ใจลวง ตอนที่ 6
ภายในโรงแรม ตอนกลางวัน มีพิธีรดน้ำสังข์
มิตรรดน้ำสังข์ลงที่มือของนิมมาน พร้อมอวยพรลูกชาย
"ตอนนี้ก็ถือว่าแกโตเป็นผู้ใหญ่ไปอีกก้าวนึงแล้วนะนิมมาน ลูกผู้ชายเราไม่มีอะไรน่าภูมิใจเท่ากับการได้ดูแลครอบครัวไปให้ตลอดรอดฝั่ง"
มิตรก้าวเข้าไปรดน้ำสังข์ให้เพชรพริ้ง
"นิมมานเขาเป็นพวกดื้อเงียบ เอาแต่ใจไม่มีใครเกิน ยังไงฉันก็ฝากนิมมานด้วยนะหนูพริ้ง"
เพชรพริ้งยิ้มพอใจ "ค่ะ"
วิษณุเข้ามารดน้ำสังข์ให้คู่บ่าวสาว
"อาฝากพริ้งด้วยนะนิมมาน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน" วิษณุขยับไปหาเพชรพริ้ง "ต่อไปนี้ก็เป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะพริ้ง ลุงขอให้เธอทั้งสองคนรักกันไปนานๆ"
พัชชาเข้ามารดน้ำสังข์ต่อจากวิษณุ เธอมีความสุขปลื้มใจ
"รักพริ้งให้มากๆนะนิมมาน ระลึกไว้เสมอว่าทุกสิ่งที่พริ้งทำเป็นเพราะเขารักเธอมาก" เธอขยับไปหาเพชรพริ้ง "แม่ภูมิใจกับลูกมากนะพริ้ง การได้เห็นลูกในชุดแต่งงาน แล้วครองคู่กับผู้ชายอย่างนิมมาน เป็นความฝันสูงสุดของแม่แล้ว"
เพชรแท้ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังรับหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว ส่ายหน้าเอือมๆแม่ตัวเอง
พิธีรดน้ำสังข์ยังดำเนินไป แขกคนคนอื่นๆกำลังรดน้ำสังข์อวยพรคู่บ่าวสาว
วิษณุยืนชะเง้อมองหารวิปรียา ไม่แน่ใจว่าเธอจะมาหรือเปล่า แล้วเดินไปกวักมือเรียกเพชรแท้แบบเงียบๆ
เพชรแท้เลี่ยงออกมาหาวิษณุ คุยกันเบาๆ
"นี่รวิเขาจะมาไหม เขาบอกอะไรเพชรหรือเปล่า"
"เมื่อคืนผมเพิ่งคุยกับพี่รวิ เหมือนพี่เขาจะมานะครับคุณลุง แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
"นี่แขกรดน้ำสังข์ก็ใกล้จะหมดแล้วด้วยสิ"
"ที่จริงพี่รวิเขาไม่มาก็ดีสำหรับเขาแล้วล่ะครับ"
"ก็จริงของเธอ"
ขาดคำของเพชรแท้ ร่างของรวิปรียาก็ปรากฏตัวในเกือบนาทีสุดท้ายก่อนที่จะจบพิธีรดน้ำสังข์ให้คู่บ่าวสาว
นิมมานกับเพชรพริ้งหันไปมองรวิปรียา เพชรพริ้งไม่พอใจไม่คิดว่ารวิปรียาจะกล้ามา นิมมานมองด้วยความเสียดาย สายตาละห้อย ตรงหน้าทั้งคู่ไม่มีแขกแล้ว
เพชรพริ้งกัดฟันพึมพำในใจ "นี่แกยังกล้ามาอีกเหรอ"
รวิปรียามาหาวิษณุกับเพชรแท้
"นี่รวิมาทันรดน้ำสังข์เป็นคนสุดท้ายใช่ไหมคะคุณพ่อ"
"รวิ ถ้าลูกไม่..."
รวิปรียายิ้มใจเย็น "รวิอยากอวยพรให้นิมมานกับพริ้งค่ะ"
รวิปรียารับสังข์จากพานในมือเพื่อนเจ้าสาว เดินยิ้มตรงเข้าไปคู่บ่าวสาวอย่างมั่นใจ ไม่มีร่องรอยหวั่นไหวในดวงตาของเธอ แล้วบรรจงรินน้ำใส่มือของนิมมาน
นิมมานเงยหน้ามองรวิปรียาตาไม่กระพริบ
รวิปรียายิ้มยั่วให้นิมมานแล้วกุมมือเขาไว้ จงใจแสดงเยื่อใยให้เพชรพริ้งเห็น
"ขอให้คุณมีความสุขนะคะ นิมมาน"
เพชรพริ้งเริ่มจะออกอาการฟึดฟัด ตอนที่รวิปรียาขยับเดินเข้าไปตรงหน้าเธอ
รวิปรียารดน้ำสังข์ให้เพชรพริ้งเสร็จ ก็ชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างๆหูเพชรพริ้ง
รวิปรียากระซิบ "ระวังไว้ให้ดีล่ะพริ้ง เพราะฉันพร้อมจะแย่งของของฉันคืน"
แล้วรวิปรียาก็จากไปแบบผู้ชนะ เพชรพริ้งระงับอารมณ์ไม่ไหวอีกต่อไป เธอลุกขึ้นกรี๊ดกลางงาน ข้าวของตรงนั้นล้มกระจาย
"นังรวิ! ถ้าแกกล้า ถ้าแกคิดว่าแกแน่จริงก็ลองดู กลับมาสิ จะหนีไปไหน นังรวิ!"
บรรดาแขกในบริเวณนั้นต่างตกใจ ซุบซิบกัน นิมมานเซ็ง... เพชรพริ้งสุดๆ เดินหนีไปทันที มิตรอายเดินตามนิมมานไป
วิษณุกับเพชรแท้อยากจะกุมขมับ
พัชชารีบวิ่งเข้ามาหาเพชรพริ้งปลอบใจกันไป
"ใจเย็นๆหน่อยสิยัยพริ้ง นี่มันงานแต่งงานแกนะ แขกเหรื่อเขามองกันใหญ่แล้ว"
เพชรพริ้งเงียบเสียงแต่ยังฮึดฮัด
ครอบครัวบริรักษ์กำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยกันที่โต๊ะอาหาร ตะวันนั่งตรงกลางระหว่างเทวาและดาวิกา ดาวิกาคอยดูแลตะวัน ตักอาหารป้อนใส่ปาก บรมมองลูกสาวและหลานอย่างรักใคร่เอ็นดูแล้วเอ่ยปากขึ้น "เทวา ตกลงว่าคืนนี้บ้านเราใครจะไปงานเลี้ยงแต่งงานของนิมมาน"
"ผมไปเองครับคุณพ่อ"
"รินก็จะไปค่ะ พวกเพื่อนๆ รินเขาจะไปงานนี้กันด้วย รินเลยบอกเพื่อนไว้ว่าจะไปเจอกันที่งาน งานนี้เนี่ย ใครๆเขาก็อยากไปให้เห็นกับตาทั้งนั้นแหละค่ะว่าอะไรเป็นอะไร"
"ทำไม มีอะไรตื่นเต้นเหรอยัยริน"
"ก็เรื่องที่กำลังเป็นหัวข้อเมาท์ในแวดวงเรียลเอสเตทตอนนี้น่ะสิคะพี่ดา คุณนิมมานแห่งบริษัทนิรมิตที่คบกับคุณรวิมาตั้งนาน จู่ๆ ก็มาแจกการ์ดแต่งงานกับคุณเพชรพริ้งลูกพี่ลูกน้องคุณรวิซะงั้น"
ดาวิกาได้ยินชื่อรวิแล้วชะงัก ฉุกใจขึ้นมา
"รวิ? รวิไหน"
"รวิปรียา สิริคุณานันท์ ลูกสาวคุณวิษณุเจ้าของสยามเอ็นจิเนียริ่งน่ะค่ะ"
ดาวิกาเริ่มจะมือสั่น ชื่อนี้คือศัตรูของเธอแน่นอน !!
"ใครๆ เขาก็สงสัยกันว่าทำไมถึงได้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกลางอากาศ"
"เห็นไหม ที่พ่อพูดไว้น่ะผิดซะที่ไหน หนุ่มสาวสมัยนี้เปลี่ยนใจกันปุ๊บปั๊บ คนเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้องได้แต่งงานกันเสมอไป จริงไหมเทวา เท่ากับว่าตอนนี้หนูรวิปรียาเขาก็โสดแล้ว"
"คนบางคนแถวนี้ก็คงจะมีหวังขึ้นมาทันที"
"ต่อไปนี้แกก็มีสิทธิ์ทำคะแนนกับหนูรวิแล้วนะเทวา"
ดาวิกาหันขวับมามองหน้าเทวานิ่ง
"คุณรวิเขากำลังเศร้าอยู่ครับคุณพ่อ จะให้ทำอะไรผลีผลามก็ดูจะน่าเกลียด"
ดาวิกาที่กำลังถือช้อนอยู่ในมือ ถึงกับมือไม้สั่น
"แต่ตอนนี้คุณรวิเธออาจกำลังต้องการคนมาดามหัวใจ ดีไม่ดี งานนี้ตะวันของเราอาจจะมีแม่ใหม่ก็ได้นะคะคุณพ่อ" ดารินว่า
ตะวันผสมโรง "เย้ๆๆ ตะวันชอบน้ารวิ"
"เอ้า พูดไปกันใหญ่แล้ว" เทวาพูดพลางขยี้หัวตะวันอย่างเอ็นดู
"ตะวันก็ชอบหนูรวิเขามากอยู่นาเทวา แกอย่าปล่อยให้หลุดมือเชียว"
บรมกับดารินหัวเราะกันสนุก ไม่มีใครสังเกตใบหน้าดาวิกาที่หน้าซีดลงทุกที ท่าทางเหมือนกำลังหายใจขัดถึงกับมือไม้อ่อน ช้อนร่วงลงจากมือดัง เคร้ง!
ทุกคนหันไปมอง
"เป็นอะไรไปลูก" ดาวิกาเหมือนช็อกไม่ได้ยินที่บรมเรียกจนบรมเรียกซ้ำ "ดา"
"เปล่าค่ะ" ดาวิกาลุกขึ้น "ดาขอตัวก่อนนะคะ"
ดาวิกาลุกออกไปจากเก้าอี้ ทุกคนได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจ
"เป็นอะไรของเขา" บรมว่า
เทวาสงสัยว่า เกิดเป็นอะไรขึ้นกับดาวิกา
ภายในห้องนอน ดาวิกาหันขวับมาหาเทวา ท่าทางกระวนกระวาย และเกรี้ยวกราดกว่าปกติ
"พี่เทวารู้ตัวไหมคะว่ากำลังทำอะไรอยู่"
เทวางงๆ "ทำอะไร"
"พี่เทวากำลังติดบ่วงนังผู้หญิงคนนั้นด้วยอีกคน พี่เทวาจะรักผู้หญิงคนนั้นไม่ได้"
"ดาพูดถึงใคร"
"รวิปรียา!"
"ดารู้จักคุณรวิด้วย?"
"เขาเป็นคนที่ดาจะไม่มีวันลืม เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ทำให้พศินต้องตาย ทำให้ตะวันกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ ที่พี่เทวาต้องขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อหม้ายลูกติด เพราะต้องยอมรับเป็นพ่อของตะวันซะเอง และที่ชีวิตดาต้องทรมานอยู่กับโรคซึมเศร้าอย่างทุกวันนี้ ก็เพราะนังผู้หญิงคนนั้น"
หัวใจเทวาหล่นวูบ ไม่อยากเชื่อ
"ดาหมายความว่า..."
ดาวิการำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเพื่อจะเล่าให้เทวาฟัง ...
เหตุการณ์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ... ดาวิกายังจดจำไม่เคยลืมเลือน
ภาพถ่ายคู่ของดาวิกาและพศินที่อยู่ในกรอบ กรอบภาพนั้นตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้องคอนโดของพศิน
พศินเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นดาวิกาอยู่ในห้องแล้วก็แปลกใจเล็กน้อย
"อ้าว...ดา นี่มาทำอะไรเนี่ย"
"ดามารอคุณน่ะค่ะ อยู่ว่างๆก็เลยช่วยทำความสะอาดห้องให้"
"ที่จริงคุณไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ก็ได้นะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ดาอยากทำอะไรให้คุณบ้าง คุณกลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนสิคะ แล้วเดี๋ยวเราออกไปหาอะไรกินกัน"
พศินเข้าไปในห้องน้ำ ดาวิกากลับไปจัดหนังสือที่ชั้นหนังสือให้เข้าที่ แล้วเห็นอัลบั้มภาพถ่ายเล่มเล็กเล่มหนึ่งวางอยู่จึงหยิบออกมาเปิดดูด้วยความอยากรู้
ในอัลบั้มมีภาพถ่ายของรวิปรียา สมัยเรียนมหาวิทยาลัยหลายภาพ บางภาพเป็นภาพถ่ายคู่ของรวิปรียากับพศิน ดาวิกามองภาพถ่ายของสองคนนั้นอย่างสงสัย ใจคอไม่ดี เมื่อพบว่าพศินมีความลับที่ไม่เคยบอกเธอ !
อีกวันหนึ่ง ดาวิกาออกจากลิฟต์ของคอนโด ในมือมีขนมและอาหารที่ซื้อเตรียมมาฝากพศิน เธอเดินตรงมาทางห้องพักของพศิน อารมณ์เธออยู่ในห้วงแห่งรัก มีความสุข แต่พอเดินพ้นมุมผนัง ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นพศินกำลังยืนส่งรวิปรียาที่หน้าห้อง
ท่าทางพศินเศร้าๆ เขากอดรวิปรียาอย่างหาที่พึ่ง รวิปรียาตบหลังพศินปลอบๆ
ดาวิกายืนช็อก ข้าวของหล่นร่วงจากมือ แล้วแอบยืนหลบมุม จนรวิปรียาลากลับ
"เราเป็นห่วงเธอนะพศิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะอยู่ข้างๆพศินเสมอ"
พศินพยักหน้า รวิปรียาจึงหันหลังเดินจากมา ดาวิกาเห็นหน้ารวิปรียาเต็มตา ชัดเจน ตกตะลึง
ขณะที่รวิปรียาจะเดินผ่าน ดาวิกาก็รีบทำเป็นก้มเก็บของที่หล่นพื้น พอเธอผ่านไปแล้วดาวิกาก็ทรุดนั่งลงร้องไห้สะอึกสะอื้น คิดว่าพศินหักหลังเธอ
วันหนึ่ง เทวาเปิดประตูห้องนอนดาวิกา ผัวะ! ออก
ดาวิกาถือมีดกำลังจะเชือดข้อมือตัวเอง น้ำตานองหน้า เทวารีบพุ่งเข้ามาปัดมีดในมือดาวิกาออก คมมีดคลาดจากข้อมือของเธอไปหวุดหวิด
"ดา! นี่คิดจะทำอะไร ทำไมทำแบบนี้!"
ดาวิการ้องไห้ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา
"ดาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วพี่เทวา ดาไม่เหลืออะไรแล้ว"
"มันเกิดอะไรขึ้น บอกพี่สิ"
ดาวิกาเอาแต่ร้องไห้
"บอกพี่สิดา"
"ดาท้อง..." ร้องไห้โฮ "ฮือๆๆ ดาท้อง"
เทวาช็อก "กับใคร"
"พศิน แต่พศินเขาทิ้งดาไปแล้ว พศินเขาตายแล้วพี่เทวา พศินตายแล้ว" ดาวิกาโผเข้ากอดเทวาแล้วร้องไห้คร่ำครวญ "ต่อไปนี้ดาจะทำยังไง"
"ฟังพี่นะดา ดายังมีพี่ มีคุณพ่อ มีดาริน ทุกคนในครอบครัวของเรารักดานะ"
"แต่ดากำลังจะทำให้ทุกคนต้องอับอาย ถ้าดาท้องโดยไม่มีพ่อของเด็ก คุณพ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ทุกอย่างเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น" ดาวิกาเริ่มคลั่งโวยวาย "ดาเกลียดมัน ดาเกลียดมัน"
เทวาจับไหล่ดาวิกาเขย่า "ดา! ตั้งสติหน่อยสิ ยิ่งดาท้อง ดาก็ยิ่งต้องเข้มแข็งเพื่อลูกสิ"
"ไม่ ดาไม่อยากให้เค้าเกิดมา ดาไม่อยากให้ลูกดาต้องกลายเป็นเด็กไม่มีพ่อ"
"มีสิ ลูกดาต้องมีพ่อ พี่จะเป็นพ่อของเด็กคนนี้เอง"
ดาวิกาหยุดร้อง ชะงักมองเทวา "พี่เทวา"
"พี่จะจัดการเรื่องนี้ให้เอง พี่จะส่งดาไปอยู่อเมริกาเพื่อให้ดาคลอดลูก จะไม่มีใครรู้เรื่องที่น่าอับอายนี้ พอดาคลอดแล้วพี่จะไปรับเด็กมาเลี้ยงเอง พี่สัญญาว่าจะเลี้ยงลูกของดาให้ดีที่สุด ขออย่างเดียว..พี่ขอให้ดารักษาชีวิตตัวเองกับลูกไว้"
"พี่เทวา"
"รับปากพี่สิ"
ดาวิกายิ่งร้องไห้ โอบกอดเทวาแน่นเหมือนเจอที่พึ่ง สายตาเทวาเจ็บปวดแทนน้องสาว
เทวานั่งอึ้ง เมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมดจากดาวิกา เทวาหน้าซีด สมองมึนงง เอ่ยปากพูดอย่างยากเย็น
"ดาแน่ใจนะว่าเป็นรวิปรียาคนเดียวกัน"
"ต่อให้ดาตาย ดาก็ไม่เคยลืมผู้หญิงคนนั้น"
เทวาสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
บรรยากาศงานเลี้ยงแต่งงานของนิมมานและเพชรพริ้งตอนกลางคืน แขกกำลังทยอยเข้ามาในงาน
นิมมานดูเป็นเจ้าบ่าวที่ไม่มีความสุข แต่เพชรพริ้งยิ้มแย้มหน้าบานสดใส ทั้งคู่คอยต้อนรับแขกอยู่ที่หน้างาน
ไม่ไกลกันนัก มิตร วิษณุ พัชชา เพชรแท้ ยืนต้อนรับแขกยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ด้วย
แชะ แชะ แชะ คู่บ่าวสาวถ่ายรูปกับแขกที่มางาน หลายภาพ ต่างมุม และทุกมุม นิมมานไม่มีรอยยิ้มและสีหน้าดูเบื่อหน่าย เพชรแท้ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล มองพี่สาวตัวเองด้วยความรู้สึกเสียใจ ก่อนที่จะปรายตามามอง พัชชากำลังคุยกับแขกผู้ใหญ่ไฮโซสีหน้าระรื่น
"เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตค่ะ ว่ากันไม่ได้ แต่ลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายน่ารักอย่างนิมมานคนเป็นแม่อย่างพัชก็หมดห่วงแล้วล่ะค่ะ"
เพชรแท้ถอนหายใจ เดินเลี่ยงไป
คืนนั้นในงานแต่งงาน
เทวา ดารินเป็นตัวแทนของครอบครัวบริรักษ์มาร่วมงานแต่งงาน โดยมีดาวิกาตามมาด้วย ทั้งสามคนเข้ามาถึงงาน
"วันนี้พี่เทวาดูหล่อเป็นพิเศษนะ ว่าไหมพี่ดา"
ดาวิกาไม่ตอบอะไร แต่หันมองเทวา เทวายิ้มไม่ออก รู้สึกหนักในอก
เทวามองเห็นวิษณุ
"ไปทักทายคุณวิษณุก่อนเถอะ"
ทั้งสามคนเข้ามาทักทายวิษณุและพัชชาที่มุมหนึ่ง
"สวัสดีครับคุณอา"
"สวัสดีครับ คุณเทวา คุณดาริน" วิษณุมองดาวิกา ยังไม่รู้จัก
"นี่ดาวิกาน้องสาวคนรองของผมครับ เป็นพี่สาวของดาริน"
ดาวิกายกมือไหว้ตามมารยาท แต่ไม่ยิ้ม "สวัสดีค่ะ"
" นี่คุณพัชภรรยาผม เป็นแม่ของเพชรพริ้งเขา"
ทุกคนไหว้พัชชา พัชชามองเทวาอย่างรู้สึกสะดุดตา
"นี่ลูกๆของคุณบรม เจ้าของBR Construction ที่ตอนนี้ทำธุรกิจกับเราอยู่"
"ขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมางาน อุตส่าห์มากันทั้งสามคนพี่น้องเลย"
มิตรหันมาเห็นเทวาจึงเดินเข้ามาทักทายด้วย
"ไงครับคุณเทวา"
"สวัสดีครับคุณมิตร" เทวายกมือไหว้ ดาริน ดาวิกายกมือไหว้ตาม มิตรรับไหว้
"ขอบคุณนะครับที่มางานลูกชายผม"
"ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เทวาบอก
"ก็ควรจะต้องยินดีล่ะนะ ตอนนี้ครอบครัวนิรมิตของผมกับสิริคุณานันนท์ของคุณวิษณุก็เป็นดองกันแล้ว ต่อไปเราสองบริษัทก็คงต้องมีการร่วมมือกันทางธุรกิจ"
เทวาฟังนิ่งๆ ดูท่าทีของมิตร
"แล้วถ้าเราสองบริษัทจับมือกันได้เมื่อไหร่เราก็คงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถึงตอนนั้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็คงเทียบกับเราไม่ได้ จริงไหมครับคุณวิษณุ"
วิษณุกระอักกระอ่วนใจยังไม่ตอบรับอะไร แต่พัชชาแทรกขึ้นทันทีอย่างไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ"
เทวาไม่แสดงออกได้แต่ยิ้ม
จังหวะนั้นเห็นเจ้าบ่าว เจ้าสาวรับแขกอยู่อีกมุม นิมมานกำลังเดินเลี่ยงความอึดอัดหายไป วิษณุหาทางเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
"ไหนๆคุณเทวาก็มาแล้ว ให้เกียรติไปถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวซะหน่อยนะครับ"
"ผมขอตัวไปรับแขกทางอื่นก่อน" มิตรบอก
มิตรแยกตัวไป วิษณุนำทุกคนไปทางมุมของเพชรพริ้ง แต่ปรากฏว่าเจ้าสาวกำลังอารมณ์ไม่ดีเดินไปตามตัวนิมมาน
"นิมมาน นี่คุณจะไปไหนของคุณน่ะ"
เพชรพริ้งเดินหลุดจากซุ้มถ่ายภาพไปต่อหน้าต่อตาทุกคนโดยไม่สนใจใคร ทุกคนเลยยืนเคว้งๆ
ดารินพูดขำๆ ตามนิสัย " เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไปแล้วค่ะ"
วิษณุกับพัชชาหน้าเสียเล็กน้อย
"ไม่เป็นไรครับ"
"งั้นเชิญทุกคนตามสบายเลยนะครับ"
สามพี่น้องแยกตัวเข้าไปในงาน วิษณุที่มองหารวิปรียา
สามพี่น้องยืนดื่มเครื่องดื่มอยู่ในงาน
"ไม่เคยรู้เลยนะคะว่าคุณรวิจะมีแม่เลี้ยงด้วย แถมยังพ่วงน้องสาวลูกแม่เลี้ยงมาอีก ถ้าจะให้เดานะ ดาว่าคุณรวิคงจะโดนโขกสับเป็นประจำ แถมยังมาโดนน้องสาวแย่งแฟนอีกต่างหาก ตายล ชีวิตคุณรวินี่ยังกะซินเดอเรลล่า"
"ซินเดอเรลล่าอาจจะไม่ได้น่าสงสารอย่างที่เราคิดก็ได้ริน แล้วสมัยนี้ลูกเลี้ยงร้ายกว่าแม่เลี้ยงก็มีให้เห็นเยอะแยะไป"
"โห วันนี้มาอารมณ์ไหน มองโลกในแง่ร้ายเชียวพี่ดา"
ดารินมองเห็นกลุ่มเพื่อนๆที่มุมหนึ่ง
"อุ๊ย รินเจอเพื่อนแล้ว ขอไปคุยกับเพื่อนก่อนนะพี่เทวา พี่ดา"
ดารินแยกไปแล้ว เทวากับดาวิกาต่างก็มองหารวิปรียา
"ผู้หญิงคนนั้นจะมาหรือเปล่าคะพี่เทวา"
"พี่มั่นใจว่าเขาต้องมา"
ไม่ทันขาดคำ รวิปรียาก็ปรากฏตัวขึ้นในงานในชุดที่สวยสง่า โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มคน เธอเดินเข้ามาในงานเหมือนไม่มีอะไรต้องหวาดหวั่น
เทวามองรวิปรียาแต่ไม่กล้าเข้าไปทักทายเพราะไม่รู้ว่าจากนี้ควรทำอะไร ขณะที่ดาวิกามองอย่างเคียดแค้นชิงชัง
"ใช่เธอจริงๆ รวิปรียา"
เทวาค่อยๆปรายตาไปมองดาวิกา แล้วก็เห็นใจน้องสาว
อีกมุมหนึ่ง นิมมานกำลังกระดกเครื่องดื่มแอลกอฮล์อยู่ก็เห็นรวิปรียาเข้าพอดี
นิมมานดีใจ "รวิ..."
นิมมานรีบตรงเข้ามาหารวิปรียา
"ผมนึกว่ารวิจะไม่มา"
"ทำไมจะไม่มาล่ะ น้องสาวกับแฟนเก่าแต่งงานทั้งทีนี่"
"ผมมีเรื่องต้องอธิบายให้รวิเข้าใจ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเราก็ไม่ได้คุยกันเลย"
"มาคุยตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เอาเวลาไปดูแลเจ้าสาวของคุณดีกว่า"
เทวามองดูท่าทีของรวิปรียาที่ดูนิ่งกับนิมมานมาก
"ขอตัวก่อนนะคะ"
รวิปรียาเดินทิ้งนิมมานไปทางอื่น
อีกมุมหนึ่งเพชรพริ้งกำลังโมโหแทบบ้าจนพัชชาต้องเข้ามาปราม
"คุณแม่ ดูนิมมานสิคะ นี่งานแต่งงานเขากับพริ้งแท้ๆ ยังไปแสดงท่าอาลัยอาวรณ์นังรวิอีก"
"ใจเย็นๆไว้ก่อนพริ้ง อย่าให้เสียงาน ยังไงซะนิมมานก็ต้องเป็นของลูกอยู่แล้ว"
เพชรพริ้งเบาลง แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี
มนัสกำลังถ่ายภาพบรรยากาศและแขกในงาน
เขาใส่ชุดแจ็คเก็ตสูทแบบสบายๆไม่เป็นทางการมาก
ดารินกำลังหัวเราะสนุกกับเพื่อน ผ่านเลนส์ของมนัส
มนัสอมยิ้มเห็นว่าดารินน่ารักดี เขาจึงแอบถ่ายรูปดารินไว้ ดารินหันมาเห็นพอดี มนัสรีบลดกล้องลงเพราะเจ้าตัวรู้ตัวแล้ว ดารินตรงเข้ามาหานมัสท่าทางเอาเรื่อง
"คุณถ่ายรูปฉันทำไมไม่ทราบ"
"ก็..ถ่ายไว้เฉยๆน่ะครับ"
"แล้วทำไมไม่ขออนุญาติ จะเอารูปฉันไปทำอะไร"
"ก็ไม่ได้ทำอะไรครับ ถ่ายเก็บเอาไว้เฉยๆ"
"ขอดูหน่อย"
มนัสงงๆ
"รูปที่คุณถ่ายฉันน่ะ ขอดูหน่อย"
"ถ้าจะขอดูรูป ก็ช่วยพูดดีๆหน่อยไหมคุณ"
"ฉันจะพูดดีเฉพาะกับคนที่บริสุทธิ์ใจ แต่ท่าทางคุณ..ดูแปลกๆ คุณไม่เหมือนช่างภาพงานแต่งงานทั่วไป"
มนัสนึกสนุกขึ้นมาบ้าง "ยังไง"
"ช่างภาพคนอื่นเขาจะตามเก็บภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่คุณคอยตามเก็บภาพคนอื่นในงานแบบนี้นี่ มันแปลกนะ"
"ก็เจ้าบ่าวเจ้าสาวผมถ่ายไปเยอะแล้ว"
มนัสมองไปที่นิมมานที่มุมหนึ่ง
นิมมานอยู่กับเพื่อนที่มุมหนึ่งของงาน ดื่มเหล้าไม่หยุด
"แล้วตอนนี้เจ้าบ่าวก็เอาแต่กินเหล้า ผมเลยไม่รู้จะถ่ายอะไร"
"ข้ออ้างฟังไม่ขึ้น คุณจะเอาภาพแขกในงานไปหารายได้พิเศษใช่ไหม หรือจะเอาไปทำมิดีมิร้าย"
"มิดีมิร้าย?"
"เช่น เอาไปรีทัชทำภาพโป๊ เอาไปทำภาพโฆษณาขายกลูต้า ยาลดความอ้วน อะไรพวกนี้ ฉันเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าเอารูปฉันไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตล่ะก็ ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด"
"คุณนี่ขี้ระแวงเป็นบ้า"
"ฉันต้องระแวงเพราะโลกนี้มีคนแบบคุณนี่แหละ ถ้าคุณไม่เอารูปให้ฉันดู ฉันจะไปฟ้องเจ้าของงานให้ไล่คุณออก"
มนัสขำ "เชิญครับ อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะมีใครไล่ผมออกไปจากงานได้ไหม"
"นี่ !"
ดารินชักสีหน้าใส่ คิ้วขมวดยุ่ง ไม่พอใจ มนัสยกกล้องขึ้นเก็บภาพใบหน้าดารินตอนนั้นไว้เพราะเห็นว่าน่ารักดี
ดารินชะงัก...ยังจะกล้าอีก โกรธกว่าเดิม
"นี่ยังจะกล้าถ่ายรูปฉันอีกเหรอ"
"ก็หน้าคุณเมื่อกี๊ตลกดี"
ดารินหันหลังกลับ สงบสติ แล้วรีบทำหน้าปกติ กลัวไม่สวย พอหันมาอีกที มนัสก็เดินไปแล้ว ดารินตะโกนไล่หลัง
"นี่คุณ ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ"
รวิปรียายืนดื่มเครื่องดื่มอยู่ตามลำพัง มีกลุ่มเพื่อนๆของเพชรพริ้งยืนมองอยู่ห่างๆ พลางกระซิบกระซาบกัน
รวิปรียารู้ว่ามีคนสนใจมองเธออยู่แต่ทำเหมือนไมใส่ใจ เทวาเข้ามาหารวิปรียา
"คุณรวิ"
"อ้าว คุณเทวา มากับใครคะ"
"มากับน้องสาวน่ะครับ"
"คุณดารินหรือคะ"
"ครับ"
"รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยที่เจอคุณที่นี่"
"ทำไมครับ"
"คงเพราะว่าตั้งแต่ฉันเข้างานมา ก็มีแต่คนมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ แล้วก็ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยกับฉันเลย ยกเว้นคุณ"
เทวาใจหนึ่งก็อยากจะปลอบรวิปรียา แต่อีกใจก็นึกถึงดาวิกา จึงได้แต่เงียบไม่รู้จะตอบยังไง
"วันไหนคุณว่างพาตะวันไปร้านแจนอีก ก็บอกฉันด้วยนะคะ ฉันจะเลี้ยงขนมเค้กขอบคุณตะวัน เรื่องภาพวาดน่ะค่ะ"
"ครับ ถ้าวันไหนสะดวกแล้วผมจะโทร.ไปบอก"
รวิปรียาสังเกตุท่าทีของเทวาที่ดูห่างเหิน เงียบขรึม จนเธอรู้สึกผิดปกติ
นิมมานกำลังดื่มเหล้า แล้วก็จับจ้องรวิปรียาอย่างหึงหวง
ขณะที่ดาวิกามองพี่ชายยืนคุยอยู่กับรวิปรียา โดยหวังว่าเทวาจะแก้แค้นให้เธอ
มนัสกำลังนึกขำเรื่องที่เจอกับดารินอยู่ หัวเราะกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบแล้วหันกลับมา เจอมิตรยืนกอดอกมองอยู่ใกล้ตัวแล้ว
"ไง"
"คุณพ่อ"
"นี่อะไรของแก มางานแต่งพี่ชายแต่งตัวให้มันเป็นทางการกว่านี้ไม่ได้รึไง แล้วไอ้กล้องเนี่ย แกจะเอามาด้วยทำไม"
"ผมก็มาช่วยพี่นิมมานเขาถ่ายรูปบรรยากาศในงานไว้ไงครับพ่อ เผื่อพี่เขาอยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก"
"ถ้าจะช่วย แกควรมาช่วยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่รู้หายหัวไปไหนมา"
"ก็ผมบอกแล้วไงครับว่าผมมีงาน แล้วมันก็เป็นงานที่คอนเฟิร์มกันไว้ตั้งนานแล้ว ส่วนงานแต่งพี่นิมมานจู่ๆก็เพิ่งนึกจะมาแต่งกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน นี่ผมหาเสื้อผ้ามางานทันก็โชคดีมากแล้วนะครับคุณพ่อ"
"แกนี่มันพูดจาอะไรหาสาระไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อไหร่จะทำตัวมีประโยชน์ซะที เลิกเล่นเป็นเด็กแล้วก็ไปช่วยงานที่บริษัทได้แล้ว"
มนัสทำหน้าเบื่อขึ้นมาทันที มิตรเห็นวิษณุเดินผ่านมาบริเวณนั้น
"มานี่หน่อยสิมนัส พ่อจะพาแกไปรู้จักคุณวิษณุ"
มนัสเดินตามมิตรไปหาวิษณุ
"คุณวิษณุครับ นี่ไงครับมนัส ลูกชายคนเล็กของผม"
มนัสยกมือไหว้อย่างเคารพอ่อนน้อม
"หวัดดีๆ เรา 2 ครอบครัวรู้จักกันมานาน แต่ไม่เคยเห็นหน้าลูกชายคนเล็กคนมิตรเลย"
"ไอ้เจ้าคนนี้เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องธุรกิจครับ วันๆเอาแต่ถ่ายรูปร่อนไปร่อนมา ขนาดผมเป็นพ่อ ยังไม่ค่อยได้เห็นหน้ามันเลย"
พัชชาเดินมาที่มุมเงียบๆ เพิ่งกดเบอร์โทรศัพท์ออกหาใครบางคน แล้วแนบหูกับโทรศัพท์รอคนรับสาย ไม่นานนักเสียงที่ปลายสายก็ดังขึ้น
"สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณอร พัชเองนะคะ"
อิงอรเพิ่งรับสายโทรศัพท์ พอรู้ว่าคนโทรมาคือพัชชาก็หน้าตึง
"มีธุระอะไรไม่ทราบ"
"แหม..ทำไมพูดจาห่างเหินกันเหลือเกินล่ะคะคุณอร"
"ถ้าไม่มีธุระอะไร ฉันก็จะวางสายเดี๋ยวนี้"
"เดี๋ยวสิคะ ที่พัชโทรมาก็แค่แปลกใจที่คุณอรไม่มางานวันนี้"
"งานอะไร"
"งานแต่งของยัยพริ้งน่ะค่ะ"
"เพชรพริ้งแต่งงาน? ก็ดีนี่ งั้นฉันก็ยินดีกับเขาด้วย"
"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวพัชจะบอกลูกให้นะคะ แต่เสียดายที่คุณอรไม่ได้มางานนี้ เพราะสามีของพริ้งเขาก็เป็นคนสนิทสนมคุ้นเคยกับคุณอรอยู่"
"ใคร"
"อ้าว.. นี่หนูรวิเขาไม่ได้บอกคุณอรหรือคะ ว่าเพชรพริ้งเข้าพิธีแต่งงานกับคุณนิมมานเมื่อเช้านี้ ตอนนี้พวกเราก็มีงานเลี้ยงอยู่ที่โรงแรม"
"ว่าไงนะ"
"พัชก็ตกใจเหมือนกันค่ะ ตอนที่รู้ว่าสองคนนั้นเขามีใจให้กันมานานแล้ว แหม...พอรู้ใจกับปุ๊บนิมมานก็เร่งให้แต่งงานปั๊บเลยค่ะ" พัชชาหัวเราะ "ไม่รู้จะรีบไปไหน หนุ่มสาวก็แบบนี้แหละนะคะ"
อิงอรเพิ่งรู้เรื่องที่เกิดขึ้น สติเธอไม่อยู่กับตัวแทบไม่ได้ฟังประโยคท้ายๆของพัชชาด้วยซ้ำ
"รู้สึกเหมือนประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอยยังไงก็ไม่รู้นะคะคุณอร"
อิงอรมือไม้อ่อนปล่อยโทรศัพท์ร่วงตกพื้น น้ำตาไหลออกมา
พัชชากดวางสาย เบะปากใส่อิงอรอย่างสะใจ
ทางด้านรวิปรียาคุยกับเทวาอยู่ที่เดิม
"นี่คุณโอเคหรือเปล่าคะ เหมือนคุณกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่"
"ผมแค่มีเรื่องที่ต้องคิดนิดหน่อยครับ"
ก่อนที่รวิปรียาจะได้พูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นพอดี เธอหยิบขึ้นมาดูเห็นว่า “แม่” โทรมา
"ขอตัวก่อนนะคะ"
รวิปรียาเดินเลี่ยงไปจากเทวาจะไปรับสายโทรศัพท์
เทวามองตามรวิปรียาไปอย่างอึดอัดใจ
นิมมานมองตามรวิปรียาไปก่อนจะกระดกเหล้าหมดแก้ว
รวิปรียาเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงมาแล้วกดรับสายอิงอร
"คุณแม่ยังไม่นอนอีกหรือคะ ทำไมโทร.มาซะดึกเลย มีอะไรหรือเปล่า"
อิงอรโทรหาลูกสาวเสียงสั่นเครือ
"รวิ ทำไมลูกไม่บอกแม่"
รวิปรียาตกใจ
"คุณแม่..รู้เรื่องแล้วหรือคะ"
"ทำไมนิมมานถึงแต่งงานกับเพชรพริ้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นเพชรพริ้ง ทำไมไม่ใช่ลูก"
"คุณแม่คะ เอาไว้วันหลังรวิไปหา แล้วจะอธิบายทุกอย่างให้คุณแม่ฟัง"
"เป็นแผนของสองแม่ลูกนั่นใช่ไหม เขาทำกับรวิเหมือนที่เคยทำกับแม่ แม่ไม่น่าให้รวิอยู่ร่วมบ้านกับคนเลวพวกนั้น" อิงอรร้องไห้อย่างหนัก เสียใจแทนรวิปรียา
"ตอนนี้รวิทำใจได้แล้วค่ะคุณแม่ คุณแม่อย่าเสียใจสิคะ อย่าคิดมาก"
"เป็นความผิดของแม่เอง พัชชาเขาเกลียดแม่ ต้องการทำร้ายแม่ แล้วนี่เขายังไปลงที่รวิด้วย"
"ไม่ใช่ความผิดคุณแม่หรอกค่ะ เป็นความผิดของสองแม่ลูกนั่นต่างหาก นี่อาพัชโทรไปบอกคุณแม่หรือคะ"
"เขาโทรมาเยาะเย้ยแม่ว่าประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ทำไมเขาจ้องแต่จะจองล้างจองผลาญพวกเราไม่จบสิ้นซะที"
รวิปรียาฟังเสียงแม่ร้องไห้แล้ว ยิ่งโกรธสองแม่ลูก
มุมหนึ่งนอกบรรยากาศของงานเลี้ยง ดาวิกาหลีกหนีความวุ่นวายออกมายืนมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงเทพอยู่ตามลำพัง
ดาวิกาเหม่อลอยอดนึกถึงอดีตอีกไม่ได้
ในอดีตดาวิกาวิ่งขึ้นมาถึงดาดฟ้า แต่ไม่พบใครอยู่ที่นั่น เบื้องหน้าเธอมีแต่ความว่างเปล่า
"ลืมผมซะเถอะนะดา ยกโทษให้ผมด้วย ลาก่อน"
ดาวิการ้องตะโกนเสียงดัง "พศิน"
ร่างพศินนอนตายเลือดไหลนองพื้นที่ด้านหน้าอาคารคอนโด ฝูงชนกำลังมุงดู ดาวิกาเพิ่งวิ่งออกมาจากตึก เมื่อเห็นร่างพศินเธอก็หยุดชะงัก ช็อก ดาวิกามองร่างพศิน ที่รวิปรียากำลังจับแขนเขย่าเรียกชื่ออย่างเจ็บปวด หัวใจสลาย แล้วความเจ็บปวดก็กลายเป็นความโกรธแค้น เธอหันไปมองทางรวิปรียาเห็นภาพใบหน้าของรวิปรียาชัดเจน
ดาวิกาน้ำตาคลอ เพชรแท้หลบออกมาจากงานเหมือนกัน พอมาถึงมุมเงียบๆ ก็เห็นภาพของดาวิกายืนเศร้าๆอยู่คนเดียวก็ชะงัก
ดาวิการ้องไห้เศร้าๆปล่อยน้ำตาไหลออกมา สักพักมือของเพชรแท้ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ดาวิกาหันมามองแปลกใจ น้ำตายังคลอตาอยู่
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
ดาวิกาไม่สนใจ ไม่อยากคุยด้วย "เปล่าค่ะ"
เพชรแท้ดูจริงใจไม่มีท่าทางที่จะรบกวนเธอ ส่งผ้าเช็ดหน้าไปใกล้ขึ้น
"รับไว้สิครับ ผมไม่กวนคุณหรอก เดี๋ยวผมก็จะไปแล้ว"
ดาวิกาจึงตัดสินใจเอื้อมไปรับผ้าเช็ดหน้าไว้
"ขอบคุณ"
ดาวิกาขยับปากเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง แต่เพชรแท้เหมือนจะรู้จึงบอกซะก่อน
"เก็บไว้เถอะครับ ผมคงไม่มีโอกาสมาเอาผ้าคืน"
เพชรแท้เดินจากไปปล่อยให้ดาวิกาได้อยู่ตามลำพัง ดาวิกาใช้ผ้าผืนนั้นซับน้ำตา
รวิปรียายืนอยู่ตามลำพังนอกงานเลี้ยง ระงับอารมณ์โกรธจากเรื่องที่พัชชาทำให้แม่เธอต้องเสียใจ
ไม่ไกลนัก นิมมานกำลังเดินตามหารวิปรียาอยู่ ท่าทางเมาๆเล็กน้อยแล้ว
รวิปรียาหันมาจะกลับเข้างาน ก็เจอนิมมานตรงเข้ามาหาพอดี
"รวิ คุณอยู่นี่เอง ผมตามหาแทบแย่"
รวิปรียาเหนื่อยหน่ายที่นิมมานไม่เลิกตาม
"ผมคิดถึงรวิ อยากเจอคุณ อยากอธิบายทุกอย่างให้ฟัง ทำไมคุณไม่ฟังผมบ้างเลย"
"ก็ฉันบอกคุณแล้วไงคะว่า พูดอะไรตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว"
นิมมานเข้ามาจับมือรวิปรียา "แต่ผมรักคุณนะรวิ ผมรักรวิคนเดียวไม่เคยเปลี่ยน"
รวิปรียาดึงมือออก "ฉันเชื่อค่ะว่าคุณรักฉัน แต่คุณรักตัวเองมากกว่า เพราะถ้าคุณรักฉันมากพอ คุณจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น"
รวิปรียาเดินหนีไปอีก นิมมานเดินตามไม่ลดละ
"เดี๋ยวก่อนรวิ!"
เทวาเดินตามหาดาวิกาอยู่ แล้วมาเห็นว่าดาวิกายืนเหม่ออยู่คนเดียว จึงเข้ามาหา
"ดา ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้คนเดียว"
เมื่อเข้ามายืนข้างๆ ก็เห็นว่าดาวิกากำลังปาดน้ำตา
"นี่ร้องไห้อีกแล้วหรือ"
"ทุกครั้งที่ดากลับมาเมืองไทย ดาก็อดนึกถึงพศินไม่ได้ค่ะพี่เทวา"
"ถ้ามันจะเป็นแบบนี้ ดาก็ไม่ควรกลับมา ที่พี่ให้ดาไปอยู่อเมริกาก็เพราะต้องการให้ดาหายจากอาการซึมเศร้าแบบนี้"
"ดารู้ค่ะ ดาก็กำลังพยายามอยู่"
"งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ อยู่ที่นี่ต่อไปดาก็มีแต่จะแย่ลง"
"ก็ดีค่ะ"
"ไป ไปเรียกยัยรินกลับบ้านกัน"
เทวาโอบบ่าดาวิกาพากลับเข้างานเลี้ยง
นิมมานยังคงเดินตามง้อรวิปรียามา แต่รวิปรียาค่อนข้างจะเซ็ง
"เดี๋ยวก่อนสิ รวิ"
นิมมานเดินเร็วๆเข้ามาขวางหน้าไว้ ดึงแขนรวิปรียาไว้
"พอเถอะค่ะนิมมาน เราจบกันตรงนี้เถอะ"
"เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพริ้งมันเป็นความผิดพลาด เขากับอาพัชชาวางแผนทุกอย่างเพื่อให้คุณกับผมต้องเลิกกัน"
รวิปรียาได้ยินแล้วยิ่งตอกย้ำความโกรธของเธอที่มีต่อเพชรพริ้งและพัชชา
"แล้วไงคะ คุณจะให้ฉันเป็นเมียน้อยคุณงั้นเหรอ"
รวิปรียาสลัดแขนหลุดออกจากนิมมานแล้วเดินหนีไปอีก นิมมานอธิบายตามหลัง
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะรวิ ถ้ารวิให้อภัยผม ผมจะหย่ากับเพชรพริ้งให้เร็วที่สุดเพื่อกลับมาหาคุณ"
รวิปรียาหยุดเดินหนี เธอสะดุดกับคำของนิมมาน แววตาเธอครุ่นคิด แผนบางอย่างเกิดขึ้นในสมอง ก่อนจะหันมาหานิมมานด้วยท่าทีอ่อนลง
"จริงหรือคะ ที่คุณบอกว่าจะหย่ากับเพชรพริ้งให้เร็วที่สุด"
"จริง"
รวิปรียาถามนิมมาน แต่เหมือนกำลังย้ำกับตัวเอง "ถ้าเป็นอย่างนั้น พริ้งก็คงต้องเจ็บปวด"
"ผมไม่แคร์ คนที่ผมแคร์มีแค่คนเดียว ... คือคุณ"
แวบหนึ่งบนใบหน้ารวิปรียา เธอยิ้มพอใจ รู้แล้วว่าจะแก้แค้นคืนเพชรพริ้งได้ยังไง
เทวากับดาวิกาเดินมาถึงบริเวณนั้นพอดี เห็นนิมมานกับรวิปรียากำลังคุยกัน ทั้งคู่หยุดชะงัก มอง
รวิปรียาเปลี่ยนบทบาทตัวเองไปในตอนนั้น เธอยิ้มให้นิมมานแล้วเอื้อมมือไปจับมือเขา
"นิมมานคะ ถ้าคุณยังรักฉัน ฉันก็จะรอจนกว่าคุณจะเป็นอิสระจากพริ้ง"
นิมมานมีความหวังขึ้นมา "จริงนะรวิ คุณพูดจริงใช่ไหม"
รวิปรียาพยักหน้า ยิ้มให้ นิมมานดีใจดึงรวิปรียาเข้ามากอด รวิปรียาค่อยๆกอดตอบ เทวาตะลึง
"คุณรอผมหน่อยนะ ไม่นานหรอก ผมสัญญา"
รวิปรียานิ่ง ดวงตาโกรธแค้น ไม่ตอบ ทั้งคู่กอดกัน ดาวิกามองรวิปรียาอย่างชิงชัง ยิ่งมั่นใจว่ารวิปรียาเป็นผู้หญิงเสแสร้ง มารยาที่กำลังจะแย่งสามีของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง
เทวารู้สึกเจ็บปวด ผิดหวังในตัวรวิปรียาอย่างแรง เข้าใจว่ารวิปรียาเป็นอย่างที่ดาวิกาบอก
ดารินมองหาเทวากับดาวิกาอยู่ภายใน
"สองคนนั้นเขาไปไหนของเขา เผลอแป๊บเดียวหายตัวไปเลย"
พลันสายตาของเธอก็เห็นมนัสกำลังจิบเครื่องดื่มอยู่มุมหนึ่ง เธอจึงก้าวตรงปรี่เข้าไปหาทันที
"นี่คุณ"
มนัสหันกลับมามองดารินอย่างสงสัย ดารินยื่นมือออกไปตรงหน้าเหมือนจะขออะไรบางอย่าง
"อะไรของคุณอีก"
"ก็ภาพถ่ายไง ภาพของฉันที่อยู่ในกล้องคุณน่ะ จะเอามาให้ฉันได้หรือยัง"
มนัสถอนใจ "แค่รูป มันจะอะไรกันนักหนา"
"ใช่! แค่รูป แล้วคุณจะหวงทำไปนักหนา ถ้าคุณบริสุทธ์ใจก็ไม่มีอะไรต้องกลัวนี่"
"ผมไม่ได้กลัว แต่ผมขี้เกียจมากดไล่หาทีละภาพ ในนี้มันไม่ได้มีแต่รูปคุณนะ มันมีรูปอื่นๆอีกตั้งสี่ห้าร้อยรูป กว่าจะเจอก็งานเลี้ยงเลิกพอดี"
"ไม่เป็นไร ฉันมีเวลาพอ"
"แต่ผมไม่มีเวลามาทำอะไรไร้สาระ"
"งั้นเอากล้องมา ฉันหาเอง"
ดารินไม่พูดเปล่า ทำท่าจะแย่งกล้องมนัสมาดูเองจริงๆ มนัสตกใจความก๋ากั่นเอาแต่ใจของดาริน เอี้ยวตัวหลบทัน
"เฮ้ยคุณ"
ดารินไม่ยอมแพ้ พยายามจะแย่งกล้อง แต่มนัสก็เบี่ยงตัวหลบไปมากลายเป็นเริ่มนึกสนุกที่ได้เย้าแหย่ดาริน
"เอามาสิ"
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ดารินก็ดังขึ้น ดารินหยุดรับโทรศัพท์จากเทวา
"ฮัลโหล... อะไรกัน จะกลับกันแล้วเหรอ ทำไมกลับเร็วจังล่ะคะ ... โอเคๆ เดี๋ยวไปเจอกันที่รถแล้วกันค่ะ" ดารินกดวางสาย
มนัสชักนึกเสียดายที่ดารินจะต้องไปแล้ว เลยใจอ่อน
"เอาไลน์คุณมาสิ"
"เอาไปทำไม"
"เดี๋ยวตอนผมถ่ายข้อมูลออกจากกล้อง ผมจะส่งรูปไปให้คุณเอง คุณจะได้เห็นว่ารูปที่ออกมาเป็นยังไง"
"แน่ใจนะ งั้นเดี๋ยวเอาเบอร์โทรคุณมาด้วย ถ้าคุณไม่ส่งมา ฉันจะได้โทรไปเอาเรื่องกับคุณได้"
"โอเคครับ ไม่มีปัญหา"
ทั้งคู่หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา เตรียมจะแลกคอนแทคกัน
บนเตียงนอนให้ห้องนอนนิมมานถูกตกแต่งด้วยกลีบกุหลาบสำหรับคืนส่งตัวเข้าหอ
เพชรพริ้งวางพวงมาลัยคล้องคอลงบนเตียง แล้วเดินไปที่หน้ากระจก
เธอสำรวจความงามและความพร้อมของตัวเอง รอที่จะเข้าหออย่างมีความสุข
"แกมีความสุขมานานพอแล้วนังรวิ นับจากวันนี้ไป จะเป็นทีของฉันบ้าง"
เสียงลูกบิดประตูห้องถูกบิดและประตูเปิดออก นิมมานเข้ามาในห้องท่าทางเมามาย เพชรพริ้งเข้ามาพยุง
"นี่คุณเมาขนาดนี้เลยเหรอ"
นิมมานไม่สนใจเดินไปล้มตัวลงที่เตียง
"นิมมานคะ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ"
"ไม่ต้องยุ่งกับผม"
"โอเค ถ้าจะนอนก็ถอดเสื้อออกก่อน ใส่สูทอยู่แบบนี้จะนอนได้ยังไง"
"ผมถอดเองได้"
นิมมานไม่อยากให้เพชรพริ้งมาเกาะแกะ เด้งลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อสูทแล้วเหวี่ยงออกไป เพชรพริ้งจะเข้ามาช่วยแกะกระดุมเสื้อให้
"มาให้พริ้งช่วยเถอะน่า"
"อยากช่วยเหรอ? ได้..." เขากระชากตัวเพชรพริ้งเข้ามาใกล้ "ไหนๆคุณก็อยากเป็นเมียผมจนตัวสั่นอยู่แล้วนี่ งั้นก็มาทำหน้าที่ผัวเมียให้มันจบๆ เรื่องไป"
นิมมานกดร่างเพชรพริ้งลงไปบนเตียง เพชรพริ้งเองก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ปล่อยให้นิมมานกอดจูบซุกไซ้ไปสักพัก เธอจึงกระซิบที่ข้างหูเขา
"พริ้งจะทำให้คุณลืมรวิเอง"
ทั้งคู่นัวเนียกันกอดจูบกันอย่างเร่าร้อน
กลับถึงบ้าน เทวายังคงมึนงงกับภาพที่เพิ่งเห็นในงานเลี้ยง ท่าทีซึมลงไม่เหมือนเทวาคนเดิม
ดาวิกามาคุยกับเทวาอยู่ในห้อง
"พี่เทวาก็เห็นกับตาแล้ว คราวนี้เชื่อดาหรือยังคะว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อ่อนหวานไร้เดียงสาอย่างที่คิด"
"พี่เองก็ไม่อยากเชื่อว่ารวิปรียาที่พี่รู้จักมาตลอดจะเป็นแบบนี้"
"นั่นแหละค่ะตัวจริงของเขา ภายนอกเขาเสแสร้งว่าเป็นผู้ดี เพียบพร้อม แต่ลึกๆแล้วผู้หญิงคนนี้ร้ายลึก คอยหว่านสเน่ห์อ่อยผู้ชายไปทั่ว กอดกับสามีคนอื่นในงานแต่งงานเขาแท้ๆ ผู้หญิงแบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าสำส่อนก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรได้อีก"
"ดา"
เทวาเห็นน้องสาวกำลังโกรธ ใช้คำพูดไม่ดี เรียกเพื่อเตือนสติ
"พศินตกหลุมเสน่ห์ของรวิปรียา ลุ่มหลงจนไม่เป็นผู้เป็นคน พี่เทวาเองก็เกือบจะตกเป็นเหยื่ออีกราย พี่เทวาห้ามใจอ่อนไปหลงรักผู้หญิงแบบนั้นเด็ดขาด รับปากดานะคะ"
เทวาพยักหน้าไปให้น้องสาวสบายใจ แต่ในใจรู้ว่าตัวเองก็หลงรักรวิปรียาไปแล้ว
"พี่เทวาอย่าลืมที่รับปากดาไว้แล้วว่า ถ้ามีโอกาส พี่เทวาจะแก้แค้นให้ดา"
"ดาจะให้พี่ทำอะไร"
"ทำอะไรก็ได้ ให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บปวดอย่างที่พศินเคยเจ็บ ผู้หญิงคนนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบเหงาและทุกข์ทรมานเหมือนกับที่ดาต้องเป็นอยู่ทุกวันนี้"
เทวาคิดตามในสิ่งที่ดาวิกาพูด
เทวามองหน้าดาวิกานิ่งก่อนตัดใจ "เอาล่ะ พี่รับปาก ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเจ็บปวดมากกว่าที่ดาเคยเจ็บ"
เทวากลับเข้ามาในห้องของตัวเอง ปิดประตูห้องตามหลัง ยืนพิงหลังกับประตูอย่างเหนื่อยใจ สับสน ผิดหวัง ยังคงครุ่นคิดเรื่องรวิปรียา
เทวาพึมพำกับตัวเอง "รวิปรียา... ทำไมต้องเป็นคุณ"
เช้ารุ่งขึ้น เพชรพริ้งลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุขคิดว่าตัวเองคงเป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในโลก เธอเอี้ยวตัวจะไปกอดนิมมานที่เมื่อคืนนนอนอยู่ข้างๆ
"นิมมานคะ"
แต่ปรากฏว่านิมมานไม่ได้อยู่บนเตียงแล้ว เพชรพริ้งสะดุ้งลุกขึ้นนั่ง
"ไปไหนของเขาเนี่ย"
เพชรพริ้งออกมาจากห้องนอนตามหาตัวนิมมานลงมาถึงชั้นล่าง แล้วเห็นว่าเขาแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก กำลังจะออกจากบ้าน
"นิมมาน นี่คุณจะไปไหนคะ"
"ไปทำงาน"
"แต่นี่มันวันหยุด ใครเขาทำงานกัน"
"ผมนี่ไง"
"แต่เราเพิ่งแต่งงานกันนะคะ คุณจะทิ้งพริ้งให้อยู่บ้านคนเดียวหลังวันแต่งงานได้ยังไง"
"ใครว่าคุณอยู่คนเดียว ในบ้านยังมีคนอีกตั้งเยอะแย ถ้าคุณทนไม่ได้ก็ออกไปข้างนอกสิ"
"แล้วเรื่องฮันนีมูนล่ะคะ"
"ถ้าคุณอยากไปก็ไปคนเดียว"
"นิมมาน พริ้งเป็นเมียคุณนะ คุณจะทำกับพริ้งเหมือนเป็นผู้หญิงข้างถนนแบบนี้ไม่ได้"
"ผมไม่จำเป็นต้องทำหรอก เพราะคุณทำตัวคุณเองให้เป็นเหมือนผู้หญิงข้างถนนมาตั้งนานแล้ว"
นิมมานพูดแค่นั้นแล้วออกจากบ้านไปทันที เพชรพริ้งอดทนไม่ไหวอีก เริ่มร้องกรี๊ดออกมา
"แอร๊ย"
เด็กรับใช้ที่บ้านพากันวิ่งออกมามอง เพชรพริ้งมองตาขวางตวาดแว้ด
"มองอะไร"
แล้วเดินตึงตังกลับขึ้นห้องไป
บรมนั่งคุยกับเทวาที่โซฟาในบ้าน บรมจิบกาแฟครุ่นคิด ก่อนจะวางแก้วลง
"นี่คุณมิตรเขาพูดแบบนั้นเหรอ"
"ครับคุณพ่อ ท่าทางคุณมิตรเขามั่นใจมาก ว่าจะมีการร่วมทุนกันระหว่างนิรมิตกับสยามเอ็นจิเนียริ่ง"
"แล้วคุณวิษณุเขาว่าไงบ้าง"
"ก็ไม่ได้พูดอะไรครับ ท่าทางแบ่งรับแบ่งสู้"
"คุณมิตรนี่ก็ฉลาดไม่ใช่เล่น ถึงไม่ได้ตัวลูกสาวก็ยังได้หลานสาวมาเป็นสะพานเชื่อม ตอนนี้สองครอบครัวนั้นดองกันแล้ว เขาคงไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปง่ายๆ"
"คุณมิตรยังบอกอีกว่า ถ้าสองบริษัทจับมือกันได้เมื่อไหร่ก็จะทำให้นิรมิตขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"
"แสดงว่าทางนิรมิตกำลังจะเดินเกมส์แบบเดียวกับเรา ถ้าสองบริษัทนั้นร่วมมือกันได้เมื่อไหร่ ก็จะมีทั้งฐานการผลิต มีกำลังการก่อสร้าง ถ้าบริษัทขยายใหญ่ขึ้น เงินทุนจากตลาดหุ้นจะไหลเวียนเข้ามาอีกมหาศาล นิรมิตจะขยับขึ้นมาแซงหน้าเราแน่นอน"
"แล้วเราควรทำยังไงครับ"
"พ่อต้องรีบหาเวลาไปคุยกับคุณวิษณุก่อนที่จะถูกคุณมิตรตัดหน้า ยังไงหลานสาวก็ไม่มีอิทธิพลเท่ากับลูก" บรมมองเทวาเป็นนัยๆ มีความหมายซ่อนอยู่ "เพราะฉะนั้น หนูรวิก็ยังเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด"
เทวารู้เจตนาของพ่อ แต่ตัวเองก็ลำบากใจเพราะเรื่องระหว่างเขากับรวิปรียามันไม่ง่ายเสียแล้ว
เพชรพริ้งเหวี่ยงกระเป๋าถือลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วทิ้งตัวลงนั่ง
พัชชามาคอยรับฟังลูกสาว
"นี่แค่วันแรก แกก็วิ่งโร่กลับบ้านมาแล้วเหรอพริ้ง"
"ก็เพราะเป็นวันแรกไงคะคุณแม่ พริ้งถึงรับไม่ได้ที่นิมมานเขาทำกับพริ้งแบบนี้ นี่พริ้งเป็นเมียเขานะคะ แต่เขากลับทำท่าห่างเหินเย็นชาไม่อยากจะเห็นหน้าพริ้ง ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ไม่รู้ไปทำบ้าอะไร พอพริ้งถามเรื่องฮันนีมูนก็บอกว่าถ้าอยากไปก็ให้พริ้งไปคนเดียว"
รวิปรียาเดินผ่านมาพอดี เข้ามารับรู้บทสนทนาของสองแม่ลูกอย่างสะใจ
"ทำไมนิมมานพูดจาแบบนี้"
"แต่ที่เจ็บที่สุด เขาพูดว่าไงรู้ไหมคะคุณแม่ เขาพูดว่าพริ้งทำตัวเหมือนผู้หญิงข้างถนน"
"ตายแล้ว"
รวิปรียาปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเสียงเยาะๆ
"ผู้หญิงที่เผลอไปมีสัมพันธ์กันชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าไม่เรียกว่าผู้หญิงข้างถนนแล้วจะเรียกว่าอะไร"
สองแม่ลูกหันขวับไปมองตามเสียง
"นังรวิ !"
"ของที่ไปแย่งคนอื่นเขามา มันก็ดูแลรักษายากแบบนี้แหละ ทำใจหน่อยนะพริ้ง"
"ถึงยังไงฉันก็แต่งงานเป็นเมียที่ถูกต้องของนิมมาน ส่วนแก มันก็แค่ขยะที่ถูกเขี่ยทิ้ง"
"แน่ใจเหรอว่าฉันถูกเขี่ยทิ้ง ลองไปถามนิมมานดูสิว่าเมื่อคืนในงานแต่งงานของเธอเขาพูดกับฉันว่าอะไรบ้าง"
เพชรพริ้งเริ่มเดือดกว่าเก่า
"แอร๊ย... นังรวิ นี่แกแอบไปออเซาะนิมมานมางั้นเหรอ"
รวิปรียาสะใจ เริ่มหันไปทางพัชชาบ้าง
"อย่างที่คุณอาเคยบอกจริงๆด้วย เกมส์แบบนี้มันต้องดูกันยาวๆ ... แค่แต่งงาน..มันไม่ใช่จุดจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งหรอกพริ้ง มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น"
แล้วรวิปรียาก็เดินเชิดจากไป
"มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะ นังรวิ" เพชรพริ้งจะตามไป พัชชาดึงแขนลูกสาวไว้
"ปล่อยมันไปก่อน"
พัชชากำมือแน่น รู้ว่ารวิปรียาเริ่มประกาศศึกแล้ว
เพชรแท้เปิดประตูห้องออกหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตู รวิปรียายืนอยู่หน้าห้อง เพชรแท้เปิดประตูกว้างออกเชิญ
"เข้ามาสิครับพี่รวิ"
"พี่มาบอกลาจ้ะ จะกลับวันนี้ใช่ไหม"
รวิปรียามองกระเป๋าเดินทางของเพชรแท้ที่กำลังจัดค้างอยู่
"ครับ เครื่องออกเย็นนี้"
"งั้นพี่ก็ขอให้เพชรโชคดีนะ เรียนจบเป็นดอกเตอร์เร็วๆ ด้วยล่ะ"
เพชรแท้ไหว้รวิปรียา " ขอบคุณครับพี่รวิ ถ้าไม่มีพี่รวิกับคุณลุง ผมก็คงไม่มีวันนี้ ผมสำนึกในบุญคุณของครอบครัวพี่เสมอที่ช่วยอุปการะครอบครัวผม ส่งเสียให้ผมได้ไปเรียนที่อเมริกา ผมรู้สึกรบกวนพี่กับคุณลุงจริงๆ"
"พี่น้องกัน ไม่มีคำว่ารบกวนหรอก เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะอย่าลืมสิ พี่มีหน้าที่ต้องดูแลเพชรอยู่แล้ว"
"ถ้าในวันหน้า พี่รวิมีปัญหาหรือเรื่องเดือดร้อนใจ พี่รวิบอกผมได้เลยครับ ผมยินดีทำเพื่อพี่ทุกอย่าง ผมสัญญา"
"ขอบใจมากจ้ะเพชร"
เพชรแท้ลากกระเป๋าจะออกจากประตูบ้าน พัชชารีบวิ่งเข้ามาหา ส่วนเพชรพริ้งนั่งเปิดแมกกาซีนดูอยู่ที่โซฟา
"เพชร นี่จะกลับจริงๆเหรอลูก ยังมาได้มาถึงอาทิตย์เลยนะ"
"แล้วจะให้ผมอยู่ไปทำไมครับแม่"
"ก็อยู่เป็นเพื่อนแม่ไง นี่พี่พริ้งเขาก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว แม่เองก็เหงานะเพชร"
เพชรพริ้งทำไม่อยากจะสนใจ แต่หูก็คอยเงี่ยฟังอยู่
"อย่างแม่ไม่มีเวลาเหงาหรอกครับ เพราะวันๆแม่ก็ยุ่งอยู่แต่เรื่องวางแผนทำร้ายคนอื่น
"เพชร! ทำไมพูดกับแม่แบบนี้"
เพชรพริ้งทนไม่ได้ ลุกขึ้นมาต่อว่าเพชรแท้
"มันจะมากเกินไปแล้วนะเพชร ... มันอยากไปก็ให้มันไปสิแม่ จะไปรั้งไว้ทำไม" เพชรพริ้งหันไปว่าเพชรแท้ "แกจะไปไหนก็ไปเลยไป ฉันทนกับท่าทางอวดดีของแกไม่ไหวต่อไปแล้ว"
"ผมเองก็ทนเห็นพฤติกรรมต่ำๆ ของพี่ต่อไปไม่ไหวเหมือนกัน"
"ไอ้เพชร! นี่แกเป็นน้องฉันนะ"
เพชรแท้ไม่สนใจ ไม่อยากทะเลาะต่อและจะเดินออกไป พัชชารีบเข้ามาเรียกอีก
"แล้วเพชรจะไปยังไง งั้นแม่จะเอารถออกไปส่งเพชรที่สนามบินนะ"
"ผมเรียกแท็กซี่ไว้แล้วครับแม่" เขายกมือไหว้ลา "สวัสดีครับ"
"เดี๋ยวสิลูก... เพชร"
เพชรแท้เดินออกไปเลย โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองพัชชาซึ่งตะโกนร้องเรียกชื่ออยู่
ที่บ้านบริรักษ์ ดาวิกาก็เตรียมเดินทางกลับอเมริกาเช่นกัน บรม เทวา ดาริน ตะวันมาคอยยืนส่ง
ดาวิกายืนอยู่ต่อหน้าทุกคน รถของเทวาที่จะไปส่งจอดรออยู่ตรงถนนหน้าประตู เด็กรับใช้ยกกระเป๋าใส่ท้ายรถ
ดาวิกาเข้ามาไหว้บรมใกล้ๆ
"ดาไปก่อนนะคะคุณพ่อ"
บรมลูบหัวอย่างเอ็นดู
"โชคดีนะลูก เรียนให้จบเร็วๆ แล้วรีบกลับมาอยู่บ้านเรา จะได้มาช่วยพ่อกับพี่ดูแลธุรกิจ"
ดารินเข้ามากอดลาดาวิกา
"เอาไว้รินจะหาเวลาไปเยี่ยมพี่ดานะ"
"จ้ะ อย่าให้พี่รอเก้อล่ะ"
ดาวิกาเข้าไปนั่งลงตรงหน้าตะวัน
"อาไปก่อนนะคะตะวัน แล้วตอนปีใหม่อาจะกลับมาเยี่ยมใหม่"
ตะวันพยักหน้ารับ ดาวิกาสวมกอดตะวันอย่างอาวรณ์
ดาวิกาเริ่มเสียใจ จะร้องไห้อีก "อาขอโทษที่ไม่มีเวลามาหาตะวันเลย"
"งั้นคุณอาก็รีบเรียนให้จบ เป็นด๊อกเร็วๆสิคะ"
ทุกคนยิ้มขำกับคำพูดตะวัน ดาวิกาดีใจยิ้มทั้งน้ำตา กอดตะวัน
"ด๊อกเตอร์ซิตะวัน ไม่ใช่ด๊อกเฉยๆ" บรมบอก
ดาวิกาปล่อยตะวันแล้วพูด "ค่ะ แล้วอาจะรีบเรียนให้จบ ตะวันเองก็ต้องเป็นเด็กดีของคุณพ่อนะคะ อย่าดื้อ อย่าซน คุณพ่อจะได้ไม่เหนื่อย แล้วก็จะได้รักตะวันมากๆ"
"ค่ะ"
ดาวิกาลุกขึ้นไปที่รถ ที่เทวารอจะขับไปส่งอยู่ เมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งในรถดาวิกาก็ทวงสัญญา
"พี่เทวา อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับดานะคะ"
"จ้ะ พี่ไม่ลืมแน่"
รถของเทวาแล่นออกไป ทุกคนในครอบครัวยืนโบกมือส่งดาวิกา จนรถออกจากประตูรั้วบ้าน
อ่านต่อตอนที่ 7
#ใจลวง #thaich8 #ละครออนไลน์