล้ว ถ้าอยากจะชดใช้ความผิดต่อสิ่งที่เธอทำกับรวิ ก็กระโดดลงไปต่อหน้ามันซะเลยสิ มันจะได้รู้ว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน ถ้าทำแบบนั้น มันอาจจะอภัยให้เธอก็ได้"
ดาวิกาหันหลังมองลงไปที่พื้นเบื้องล่าง ดูวังเวงน่ากลัว แต่เธอรับเรื่องจากเพชรพริ้งไม่ไหวอีกแล้ว
"ใช่ กระโดดลงไปซะแล้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบ เธอก็จะได้ไปอยู่กับพศินที่เธอรักนักหนาไงล่ะ"
ดาวิกาจับขอบกำแพงมือสั่นเทา เธอยืนอยู่ระหว่างเส้นแบ่งของการตัดสินใจ
ทันใด! รวิปรียาก็โผล่พรวดมาถึงดาดฟ้า
"คุณดา.. หยุดนะ"
ดาวิกาและเพชรพริ้งหันมามองรวิปรียา
"มาทันเวลาเลยรวิ ฉันนึกว่าเธอจะพลาดโชว์ครั้งนี้ซะแล้ว"
"คุณดา กลับไปที่โรงพยาบาลกันเถอะค่ะ"
"ไม่"
"ถ้าไม่อยากไปโรงพยาบาลก็กลับบ้านกัน ฉันจะพาคุณกลับเอง"
"ดากลับไปไม่ได้อีกแล้ว ดาทำผิดต่อคุณ ต่อพี่เทวา ทำผิดต่อทุกคน"
รวิปรียาหันไปมองเพชรพริ้ง "นี่เธอคิดจะทำอะไรของเธอพริ้ง"
"ฉันก็แค่พาเขามารำลึกถึงความหลัง แล้วก็แค่บอกความจริงทั้งหมดที่เขาอยากรู้"
"ความจริงอะไร"
"ความจริงที่ว่าพศินเขารักฉันมากขนาดไหน แล้วก็ ความจริงเรื่องที่ดาวิกาแก้แค้นผิดคนไงล่ะ"
"นี่เธอเองเหรอที่ทำร้ายจิตใจพศินจนคิดสั้น"
"ใช่ ฉันเอง แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจะทำแบบเดียวกันกับดาวิกา"
"เธอทำแบบนี้เพื่ออะไรพริ้ง"
"เพื่อโยนความผิดให้เธอไง ไหนๆ เธอก็โดนเข้าใจผิดเรื่องพศินมาตลอดแล้ว โดนอีกสักข้อกล่าวหานึงคนอย่างเธอคงไม่สะเทือนหรอก" เพชรพริ้งยิ้มเหี้ยมเกรียม
"ถ้าดาวิกาตายไปตอนนี้ ทุกคนก็จะชี้นิ้วมาที่เธอ นอกจากจะบีบให้พศินไปตาย เธอยังพาดาวิกาให้มาตายตามไปด้วย เธอนี่มันสารเลวตัวแม่จริงๆ ชาตินี้ คงไม่มีทางได้คุณเทวากลับไปอีกแล้ว"
ดาวิการ้องไห้คร่ำครวญ
"ดาผิดเองค่ะคุณรวิ ถ้าไม่มีดาสักคน เรื่องมันก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้ ถ้าไม่มีดาคุณกับพี่เทวาก็จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ดาจะชดใช้ให้คุณเอง" ดาวิกาทำท่าจะปีนขึ้นกระโดดตึก
"อย่า! คุณดา ขอร้องอย่าทำแบบนี้เลย พศินเขาทำพลาดไปคนนึงแล้ว คุณอย่าทำให้เรื่องมันซ้ำรอยเดิมเลยนะคะ"
ระหว่างที่รวิปรียากำลังพยายามเกลี้ยกล่อมดาวิกา เพชรพริ้งยิ้มเยาะทั้งคู่แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงหายไปจากบริเวณนั้น
ที่หน้าลิฟท์ ประตูลิฟท์เปิดออก เพชรพริ้งยืนอยู่ในนั้นและกำลังจะก้าวออกมา แต่พอออกมาแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเทวากับเพชรแท้เพิ่งมาถึงพอดี
ทั้งสามคนประจันหน้ากันอยู่หน้าลิฟท์ ตอนแรกเพชรพริ้งหน้าเสียเพราะถูกจับได้
"คุณพริ้ง เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่"
"พี่ใช่ไหม พี่เป็นคนพาดามา"
"ตอนนี้ดาอยู่ไหน คุณทำอะไรดา"
"ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ดาวิกาเขาอยากเจอรวิ ฉันก็แค่พามาส่ง แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจะกลับ"
"อย่าตีหน้าซื่อเล่าความเท็จอีกต่อไปเลยพี่พริ้ง ผมรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี่พี่เป็นตัวการ"
เพชรพริ้งไม่เห็นความจำเป็นจะต้องเสแสร้งอีกต่อไป
"มีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ เอาไว้มีหลักฐานเราค่อยมาคุยกันดีกว่านะ แทนที่จะเอาเวลามาสนใจฉัน รีบขึ้นไปดูสองคนนั้นเถอะ ดีไม่ดีอาจจะพากันกระโดดตึกตายไปแล้วทั้งคู่ก็ได้"
เพชรพริ้งพูดเยาะๆแล้วเดินจากไป เทวากับเพชรแท้มองหน้ากันอย่างกังวล
เทวารีบกดปุ่มลิฟท์อย่างร้อนใจ
ดาวิกาปีนขึ้นไปยืนบนขอบกำแพง
รวิปรียาพยายามเกลี้ยกล่อม เธอรักษาระยะไม่ให้ใกล้และไม่ให้ห่างเกินไป
"ถอยมาจากตรงนั้นเถอะค่ะคุณดา มันอันตรายนะคะ"
ดาวิกาเอาแต่ส่ายหน้า
"อย่าเข้ามาใกล้ดา นี่เป็นทางเดียวที่ดาจะชดใช้ให้คุณกับพี่เทวา"
"แต่ฉันไม่ได้ต้องการ คุณไม่จำเป็นต้องชดใช้ เพราะฉันไม่เคยโกรธคุณ"
"แต่ดาโกรธตัวเอง ดามันเป็นตัวเสนียด เป็นตัวสร้างปัญหา ดาเหนื่อยเต็มทีแล้ว ดาอยากจบเรื่องนี้ซะที" ดาวิการ้องไห้หนัก ดูน่าสงสาร
"คุณคิดว่ากระโดดลงไปแล้ว เรื่องมันจะจบง่ายๆหรือคะ แล้วคุณเทวาล่ะ คุณเทวาเขาจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง คุณต้องคิดถึงตะวันด้วย ครอบครัวคุณอีก คุณพ่อ คุณริน ทุกคนเขารักคุณ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาด้วยการตัดสินใจง่ายๆเหมือนคนเห็นแก่ตัวแบบนี้"
"ใช่! ดาเป็นคนแก่ตัว ที่นึกถึงแต่ความรู้สึกของตัวเอง งั้นก็ปล่อยให้ดาไปตามทางของดาเถอะได้มั้ย ดาไม่อยากอยู่ต่อแล้ว"
ดาวิกาทำท่าขยับพร้อมจะกระโดด รวิปรียาอ้าปากจะห้าม แต่เสียงของเทวาดังลั่นขึ้นมาซะก่อน
"หยุดนะดา!"
เทวากับเพชรแท้มาถึงทันเวลาพอดี
"พี่เทวา เพชร"
"เห็นหรือยังว่าทุกคนเป็นห่วงคุณขนาดไหน คุณไม่นึกถึงตะวันเลยเหรอ คุณไม่อยากเห็นหรือคะว่าตะวันจะเติบโตขึ้นมาแบบไหน เข้ามหาวิทยาลัย แต่งงาน แล้วก็มีลูก คุณไม่อยากอยู่ถึงวันนั้นเพื่อจะได้เห็นความสำเร็จของเขาด้วยตาของคุณเองเหรอ"
ดาวิกายังคงร้องไห้ เริ่มได้คิดขึ้นมา น้ำตารวิปรียาไหลออกมาเช่นกัน
"อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ตะวันต้องการคุณนะ"
"ดา.. พี่ยอมแล้ว พี่จะทำทุกอย่างที่ดาต้องการ ขออย่างเดียวอย่าทำร้ายตัวเอง"
"ผมต้องการคุณนะ ผมพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ ถ้าอยู่ที่นี่แล้วคุณลำบากใจ เราก็กลับไปอเมริกาด้วยกัน ผมจะดูแลคุณเอง"
ดาวิกาใจอ่อน ร้องไห้หนักขึ้น รวิปรียาก้าวเข้าไปใกล้ ส่งมือไปให้ดาวิกา ดาวิกามองมือนั้นอย่างชั่งใจ แล้วตัดสินใจยื่นมือมาจับมือรวิปรียาแล้วก้าวลงมาจากขอบกำแพง เธอโผเข้ากอดรวิปรียาแล้วร้องไห้โฮ
เทวากับเพชรแท้มองอย่างโล่งใจ ทั้ง4คนบนดาดฟ้าแห่งนั้น
พายุกับพัชชายืนคุยกันอยู่ในห้องนอน
"แล้วนี่เธอมีแผนจะทำยังไงต่อไป"
"ตอนนี้เป้าหมายอย่างเดียวของฉันก็คือ ทำให้พริ้งกับเพชรได้ครอบครองบริษัทของคุณวิษณุ"
"สองคนนั้นเขาเป็นหลานของวิษณุ เขาก็ต้องมีสิทธิ์ด้วยสิ"
"สิทธิ์อะไรกันล่ะ พี่ก็รู้นี่ว่าจริงๆแล้วยัยพริ้งไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณกุเทพ ฉันท้องพริ้งก่อนที่พี่จะถูกจับเข้าคุก โชคดีขนาดไหนแล้วที่คุณกุเทพไม่รู้เรื่องที่ฉันท้องก่อนแต่ง เขาคิดว่าพริ้งเป็นลูกเขาด้วย ถ้าวันนึง คุณวิษณุรู้ความจริงขึ้นมาว่ายัยพริ้งไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณกุเทพ ยัยพริ้งก็จะไม่ได้อะไรเลยสักแดงเดียว"
"ฉันจะช่วยให้ลูกได้ทุกอย่างที่ลูกต้องการ" พายุนึกบางอย่างได้ "ถ้าไอ้วิษณุมันตายขึ้นมาล่ะ ทุกอย่างก็ต้องเป็นของพริ้งครึ่งนึงสิ"
"ถ้ามันตายตอนนี้ นังรวิก็คงจะได้รับมรดกทั้งหมด แล้วมันก็คงไม่แบ่งอะไรให้พริ้งหรอก มันเกลียดพริ้งจะตายไป มันทำให้พริ้งต้องเสียใจมากี่ครั้งแล้วพี่เคยรู้หรือเปล่า"
พายุโกรธแทน
"นังรวิ.. งั้นก็ต้องจัดการเสี้ยนหนามอย่างนังรวิก่อน ถ้าไม่มีมัน ทายาทของสิริคุณานันท์ก็จะเหลือแค่พริ้งกับเพชรแท้"
"ยังเหลือนังอิงอรอีกคน แต่นังนั่นน่ะจัดการไม่ยากหรอก ตัวมันเองก็ป่วยกระเสาะกระแสะ จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้"
"หลังจากนังรวิ อิงอร ก็เหลือแค่จัดการกับไอ้วิษณุเป็นอันดับสุดท้าย"
"ถึงตอนนั้นเราสองคนก็จะสบายไปด้วย"
ทั้งคู่มองหน้ากัน พายุเข้ามาจับไหล่พัชชายิ้มรู้กันว่าจะทำอะไรต่อ ขณะที่ทั้งคู่กำลังยื่นใบหน้าเข้าหากัน เพชรพริ้งก็ผลักประตูเข้ามา พร้อมส่งเสียงแแหวกับภาพที่เห็น
"นี่มันอะไรกันคะคุณแม่ ทุเรศที่สุด"
เพชรพริ้งเดินออกมาจากบ้านด้วยอารมณ์โกรธ รับไม่ได้กับภาพที่เพิ่งเห็น พัชชาตามหลังมาอธิบาย
"พริ้ง เดี๋ยวก่อนสิพริ้ง"
เพชรพริ้งหันกลับมาโวยใส่
"น่ารังเกียจที่สุด คุณแม่ทำตัวแบบนี้ไม่อายพริ้งบ้างหรือไงคะ ปากก็ห้ามไม่ให้พริ้งไปยุ่งกับผู้ชายอย่างเมฆา แต่คุณแม่เองกลับไปเกลือกกลั้วกับไอ้...ไอ้คนชั้นต่ำแบบนั้น"
"อย่าพูดถึงลุงพายุแบบนั้นนะ"
"ทำไมคะ ในเมื่อผู้ชายคนนั้นเขาต่ำต้อยยิ่งกว่าเมฆาซะอีก หรือคุณแม่รักมัน"
"แม่ไม่ได้รักเขา แต่แม่ไม่อยากให้พริ้งเรียกเขาแบบนั้นอีก มันไม่ดีกับตัวแกเอง"
"มันไม่ใช่พ่อพริ้งซะหน่อย ทำไมจะเรียกไม่ได้ พริ้งจะกลับแล้ว ถ้ารู้ว่ามาที่นี่แล้วจะได้เห็นภาพอุบาทว์แบบนั้น พริ้งไม่มาให้เสียลูกตาหรอก"
"ใจเย็นๆก่อนได้ไหมพริ้ง แล้วฟังแม่อธิบายก่อน ที่แม่ทำแบบนั้นก็เพื่อเราสองคน แม่ต้องใช้วิธีนี้หลอกล่อลุงพายุเพื่อเก็บเขาเอาไว้ใช้งาน แกก็รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของพวกเราไม่ค่อยดี แม่ต้องพึ่งเขา นี่แม่กำลังขอให้เขาช่วยจัดการนังรวิ"
"ก็ขอให้จริงอย่างที่พูดเถอะค่ะ แล้วก็ขอให้พวกนี้มีฝีมือจริงอย่างที่คุณแม่บอกด้วย เพราะตอนนี้พริ้งจนมุมแล้ว"
"ทำไม? นังรวิมันทำอะไรพริ้งอีก แม่ไม่อยู่มันรังแกพริ้งหรือเปล่า"
"เรื่องมันยาวค่ะคุณแม่ แต่ตอนนี้ที่รู้ๆคือพริ้งไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับมันอีกต่อไปแล้ว"
พายุก้าวออกมาช่วยเสริม
"เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ลุงจะจัดการให้พริ้งเอง"
สีหน้าพายุเหี้ยมเกรียม
อ่านต่อตอนที่ 24
#ใจลวง #thaich8 #ละครออนไลน์