xs
xsm
sm
md
lg

ละคร ใจลวง ตอนที่ 17

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ใจลวง ตอนที่ 17

นิมมานเปิดประตูเข้าห้องนอน เพชรพริ้งตามมาทุบหลังนิมมาน แล้วกรี๊ดลั่นใส่
“แอร๊ย”
นิมมานรำคาญสุดๆ หันมาตะคอกกลับ
“ยังไม่หายบ้าอีกเหรอพริ้ง !”
เพชรพริ้งมองนิมมานอย่างเจ็บใจ ปากก็โวยวาย
“ใช่ฉันบ้า บ้าเพราะคุณมันเลว ฉันไม่ใช่แม่พระเหมือนนางรวินะ ที่จะปล่อยให้คุณไปมีเซ็กส์กับใครต่อใครหน้าตาเฉย ฉันหลงนึกว่าที่คุณเฉยชาไม่สนใจฉันเพราะคุณเอาแต่บ้ารักนังรวิคนเดียว แต่ที่ไหนได้ คุณกลับแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นังนั่นมันไม่ใช่คนแรกใช่ไหม คุณนอกใจฉันไปกับอีพวกผู้หญิงใจง่ายพวกนั้นกี่คนแล้ว”
“ผมจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ยกเว้นคุณ เพราะสำหรับผม.. คุณมันเป็นผู้หญิงน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง”
“แอร๊ย”
เพชรพริ้งสุดจะทน เธอเข้าไปตบนิมมานอย่างแรงจนหน้าหัน นิมมานจับหน้าตัวเองโกรธๆ
“มันชักจะมากไปแล้วนะพริ้ง!”
นิมมานตบเพชรพริ้งกลับทันที เพชรพริ้งเซไป แล้วหน้าตาตื่น
“ไอ้เลว นี่แกตบฉันเหรอ”
เพชรพริ้งสู้กลับด้วยการพุ่งเข้าไปตบตีนิมมานยกใหญ่ นิมมานคอยปัดป้อง พอทนไม่ไหวเขาก็ผลักเพชรพริ้งออกไปอย่างแรง
เพชรพริ้งเสียหลัก เซถอยหลังไปจนใบหน้าไปชนกับขอบตู้จนเกิดเป็นรอยช้ำ เพชรพริ้งโกรธแค้นสติหลุด
“นี่แกทำร้ายฉันเหรอ คอยดูนะ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ ฉันจะหย่า”
“เออ หย่าเลย แล้วก็เก็บของออกจากบ้านฉันไปซะตั้งแต่คืนนี้เลยนะ ฉันเองก็สุดจะทนกับเธอแล้วเหมือนกัน”
“ว่าไงนะ ไล่ฉันออกจากบ้านงั้นเหรอ”
“ใช่ จะไปไหนก็ไป” แล้วก็นึกแผนได้ “ถ้าไม่มีที่ไปก็ไปอยู่ที่บ้านไอ้เทวาสิ ไหนคุยนักหนาว่ามันสนใจเธอไง”
นิมมานพูดแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เพชรพริ้งกรี๊ดไล่หลังไปอย่างเจ็บใจ

เวลากลางคืนต่อเนื่องมา นิมมานเคาะประตูห้องคอนโดฯของรริศา
รริศาเปิดประตูออก เห็นนิมมานยืนอยู่
ใบหน้ารริศามีรอยช้ำ และรอยแตกที่ปาก ตาโรย ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ผมมาดูว่าคุณเป็นไงบ้าง”
รริศาไม่พูด แต่เปิดประตูกว้างให้นิมมานเข้ามา
“ผมขอโทษที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และก็ขอโทษที่ปล่อยให้คุณต้องกลับบ้านเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพริ้งเขาเป็นภรรยาของคุณ ที่เขาโกรธถึงขนาดนั้น ริศาก็พอจะเข้าใจ”
“ผมไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำถึงขนาดนั้น” เขาจับหน้ารริศาดู “นี่คุณเจ็บมากไหม”
รริศาพยักหน้ารับ น้ำตาคลอ

คืนนั้น รวิปรียานอนหลับอยู่ข้างเทวา เธอกำลังกระสับกระส่ายเหมือนฝันร้าย

ในฝัน ...รวิปรียาวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟมาอย่างร้อนใจ พอถึงดาดฟ้าก็มองเห็นพศินยืนรออยู่แล้ว
“มาแล้วเหรอ รวิ”
“ใช่ นี่เรามาทันใช่ไหม เธอคงไม่คิดจะทำอะไรบ้าๆ ใช่ไหมพศิน”
พศินยิ้มเศร้าๆ ”รวิไม่เคยรักเรา”
“เราคุยกันเข้าใจแล้วนี่ ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
“เพื่อนงั้นเหรอ” พศินยิ้มเยาะตัวเอง “เราไม่ต้องการความเป็นเพื่อน! ทำไมรวิถึงรักเราไม่ได้ รู้ไหมว่าเราเจ็บปวดแค่ไหน”
พศินเดินตรงไปที่ขอบกำแพงของดาดฟ้า
“หยุดนะพศิน”

บนเตียง รวิปรียานอนหลับคิ้วขมวด หายใจรัวๆอยู่บนเตียง
“พศิน... ไม่ อย่านะ”
เทวาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรวิปรียาละเมอ เขาทำท่าจะเข้าไปปลุกและปลอบ แต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่ออกมาจากปากรวิปรียา
“อย่านะพศิน อย่าทำแบบนั้น”

พศินมาหยุดอยู่ที่ขอบอาคารสูง ดูน่าหวาดเสียว
“ถ้าเรา..ตายไปก็ดีเหมือนกันนะ เราจะได้อยู่ในใจของรวิตลอดไป”
พศินหันหน้าออกไป เหมือนตั้งใจจะโดดตึก รวิปรียาวิ่งเข้าไปรั้งตัว จับแขนไว้
“ไม่นะ”
พศินหันหน้ามาหารวิปรียา แต่เป็นใบหน้าที่มีเลือดไหลย้อย ดวงตาโกรธเบิกโพลง
“ทุกอย่างเป็นความผิดของเธอ เธอทำให้เราต้องเป็นแบบนี้” พศินชะโงกหน้าเข้าไปใกล้รวิปรียามากขึ้น ดูน่ากลัว
“ทำไมเธอถึงไม่มาเร็วกว่านี้ ทำไม?”

รวิปรียาส่งเสียงอู้อี้มาจากลำคอ กระสับกระส่ายฝันร้าย ร้องไห้สะอึกสะอื้น

“เราขอโทษนะ พศิน เราขอโทษ”
เทวาเขย่าตัวเรียกให้รวิปรียาตื่น
“รวิ.. รวิ”
รวิปรียาสะดุ้งลืมตื่นขึ้นมาพร้อมน้ำตาและเหงื่อเต็มใบหน้า
“คุณโอเคไหม”
รวิปรียารู้สึกตัวว่าฝันไป
“ฉันฝันร้ายน่ะค่ะ”
“คุณร้องไห้แล้วก็ละเมอตลอดเลยนะ ฝันน่ากลัวเหรอ”
“ค่ะ มันเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก มากจนน่ากลัว”
“คุณอยากเล่าให้ผมฝังไหม”
รวิปรียาส่ายหน้า ยังไม่พร้อม
“งั้นก็นอนต่อเถอะ”
รวิปรียายังคงไม่สบายใจ ความรู้สึกผิดยังคงติดต้างอยู่ในใจลึกๆ ก่อนเทวาจะเอนตัวลงนอน เธอจับแขนเทวาไว้เพราะอีกใจหนึ่งก็อยากหาที่พึ่งทางจิตใจเช่นกัน
“เทวาคะ ฉันเคยเป็นต้นเหตุ ทำให้ผู้ชายคนนึงต้องตาย”
เทวาสะดุ้งอยู่ลึกๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมที่จะฟัง
“เราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลย ผมยังไม่อยากฟัง นอนเถอะ”
ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นรัวๆ ร้อนรน เทวาเดินไปเปิดประตูห้อง พบว่าจ๊ะเอ๋ยืนหน้าตาตื่นอยู่
“คุณเทวา คุณรวิคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ”

ใบหน้าของเพชรพริ้งมีรอยฟกช้ำ ขอบปากแตก เธอยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าเทวามีกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กๆวางอยู่ที่พื้นข้างตัว
เทวากับรวิปรียายืนมองเพชรพริ้งอยู่อย่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณพริ้ง”
เพชรพริ้งร้องไห้ “นิมมานค่ะ เขาทำร้ายพริ้ง”
รวิปรียาตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ
“จู่ๆเขาก็อาละวาดตบตีพริ้ง แล้วก็ไล่พริ้งออกจากบ้านด้วย” เพชรพริ้งร้องไห้หนักขึ้น “พริ้งกลัวค่ะ กลัวว่าเขาจะทำร้ายพริ้งอีก พริ้งก็เลยรีบหนีมา”
“ทำกับผู้หญิงแบบนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย เราควรแจ้งตำรวจนะครับคุณพริ้ง”
“อย่าเลยค่ะ พริ้งไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นข่าวขึ้นมา คุณลุงจะเสียชื่อเสียงไปด้วย นี่พริ้งเองก็ไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวคุณแม่กับคุณลุงจะเป็นห่วง พริ้งไม่รู้จะไปไหนก็เลยนึกถึงคุณ.” เธอปรายตามองรวิปรียาเรียกความเห็นใจ “กับรวิ..ขึ้นมาเป็นคนแรก”
เทวาสงสารจากใจจริงและเห็นแก่มิตรภาพ
“ก็ดีแล้วครับ ดีกว่าเสียใจจนเตลิดไปที่อื่นกลางดึกแบบนี้ แล้วนี่คุณพริ้งอยากให้ผมกับรวิช่วยอะไรบ้าง”
“ตอนนี้พริ้งก็ยังไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไป ทุกอย่างมันสับสนไปหมด” แล้วหันไปบอกรวิปรียา ดูน่าสงสาร “รวิ..ถ้าพริ้งขอพักอยู่ที่นี่สักคืน เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
เทวาไม่พูดอะไร มองรวิปรียาเพื่อให้เกียรติรวิปรียาเป็นคนตัดสินใจ
“ขอร้องเถอะนะรวิ อย่างน้อยเราสองคนก็เป็นพี่น้องกัน ถ้ารวิไม่ช่วยพริ้ง พริ้งก็คงไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว”
รวิปรียาไม่ได้ตอบเพชรพริ้ง แต่สั่งจ๊ะเอ๋ “ จ๊ะเอ๋ พาคุณพริ้งไปที่ห้องพักแขกไป ช่วยคุณพริ้งถือของด้วย”
“ค่ะ” จ๊ะเอ๋รับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“ขอบใจมากนะรวิ พริ้งคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกมาหารวิเป็นคนแรก”
เพชรพริ้งแอบยิ้มน้อยๆอย่างพอใจ จ๊ะเอ๋เข้าไปยกกระเป๋าเพชรพริ้งแล้วเดินนำไป เทวากับรวิปรียามองตามเพชรพริ้งจนคล้อยหลังไป
เทวาหันมามองรวิปรียาแบบห่วงความรู้สึก “ ถ้าคุณไม่สบายใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าเขาเดือดร้อนมาจริงๆ จะให้ฉันยืนมองอยู่เฉยๆก็คงจะใจดำเกินไป แล้วอย่างน้อยพริ้งก็เป็นคนในครอบครัวของฉัน ถึงฉันจะเคยคิดอยากจะเห็นเขาเจ็บใจ แต่ก็ไม่เคยอยากให้เขาต้องเจ็บตัวถึงขนาดนี้”
รวิปรียาพูดแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เทวามองตาม รู้สึกถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาเร็วๆนี้

นิมมานกับรริศานั่งอยู่ที่โซฟา เขาเพิ่งทายาที่แผลบนใบหน้าให้รริศาเสร็จ ใจจริงก็เห็นใจรริศาอยู่บ้างที่เธอไม่โต้ตอบเพชรพริ้งเลย
“ผมทายาให้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
“ทำไมคุณไม่ตอบโต้เขาเลย”
“ริศาไม่เคยมีเรื่องกับใครค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็เลยตั้งตัวไม่ทัน”
“ทีหลังอย่าปล่อยให้เขาทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้อีก รู้ไหม”
“ถ้าคุณกับคุณพริ้งต้องมีปัญหากันเพราะริศา ต่อไปเราไม่ต้องพบกันจะดีกว่า”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ ริศา นี่คุณไม่รู้จริงๆหรือว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ”
“คุณนิมมาน”
ทั้งคู่มองตากันใบหน้าห่างกันเพียงนิด ความใกล้ชิดและการหว่านเสน่ห์ของนิมมานทำให้รริศาหวั่นไหว
นิมมานบรรจงหอมแก้มรริศา เธอก็ยอมแต่โดยดี จากนั้นนิมมานก็เริ่มจูบ รริศาหลับตาพริ้มโอนอ่อนผ่อนตาม
 
ทั้งคู่ล้มตัวลงบนโซฟา มีสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งในคืนนั้น

รุ่งขึ้น วันต่อมา นิมมานนอนกอดรริศาอยู่บนเตียง
 
ร่างของทั้งคู่ยังเปลือยเปล่าอยู่ในผ้าห่ม
“เราไม่ควรทำแบบนี้เลยนะคะคุณนิมมาน”
“ทำไมล่ะ”
“ก็มันผิดนี่คะ คุณเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว”
“มันไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก แต่มันเป็นเรื่องของความรัก”
“แต่ว่า”
“ริศา.. ไม่ต้องคิดมาก ผมเคยบอกคุณแล้วไงว่าระหว่างผมกับเพชรพริ้ง เราไม่ได้รักกัน ที่ต้องจำใจอยู่ด้วยกันทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องของครอบครัวเราสองคนที่ยังต้องทำธุรกิจด้วยกัน”
“แต่ริศาไม่อยากเป็นมือที่สามของครอบครัวคนอื่น”
“ผมสัญญา คุณอยู่ในสถานะนี้อีกไม่นานหรอก ผมจะหย่ากับเพชรพริ้งให้เร็วที่สุด”
รริศาดีใจ “คุณนิมมาน”
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณนะริศา”
รริศากอดนิมมานยิ้มมีความสุข อบอุ่นใจ นิมมานกอดตอบ สายตานิมมานบ่งบอกแผนร้าย แล้วยิ้มที่มุมปาก

เช้าต่อเนื่องมา เทวานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เหม่อลอยคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
รวิปรียา นอนหลับคิ้วขมวด หายใจรัวๆอยู่บนเตียง
“พศิน... ไม่ อย่านะ”
เทวาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรวิปรียาละเมอ เขาทำท่าจะเข้าไปปลุกและปลอบ แต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่ออกมาจากปากรวิปรียา
“อย่านะพศิน อย่าทำแบบนั้น”
เธอบอกเขาว่า
“เทวาคะ ฉันเคยเป็นต้นเหตุ ทำให้ผู้ชายคนนึงต้องตาย”
เทวาสะดุ้งอยู่ลึกๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมที่จะฟัง
“เราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลย ผมยังไม่อยากฟัง นอนเถอะ”

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เทวานั่งมองชื่อคนโทรมาอย่างรู้สึกลำบากใจ แต่ก็กดรับสาย
“ว่าไงดา”

ที่สหรัฐอเมริกา ในอพาร์ตเม้นต์ของดาวิกา ตอนกลางคืน
เธอกำลังคุยสายโทรศัพท์กับเทวา
“พี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ ช่วงนี้พี่เทวาไม่ค่อยรับสายดาเลย”
เทวาเริ่มอึดอัดใจ หาข้อแก้ตัว
“ช่วงนี้ งานที่บริษัทยุ่งๆน่ะ”
“พี่เทวากำลังเดินหน้าทำตามแผนของเราใช่ไหมคะ” ดาวิกาเปิดฉากรุก
“พี่กำลังอยากคุยกับดาเรื่องนี้อยู่พอดี”
“ทำไมคะ” ดาวิกาตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย “แผนของเราใกล้สำเร็จแล้วใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ดา.. แต่พี่กำลังคิดว่า พี่จะยกเลิกแผนการทุกอย่าง”
“ยกเลิก หมายความว่าไง นี่พี่เทวาจะผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับดาเหรอ”
“ดา.. พี่อยากจะบอกให้ดารู้ไว้ ว่าที่จริงแล้ว..เหตุผลที่พี่แต่งงานกับรวิ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพี่ชอบเขาก่อนจะรู้เรื่องพศินกับรวิ ตอนนี้.. พี่กับเขากำลังเรียนรู้กันและกัน แล้วก็..ใกล้ชิดกันมากขึ้น”
“พี่เทวามีอะไรกับมันแล้ว”
“อืม..แล้วพี่ก็คิดว่า พี่เป็นผู้ชายคนแรกของรวิ พี่ไม่เชื่อว่ารวิปรียาจะเป็นผู้หญิงร้ายกาจอย่างที่ดาคิดนะ”
“พี่เทวา ที่พี่พูดแบบนี้เพราะพี่หลงเสน่ห์มันเข้าอีกคนนึงแล้วใช่ไหม แอร๊ย ... ไม่! พี่เทวาจะทำแบบนี้ไม่ได้ พี่เทวาจะหลงรักมันไม่ได้ พี่รับปากดาแล้วว่าจะทำให้มันเจ็บ”
“พี่อยากให้ดาใจเย็นๆ แล้วเรามาทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นกันใหม่ ว่าที่จริงแล้วพศินกับรวิเค้า...”
ดาวิกาปรี๊ดสวนขึ้นทันที
“หยุด! ไม่ต้องมาพยายามเกลี้ยกล่อมดา ดาไม่อยากฟัง! นี่ดาไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับพี่เลยใช่ไหม”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะดา”
“พี่เทวาจะรักผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่รวิปรียา จะมีลูกกับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่มัน เพราะถ้ามันมีลูก ลูกของมันก็ต้องเป็นพี่น้องกับตะวัน ดาไม่ยอม ดาจะไม่มีวันยอมให้ตะวันต้องนับญาติกับลูกมัน แค่ที่ต้องทนเห็นมันเป็นแม่เลี้ยงของตะวันอยู่ทุกวันนี้ ดาก็สะอิดสะเอียนจะแย่อยู่แล้ว”
เทวาลำบากใจ พูดอะไรไม่ออก
ดาวิกาน้ำเสียงแววตาเอาจริง เป็นทำนองขู่
“ถ้าพี่เทวาดีกับมันเมื่อไหร่ ดาจะทำให้พี่เทวาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
“อย่านะดา อย่าทำอะไรบ้าๆเป็นอันขาด”
“ถ้าพี่เทวาผิดสัญญา ดาจะทำแน่ๆ ไม่เชื่อก็ลองดู”
“ไม่นะดา”
“งั้นก็รับปากดามาสิคะ ว่าพี่จะไม่รักมัน จะไม่มีลูก ไม่สร้างครอบครัวกับมัน!”
“ได้ พี่รับปาก พี่จะไม่มีลูกกับเขา ขอแค่ดาไม่ทำร้ายตัวเอง พี่จะยอมทุกอย่าง”

เทวาเป็นห่วงดาวิกา จำใจต้องยอมรับปากด้วยความรู้สึกลำบากใจ

ต่อมา เทวาขับรถกลับมาถึงบ้านบริรักษ์ แล้วจอดลงที่โรงจอด

เทวายังคงไม่สบายใจ นั่งนิ่งอยู่ในรถ ครุ่นคิดเรื่องที่ดาวิกาพูด
“ถ้าพี่เทวาดีกับมันเมื่อไหร่ ดาจะทำให้พี่เทวาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
“อย่านะดา อย่าทำอะไรบ้าๆเป็นอันขาด”
“ถ้าพี่เทวาผิดสัญญา ดาจะทำแน่ๆ ไม่เชื่อก็ลองดูกัน”
เทวาถอนหายใจ ก่อนจะลงจากรถไป

เทวากลับเข้ามาในบ้าน รวิปรียากับตะวันนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ตรงหน้าเขา
รวิปรียากำลังเอาขนมและเครื่องดื่มให้ตะวันกิน ตะวันกินเค้กเปรอะแก้ม
“กินยังไงเนี่ยตะวัน ดูสิ เปื้อนหมดแล้ว”
รวิปรียาเอากระดาษเช็ดปากให้อย่างเอ็นดู
“คุณแม่ขา”
“ว่าไงคะ”
“กินขนมคนเดียวมันไม่สนุกเลย”
“ตะวันก็ไม่ได้กินคนเดียวนี่คะ แม่ก็อยู่ด้วยนี่ไง”
“ตะวันหมายถึงว่า ตะวันอยากมีน้องมากินด้วยอ่ะค่ะ”
รวิปรียาอึ้งไป ไม่คิดว่าตะวันยังคงสนใจเรื่องนี้อยู่
“เมื่อไหร่คุณแม่จะมีน้องให้ตะวันคะ”
“แม่กับคุณพ่อยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ เอาไว้ถ้าแม่พร้อมเมื่อไหร่ ตะวันก็คงจะมีน้องมาเล่นด้วย”
“เย้ๆ ดีใจจังเลย เล่นคนเดียวนี่มันเง๊าเหงานะคะคุณแม่”
“จ้า.. เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยนะ”
“ทำไมคะ คุณแม่เขินเหรอ”
“ไปกันใหญ่แล้วนะเรา ไปรู้จักคำพูดพวกนี้มาจากไหน”
“พี่จ๊ะเอ๋ชอบพูดค่ะ ว่าคุณแม่เขินคุณพ่อ”
“จ๊ะเอ๋นี่จริงๆเลย พอได้แล้ว เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ”
“สงสัยคุณแม่จะเขินจริงๆ”
“ยังไม่หยุดอีก หยุดพูดแล้วกินเค้กซะดีๆ เพราะถ้าไม่หยุด แม่ก็จะ... “ รวิปรียาพูดแล้วเอามือไปจั๊กกะจี้เอวตะวัน “จั๊กกะจี้”
รวิปรียาจั๊กกะจี้ตะวัน ตะวันหัวเราะสนุกสนาน เทวายืนมองภาพนั้นอย่างสับสนในใจ แล้วตะวันก็หันมามองเห็นพ่อเข้าพอดี
“คุณพ่อ คุณพ่อกลับมาแล้ว”
ตะวันวิ่งเข้ามาหาเทวา เทวากอดลูก แล้วเงยหน้ายิ้มน้อยๆให้รวิปรียา

คืนนั้น เทวากับรวิปรียาเข้ามาในห้องนอนด้วยกัน
“ขอบคุณนะรวิที่ช่วยดูแลตะวันเป็นอย่างดี ผมรู้ว่าการที่คุณต้องสละเวลามาดูแลเด็กคนนึงที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ฉันเองก็รักตะวันเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปแล้ว”
เทวาเข้ามาสวมกอดรวิปรียา มองรวิปรียาอย่างซึ้งใจ
“เมื่อกี๊ผมได้ยินนะ ที่ตะวันบอกว่าอยากมีน้องอีกคน”
รวิปรียาเขิน “ตะวันก็พูดไปเรื่อยน่ะค่ะ”
“แต่ถ้าเรามีลูกของเราเองอีกคน” เทวาชะงัก คำพูดของดาวิกาแล่นเข้ามาในสมอง
“งั้นก็รับปากดามาสิคะ ว่าพี่จะไม่รักมัน จะไม่มีลูก ไม่สร้างครอบครัวกับมัน!”
เทวาดึงสติกลับมาที่รวิปรียา ท่าทีเปลี่ยนไป ดูลำบากใจขึ้น
“ถ้าเรามีลูก... ทุกอย่างก็คงยุ่งยากกว่านี้ รวิ คุณกินยาคุมหรือเปล่า”
รวิปรียาส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วถามต่อ “ถามแบบนี้หมายความว่าไงคะ”
“ผม.. อยากให้คุณกินยาคุม เพราะยังไม่อยากให้คุณท้องขึ้นมาตอนนี้”
รวิปรียาอึ้ง รู้สึกสมองชา ไม่เข้าใจ
“คุณไม่อยากมีลูกกับฉัน”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“ทำไมคะ”
“ผมคิดว่าผมยังไม่พร้อม ตอนนี้มีตะวันคนเดียวก็ดีอยู่แล้ว”
เทวาผละไปอาบน้ำไม่อยากอยู่ให้รวิถามอะไรอีก รวิปรียายืนนิ่งอย่างสับสน

ต่อมา รวิปรียานั่งครุ่นคิดอยู่ในสวน เรื่องของเพชรพริ้งไม่กวนใจเธอเท่าเรื่องที่เทวาพูดกับเธอ
“คุณไม่อยากมีลูกกับฉัน”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“ทำไมคะ”
“ผมคิดว่าผมยังไม่พร้อม ตอนนี้มีตะวันคนเดียวก็ดีอยู่แล้ว”
รวิปรียาบ่นกับตัวเองเบาๆ สีหน้าไม่สบายใจ
“ไม่อยากมีลูกกับกับเรา เพราะเขายังรักแม่ของตะวันอยู่ล่ะสิ”
รวิปรียาถอนหายใจ หันกลับมาจะเข้าบ้าน แต่เจอเพชรพริ้งยืนมองเธออยู่แล้ว รวิปรียาชะงัก
เพชรพริ้งยิ้มเยาะๆ
“แค่ฉันมานอนค้างที่นี่ด้วยแค่นี้ ถึงกับเครียดจนนอนไม่หลับเลยหรือไง”
รวิปรียายิ้มเยาะๆเช่นกัน
“สำคัญตัวเองผิดไปหน่อยแล้วมั้งพริ้ง ผู้หญิงอย่างเธอน่ะ มันไม่มีราคาพอที่จะทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก”
“ถ้าไม่ใช่เรื่องฉันแล้วจะมีเรื่องไหนอีก เอ๊ะ..หรือว่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงคนอื่น หรือจริงๆแล้ว คุณเทวายังมีผู้หญิงคนอื่นอีกที่เขารักมากกว่าเธอ”
รวิปรียาหน้าเสียไป เพราะคำพูดเพชรพริ้งตอกเข้ากลางใจ
เพชรพริ้งหัวเราะพอใจ
“ดูจากสีหน้าเธอแล้ว ก็คงจะเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ตายแล้วรวิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราสองคนกำลังตกที่นั่งเดียวกัน นี่เธอคงคิดสินะว่าพอได้แต่งงานกับเขาแล้ว เขาก็จะกลายเป็นของเธอคนเดียว จะบอกให้เอาบุญนะ ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ที่มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังอย่างคุณเทวาน่ะ ต่อให้เธอเสแสร้งทำตัวดีงามปานเทพธิดา เธอก็ฉุดเขาไว้ไม่อยู่”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องฉันหรอกพริ้ง เธอเอาตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่า อุตส่าห์ลงทุนลงแรงเรื่องนิมมานไปตั้งเท่าไหร่ แต่สุดท้าย..เธอก็ถูกเขาโยนทิ้งเหมือนขยะเน่าๆชิ้นนึง”
“ฉันไม่มีวันถูกทิ้ง! ถ้าจะมีใครสักคนที่ถูกทิ้ง ก็ต้องเป็นเธอ ..ไม่ใช่ฉัน!”
“ งั้นเหรอ แล้วรอยช้ำบนหน้าเธอล่ะ มันหมายความว่าอะไร ถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังคิดว่านิมมานเขายังต้องการเธออยู่อีกเหรอ”
“เยาะเย้ยฉันไปเถอะรวิ ถือว่าวันนี้เป็นทีของเธอ แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี เพราะคุณเทวาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่น ของอะไรที่หากินได้ง่ายๆอยู่ทุกๆวัน อีกไม่นานเขาก็จะเบื่อ แล้วก็จะเริ่มมองหาความตื่นเต้นใหม่ๆ”
“นี่กำลังจะบอกว่า เธอคือของใหม่สินะ”
“ใช่!”
“ส่องกระจกชะโงกดูตัวเองซะหน่อยสิพริ้ง เธอใช้ร่างกายของเธอมาจนโชกโชนขนาดนี้ ยังกล้าบอกว่าตัวเองเป็นของใหม่อีกหรือ”
เพชรพริ้งโกรธจัด
“นังรวิ! แกอย่าเพิ่งระริกระรี้ได้ใจไป สำนึกไว้ด้วยว่าแกเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกของคุณเทวา เขาเคยมีแม่ของตะวันมาก่อน ขนาดมีลูกด้วยกัน เขายังทิ้งได้ นับประสาอะไรกับแก”
รวิปรียาแอบสะอึกไปเล็กน้อย เพราะเรื่องแม่ตะวันยังคาใจอยู่พอดี
“ตอนนี้แกก็แค่เดินเร็วกว่าฉันไปก้าวนึง ถือซะว่าฉันต่อให้ แต่หลังจากนี้ก็ระวังหลังเอาไว้ให้ดี เพราะถ้าแกเผลอเมื่อไหร่ ฉันจะแทงแกข้างหลังให้ทะลุถึงหัวใจเลย แล้วแกจะต้องเจ็บยิ่งกว่าครั้งนิมมานเป็นสิบๆเท่า”
รวิปรียาเริ่มเหนื่อยใจกับความโกรธแค้นรุนแรงของเพชรพริ้ง
“ทำไมพริ้ง ทำไมเธอต้องจงเกลียดจงชังฉันขนาดนี้”
“ความเกลียดมันไม่ต้องมีเหตุผลหรอก แค่แกรู้ไว้ว่าฉันเกลียดแก แค่นั้นก็พอแล้ว”

ทั้งคู่ยืนมองหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร แล้วเพชรพริ้งก็สะบัดหน้าหันหลังจากไป

ในความฝัน ดาวิกาเดินขึ้นบันไดหนีไฟตรงมายังดาดฟ้าอาคารตามลำพัง
 
บรรยากาศวังเวง เธอมองหาใครบางคน
เมื่อดาวิกาขึ้นมาถึงดาดฟ้า พศินยืนหันหลังอยู่บนดาดฟ้า ดาวิกาเข้ามาหยุดยืนทางด้านหลัง
“พศิน..”
พศินหันหน้ากลับมายิ้มให้ ดาวิกายิ้มดีใจ
“คุณจริงๆด้วย นี่คุณกลับมาหาดาแล้วใช่ไหม”
สีหน้าพศินเฉยเมย ไม่ยินดียินร้าย
“ผมขอโทษนะดา”
“ขอโทษ? คุณขอโทษดาทำไม”
“ขอโทษผมไม่ได้รักคุณ ผมไม่เคยรักคุณเลย แต่ผมรักผู้หญิงคนนั้น”
“ผู้หญิงคนนั้น? ใคร”
“ผมรักรวิปรียา”
ดาวิกาใจหาย “รวิปรียา”
“ลาก่อนนะดา ผมต้องไปแล้ว”
พศินหันหลังกลับ เดินไปที่ขอบตึกโดยไม่สนใจดาวิกา
“พศิน คุณจะไปไหน”
ดาวิกาเดินตามหลังพศินไป แล้วดึงแขนพศิน
“เดี๋ยวสิพศิน”
ทันใด! พศินก็หันกลับมา แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยเลือดเกราะกรัง ดวงตาเบิกโพลง
“แอร๊ย...”

ดาวิกาสะดุ้งตื่น เด้งลุกขึ้นนั่งบนเตียง ยังคงตื่นตระหนกจากฝันร้าย
“พศิน!”
เพียงชั่วครู่ เธอก็พบว่าตัวเองฝันไป เธอถอนหายใจ แต่ในใจยังไม่คลายความเครียด แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอกดรับสาย
“ฮัลโหล”
เพชรแท้ส่งเสียงจากปลายสาย “เสียงยังกับคนเพิ่งตื่น”
“ใช่ค่ะ”
“ผมมาถึงหน้าห้องคุณแล้วนะ”
“เดี๋ยวดาไปเปิดประตูให้ค่ะ”
ดาวิกากดวางสาย เดินออกจากห้องนอนไปยังประตูห้องของอพาร์ตเมนท์ พอเธอเปิดประตูออก เพชรแท้ก็ยืนอยู่แล้วพร้อมด้วยอาหารเต็มถุงเหมือนเคย แต่สีหน้าดาวิกาดูไม่สดชื่นนัก
“เป็นอะไรไป ทำไมหน้าคุณดูเครียดๆ นี่ผมมาเช้าเกินไปหรือเปล่า เอ..แต่นี่ก็จะสิบโมงแล้ว”
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ ดาฝันไม่ค่อยดีน่ะ”
“อีกแล้วเหรอ”
ดาวิกาพยักหน้า แล้วเดินกลับเข้าห้องไป เพชรแท้ตามเข้าห้องมา ยังคงเป็นห่วง

ดาวิกานั่งอยู่ตามลำพังในห้องนอน เธอนั่งอยู่บนเตียง มีกล่องใส่ภาพเก่าๆวางอยู่ข้างๆ ในมือของเธอถือภาพถ่ายพศินใบหนึ่ง ภาพถ่ายอื่นๆ วางอยู่เรียงรายข้างตัว
ดาวิกามองภาพถ่ายเศร้าๆ จากนั้นก็หยิบภาพอีกใบหนึ่งขึ้นมาดู เป็นภาพของพศินที่ถ่ายคู่กับรวิปรียา สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
ดาวิกามือสั่นอยากจะขยี้ภาพนั้น แต่ก็ไม่อยากเสียหลักฐานชิ้นสำคัญไป เสียงของเพชรแท้ร้องเรียกดังมาจากหน้าห้อง
“ดา ผมทำแซนวิชไว้ให้แล้ว มากินอะไรรองท้องก่อนเถอะ”
ดาวิกาตะโกนตอบกลับไป “ดายังไม่หิว”
เพชรแท้ที่กำลังเรียกดาวิกาอยู่ที่หน้าห้องนอนของเธอ
“แต่นี่มันบ่ายแล้ว คุณจะเก็บตัวอยู่ในห้องแบบนั้นทั้งวันไม่ได้ คุณต้องกินอะไรบ้าง”
“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าดาไม่อยากกิน”
“งั้นก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกกัน คุณต้องออกไปไหนมาไหนบ้างนะดา”
“ดาไม่อยากไปไหน อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”
ดาวิกาแทบไม่ค่อยสนใจเพชรแท้ที่อยู่ข้างนอก จมอยู่กับเรื่องของตัวเอง เธอเก็บภาพถ่ายกลับใส่กล่อง เอากล่องไปเก็บเข้าที่ แล้วเริ่มเดินวนไปวนมา คิดว่าจะทำอะไรต่อ
“ถ้าคุณไม่ออกมา ผมจะเข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้”
“อย่านะ คุณเข้ามาตอนนี้ไม่ได้”
ดาวิกาตัดสินใจ เดินไปเอากระเป๋าเดินทางออกมาจากมุมหนึ่ง เธอเปิดกระเป๋ากางออก
เพชรแท้เคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้อง
“ดา ถ้าคุณไม่ออกมาคุยกัน ผมก็จะเข้าไป”
ในห้องนอน ดาวิกาเริ่มเปิดตู้เสื้อผ้า ดึงเสื้อผ้าบางส่วนออกมา เพชรแท้เปิดประตูห้องเข้ามาพอดี
“นี่มันเรื่องอะไรกันดา คุณเป็นอะไรขึ้นมาอีก”
เพชรแท้เห็นภาพดาวิกากำลังหอบเสื้อผ้าออกมาจากตู้
“ทำอะไร คุณจะไปไหน”
ดาวิกาสาละวนเก็บเสื้อผ้า ใจลอยๆ สติไม่อยู่กับตัว
“ดาต้องทำอะไรสักอย่าง ดาจะปล่อยให้พี่เทวารักผู้หญิงคนนั้นไม่ได้”
“นี่ดาพูดอะไร เทวา.. ? ใคร”
“พี่ชายดา”
“ไหนดาบอกว่าเขาแต่งงานแล้วนี่”
“ใช่ เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่แย่งทุกอย่างไปจากดา แต่รู้ไหมเพชร ที่เขาต้องแต่งงานกันก็เพราะแผนของดาเอง ดาอยากทำให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บ แต่ตอนนี้พี่เทวากำลังจะรักมัน ดายอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้”
เพชรแท้ยังไม่เข้าใจนัก “ดา ใจเย็นๆ”
แต่ดาวิกาเหมือนอยู่แต่ในโลกของตัวเอง เธอเริ่มยัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า เพชรแท้ต้องเข้ามาจับแขน จับตัวหมุนให้ดาวิกาหันมาหาเขา
“ดา หยุด! แล้วฟังผม เรามาพูดกันดีๆก่อนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
“คุณไม่เข้าใจหรอก”
“เพราะผมไม่เข้าใจไงล่ะ คุณถึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมอยากช่วยคุณนะดา แต่ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ ผมจะช่วยคุณได้ยังไง”
ดาวิกามองหน้าเพชรแท้ สติเริ่มกลับมา น้ำตาไหลออกมาแล้วเธอก็ร้องไห้กอดเพชรแท้ เพชรแท้ลูบหลังปลอบประโลม
ต่อมา สองมือดาวิกาจับแก้วกาแฟ ก้มสายตาลงรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต
เพชรแท้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอที่โต๊ะอาหาร รอฟัง
“ดาเคยมีคนรักอยู่คนนึง เราเจอกันตอนที่เขาเพิ่งเรียนจบ แล้วมาเริ่มทำงานที่บริษัทของพ่อดา”

เรื่องราวกลับไปยังอดีต

เมื่อ 5 ปีก่อน พศินเพิ่งเข้ามาทำงาน
 
เขายืนคุยอยู่กับผู้จัดการแผนกคนหนึ่งในบริษัท BR Construction สักพักดาวิกาก็มาสมทบ ผู้จัดการทำท่าแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน ท่าทางผู้จัดการดูพินอบพิเทา
พศินยิ้มน้อยๆ ให้ดาวิกาตามมารยาท แล้วเดินกลับไปทำงาน
“ตอนนั้นดาเองก็เพิ่งเข้าไปช่วยงานคุณพ่อเหมือนกัน”
ดาวิกามองตามพศินไป ประทับใจที่เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับการที่เธอเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท
“เขาเป็นคนเรียบร้อย ดูนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ จนดาไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เพราะความไม่รู้นี่เอง ดาถึงรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าค้นหา”

ดาวิกามาหาพศินที่โต๊ะทำงาน ยื่นUSB Driveไปให้พศิน เหมือนจะบอกให้เขาช่วยเปิดให้หน่อย
“คอมพ์ดาเป็นอะไรไม่รู้ เปิดไดร์ฟนี้ไม่ออก พศินช่วยดูให้หน่อยสิ”
พศินรับUSB Driveไป เสียบเข้ากับคอมพ์ ไฟล์ถูกเปิดขึ้นมาที่หน้าจอ
“ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ เปิดได้ปกติ”
“อ้าวเหรอ แต่เครื่องดามันเปิดไฟล์นี้ไม่ออกจริงๆนะ”
“น่าจะเป็นเพราะเครื่องคุณดาไม่มีแอพสำหรับเปิดไฟล์นี้ จริงๆมันดาวน์โหลดง่ายมากเลยนะ”
พศินทำท่าอธิบายให้ดาวิกาฟังต่อ ดาวิกาตั้งใจฟัง ใบหน้าทั้งสองคนมองไปที่จอมอนิเตอร์อยู่ใกล้ๆกัน ดาวิกาแอบเหลือบมองหน้าพศิน แอบมีใจให้

วันหนึ่ง ... พศินกับดาวิกาเดินเล่นอยู่ด้วยกันที่มุมสวยๆ มุมหนึ่ง
“ดาเริ่มชอบเขาก่อน แล้วเขาก็ดูจะมีใจให้ดาเหมือนกัน”
ดาวิกามองพศินสายตาปลาบปลื้ม
“เดือนหน้าพศินก็รับปริญญาแล้วสิ”
“อืม..”
“ดาก็เหมือนกัน”
พศินพยักหน้ารับ ใบหน้าเคร่งๆ เหมือนมีเรื่องให้คิด
“เป็นอะไรน่ะพศิน ทำหน้าเหมือนกำลังอกหักเลย”
“ไม่ใช่ซะหน่อย”
“ตกลงว่าพศินมีแฟนหรือยัง”
“ยัง แต่ผมกำลังทำใจจากผู้หญิงคนนึงอยู่ ผมชอบเขา แต่เขาไม่ได้ชอบผม ตอนนี้เราก็เลยเป็นได้แค่เพื่อนกัน”
ดาวิกาน้อยใจ “ตอนนี้ก็คงกำลังคิดถึงเขาอยู่ล่ะสิ เพื่อนคนนั้นน่ะ”
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาแบบนั้นแล้ว แต่ที่ผมคิดอยู่ก็คือ...” เขาหันมองดาวิกา แล้วเอื้อมมือไปจับมือดาวิกา “ผมควรจะเริ่มอะไรใหม่ๆกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ไหม”
ดาวิกายิ้มออก ทั้งคู่จับมือเดินไปด้วยกัน

ดาวิกายังคงเล่าเรื่องของเธอให้เพชรแท้ฟัง
“เราสองคนเริ่มคบกัน แล้วก็มีความสุขด้วยกันดี โดยที่ดาไม่เคยเอะใจเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นยังคงตามเป็นเงาหลอกหลอนในใจของพศินมาตลอด”
 
ดาวิกาว่า

ในวันหนึ่ง ที่คอนโดฯ พศินชะงัก หันมามองดาวิกาที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี

“ว่าไงนะ ดาท้อง...”
“สองเดือนแล้วค่ะ ดาเพิ่งตรวจเมื่อเช้า”
พศินหน้าเสีย อึ้งไป เดินเลี่ยงไปทางหนึ่ง
“พศินไม่ดีใจเหรอ”
พศินแก้ตัว “ปะ เปล่า.. ผมแค่ตกใจน่ะ ผมยังตั้งตัวไม่ทัน”
“มันอาจจะเร็วไปนะพศิน แต่ถ้าดากับพศินไปบอกเรื่องนี้กับพ่อและพี่เทวาด้วยกัน ถ้าเรายืนยันว่าเราสองคนรักกัน พ่อกับพี่เทวาก็คงจะเข้าใจ พศินเป็นคนดี ทุกคนไม่รังเกียจคุณแน่ๆ”
“ดา.. คือ..ผม”
“เราจะได้แต่งงานกัน แล้วก็มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข มีคุณ มีดา แล้วก็ลูก”
“ผมยังไม่พร้อม ผมไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงลูกไหว ผมเพิ่งเริ่มทำงาน แล้วก็เป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดาๆ”
“ไม่มั่นใจว่าจะเลี้ยงไหว หรือไม่มั่นใจว่าอยากแต่งงานกับดา”
พศินเงียบไป ตอบไม่ถูก
“หรือว่าพศินอยากให้ดาเอาเด็กออก”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
ดาวิกาไม่ฟัง เธอลุกขึ้นโกรธๆ แล้วจะออกจากห้องไป
“ก็ได้ ถ้าคุณอยากให้ดาเอาเด็กออก ดาก็จะทำ”
“เดี๋ยวสิดา เดี๋ยว”
ดาวิกาเปิดประตูออกจากห้องไป โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากพศิน
“ดามารู้เอาทีหลังว่า ตลอดเวลาที่คบกับดา พศินยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย”

อีกวันหนึ่ง ดาวิกาออกจากลิฟท์ของคอนโด ในมือมีขนมและอาหารที่ซื้อเตรียมมาฝากพศิน เธอเดินตรงมาทางห้องพักของพศิน อารมณ์อยู่ในห้วงแห่งรัก มีความสุข
พอพ้นมุมผนัง เธอก็ชะงัก เพราะเห็นพศินกำลังยืนอยู่หน้าห้องกับรวิปรียา เหมือนพศินออกมาส่งรวิปรียา
ท่าทางพศินเศร้าๆ เขากอดรวิปรียาอย่างหาที่พึ่ง รวิปรียาตบหลังพศินปลอบๆ
ดาวิกายืนช็อก ข้าวของหล่นร่วงจากมือ แล้วแอบยืนหลบมุม
“ผู้หญิงคนนั้นใช้ความเป็นเพื่อนหลอกล่อให้พศินต้องใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา หลงรักเขา แต่เขาเองก็ไม่ได้รักพศินเลย เขาแค่เลี้ยงพศินไว้เพื่อบริหารเสน่ห์ของตัวเองเท่านั้น”

เพชรแท้กับดาวิกาที่กำลังคุยกันอยู่
“ถ้าคุณพศินเขามีผู้หญิงอีกคน เรื่องนี้คุณก็ต้องโทษเขาด้วย เรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเขาเพราะเขาไม่หนักแน่นพอ”
“พศินอาจจะผิด แต่เขาก็ชดใช้แล้วด้วยการจบชีวิตตัวเอง แต่ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนั้น เรื่องพวกนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น แล้้วก็คงจะไม่จบลงแบบนี้ จำที่ดาบอกคุณได้ไหมว่าดามีลูกแล้ว”
เพชรแท้พยักหน้า
“นั่นแหละ ลูกของดากับพศิน ดาเกือบจะฆ่าเด็กตาดำๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปแล้ว ถ้าพี่เทวาไม่มาห้ามไว้ ดาต้องพรากจากลูกตัวเอง ต้องมาโดดเดี่ยวอยู่ที่อเมริกา ต้องกลายเป็นผู้หญิงจิตไม่ปกติรักษาไม่หายอยู่แบบนี้ไง”
“โรคซึมเศร้า มันไม่ใช่โรคจิตซะหน่อยนะดา”
“แต่มันก็ทำให้ดาไม่มีความสุข ดาต้องทนทุกข์อยู่กับความทรงจำเลวร้ายมาตลอด5ปี ก็เพราะมัน! รวิปรียา”
เพชรแท้ตกใจ อึ้งๆ “ดาว่าอะไรนะ รวิปรียา...?”
“รวิปรียา สิริคุณานันท์ ชื่อของผู้หญิงคนนั้น ชื่อที่ดาจะไม่มีวันลืม ถึงแม้ว่าดาจะตาย ดาก็จะไม่มีวันให้อภัยมัน”
“รวิปรียา เป็นไปไม่ได้ เขาไม่น่าจะทำอะไรแบบนั้น”
“เพชรรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ ทำไมต้องออกตัวปกป้องมันด้วย!”
เพชรแท้เงียบไป ตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ เมื่อเห็นดาวิกาอารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาอีก แต่ในใจตื่นตระหนก กังวลกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้

วันใหม่ รวิปรียากำลังพาตะวันซึ่งอยู่ในชุดนักเรียนเดินออกมาจากตัวบ้าน เทวาเดินตามหลังมาส่ง
“เย็นนี้ผมคงกลับบ้านดึกหน่อยนะรวิ”
“ค่ะ”
“คืนนี้ให้คุณแม่พาเข้านอนคนเดียวนะตะวัน”
ตะวันทำหน้างอๆ “ช่วงนี้คุณพ่อกลับดึกทุกวันเลยนะคะ”
“เพราะพ่อต้องทำงานหาเงินมาซื้อของเล่นให้ลูกไง”
ตะวันหน้าระรื่นขึ้นทันที
“งั้นคุณพ่อก็ทำงานเยอะๆเลยค่ะจะกลับดึกแค่ไหนตะวันก็ไม่ว่า แล้วตอนนี้ตะวันก็อยากได้”
ตะวันดึงมือเทวาให้ก้มตัวลงมาแล้วกระซิบข้างหู
ตะวันกระซิบ แบบมีเสียง “ตะวันอยากได้น้องเป็นของเล่นค่ะ”
เทวากับรวิปรียาอึ้งๆ เทวาลุกขึ้น ลูบหัวตะวันแบบเอ็นดู
“เข้าใจพ่อดีจังเลยนะลูกคนนี้ ... แล้วคุณล่ะ เข้าใจผมไหม”
“ถ้าคุณอยากให้ฉันเข้าใจคุณ คุณก็ต้องเข้าใจฉันด้วยเหมือนกัน”
“คุณนี่ไม่เคยตอบอะไรหวานๆเหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยนะ ต้องมีข้อแม้ตลอด”
รวิปรียาทำหน้ากวนๆใส่ เทวาจึงยืนหน้าไปหอมแก้ม
“ทำอะไรของคุณเนี่ย”
“หอมแก้มส่งภรรยาไปทำงานไง”
“แต่ตรงนี้มัน” เธอมองซ้ายมองขวาอายๆ
ตะวันหัวเราะ ตบมือชอบใจ เทวานั่งลงหอมแก้มตะวันด้วย
“เป็นเด็กดีนะลูก ... เจอกันค่ำๆจ้ะ ไม่ต้องรอผมนะ”
รวิปรียาพยักหน้ารับ จูงมือพาตะวันตรงไปที่รถ
ที่มุมหนึ่งในบ้าน รเพชรพริ้งยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่

“ระริกระรี้ไปก่อนเถอะนังรวิ ฉันอยากจะรู้นักว่าแกจะยิ้มระรื่นแบบนี้ไปได้อีกสักกี่วัน”

ต่อมา จ๊ะเอ๋เดินนำเพชรพริ้งลงมาจากบันไดชั้นบนของบ้าน
 
สายตาเพชรพริ้งมองเห็นด้านหลังของนิมมานที่ยืนรออยู่แล้ว
นิมมานหันกลับมา สีหน้าเฉยเมย ไม่ใส่ใจนัก
“คุณมาทำไม”
จ๊ะเอ๋เห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี รีบผลุบหายตัวไปทางหนึ่ง
“คุณพ่อรู้ว่าคุณขนข้าวของออกจากบ้านเลยให้ผมมารับคุณกลับ”
“ฉันไม่กลับ”
“ไม่กลับก็อย่ากลับ อย่างน้อยผมก็มาตามคุณตามคำสั่งคุณพ่อแล้ว”
“นี่ถ้าคุณพ่อไม่สั่ง คุณก็คงไม่มาสินะ”
“ใช่”
นิมมานจะหันกลับหลัง เดินออกไป เพชรพริ้งส่งเสียงดังท้วงไว้
“แล้วนี่คุณไม่คิดจะขอโทษฉันสักคำเลยรึไง”
นิมมานแค่หันหน้ามาเหล่มองอย่างเย็นชา แล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร เพชรพริ้งสีหน้าแววตาโกรธจัด

คืนนั้น เพชรพริ้งอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ กำลังเทถังใส่ก้อนน้ำแข็งลงในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่ครึ่งนึงแล้ว
ในอ่างอาบน้ำ ที่น้ำเต็มไปด้วยน้ำแข็ง เพชรพริ้งยิ้มกระหยิ่มกับตัวเอง มีแผนในใจ
เธอถอดชุดคลุมอาบน้ำออก เสื้อคลุมลงกองที่พื้น เท้าของเพชรพริ้งค่อยๆก้าวขึ้นอ่างอาบน้ำ
เพชรพริ้งนอนแช่อยู่ในอ่างน้ำแข็ง ไม่ยี่หระกับความเย็นที่ซึมเข้าสู่ผิวกาย ร่างกายสั่นเล็กน้อย แต่ดวงตาลุกโพลงตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง

เช้าวันใหม่ ที่อเมริกา
เพชรแท้นั่งอยู่คนเดียวในห้องสมุด ในบรรยากาศเงียบเหงา ในมือเขามีพาสปอร์ตซึ่งเปิดหน้าแรกอยู่ ชัดเจนว่า เขาชื่อ เพชรแท้ สิริคุณานันท์
เสียงของดาวิกาดังลอยเข้ามาในความคิดคำนึง
“แต่มันก็ทำให้ดาไม่มีความสุข ดาต้องทนทุกข์อยู่กับความทรงจำเลวร้ายมาตลอด5ปี ก็เพราะมัน! รวิปรียา”
“ ดาว่าอะไรนะ รวิปรียา...?”
“รวิปรียา สิริคุณานันท์ ชื่อของผู้หญิงคนนั้น ชื่อที่ดาจะไม่มีวันลืม ถึงแม้ว่าดาจะตาย ดาก็จะไม่มีวันให้อภัยมัน”
เพชรแท้มองที่นามสกุลของเขา พึมพำเบาๆ
“สักวันคุณก็ต้องรู้ความจริงว่าผมเป็นน้องชายพี่รวิ ไม่อยากคิดเลยว่าถึงตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น”
เพชรแท้หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูภาพถ่ายของเขาคู่กับรวิปรียา
“พี่รวิ ศัตรูคนเดียวของผู้หญิงที่ผมรัก ก็คือพี่.. แล้วผู้หญิงที่ผมรัก ก็กำลังลงมือแก้แค้นพี่สาวที่ผมเคารพรัก ผมควรทำยังไงดี”
เพชรแท้นั่งซึมอยู่ตามลำพัง

คืนนั้น ที่ BR Construction เทวาปิดแฟ้มงานลง เขาเพิ่งเสร็จงานที่นั่งช่วยกันทำอยู่กับรริศา
“เอาล่ะ เสร็จซะที พี่ว่าราคานี้เป็นราคาเสนอประมูลที่น่าจะลงตัวที่สุด”
“ใช่ค่ะ”
“โปรเจกต์นี้จะเป็นโอกาสให้บริษัทเราเติบโตเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ คุณพ่อย้ำมาว่าเราต้องได้งานนี้ แต่เท่าที่พี่สืบมา ทางนิรมิตก็กำลังเตรียมตัวเต็มที่อยู่เหมือนกัน”
สีหน้ารริศาดูมีอาการผงะเล็กน้อยเมื่อพูดถึงนิรมิต
“ริศาคิดว่าเรามีโอกาสแค่ไหน”
“งานนี้ต้องวัดกันที่ราคาแล้วล่ะค่ะ ใครเสนอได้ถูกกว่าก็น่าจะได้งานไป แต่ดูๆแล้วคงไม่มีบริษัทอื่นกล้าให้ราคาต่ำกว่านี้”
เทวาพยักหน้ารับ แล้วนึกถึงดาริน
“แล้วนี่ยัยรินไปไหน เขาเป็นอะไรของเขา พี่ไม่เห็นหน้ามาสองสามวันแล้ว ที่บ้านก็ไม่ได้เจอกันเลย”
“ออกไปพบลูกค้าน่ะค่ะ แต่ช่วงนี้รินดูซึมๆนะคะ ทำตัวอย่างกับคนอกหัก”
“หืม.. ยัยรินเนี่ยนะ แฟนยังไม่เคยเห็นมี จะอกหักได้ยังไง”
รริศาส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน
“ช่วงนี้นี่ยังไง มีแต่คนกำลังมีความรัก เราเองล่ะ อยู่ทำงานดึกๆแบบนี้ มีใครรออยู่หรือเปล่า”
“เอาอะไรมาพูดคะพี่เทวา ไม่มีหรอกค่ะ”
“งั้นวันนี้ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว ริศาเองก็รีบกลับเถอะ”
“งั้นริศากลับก่อนนะคะ”
รริศาเก็บเอกสารของตัวเอง แล้วออกจากห้องไป เทวากดโทรศัพท์ออกหาเมฆา
“เมฆา พรุ่งนี้นายช่วยกำชับแม่บ้านด้วยว่า ถ้าเข้ามาทำความสะอาดในห้องฉัน อย่าแตะต้องของอะไรบนโต๊ะนี้เด็ดขาด เพราะมีข้อมูลสำคัญอยู่ ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละเดี๋ยวฉันจะมาจัดการเอง”
เทวาสั่งการ

อ่านต่อตอนที่ 18

#ใจลวง #thaich8 #ละครออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น