xs
xsm
sm
md
lg

ละคร ใจลวง ตอนที่ 20

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ใจลวง ตอนที่ 20

ในบ้านสิริคุณานันท์ ที่ห้องนอนเพชรพริ้ง
 
พัชชาไม่สบอารมณ์เมื่อได้ฟังเรื่องจากเพชรพริ้ง
“ที่แกหายไปทั้งคืนนี่ก็เพราะไปอยู่กับนายเมฆา เลขากระจอกนั่นน่ะนะ... ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารสนิยมแกมันจะต่ำขนาดนี้”
“พริ้งบอกแล้วไงคะ ว่าพริ้งต้องทำเพื่อหาทางสืบเรื่องคุณเทวากับนังรวิ”
“โอย... มีวิธีอื่นอีกตั้งร้อยแปดวิธีที่แกจะทำได้ แต่นี่แกกลับยอมเปลืองตัวกับผู้ชายโพรไฟล์ต่ำๆแบบนั้น แกคิดอะไรของแก”
“แหม..แต่เมฆาเขาก็ไม่ได้แย่ขนาดที่คุณแม่ว่าซะหน่อย เขาเป็นถึงมือขวาคุณเทวานะคะ”
“พูดแบบนี้.. อย่าบอกนะว่าแกกำลังสนใจมัน ลูกจ้างก็คือลูกจ้างวันยังค่ะ หัวนอนปลายเท้าเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้”
พัชชามองจ้องเพชรพริ้ง ไม่ยอมตอบอะไร พัชชาจึงพูดต่อ
“ฟังนะพริ้ง ความรักน่ะมันไม่มีค่าอะไร แม่เคยทำพลาดมาก่อน เคยใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายจนๆ แล้วก็ต้องกระเสือกกระสนทำทุกทางเพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน แม่ไม่ต้องการให้แกมีชีวิตแบบนั้น แล้วที่แม่ยอมทำทุกอย่างอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้แกกับเพชรมีชีวิตที่สุขสบาย”
“โอเคๆ พริ้งเข้าใจแล้วค่ะ พริ้งแค่จะใช้ประโยชน์จากเมฆาแค่นั้นเอง ที่พริ้งต้องทำเพราะพริ้งต้องการที่จะเป็นคนคุมแกมส์นี้ ถึงคุณเทวาเขาจะยังไม่สนใจพริ้ง แต่พริ้งก็จะอยู่เป็นหอกข้างแคร่นังรวิอยู่แบบนี้ ถึงที่สุดแล้วพริ้งก็จะทำให้มันต้องกระอักเลือดเหมือนที่แม่ของมันเคยโดนมาก่อน”
“ดีมากพริ้ง แกเดินหน้าไปให้เต็มที่เลยนะ แม่จะคอยเป็นแบคสนับสนุนแกเอง มีอะไรคืบหน้าก็โทรมาบอกแม่แล้วกันนะ แต่ตอนนี้แม่ต้องออกไปข้างนอก”
“ไปข้างนอก ไปไหนคะ”
พัชชาอึกอักเล็กน้อย “เอ่อ.. ว่าจะไปบ้านป้าสำรวยหน่อย”
เพชรพริ้งรู้ทัน “ไปเล่นไพ่อีกแล้วล่ะสิ”
พัชชาจุปาก
“จะพูดเสียงดังไปทำไม เดี๋ยวมีคนได้ยินไปบอกคุณลุงก็แย่กันพอดี เอาไว้คุยกันทีหลังนะ วันนี้แม่รีบ”
พัชชาออกจากห้องไป เพชรพริ้งมองตามเซ็งๆ

มุมหนึ่งในสวน รวิปรียานั่งซึมเศร้า น้ำตาคลอ อยู่ตามลำพัง คิดถึงเหตุการณ์ที่เธอทะเลาะกับเทวา


เทวาก็นั่งซึมๆอยู่ที่คอนโดเช่นกัน นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยู่เช่นกัน


รวิปรียายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ดาวิกาเดินเข้ามาหยุดมอง เห็นรวิปรียาเศร้าแล้วก็ค่อนข้างพอใจ สายตายังคงซ่อนความเคืองแค้น
รวิปรียากำลังลุกขึ้นจะกลับเข้าบ้าน พบกับดาวิกาที่เข้ามาคุยด้วยพอดี ท่าทีดาวิกาดูนิ่งๆ พยายามเก็บความรู้สึกไว้ให้มากที่สุด และไว้ตัวกับรวิปรียา แต่รวิไม่ได้รู้สึกอะไร
“อ้าว คุณดา”
“ในที่สุด เราก็มีโอกาสได้ทักทายกันเป็นทางการซะทีนะคะ”
“ขอโทษด้วยนะคะ ที่เมื่อวานรวิไม่ได้คุยกับคุณเลย”
“ดาพอจะเข้าใจค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ดีเลยนะคะที่คุณดาต้องมาเจอรวิกับคุณเทวาในสถานการณ์แบบนั้น”
“ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นหรอกค่ะ แต่เรื่องเข้าใจผิดก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จริงไหมคะ”
“รวิก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้คุณเทวาเข้าใจผิดไปมากขนาดนั้น เขาไม่ฟังเหตุผลอะไรเลยด้วยซ้ำ”
“เรื่องแบบนี้มันก็พูดยากนะคะ ที่พี่เทวาเป็นแบบนี้ก็อาจจะเป็นเพราะ... “ ดาวิกาเปลี่ยนใจไม่พูดต่อ “ช่างเถอะค่ะ เรื่องมันก็นานมาแล้ว”
“เป็นเพราะอะไรคะ บอกมาเถอะค่ะ”
“คงเป็นเพราะพี่เทวายังคงคิดถึงแม่ของตะวันอยู่ ก็เลยไม่เคยคิดจะเปิดใจให้ผู้หญิงคนอื่น”
รวิปรียาอึ้งไป เจ็บอยู่ในใจ พูดไม่ออก
“ดาก็พูดไปตามที่ดาคิดและเท่าที่รู้จักพี่เทวามา คุณรวิไม่ต้องคิดมาก”
“คุณดาพอจะทราบไหมคะว่าแม่ของตะวันเขาเป็นใคร แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
สายตาดาวิกามีรอยเจ็บแค้นวาบขึ้นมา แต่รวิปรียาไม่ทันได้สังเกตเห็น
“ทราบค่ะ แต่ในบ้านนี้เราไม่พูดถึงเขาเพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนใจพี่เทวา พี่เทวาน่ะเขารักแม่ของตะวันมาก จนพวกเราคิดว่าพี่เทวาคงไม่สามารถรักผู้หญิงคนไหนได้อีก ตอนที่พี่เทวาเลือกแต่งงานกับคุณ พวกเรายังหลงดีใจนึกว่าพี่เทวาจะลืมเขาได้แล้ว จนกระทั่งเมื่อวานนี้.. จากภาพที่ดาเห็นพี่เทวาต่อว่าคุณรวิรุนแรงแบบนั้น ดาก็รู้แล้วว่าไม่มีใครแทนที่แม่ของตะวันได้จริงๆ”
รวิปรียาใจหายวูบ สีหน้าเสียใจ เจ็บปวดจนปิดบังไม่มิด ดาวิกาลอบมองอย่างพอใจ
“คุณรวิคงรักพี่เทวามากใช่ไหมคะ”
รวิปรียาเงียบแทนคำตอบ
“ดีค่ะ เพราะถ้าไม่รักก็คงไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด”
“คุณดาหมายความว่าไงคะ”
“หมายความว่าดาเข้าใจความรู้สึกคุณรวิดีไงคะ แล้วก็หวังว่าคุณกับพี่เทวาจะปรับความเข้าใจกันได้เร็วๆนี้”
ดาวิกายิ้มให้ แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความชิงชัง ...

หลังจากเล่นไพ่เสร็จแล้ว พัชชาเดินหงุดหงิดออกมาจากมุมตึก เดินมาเรื่อยๆพร้อมกับพูดบ่น
“ทำไมวันนี้ดวงมันซวยขนาดนี้ เสียเงินจนหมดระเป๋า”
พัชชากำลังเดินจะเลี้ยวไปอีกมุม ทันใด พายุก็โผล่มาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า พัชชาตกใจ ตะลึง ไม่คาดคิดมาก่อน
พัชชาละล่ำละลัก “ไอ้..พายุ”
พายุยิ้มกระหยิ่ม

พัชชาดึงพายุมาคุยกันตามลำพังที่บริเวณนั้น พายุยิ้มๆเยาะใจเย็น ขณะที่พัชชาตื่นตระหนกไม่สบายใจ
“เจอหน้าผัวเก่าทั้งที ไม่ดีใจเลยหรือไงพัชชา นี่เราไม่ได้เจอกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ..? ตั้งแต่ที่ฉันเข้าคุกไป ก็น่าจะยี่สิบกว่าปีได้แล้ว”
“พี่ออกจากคุกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ออกมาได้หลายเดือนแล้ว พอออกจากคุกมาแล้ว คนแรกที่ฉันเฝ้าตามหาก็คือ..เธอ” สายตาพายุเริ่มมีแววแค้นใจอยู่ลึกๆ “พอฉันสืบรู้ว่าเธอกลายเป็นเมียเศรษฐีไปแล้ว ฉันก็ยิ่งอยากเจอเธอ ไอ้การตามหาบ้านเศรษฐีนามสกุลดังๆ น่ะ มันไม่ใช่เรื่องยากหรอก”
“ถึงยังไงเราสองคนก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว พี่จะมาตามหาฉันทำไม”
พายุสายตาดุดันขึ้น
“ก็เพราะเธอมันเป็นนังงูพิษ! ฉันทนติดอยู่ในคุกมายี่สิบกว่าปี คิดว่าจะลืมได้ง่ายๆหรือไง ว่าเธอเคยทำอะไรไว้”
พัชชาเริ่มหน้าเสียมากขึ้น “คือเรื่องตอนนั้น ฉันจำเป็นต้องทำ”
“จำเป็น! จำเป็นที่ต้องส่งเบาะแสให้ตำรวจมาจับฉันเนี่ยนะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะพัชชา เธอหาเรื่องให้ฉันโดนจับเพื่อจะหนีไปเสวยสุขกับไอ้กุเทพผัวใหม่ที่อเมริกา”
“เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว พี่ยังจะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยให้ฉันกับลูกได้ไปตามทางของเราเถอะ”
“ฉันปล่อยแน่ แต่จนกว่าฉันจะได้ในสิ่งที่ฉันต้องการซะก่อน”
“อะไร”
“ตอนนี้เธอก็เป็นเมียเศรษฐีแล้ว แค่เอาเศษเงินมาแบ่งให้ผัวเก่าใช้บ้าง มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก จริงไหม”
“ฉันไม่มี”
“หรือเธออยากให้ไอ้วิษณุผัวเธอ มันรู้ความจริงว่ากำพืดที่แท้จริงของผู้หญิงอย่างเธอมันเป็นยังไง มันหน้าซื่อใจคดขนาดไหน พอไอ้กุเทพน้องชายมันตาย เธอก็คว้าพี่ชายมาเป็นผัว เธอนี่มันแน่จริงๆ พัชชา”
“อย่าเด็ดขาดนะ ขืนแกพูดอะไรไป ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่จะเดือดร้อน ลูกฉันจะพลอยลำบากไปด้วย ได้..ฉันจะหาเงินมาให้ แต่แกต้องสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับฉันอีก”
พายุไม่ได้รับปากออกมา
 
เขาเพียงแต่ยิ้มย่ามใจรู้ว่าตนจะได้สิ่งที่ต้องการจากพัชชา

เพชรพริ้งเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน เด็กรับใช้เข้ามารายงานพอดีที่เชิงบันได

“คุณพริ้งคะ หนูกำลังจะไปตามคุณพริ้งพอดีค่ะ”
“ตามทำไม”
“มีคนมาหาคุณพริ้งค่ะ”
เพชรพริ้งแปลกใจ แต่ก็ตามเด็กรับใช้ไปจนถึงห้องรับแขก เห็นด้านหลังของดาวิกายืนรออยู่แล้ว
ดาวิกาหันหน้ามายิ้มใจเย็นให้เพชรพริ้ง

เพชรพริ้งนั่งคุยกับดาวิกาอยู่ในมุมเงียบๆ
“พริ้งเคยรู้มาเหมือนกันค่ะว่าน้องสาวอีกคนของคุณเทวาเรียนอยู่ที่อเมริกา แต่ไม่รู้ว่ากลับมาแล้ว”
แม้ดาวิกาจะมาดีแต่ก็ยังคงไว้ตัว ไม่สนิทกับใครง่ายๆ
“กลับมาชั่วคราวน่ะค่ะ พอดีดามีธุระสำคัญต้องรีบมาจัดการให้จบ”
“ว่าแต่คุณดามาหาพริ้งทำไมคะ”
“ที่ดามาหาคุณพริ้งก็เพราะ ดารู้ว่า..เราสองคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน”
“จุดมุ่งหมาย..”
“ที่จะทำให้พี่เทวากับรวิปรียาแตกหักกัน”
เพชรพริ้งยังไม่อยากเชื่อใจดาวิกานักว่าจะมาไม้ไหน
“คุณดามีเหตุผลอะไรถึงอยากทำแบบนั้น ทั้งที่คุณเทวาก็เป็นพี่ชายของคุณ”
“เหตุผลนึงก็คือดาไม่ชอบรวิปรียา ดาไม่ต้องการให้เขามาเป็นพี่สะใภ้”
“แค่นั้นเหรอคะ”
“ยังมีเหตุผลอื่นอีกค่ะ แต่ดาขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว”
“ช่างเถอะค่ะ พริ้งเองก็ไม่ได้อยากรู้”
“ดารู้มาว่าคุณเองก็มีปัญหากับรวิอยู่เหมือนกัน”
“ไม่ใช่แค่มีปัญหาค่ะ แต่เราสองคนเกิดมาเพื่อจะเป็นคู่อาฆาตกัน ชาตินี้ทั้งชาติเราไม่มีทางญาติดีกันได้”
“ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ดาก็รู้ทันทีว่าดาคิดไม่ผิดที่มาหาคุณ”
“แล้วทำไมพริ้งต้องร่วมมือกับคุณด้วย..? แล้วพริ้งจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้มีแผนย้อนกลับมาเล่นงานพริ้ง”
“ดาไม่มีเหตุผลต้องเล่นงานคุณพริ้ง แผนอย่างเดียวของดาตอนนี้คือทำทุกอย่างให้รวิปรียาต้องพบกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และถ้าเราสองคนร่วมมือกัน ดาจะทำให้พี่เทวาต้องเลิกกับรวิปรียาเร็วๆนี้ ถึงตอนนั้นพี่เทวาก็จะเป็นอิสระ”
“แล้วคุณดาจะยอมเปิดโอกาสให้พริ้งกับคุณเทวาหรือคะ”
“สำหรับดา พี่เทวาจะมีผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่รวิปรียา”
เพชรพริ้งยิ้มพอใจ “งั้นเราก็น่าจะเป็นทีมที่ลงตัวที่สุด”
เพชรพริ้งส่งมือไปให้ดาวิกาจับ แต่ดาวิกาเพียงแค่มอง ไม่ยอมจับมือกลับ แล้วลุกขึ้นยืน
“เอาไว้ดาจะติดต่อมาแล้วกันนะคะ วันนี้ดาขอตัวกลับก่อน”
ดาวิกาเดินออกจากตรงนั้นไปก่อน เพชรพริ้งมองตามเบะปากพลางพึมพำเบาๆไล่หลัง
“หยิ่งชะมัด”

ตอนกลางคืน เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา นิมมานเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เดินมาหยิบดู เห็นเป็นชื่อรริศา โยนโทรศัพท์ ไปที่เดิมไม่รับสาย
รริศาเดินวนไปมาอยู่ในห้อง ขณะร้อนรนใจกำลังพยายามโทร.หานิมมาน แต่สิ่งที่เธอได้ยินกลับมาเป็นเพียงสัญญาณสายว่างยาวๆแต่นิมมานไม่รับสาย
รริศากดวางสายอย่างกลุ้มใจ เห็นภาพที่หน้าจอโทรศัพท์ว่าเธอโทรออกหานิมมานสิบกว่าครั้งแล้ว
รริศจึงกดเข้าไปที่หน้าApp ไลน์ แล้วจะส่งข้อความหานิมมาน เห็นได้ว่าเธอส่งข้อความไปหลายข้อความให้นิมมานติดต่อกลับ แต่นิมมานไม่อ่านข้อความเหล่านั้นเลย
รริศาพิมพ์ข้อความไปใหม่ “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ นิมมาน ช่วยโทรกลับริศาด้วยนะคะ ริศาขอร้อง”

รุ่งขึ้น ในห้องทำงาน นิมมานนั่งทำงานอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี เขาแค่หยิบขึ้นมาดู พอเห็นชื่อรริศา
โทรเข้ามาก็กดตัดสาย ออกจะรำคาญใจนิดๆ มีเสียงเคาะประตู ห้องทำงาน
“เข้ามา”
ประตูเปิดออก รริศายืนจ้องนิมมาน สีหน้าแววตาอ้อนวอน
“คุณมาทำไม”
“ริศาโทร.หาคุณเป็นร้อยครั้ง คุณก็ไม่เคยรับสาย ไม่เคยอ่านข้อความริศาเลย ริศาก็เลยมาหาคุณค่ะ”
นิมมานลุกขึ้นมาพูดด้วย
“ช่วงนี้ผมยุ่งน่ะริศา”
“ยุ่งเรื่องโปรเจกต์เมืองใหม่ใช่ไหมคะ โปรเจกต์ที่ริศาช่วยให้คุณชนะประมูลมา”
“นี่คุณตั้งใจจะมาทวงบุญคุณจากผมเหรอ”
“เปล่าค่ะ ริศามาทวงสัญญาว่าเราสองคนจะอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือว่าพอริศาหมดประโยชน์ คุณก็ลืมทุกอย่าง”
“เราค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลังได้มั้ย วันนี้ผมมีประชุม กำลังดูข้อมูล”
รริศายืนนิ่ง น้อยใจ เจ็บใจ นิมมานต้องใช้ไม้อ่อนพยายามใจเย็นเกลี้ยกล่อม
“คุณกลับไปก่อนเถอะนะริศา ขอผมทำงานก่อนพอเสร็จงานแล้วผมจะโทรหา..นะ”
ทั้งคู่มองหน้ากันสักพัก นิมมานเดินไปเปิดประตูห้องเป็นทำนองเชิญออก รริศา มองตามเศร้าๆ ในที่สุดรริศาก็เป็นฝ่ายยอม เธอเดินออกจากประตูไป
 
นิมมานปิดประตูตามหลัง สีหน้ากระด้าง

รริศานั่งน้ำตาซึมอยู่ที่โต๊ะทำงาน นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเธอกับนิมมาน

ริศาน้ำตาไหลรินออกมาช้าๆ แล้วเสียงดารินเรียกก็ดังขึ้นข้างตัว
“พี่ริศา”
รริศารีบเช็ดน้ำตาเมื่อเห็นดารินเข้ามาหา ดารินสังเกตท่าทีของรริศาแล้วแปลกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“แต่สีหน้าพี่ดูไม่ดีเลย นี่ร้องไห้หรือคะ”
“เปล่าจ้ะ แค่ตาแดง สงสัยเมื่อคืนพี่นอนน้อยไปหน่อย”
“แต่พี่ริศาเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วนะคะ ซึมๆเหม่อๆ แปลกๆยังไงไม่รู้เหมือนคนอกหัก”
รริศาพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อกหักที่ไหนกัน ไปกันใหญ่แล้วรินนี่”
“เฮ้อ ยังไงกันน้า ช่วงนี้มีแต่คนเจอเรื่องเศร้า พี่รวิกับพี่เทวาก็เหมือนกัน”
“พูดถึงคุณรวิ ตอนนี้เขากับพี่เทวาเป็นยังไงบ้าง”
“จะยังไงซะอีกล่ะ ก็ทะเลาะกันใหญ๋โตเลยน่ะสิ จนป่านนี้ยังไม่พูดกันเลย นี่พี่เทวาย้ายไปนอนที่คอนโดไม่กลับบ้านกลับช่อง ส่วนพี่รวิก็เอาแต่เศร้าซึม”
รริศาเสียงเครือ รู้สึกผิด“ริน.. ฝากไปบอกคุณรวิด้วยนะว่าพี่ขอโทษ”
“ขอโทษ? เรื่องอะไร”
“เรื่องที่พี่บอกกับทุกคนว่า วันที่เกิดเรื่องพี่เห็นคุณรวิที่ทางออก และเดาว่าคุณรวิอาจพับเอกสารใส่กระเป๋าถือน่ะ จริงๆแล้วพี่ไม่ควรพูดให้ร้ายคุณรวิแบบนั้น ที่จริงคุณรวิอาจไม่ได้เอาอะไรออกไปก็ได้”
“แล้วทำไมวันก่อนพี่ริศาพูดไปแบบนั้นล่ะ”
“ก็ตอนนั้นพี่กำลังสับสน ก็เลยพูดไม่ทันคิด พี่เสียใจจริงๆนะ ไม่สบายใจเลย”
“รินก็ไม่เชื่อว่าพี่รวิจะเป็นคนที่เอาเอกสารไปจริงๆ ว่าแต่ใครเป็นคนทำ”
ขณะที่ดารินครุ่นคิด รริศากลบเกลื่อนแววตามีพิรุธ พนักงานอีกคนก็เข้ามาเรียกรริศา
“คุณริศาคะ ช่วยมาดูบัญชีตรงนี้หน่อยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่มานะริน”
ดารินพยักเพยิดตกลง รริศาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานไป โดยไม่ได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น ดาวิกากำลังกดกริ่งประตูหน้าห้องเทวา เทวาเปิดประตูออก ดาวิกายืนอยู่ เทวาเปิดประตูกว้างให้ดาวิกาเข้ามาในห้อง
“พี่เทวาไม่กลับบ้านเลย ออฟฟิศก็ไม่เข้า ดาก็เลยเป็นห่วงน่ะค่ะ”
“พี่อยู่ที่นี่ก็สบายดี มีเวลาทำงานเยอะขึ้นด้วย”
“ตั้งแต่ดากลับมาเราสองคนยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเลยนะคะ นี่พี่เทวากำลังพยายามหลบหน้าดาอยู่หรือเปล่า”
“คนที่พี่หลบหน้า น่าจะป็นคนอื่นมากกว่า”
“ได้ยินแบบนี้ ดาก็ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะมันเท่ากับว่า พี่เทวายังไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับดา”
เทวาเงียบไป ใจหนึ่งไม่ได้อยากทำตามสัญญา แต่อีกใจก็ไม่ไว้ใจรวิปรียาเสียแล้ว
“พี่เทวาเชื่อหรือยังคะว่ารวิปรียาเป็นผู้หญิงไร้ยางอายอย่างที่ดาเคยบอก สกปรกทั้งพฤติกรรม ทั้งจิตใจ”
“พอเถอะดา”
“หลักฐานทั้งหมดที่พี่เทวามีอยู่มันยังไม่พออีกหรือคะ พี่เทวายังจะปกป้องมันทำไมอีก”
“พี่ไม่ได้ปกป้องเขา”
ดาวิกาสวนขึ้น “แต่พี่เทวาก็ยังรักมัน”
“พี่ก็พยายามอยู่นี่ไง”
“แค่หลบหน้ากันมันยังไม่พอหรอกค่ะ”
“แล้วดาจะให้พี่ทำยังไง”
“ดาอยากให้พี่เทวาหย่า”
เทวาอึ้ง พูดไม่ออก

รริศากำลังคุยกับพนักงานฝ่ายบัญชี 2-3คนอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง ดารินลุกขึ้นจะกลับห้องตัวเอง แต่แล้วโทรศัพท์ของรริศาบนโต๊ะก็มีสายเรียกเข้าพอดี สายตาของดารินหันไปมอง ปะทะเข้ากับชื่อคนที่โทรเข้ามา “นิมมาน”
ดารินขมวดคิ้วมองแปลกใจ ไม่อยากจะเชื่อ
“นิมมาน... โทรมาหาพี่ริศาทำไม”
สายเรียกเข้าจากนิมมานที่หน้าจอโทรศัพท์ดับไป ดารินปรายตาไปมองรริศา เห็นว่ายังยุ่งอยู่ เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นชื่อนิมมานโทรเข้ามาจริงๆ เธอสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ของรริศา เห็นภาพถ่ายคู่กันของรริศากับนิมมานตอนไปเที่ยวด้วยกันถูกเปิดขึ้นมาหลายๆภาพ
ดารินมองภาพถ่ายเหล่านั้น ไม่อยากจะเชื่อ
รริศากำลังคุยกับพนักงานอยู่ ดารินเดินเข้ามาหารริศาพร้อมโทรศัพท์ริศาในมือ
“พี่ริศา เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“อะไรกันริน เดี๋ยวก่อนได้มั้ย พี่กำลัง...”
“เดี๋ยวนี้ !”
ดารินไม่รอให้รริศาพูดจบ เธอลากแขนรริศาให้ไปด้วยกันทันที

ดารินลากแขนรริศามาถึงมุมเงียบๆมุมหนึ่ง ทั้งคู่หยุดคุยกันตรงนั้น
“อะไรกันน่ะริน”
ดารินโพล่งใส่ทันที
“พี่ริศา พี่จะต่อว่าหาว่ารินละลาบละล้วงก็ได้” ดารินยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้ารริศา เพื่อให้ดูภาพถ่ายของรริศากับนิมมาน “แต่รินอยากรู้ว่านี่มันหมายความว่าไง”
รริศาหน้าเสีย “ริน..คือพี่”
“พี่แอบคบกับนายนิมมาน ตั้งแต่เมื่อไหร่”
รริศาเริ่มเสียงเครือ จะร้องไห้ “สัก..สักพักแล้ว”
“งั้นคนที่เอาเอกสารการประมูลไปให้ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใช่พี่รวิ แต่เป็นพี่ริศา!”
รริศาถึงจุดที่ทนไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมา
“พี่ผิดไปแล้วริน ใช่! พี่เป็นคนทำเอง”
“พี่ริศาทำแบบนั้นทำไม! พี่เป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเรา ทั้งคุณพ่อ พี่เทวา ทั้งริน ต่างก็เชื่อใจพี่ริศามาตลอด แต่พี่กลับเห็นคนอื่นสำคัญกว่าครอบครัว สำคัญกว่าบริรักษ์ นี่ความรักมันทำให้พี่ริศาตาบอดได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
รริศาร้องไห้ “พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย พี่ขอโทษจริงๆ”
รริศาทรุดตัวลงร้องไห้หนัก
 
ดารินมองรริศา ทั้งเห็นใจ ทั้งหนักใจ จะโกรธและสงสาร

ดาวิกายังคงประจันหน้าอยู่กับเทวาในห้อง ไม่ยอมง่ายๆ

“ถ้าพี่เทวายังไม่ยอมหย่า ก็ต้องทำอะไรสักอย่างให้ดาเห็นว่าพี่เทวาไม่ได้ผิดสัญญา อย่าปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่แบบนี้”
“แล้วพี่จะลองคิดดูว่าควรจะทำยังไงต่อไป”
“พี่เทวาคะ”
เทวาขัดขึ้น พูดจริงจัง
“ดา.. พี่เป็นพี่ชายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ดาพอใจ แต่พี่ก็ไม่ใช่เทวดา พี่ก็ยังเป็นผู้ชายธรรมดาๆที่มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ พี่รู้จักรักแล้วพี่ก็เจ็บเป็นเหมือนคนอื่นเหมือนกัน พี่ไม่เคยลืมว่าเคยสัญญาอะไรไว้ แต่พี่ขอเวลาให้ตัวเองทำใจด้วย ขอแค่นี้ดาให้พี่ได้มั้ย”
พอเทวาแรงมา ดาวิกาจำต้องเบาลง
“ก็ได้ค่ะ”
“วันนี้ดากลับไปก่อนก็แล้วกันนะ”
“ค่ะ วันนี้ดาจะกลับก่อนก็ได้ แต่ดาจะมาหาพี่เทวาใหม่”
ดาวิกายอมออกจากห้องเทวาไปแต่โดยดี เทวาถอนหายใจกลัดกลุ้ม

เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา เทวากดรับสาย เสียงดารินดังลอดออกมาก่อน
“พี่เทวาคะ”
เทวาถอนหายใจเหนื่อยๆ ที่น้องสาวสองคนเล่นกับอารมณ์ของเขาไม่รู้จักหยุดเสียที

ดารินกำลังขับรถไปตามถนน ขณะที่กำลังคุยสายกับเทวาจะแจ้งเรื่องสำคัญ
“มีเรื่องสำคัญที่พี่เทวาต้องรู้ค่ะ พี่ริศาเค้า...”
เทวาเหนื่อยเต็มทีที่จะฟัง จึงตัดบท
“พอก่อนนะยัยริน พี่ยังไม่สะดวกคุยตอนนี้”
“งั้นเดี๋ยวดาจะไปหาพี่ที่คอนโด”
“ไม่ต้องมา พี่กำลังจะออกไปข้างนอกแล้ว แค่นี้นะ”
เทวากดวางสายทันที แล้วตัดสินใจกดปิดเครื่อง
“เดี๋ยวพี่เทวา รินมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่” เสียงปลายสายตัดไป
ดาริน พยายามโทรหาเทวาอีกครั้งแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ ดารินว้าวุ่นใจ
“โฮ้ย อะไรของเขาเนี่ย จะปิดเครื่องทำไม”

มุมหนึ่งในสวน รวิปรียานั่งคิดอะไรเหม่อๆ
“พี่รวิอยู่นี่เอง ดาก็หาซะทั่วบ้าน”
รวิปรียายิ้มเศร้า ๆ ดารินเดินมานั่งคุยกับรวิที่โต๊ะในสวน
“ตอนนี้รินรู้แล้วว่า เรื่องขโมยเอกสารการประมูลนั่นพี่รวิไม่ได้เป็นคนทำ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน” “พี่ดีใจที่คุณรินเข้าใจพี่”
“ตอนนี้รินมีพยานคนสำคัญที่ยืนยันได้ว่าพี่รวิเป็นผู้บริสุทธิ์”
“แล้วนี่คุณเทวารู้หรือยังคะ”
“ยังค่ะ รินโทรไปแล้วแต่เขาไม่ยอมคุยด้วย แถมปิดเครื่องอีกด้วย ท่าทางกลุ้มใจหนักแบบนั้น คงออกไปที่บาร์แน่ๆเลย”
รวิปรียาแอบเศร้าอยากให้เทวารู้เร็วๆ “แล้วใครเป็นคนขโมยข้อมูลไปคะคุณริน”
ดารินตั้งท่าเล่าความจริง ให้รวิฟังเต็มที่
ดาวิกาที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน แต่หยุดยืนฟังอยู่มุมหนึ่งเช่นกัน ฟัง นิ่งๆ แต่พร้อมจะเอาข้อมูลใหม่ไปใช้ประโยชน์

เสียงโทรศัพท์เพชรพริ้งดัง เป็นชื่อดาวิกา เธอรับสาย
“ว่าไงคะ คุณดา”
สีหน้าเพชรพริ้งยิ้มพอใจ มีแผนบางอย่าง

ทางด้านเพชรแท้เดินมาตามทางเดินในอพาร์ตเม้นต์แล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของดาวิกา เขากดโทรศัพท์โทร. ออก แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย มีเพียงเสียงสัญญาณสั้นๆ เหมือนปิดเครื่อง
“ จะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า”
เพชรแท้ เปิดประตูเข้าไป
บรรยากาศในห้องว่างเปล่า เงียบเชียบ ไม่มีร่องรอยว่ามีคนอยู่ เพชรแท้เข้ามามองหาดาวิกาไปรอบๆ
“ไปไหนของเขา ที่มหาลัยก็ไม่อยู่”
เพชรแท้เดินตรงไปที่โต๊ะ
สายตาเห็นภาพถ่ายบางอย่างบนโต๊ะ เขาเข้าไปหยิบภาพนั้นขึ้นมาดู เป็นภาพของรวิปรียาถ่ายคู่กับพศิน ใบหน้าของรวิปรียาในภาพมีรอยปลายกรรไกรแหลมทิ่มจนเละเทะ ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่สายตาเพชรแท้กลับสนใจภาพพศินมากกว่า
เพชรแท้ดวงตาเบิกโพลงเหมือนค้นพบความลับอะไรบางอย่าง “นี่มัน...”

เทวานั่งดื่มอยู่ตามลำพังในบาร์แห่งหนึ่ง พลางครุ่นคิดถึงเรื่องของรวิปรียา ที่รริศาเล่าให้ฟัง
“ริศาก็เห็นคุณรวิค่ะ ตอนนั้นริศาเพิ่งเลิกงานกำลังจะออกจากบริษัทพอดี แล้วริศาก็เจอคุณรวิที่ทางออก เอกสารอาจจะถูกพับใส่กระเป๋าถือก็ได้นะคะ เพราะเป็นแค่ใบเสนอราคาและข้อมูลไม่กี่แผ่น”

เทวานึกย้อนเมื่อเห็นคลิปวิดีโอของรวิปรียากับนิมมาน
เทวากำลังนั่งมองภาพถ่ายที่เพิ่งถูกส่งเข้าโทรศัพท์มือถือ เมฆายืนอยู่ตรงหน้า
จอโทรศัพท์เป็นภาพท้ายรถของนิมมานที่แล่นเข้าโรงแรมไป และภาพป้ายชื่อโรงแรม
“คนของเรารายงานว่าคุณรวินั่งรถคันนั้นเข้าไป ส่วนรถคันนั้นผมก็เช็คแล้ว เป็นรถของคุณนิมมาน” เมฆาบอก

เมื่อเทวากับรวิปรียาทะเลาะกัน
“ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันไปรอเพื่อที่จะคุยกับคุณ แล้วก็แค่จัดโต๊ะทำงานให้ ไม่ได้หยิบเอกสารอะไรไปเลยแม้แต่แผ่นเดียว”
“เหตุผลข้างๆคูๆแบบนี้ ใครๆก็พูดได้ ถ้าไม่ใช่คุณ แล้วจะมีใครอีกที่อยากให้นิมมานชนะการประมูลถึงกับต้องทำแบบนี้”
“ในเมื่อคุณปักธงเชื่อไว้แบบนั้นแล้ว ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายไปทำไม ตั้งแต่ที่เราแต่งงานกันมา คุณเคยเชื่อใจฉันสักครั้งไหม เคยเชื่อมั่นในความรักที่ฉันมีให้คุณบ้างไหม”
เทวากระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
เพชรพริ้งเข้ามาในบาร์หยุดมองหาเทวา แล้วเห็นว่าเทวานั่งดื่มอยู่ที่บาร์คนเดียว เพชรพริ้งยิ้มกับตัวเองแล้วเดินเข้ามาหา
“คุณเทวาคะ มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียว”
เทวาหันมามองท่าทางกึ่มๆ แล้วลุกขึ้นทำท่าจะหนี
“อ้าว จะไปไหนล่ะคะ พริ้งอุตส่าห์มาดื่มเป็นเพื่อน”
“ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”
 
เทวาบอก

ภาพในอดีตแวบเข้ามาในความคิดเทวา

ขณะที่เขาและรวิปรียามองหน้ากันหวานชื่น กำลังจะจูบกัน แต่รวิปรียาชะงักห้ามไว้
“แต่คุณรับปากได้ไหมคะ ว่าต่อไปนี้จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก”
“แน่นอน ต่อไปนี้ผมจะไม่เข้าใกล้เพชรพริ้งอีก ผมสัญญา”

ทว่าเทวาเปลี่ยนใจกลับนั่งลงที่เดิม พูดขึ้นมาเหมือนจะบอกตัวเองมากกว่า
“ช่างเถอะ ตอนนี้คำสัญญานั่นมันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว”
เพชรพริ้งยิ้มยั่ว นั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดไป
“พริ้งสัญญาค่ะว่าพริ้งจะนั่งอยู่เงียบๆตรงนี้ ไม่พูด ไม่ส่งเสียง แล้วก็จะไม่รบกวนคุณเลย แค่อยากนั่งเป็นเพื่อนคุณแค่นั้นเอง”
“อยากทำอะไรก็แล้วแต่คุณเถอะ”
เพชรพริ้งยิ้มแล้วหันไปหาบาร์เทนเดอร์
“น้อง ขอเหมือนเดิม”
เทวาสั่งเหล้าแก้วใหม่กับบาร์เทนเดอร์เช่นกัน โดยยกแก้วเปล่าตัวเองขึ้น
“อีกแก้วนึง”
“ครับ”
ขณะบาร์เทนเดอร์ส่งแก้วเครื่องดื่มให้เพชรพริ้ง เพชรพริ้งชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ใส่เหล้าเข้าไปเยอะๆ ให้หมอบเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
มือของเพชรพริ้งแอบยัดเงินแบงค์500 ใส่ในมือของบาร์เทนเดอร์
“เดี๋ยวผมจัดหนักให้เลยพี่”
ทั้งสองคนยิ้มรู้กัน มองเทวาที่นั่งซึมไม่รู้เรื่องราวอะไร

เวลาเดียวกัน นิมมานหันกลับมาต่อว่าริศาอย่างหงุดหงิด
“ทำไมคุณถึงได้โง่แบบนี้นะริศา คุณปล่อยให้ทางโน้นรู้เรื่องได้ยังไง”
“นี่คุณไม่ห่วงริศาเลยเหรอคะ ตอนนี้ริศารู้สึกผิดจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
นิมมานค่อยรู้สึกตัวว่าหงุดหงิดมากไป พยายามแสดงความเป็นห่วงบ้าง
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อ จะกลับไปทำงานก็คงไม่ได้แล้ว”
“ริศาตัดสินใจแล้วค่ะว่าริศาจะลาออก ถึงคนอื่นจะมองว่าริศาเลวก็ช่างเขา ขอแค่มีคุณอยู่ข้างๆ ริศาก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว”
“ถ้าจะออกก็ตามใจคุณ แต่เรื่องที่จะให้ผมมาอยู่เป็นแฟนออกหน้าออกตาคอยดูแลคุณตลอดไปน่ะ ผมทำไม่ได้หรอกนะ”
“ทำไมคะ ในเมื่อคุณบอกเองว่าคุณเป็นอิสระจากคุณพริ้งแล้ว”
“ผมเลิกกับพริ้งก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะคบกับคุณจริงจังได้ อย่าลืมสิว่าคุณเป็นหลานคุณบรม เราเป็นศัตรูทางธุรกิจกัน ครอบครัวผมจะรู้สึกยังไงที่ผมมาคบกับคุณ”
รริศาเสียใจอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาคลอ
“แต่ที่ริศาหักหลังคุณลุงบรม หักหลังบริษัทก็เพื่อคุณนะคะ คุณจะปล่อยให้ริศาเดือดร้อนโดยไม่รับผิดชอบอะไรเลยงั้นเหรอ”
“ผมรู้น่าว่าต่อไปนี้คุณคงลำบาก งั้นก็เอานี่ไป”
นิมมานยื่นเช็คที่เตรียมมาให้รริศา รริศารับไป
“อะไรคะ? เช็ค”
“ผมให้ไว้เป็นค่าดูแลคุณ แล้วจากนี้ผมจะส่งเงินค่าใช้จ่ายให้คุณทุกเดือน ถือซะว่าเป็นสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบ และตอบแทนที่คุณช่วยผม”
รริศาแน่ใจแล้วว่านิมมานกำลังจะทิ้งเธอ เธอร้องไห้ออกมา
“นี่คุณตีค่าริศาเป็นแค่เศษเงินของคุณหรือคะ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น เอาเป็นว่า ถ้าคุณต้องการ ผมก็จะแบ่งเวลามาหาคุณบ้างก็แล้วกัน”
“ริศาไม่ใช่ของเล่นของคุณนะคะ ที่นึกจะมาหาก็มา นึกจะไปก็ไป!”
นิมมานทำหงุดหงิด “อย่าทำตัวโวยวายเหมือนผู้หญิงงี่เงาคนอื่นๆได้ไหมริศา”
รริศาโผเข้าไปกอดนิมมาน ละล่ำละลักขอโทษ
“ริศาขอโทษค่ะ ริศาจะไม่งี่เง่าไม่โวยวายอีกแล้ว แต่คุณอย่าทิ้งริศานะคะ”
นิมมานแกะมือรริศาออกจากตัว
“ผมกลับล่ะ ถ้าอยากให้ผมมาหาเมื่อไหร่ก็ส่งข้อความมาแล้วกัน”
นิมมานออกจากห้องไปอย่างเย็นชา ประตูปิดดังปัง รริศายืนนิ่งมอง น้ำตาค่อยๆไหลออกมา แล้วทรุดนั่งลงร้องไห้ปานจะขาดใจ

บ้านบริรักษ์เวลากลางคืน
รวิปรียาเดินไปเดินมา คอยชะเง้อมองไปที่ประตูรั้วรอให้เทวากลับบ้าน ดาวิกาเข้ามาหยุดยืนด้านหลัง
“คอยพี่เทวาหรือคะคุณรวิ”
“ค่ะ ไม่รู้คืนนี้จะกลับหรือเปล่า โทร.ไปก็ปิดเครื่อง”
“รินเขาบอกดาแล้วค่ะ เรื่องที่ริศาเป็นคนเอาเอกสารการประมูลไปให้ฝ่ายนิรมิต ริศานี่ก็จริงๆเลย”
“รวิเข้าใจคุณริศานะคะ ความรักก็ทำให้คนเราอ่อนแอแบบนี้แหละค่ะ”
“มารออยู่แบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ คืนนี้พี่เทวาก็คงไม่กลับบ้านอีกตามเคย”
รวิปรียาถอนหายใจผิดหวัง
“ทำไมคุณรวิไม่ไปหาพี่เทวาเสียเองล่ะคะ จะได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้พี่เทวาเข้าใจ ปัญหาเข้าใจผิดระหว่างสามีภรรยาปล่อยให้ค้างคานานไปมันไม่ดีหรอกค่ะ”
“ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าคืนนี้เขาไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้รวิจะไปหาเขาที่ออฟฟิศ”
“แล้วทำไมต้องรอถึงพรุ่งนี้ล่ะคะ ถ้าเป็นดา ดาคงไปหาพี่เทวาให้เร็วที่สุด เรื่องยุ่งๆจะได้จบซะที”
ดาวิกาล้วงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋ากางเกง ส่งให้รวิปรียา “นี่ค่ะ คีย์การ์ดที่คอนโดของพี่เทวา ดาไปขอพี่เทวามาเก็บไว้ใบนึง เผื่อว่าคุณรวิอยากไปหาพี่เทวาตอนนี้”
“แต่ว่า...” รวิปรียามองคีย์การ์ดอย่างลังเลใจ
ดาวิกาจึงวางคีย์การ์ดลงบนโต๊ะกลางห้อง
“ดาวางไว้ให้ตรงนี้แล้วกัน คุณรวิลองตัดสินใจดูอีกที สำหรับคนที่เรารักน่ะ เราไม่ควรเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียวนะคะ”
ดาวิกาพูดทิ้งท้ายไว้แล้วจากไป
 
รวิปรียาเดินมาหยิบคีย์การ์ดขึ้นมามองอย่างชั่งใจ

รวิปรียาเดินมาตามทางเดินในคอนโดของเทวา
 
เมื่อถึงหน้าห้องของเทวาก็หยุด แล้วเคาะประตูเบาๆ แต่ทุกอย่างเงียบ ไม่มีเทวามาเปิดประตู
รวิปรียาตัดสินใจใช้คีย์การ์ดเปิดประตูออก เมื่อเธอเข้าไปในห้องกลางแล้วก็ไม่เห็นเทวา สายตาเห็นเพียงประตูห้องนอนที่ถูกเปิดแง้มอยู่ เธอเดินตรงเข้าไป
มองผ่านประตูห้องนอน เห็นเทวาพร้อมร่างของหญิงสาวอีกคนที่กำลังกอดจูบเทวาอยู่ ร่างทั้งคู่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม
รวิปรียายืนอึ้ง มือสั่นเทา กระเป๋าถือตกลงร่วงพื้น
หญิงสาวที่นอนอยู่กับเทวาหันหน้ามา เป็นเพชรพริ้งนั่นเอง
“พริ้ง!”
เพชรพริ้งยิ้ม ไม่ตกใจ ไม่เดือดร้อน “ไง รวิ”
เทวายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
“เธอกับคุณเทวา”
“เห็นตำตาซะแบบนี้แล้ว ฉันคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากสินะ”
รวิปรียายังคงอึ้งพูดอะไรไม่ออก
เพชรพริ้งสวมเสื้อคลุมลุกขึ้นจากเตียง ตรงมาหารวิปรียาที่กำลังยืนหน้าซีด
“แล้วก็รู้ไว้ด้วยนะ ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย”
“นี่เธอกับเขา รวมหัวกันหลอกฉันมาตลอด.. เลวที่สุด”
เพชรพริ้งยิ้มเยาะ
“มันก็เลวพอๆกับตอนที่เธอกับนิมมานสวมเขาให้ฉันนั่นแหละ ฉันบอกเธอแล้วไง คุณเทวาก็ไม่ได้ต่างจากนิมมานหรือผู้ชายคนอื่น อะไรที่ฉันอยากได้ฉันก็ต้องได้ และอะไรที่เป็นของเธอ ฉันจะเอามาให้หมด”
เทวาเพิ่งจะรู้สึกตัวกำลังจะตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงคนคุยกัน รวิปรียามองเทวาอย่างผิดหวัง ก้มลงคว้ากระเป๋าขึ้นมาแล้วหันหลังออกจากตรงนั้นไป
เพียงเสี้ยววินาทีที่รวิปรียาคล้อยหลัง เทวาก็ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย มึนงง
“นี่มันอะไรกัน พริ้ง! นี่คุณ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“พริ้งก็พาคุณกลับมาจากบาร์ไงคะ คุณเมาแล้วเราสองคนก็เลย”
“ไม่จริง”
“นี่คุณจำไม่ได้หรือคะ สภาพเราสองคนแบบนี้ คุณยังต้องให้พริ้งอธิบายอีกหรือคะว่าเกิดอะไรขึ้น”
เทวาอึ้ง พยายามทบทวนความทรงจำ

ฝ่ายรวิปรียาเดินทอดอาลัยมาจากทางห้องของเทวา ถึงมุมเงียบๆมุมหนึ่งในบริเวณคอนโด
แล้วเธอก็เหมือนหมดแรง ทรุดตัวลงนั่งพิงกับกำแพง น้ำตาเริ่มไหลออกมาช้าๆ แล้วค่อยๆ ไล่ระดับไปเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้น ความเข้มแข็งพังทลาย
รวิปรียากอดเข่าร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง
อีกมุมหนึ่ง ดาวิกาค่อยๆโผล่หน้าออกมาดูอย่างสาแก่ใจ
“ตอนนี้เธอคงรู้สึกแล้วสินะ”

ในอดีตเมื่อ 5 ปีก่อน
ดาวิกาออกจากลิฟท์ของคอนโดฯ ในมือมีขนมและอาหารที่ซื้อเตรียมมาฝากพศิน เธอเดินตรงมาทางห้องพักของพศิน อารมณ์อยู่ในห้วงแห่งรัก มีความสุข
พอพ้นมุมผนัง เธอก็ชะงัก พศินกำลังยืนอยู่หน้าห้อง เหมือนพศินออกมาส่งรวิปรียา
ท่าทางพศินเศร้าๆ เขากอดรวิปรียาอย่างหาที่พึ่ง รวิปรียาตบหลังพศินปลอบๆ
ขณะที่รวิปรียาจะเดินผ่านดาวิกา ดาวิกาก็รีบทำเป็นก้มเก็บของที่หล่นพื้น พอรวิปรียาผ่านไปแล้ว ดาวิกาก็ทรุดนั่งลงร้องไห้สะอึกสะอื้น คิดว่าพศินหักหลังเธอ

ดาวิกายังคงจับจ้องไปที่รวิปรียาที่ร่ำไห้ไม่ต่างจากเธอในวันนั้น ดาวิกายิ้มเยาะอย่างเลือดเย็น
“แต่มันยังไม่จบแค่นี้หรอก รวิปรียา”


คืนนั้น ในเวลาต่อเนื่องมา เทวาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย สร่างเมาแล้ว สติค่อยกลับมาอีกครั้ง เพชรพริ้งใส่เสื้อผ้าปกติแล้วเช่นกัน ก้าวเข้ามาตรงหน้า
“คุณต้องรับผิดชอบพริ้ง”
“จะให้ผมรับผิดชอบเรื่องอะไร”
“ก็คืนนี้คุณรังแกพริ้ง”
“แต่ผมคงไม่รับผิดในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ใช่หนุ่มอ่อนหัดนะคุณพริ้ง ถึงผมจะเมาแต่ผมก็รู้ตัวเองดีว่าอะไรเป็นอะไร คุณคงไม่รู้สินะว่าผู้ชายส่วนใหญ่เวลาเมา เขาไม่มีอารมณ์มาทำเรื่องอย่างว่าหรอก”
เพชรพริ้งหน้าเสียไป ที่เทวาไม่ติดกับง่ายๆ
“และถึงผมจะมีอะไรกับคุณจริงๆ ก็ไม่ใช่ผมแน่ที่รังแกคุณก่อน เอาเป็นว่าผมอยากจะให้ทุกอย่างมันจบลงแค่นี้”
“คุณเทวา !”
“พอเถอะคุณพริ้ง ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไร แต่ผมให้ในสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้ ต่อไปนี้ ระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
เพชรพริ้งทั้งโกรธ ทั้งเสียหน้า ที่เทวาไม่หลงเสน่ห์เธอแถมยังรู้ทัน แต่เพชรพริ้งไม่จำนนง่ายๆ เธอเปลี่ยนท่าทีเป็นถือไพ่เหนือกว่า
“แต่ที่จริง จะว่าไปแล้ว คุณก็ช่วยให้พริ้งได้ในสิ่งที่พริ้งต้องการมาครึ่งนึงแล้ว”
“หมายความว่าไง”
“รวิไงคะ”
“รวิ? ทำไม? เขามาเกี่ยวอะไรด้วย”
“ก็บังเอิญเมื่อกี๊ รวิเขามาหาคุณ แล้วก็เห็นตอนที่เราสองคนกำลังสนุกกันอยู่บนเตียงพอดี เขาก็เลยวิ่งหนีออกไป”
“ว่าไงนะ”
“รวิเขาใจเสาะกว่าที่พริ้งคิดไว้เยอะเลยนะคะ พริ้งรู้จักรวิดี สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือ ผู้ชายเห็นแก่ตัว มักมาก ไม่รู้จักพอ แล้วตอนนี้คุณก็เป็นผู้ชายแบบที่เขารังเกียจไปซะแล้ว รวิไม่มีทางยกโทษให้คุณง่ายๆแน่ สุดท้ายคุณกับรวิก็จะต้องเลิกกัน”
เพชรพริ้งว่าแล้วก็ยิ้มเยาะๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
 
ทิ้งเทวาไว้กับความหนักใจยิ่งกว่าเดิม

วันใหม่ ในบ้านเช่าของพายุ

“เอาไป เงินที่ขอไว้”
พายุยืนมองเงินตรงหน้ายิ้มๆ แล้วหยิบขึ้นมาถือไว้
“นี่ถ้ารู้ก่อนว่าเธอจะหาเงินแสนได้ง่ายแล้วก็ไวขนาดนี้ ฉันน่าจะขอเพิ่มอีกสักเท่าตัว”
พัชชาซึ่งเพิ่งเอาเงินให้พายุ สีหน้าหงุดหงิด
“ฉันให้มากพอเท่าที่พี่สมควรจะได้แล้ว แล้วทำตามสัญญาซะด้วยล่ะ ห้ามไปที่บ้านคุณวิษณุ แล้วก็อย่าเสนอหน้ามาเจอฉันอีก”
พัชชาจะหันกลับออกไป แต่พายุฉวยคว้าข้อมือเธอไว้
“เดี๋ยวสิพัช นี่ใจคอเธอจะลืมรสรักของผัวเก่าคนนี้ได้ลงจริงๆเหรอ”
พัชชาชะงัก มองมือพายุที่จับมือเธออยู่ แล้วสะบัดมือออก
“ทุกอย่างที่เป็นอดีต ฉันฝังมันไปจนมิดแล้ว ฉันกับลูกจะมีชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้น พี่อย่าคิดจะทำลายอนาคตฉันกับลูกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น เราได้เห็นดีกันแน่”
พัชชามองอย่างขู่ๆ ก่อนจะกลับออกไป พายุมองตามอย่างไม่วิตก ยิ้มมุมปาก.. เรื่องไม่หยุดแค่นี้แน่นอน

เทวายืนถอนหายใจครุ่นคิดอยู่ในห้องทำงาน เสียงเพชรพริ้งยังคงดังอยู่ในหัวไม่หยุด
“ก็บังเอิญเมื่อกี๊ รวิเขามาหาคุณ แล้วก็เห็นตอนที่เราสองคนกำลังสนุกกันอยู่บนเตียงพอดี เขาก็เลยวิ่งหนีออกไป ...รวิเขาใจเสาะกว่าที่พริ้งคิดไว้เยอะเลยนะคะ พริ้งรู้จักรวิดี สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือ ผู้ชายเห็นแก่ตัว มักมาก ไม่รู้จักพอ แล้วตอนนี้คุณก็ได้เป็นผู้ชายแบบที่เขารังเกียจไปซะแล้ว รวิไม่มีทางยกโทษให้คุณง่ายๆแน่ สุดท้ายคุณกับรวิก็จะต้องเลิกกัน”
เสียงเปิดประตูห้อง และเสียงของดารินที่เรียกดังเข้ามาก่อนตัว ปลุกเทวาให้หลุดจากภวังค์
“พี่เทวาคะ”
ดารินย่างเท้าเข้ามาหาเทวารีบๆ เหมือนมีเรื่องร้อนใจ
“เมื่อคืนพี่เทวาหายไปไหนมา รินพยายามโทรหาพี่ก็ปิดเครื่อง”
“มีอะไรยัยริน พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้ว มีอะไรก็พูดมา”
“รินรู้แล้วว่าใครเป็นคนขโมยเอกสารการประมูลไปให้นิมมาน”
“ใคร?”
ประตูห้องเปิดออก รริศาค่อยๆเดินเข้ามา สีหน้าซึม สำนึกผิด เทวามองรริศาอย่างไม่เข้าใจ

เทวามองรริศาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่หมายความว่าริศาเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด”
“ใช่ค่ะ ริศาทำเอง”

ริศา รู้สึกเสียใจ
“ริศาขอโทษค่ะพี่เทวา ริศาเลวเองที่หักหลังทุกคนแล้วยังโยนความผิดไปให้คุณรวิอีก”
“ริศาทำแบบนี้ทำไม”
“เพราะริศารักเขาค่ะ รักมากจนยอมทุกอย่างเพื่อเขาได้ แต่ความรักทำให้ริศากลายเป็นยัยโง่ที่ถูกเขาจูงจมูก ตอนนี้ริศารู้ตัวแล้วว่าเขาไม่ได้รักริศาเลย เขาแค่ใช้ริศาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น”
เทวาหนักใจ “นี่พี่ต้องทำยังไงกับริศาดี”
“พี่เทวาไล่ริศาออกเถอะค่ะ ริศารู้สึกละอายใจจนไม่มีหน้าจะไปเจอคุณลุงอีกแล้ว”
“แต่พี่ริศาเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรกนะคะ แล้วที่ทำไปก็เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะโดนบ้านนั้นมันหลอกใช้” แววตาดารินเต็มไปด้วยความโกรธแค้นแทน
“แต่กฏก็ต้องเป็นกฏ ในเมื่อริศาทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามระเบียบของบริษัท พี่จะให้ริศาพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน”
“เฮ่อ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าพี่ริศาต้องถูกให้ออกซะอีก”
“แต่ริศาคงไม่กล้ากลับมาทำงานที่บริรักษ์อีกแล้ว”
“ริศาลองใช้เวลาที่หยุดงานไปใคร่ครวญดูให้ดีก่อน ถึงตอนนั้นสถาการณ์อาจจะดีขึ้น แล้วความรู้สึกของริศาก็อาจจะดีขึ้นด้วย พี่จะอธิบายกับคุณพ่อเอง” เทวาบอก
“แล้วเรื่องพี่รวิล่ะคะ พี่เทวา”
“นั่นสิคะ ริศาเป็นต้นเหตุทำให้พี่เทวากับคุณรวิต้องทะเลาะกัน”
“เรื่องนั้นพี่จะจัดการเอง”

เทวากลับมาถึงบ้าน เดินเข้ามาในบริเวณบ้านอย่างร้อนใจ มองหารวิปรียาไปรอบๆแต่ไม่เห็นใคร แล้วรีบขึ้นบันไดไปชั้นบน เทวาเปิดประตูห้องนอนเข้าไป แต่ภายในห้องเงียบเชียบ ไม่มีใครอยู่
เทวาจะกลับออกมาจากห้อง เจอจ๊ะเอ๋ที่หน้าห้องพอดี
“จ๊ะเอ๋ เห็นคุณรวิไหม”
จ๊ะเอ๋อ้ำอึ้ง “คุณรวิ..เอ่อ..”
“เขาไปไหน”
“คุณรวิออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เอากระเป๋าเดินทางไปด้วย จ๊ะเอ๋ถามก็ไม่ยอมบอกว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าให้ดูแลคุณตะวันให้ดี”
เทวายิ่งร้อนใจ กลับเข้ามาในห้องเปิดตู้เสื้อผ้าออก เห็นว่าเสื้อผ้าของรวิปรียาถูกเก็บออกไปเกือบหมด
“หรือตอนนี้คุณรวิอาจอยู่ที่บริษัทก็ได้นะคะ”
“ฉันไปดูมาแล้ว เขาไม่อยู่ โทรหาก็ไม่รับสาย”
“คุณเทวาทำอะไรให้คุณรวิโกรธหรือเปล่าคะ เมื่อวานคุณรวิกลับเข้าบ้านมาตอนดึก ตาแดงช้ำมาเหมือนคนร้องไห้เลยอ่ะค่ะ”
เทวาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างกลัดกลุ้มใจ จ๊ะเอ๋ขยับปากจะพูดบางอย่าง แต่เทวาโบกมือให้ออกไปอย่าเพิ่งพูด จ๊ะเอ๋ถอยออกไปเงียบ ปล่อยเทวาไว้กับความคิดตัวเอง
 
เทวานั่งคิดถึงเรื่องที่เขาเพิ่งคุยกับดารินมาหมาดๆ

ดารินยังคงคุยกับเทวาอยู่สองคนในห้อง

“พี่เทวาจะไม่ไปง้อพี่รวิจริงๆหรือคะ”
“พี่ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรทำยังไงต่อไป ถึงเขาจะไม่ได้โขมยเอกสารไป แต่พี่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเขาอยู่ฝ่ายใครกันแน่”
“หมายความว่าไงคะ”
“รวิเขาไม่ได้แค่เป็นแฟนเก่าของนิมมาน แต่ยังสนิทสนมกับน้องชายของนิมมานด้วย”
“น้องชายของนิมมาน”
เทวาตัดสินใจยื่นโทรศัพท์ที่เปิดหน้าจอเป็นภาพถ่ายของมนัสกุมมือรวิปรียาไปให้ดาริน ดารินรับไปดู
“พี่ไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่”
ภาพถ่ายมนัสกับรวิปรียาในจอโทรศัพท์
“มนัส”
“รินรู้จักเขา”
“รู้จักดีเลยค่ะ รินเคยเกือบจะคบกับผู้ชายคนนี้ พี่เทวาเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะคะ ที่พี่รวิไปหาเขา ก็เป็นเพราะเรื่องของรินเอง”

รวิปรียานั่งเศร้าซึมอยู่ตามลำพังที่โต๊ะหนึ่งในร้านอาหาร แต่แววตายังคงมุ่งมั่นที่จะทำอะไรบางอย่างให้จบ
ไม่นานนักนิมมานก็รีบร้อนเข้ามาที่ร้าน เขาเห็นรวิปรียานั่งอยู่ก็รีบเข้ามาหา
“รวิ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้นัดผมออกมา”
รวิปรียาเพียงชำเลืองสายตามองนิมมานนิ่งๆ
“มี”
นิมมานนั่งลงข้างๆ เตรียมฟัง
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้วที่คุณหลอกใช้คุณริศาให้เขาเอาความลับบริษัทมาเปิดเผย”
“ผมไม่ได้คิดจะหลอกเขา ริศาเขามาชอบผมเอง แล้วเขาก็เป็นคนเอาเอกสารทั้งหมดมาให้ผมโดยที่ผมไม่เคยเอ่ยปากอะไรเลย เรื่องนี้ผมก็ลำบากใจเหมือนกันนะรวิ”
“คุณลำบากใจ แต่คุณก็ใช้ประโยชน์จากเอกสารนั่นจนทำให้นิรมิตชนะการประมูล”
“ที่คุณโกรธผมเพราะบริษัทผมประมูลชนะบริษัทสามีคุณงั้นเหรอรวิ”
“ถ้าคุณทำทุกอย่างอย่างถูกต้องแล้วแข่งขันกันแบบแฟร์ๆ ฉันก็จะไม่โกรธคุณเลย แต่นี่คุณคิดเอาแต่ได้ คิดแต่จะเอาชนะทางธุรกิจโดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฉันผิดหวังในตัวคุณมากนะ นิมมาน”
“ฟังผมอธิบายก่อนได้ไหมรวิ”
“ตอนเรื่องเพชรพริ้ง ฉันคิดว่าคุณพลาด แต่พอมาถึงเรื่องคุณริศา ฉันถึงได้ตระหนักว่า สิ่งที่คุณทำมันมาจากจิตใจสกปรกของคุณ” รวิปรียาลุกขึ้น จะเดินจากไป “ที่จริงแล้วคุณมันก็ปีศาจร้ายดีๆนี่เอง”
รวิปรียาจะเดินไป แต่นิมมานดึงแขนรั้งไว้
“รวิ ไหนว่าเรายังเป็นเพื่อนกันไง คุณฟังผมอธิบายก่อนสิ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน”
“พอเถอะ ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณวางแผนทำอะไรเลวๆไว้บ้าง แล้วก็ไม่รู้ว่าคุณจะมีแผนร้ายอะไรซ่อนอยู่อีก คำว่าเพื่อนมีไว้สำหรับคนที่จริงใจต่อกัน แต่สำหรับคุณ จากวินาทีนี้ฉันไม่เหลืออะไรให้คุณอีกแล้ว”
รวิปรียาเดินจากไป ทิ้งให้นิมมานกำมือแน่น ในใจนิมมานยังรักรวิอยู่ และคิดว่าจะหาทางเอารวิกลับคืนมาให้ได้
“ ผมจะทำให้คุณกลับมาเป็นของผมให้ได้รวิ”

ที่บ้านสวน จอยกำลังทำความสะอาดบ้านพลางฮัมเพลงสบายอารมณ์ พอหันหลังกลับมาก็ตกใจเมื่อเห็นรวิปรียามาโดยไม่ทันตั้งตัว รวิปรียาเข้ามาในตัวบ้าน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
“คุณรวิ!”
“คุณแม่ไปไหนล่ะจอย”
“คุณอรไปงานบุญที่วัดน่ะค่ะ แล้วนี่ทำไมจู่ๆคุณรวิมาไม่บอกไม่กล่าวคะ อุ้ย มีกระเป๋ามาด้วย ใบใหญ๊ใหญ่นะคะ เหมือนจะมาอยู่นานเลย”
“ฉันจะมาอยู่ที่นี่สักพัก”
“แล้วคุณเทวาล่ะคะ”
รวิปรียาปรายตามองจอยเป็นเชิงปรามไม่ให้ถาม จอยรีบสงบปากคำ รวิปรียาเดินเข้าไปทางห้องนอน จอยรีบเข้าไปลากกระเป่าเดินทางตามไป

เทวาลงบันไดบ้านมาอย่างรีบเร่ง เหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก ทันใด ร่างของดาวิกาก็เข้ามาขวางทางไว้
“พี่เทวาจะไปไหนคะ”
“จะออกไปตามรวิ พี่มีเรื่องบางอย่างต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ”
“แต่ดาไม่ให้ไป”
“ดา”
“ถ้าพี่เทวาไปตามมันกลับมาเมื่อไหร่ ดาจะฆ่าตัวตาย”
เทวาดุๆ “เลิกขู่พี่ได้แล้วดา”
“นี่ไม่ใช่แค่การขู่ค่ะ ดาเคยบอกแล้วไงคะว่าถ้าพี่ผิดสัญญาเมื่อไหร่ ดาจะทำให้พี่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
สองพี่น้องยืนประจันหน้ากัน แววตาดาวิกาแน่วแน่จริงจัง ไม่ยอมปล่อย ความรู้สึกของเทวากำลังต่อสู้กันว่าจะเอายังไงต่อ
เสียงของจ๊ะเอ๋ดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะกลางคัน
“คุณเทวาคะ มีคนมาขอพบค่ะ”
เทวากับดาวิกาหันหน้าไปดูว่าแขกที่มาเป็นใคร
เพชรแท้ เดินตามหลังจ๊ะเอ๋เข้ามา
“สวัสดีครับ”
ดาวิกาตกตะลึง พึมพำเบาๆ “เพชร”
“ผมมาตามหาใครบางคน คิดว่าเขาน่าจะอยู่ที่นี่”
ดาวิกาขยับปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ออก
“คุณมาหาใคร”
เพชรแท้มองดาวิกานิ่งๆ เพียงสองสามวินาที แล้วเมินหนีกลับมามองเทวา
“พี่รวิครับ ผมเพชรแท้ เป็นน้องชายพี่รวิ ครับ”
ดาวิกาตกตะลึง อึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน

ดาวิกายกถ้วยชาขึ้นมาจากจานรอง มือไม้สั่นเทาเหมือนมีเรื่องสับสนงุนงงในใจ ขณะฟังเพชรแท้คุยกับเทวา
เพชรแท้นั่งคุยอยู่กับเทวา เขาพยายามที่จะไม่มองไปทางดาวิกาเลย ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน
“ดีใจที่ได้เจอกันนะคุณเพชร แต่ตอนนี้สถานการณ์ระหว่างผมกับรวิมันยุ่งเหยิงนิดหน่อย”
“ครับ ผมเข้าใจ แต่คุณเทวาทราบไหมครับว่าเวลาพี่รวิเขาไม่สบายใจ มีที่นึงที่เขามักจะไปเสมอ”
“ผมรู้ว่าที่ไหน”
“แล้วคุณเทวาจะไม่ไปตามพี่รวิกลับมาหรือครับ”
เทวามองดาวิกาอย่างเกรงใจ “คือผม... ผมจะไปเมื่อทุกอย่างพร้อมกว่านี้”
เพชรแท้เหลือบมองดาวิกา พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“งั้นวันนี้ผมคงมาผิดจังหวะไปหน่อย แต่ผมแค่อยากมาแสดงตัวว่าผมกลับมาแล้ว แล้วผมก็มาที่นี่เพื่อบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เพชรแท้เหลือบมองดาวิกาเป็นนัยๆ “ผมพร้อมจะปกป้องพี่สาวของผมจากทุกๆคน”
เพล้ง! ดาวิกามือสั่นจนทำถ้วยชาตกพื้น ถ้วยกระเบื้องแตกกระจาย ทุกคนตกใจ
“ดา เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร เดี๋ยวดาไปเรียกแม่บ้านมาเก็บเองค่ะ”
ดาวิการีบลุกออกไปจากตรงนั้น หลีกเลี่ยงจากความอึดอัด เพชรแท้มองตาม เขาเองก็ไม่สบายใจเช่นกัน

เพชรแท้เดินออกมาจากตัวบ้านบริรักษ์ กำลังจะตรงไปที่ประตูรั้ว ดาวิกาเดินเร็วๆตามหลังมา แล้วโพล่งถามขึ้น
“ที่คุณพูดกับพี่เทวามันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมเพชร! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
“ใช่! มันบ้า แต่มันเป็นเรื่องจริง ผมเป็นน้องของพี่รวิจริงๆ เรื่องพี่สาวที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังก็คือพี่รวิ”
“นี่คุณหลอกดามาตลอด”
“ผมไม่เคยหลอกคุณ ตอนที่เราคบกัน ผมไม่เคยรู้เลยว่าคุณมีปัญหากับพี่รวิ”
“มิน่าล่ะ พอดาบอกคุณว่าศัตรูของดาคือรวิปรียา คุณก็ตีตัวออกห่างดา ไม่เคยมาหา ดาโทรไปคุณก็ไม่เคยรับสาย เพราะแบบนี้เองใช่ไหม”
“ผมลำบากใจมากนะดา ผมเอาแต่คิดแล้วคิดอีกว่าควรจะคบกับคุณต่อไปยังไง”
“งั้นคุณก็ไม่ต้องลำบากคิดแล้ว เราสองคนจบกันตั้งแต่วินาทีที่คุณบอกว่าเป็นน้องชายนังรวิแล้ว” ดาวิกาปี๊ด เสียงสูง
“คุณมีสติหน่อยได้ไหม เรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้”
“ที่พูดแบบนี้เพราะคุณกำลังปกป้องพี่สาวตัวเอง ไหนคุณเคยบอกว่าคุณจะเริ่มต้นใหม่กับดาไง แต่ตอนนี้คุณเลือกที่จะปล่อยมือฉันแล้วไปอยู่ข้างมัน”
“ใช่ ผมเลือกพี่รวิ แต่ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งคุณ ถ้าคุณลืมความแค้นในอดีตไปซะ แล้วเริ่มต้นใหม่ ผมก็พร้อมจะกลับมาอยู่เคียงข้างคุณ”
“ลืมงั้นเหรอ คุณไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ดาลืม คุณไม่เคยเจอความเจ็บปวดอย่างที่ดาเคยเจอ คุณไม่มีทางเข้าใจหรอก งั้นคุณก็อยู่กับพี่สาวสารเลวของคุณไปเถอะ”
“อย่าพูดถึงพี่รวิแบบนั้น! พี่รวิอาจจะไม่ใช่คนดีสำหรับคุณ แต่เขาเป็นพี่สาวที่ดีที่สุดของผม ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเขา ไม่ว่าจะคุณ หรือพี่ชายของคุณ”
“งั้นคุณก็ไปบอกเขาเลยสิว่าฉันกับพี่เทวาร่วมกันวางแผนทำร้ายจิตใจเขา แต่ถ้าความจริงถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่ คนที่จะช้ำใจจนแทบกระอักเลือดตายก็คือพี่สาวคนดีของคุณนั่นแหละ”
ทั้งคู่ประจันหน้า ประสานสายตากัน ไม่มีใครยอมทิ้งทิฐิ ทั้งอึดอัด และต่างก็เจ็บปวด
 
แล้วต่างก็หันหลังให้กันเดินไปในทิศทางที่ตรงข้ามกัน

อ่านต่อตอนที่ 21

#ใจลวง #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น