เรื่องย่อ “เพลิงบุญ”
บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน
บทโทรทัศน์ :ณัฐิยาศิรกรวิไล
กำกับการแสดง :ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
แนวละคร : ดรามา
ควบคุมการผลิต :ยศสินีณ นคร
ผลิต: บริษัท เมคเกอร์ วาย จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20-22.50 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และช่อง 3 HD
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรก วันวันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2560
เรื่องย่อ
พิมาลา กับ ใจเริง สองสาวเพื่อนสนิทที่นิสัยต่างกันคนละขั้ว ทั้งฐานะและอุปนิสัย ใจเริงเกิดในครอบครัวนักการเมืองชื่อดังที่ร่ำรวยจากการคอรัปชั่น ธเนศ พ่อของใจเริงเลี้ยงลูกอย่างตามใจ... ตรงข้ามกับพิมที่ พจน์และมาลี เลี้ยงดูพิมให้มีระเบียบวินัย รู้ผิดชอบชั่วดี พิมมีน้องสาว คือ มาลัยวรรณที่มองว่าใจเริงยอมคบกับพิมเพราะข่มได้ต่างหาก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ชีวิตของสองสาวคงยังเดินอยู่ในเส้นทางที่เรียบง่าย หากวันหนึ่ง จะไม่มีฤกษ์ ย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของพิม
พิมยอมรับว่าเธอแอบสนใจฤกษ์อยู่มิใช่น้อย ด้วยความเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ช่างพูดช่างคุย แต่ฤกษ์พุ่งความสนใจไปที่ใจเริงและทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว .. พิมเลยจำต้องเฟดตัวออกมา และตั้งอกตั้งใจเรียนเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านอีก ... ความรักของฤกษ์กับใจเริงดำเนินไปจนถึงวันที่ฤกษ์ตั้งใจจะขอใจเริงแต่งงาน แต่ขณะเดียวกันใจเริงก็เปลี่ยนความสนใจไปที่ เทิดพันธุ์ ไฮโซหนุ่มที่เข้ามาพัวพันกับเธอ ใจเริงปฏิเสธฤกษ์อย่างไร้เยื่อใย ฤกษ์อกหักเสียใจจนไม่เป็นผู้ไม่เป็นคน มีแต่พิมที่ต้องทำหน้าที่ปลอบฤกษ์ ให้กำลังใจ และทำให้ฤกษ์รู้ตัวว่าเขายังมีค่า .. และชีวิตยังมีอะไรต้องทำมากกว่าการจะมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้
ความดีและความรักเร้นๆในใจของพิมช่วยเยียวยาทำให้ฤกษ์กลายเป็นฤกษ์คนเดิม ... จนวันหนึ่ง เขาก็รู้ใจตัวเองว่ากำลังตกหลุมรักผู้หญิงแสนดีที่ชื่อพิมาลาเสียแล้ว...ฤทธิ์ พ่อของฤกษ์และ ผ่องใส แม่เลี้ยง ต่างยินดี เมื่อความรักของทั้งคู่ลงตัว
ขณะที่ใจเริงโลดแล่นอยู่ในโลกที่มีแต่ความสนุกสนานสุดขั้ว ฤกษ์และพิมก็ดำเนินชีวิตต่อไป ฤกษ์เป็นสถาปนิกมือหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสุดๆ ด้านพิม ก็เป็นดีเจคอยให้คำปรึกษาปัญหาเรื่องความรักอยู่คลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง ความสำเร็จของฝ่ายหนึ่ง เกิดขึ้นพร้อมๆกับความล้มเหลวของอีกฝ่ายเมื่อเทิดพันธุ์เริ่มเงินขาดมือเพราะความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจ เทิดพันธุ์ไม่มีเงินปรนเปรอใจเริงเหมือนเคย และผู้หญิงจมไม่ลงอย่างใจเริงก็ไม่อาจทนความลำบากได้ หล่อนอาละวาดทุกครั้งที่เทิดพันธุ์ไม่มีเงินให้ละเลยความทุกข์ของสามีแม้เทิดพันธุ์พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ด้วยการหางานทำ แต่ใจเริงก็ไม่ยอมเพราะเหตุผลที่ว่าเธออายที่จะต้องมีผัวกระจอก สุดท้ายใจเริงก็ขอหย่าขาดจากเทิดพันธุ์และกลับไปอยู่กับพ่อทันที
แต่โชคไม่เข้าข้างผู้หญิงมักง่ายอย่างใจเริงอีกต่อไป เพราะภายในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ใจเริงที่ยังไม่ยอมรับความจริง ยังพยายามจะเกาะติดอยู่กับสังคมเดิมๆทั้งที่ธเนศเองก็ถูกจับฐานฉ้อโกงและถูกยึดทรัพย์ ทำให้ใจเริงต้องขายทุกสิ่งที่เป็นสมบัติติดตัวเพื่อความอยู่รอด ด้านฐานะของฤกษ์และพิมก็ขยับขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความขยัน มุ่งมั่น ข่าวความร่ำรวยของฤกษ์รู้ถึงหูใจเริง..และเธอก็ไม่รีรอที่จะเดินเข้าขอความช่วยเหลืออดีตเพื่อนรักอย่างพิม!
สภาพของใจเริงที่ใช้มารยาล่อให้พิมเข้าใจว่า ใจเริงที่ยอมทิ้งอีโก้มาหาเธออย่างสิ้นท่า คงไม่มีพิษภัย พิมจึงให้โอกาสเพื่อนรัก...โดยไม่รู้ว่ากำลังกลายเป็นชาวนา ช่วยชีวิตงูเห่า ! แม้คำทัดทานของฤกษ์เองก็ยังไม่เป็นผล พิมยอมให้ใจเริงเข้ามาอยู่ร่วมชายคาบ้าน จัดหางานให้ทำเท่าที่ความสามารถของใจเริงจะทำได้ แรกๆ ใจเริงก็เหมือนจะซาบซึ้งน้ำใจเพื่อน แต่ภาพความสุขและความสมบูรณ์พูนสุขของพิมกับฤกษ์ ผู้ชายที่เคยหลงรักเธอมาก่อน ทำให้ใจเริงแอบคิด ... ว่าจะเป็นอย่างไร...หากผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างฤกษ์เวลานี้ ไม่ใช่พิมาลา แต่เป็นตัวเธอเอง !
เมื่อคิดได้ใจเริงก็เริ่มลงมือปฏิบัติการทันทีด้วยการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ขุดเอามารยากว่าห้าร้อยเล่มเกวียนออกมาใช้...ด้วยการทำให้พิมรักและไว้ใจเธอ ขณะเดียวกันเธอก็เดินหน้าสร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวของเพื่อนรัก !!!ด้วยภาพลวงตาที่ใจเริงสร้างขึ้น ทำให้ฤกษ์เริ่มหงุดหงิดกับความสงสารของพิมที่มีต่อใจเริง เขาไม่ต้องการให้ใจเริงอยู่เป็นก้างขวางในครอบครัวเขา ในขณะที่พิมยืนยันจะไม่มีวันทิ้งใจเริงในวันที่ใจเริงลำบาก เพลิงอันนี้เองที่พิมชักนำเข้าบ้านมา ใจเริงคิดรวบรัดฤกษ์ทันทีในคืนที่เขาเมามาย แต่แผนก็ดันมาแตกเสียก่อน ซึ่งทำให้พิมและฤกษ์เริ่มมองเห็นการกระทำที่แท้จริงของใจเริง แต่เหมือนกรรมเก่าของฤกษ์กับพิมยังไม่หมด ใจเริงเกิดรู้ตัวเสียก่อนรีบเล่นละคร อ้างว่าไม่อยากทำให้ครอบครัวเพื่อนรักร้าวฉานเลยจะขอเป็นฝ่ายไป พิมใจอ่อนจะรั้งไว้ แต่ฤกษ์ไม่ยอม จ้างใจเริงด้วยเงินก้อนหนึ่งเพื่อให้เธอออกไปจากชีวิตเขา ใจเริงแข็งใจไม่ยอมรับเงินก้อนนั้นมาโดยบอกว่าเธอมีศักดิ์ศรีพอ และเธอจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เป็นตัวบ่อนทำลายครอบครัวของใคร...จากนั้น ใจเริงก็แสดงบทบาทใหม่ เธอพยายามหางานทำ ทนทำงานกระจอกๆโดยเลือกสถานที่ทำงานให้อยู่ในสายตาของฤกษ์ ... และใจเริงก็ตีบทแตกในสถานการณ์ล่อแหลมที่ใจเริงวางแผนให้ผู้ชายกลุ่มหนึ่งพยายามจะทำร้ายเธอ ภาพที่ฤกษ์เห็นทำให้ฤกษ์อดไม่ได้ที่จะเข้าช่วยและเสนอที่อยู่กับงานใหม่ให้ใจเริง...ใจเริงขอร้องไม่ให้ฤกษ์บอกกับพิมเพราะไม่อยากให้พิมไม่สบายใจซึ่งฤกษ์ก็เห็นด้วย
ชีวิตครอบครัวของฤกษ์กับพิมเหมือนจะเข้าสู่สภาวะปกติ....หากก็มีบางอย่าง...ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมและเป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกมิอาจล่วงรู้...นั่นคือความสัมพันธ์ใกล้ชิดของพิมและฤกษ์ที่ในระยะหลังต่างฝ่ายต่างรับผิดชอบหน้าที่การงานมากขึ้น พิมไม่มีอารมณ์จะสนองตอบฤกษ์เหมือนเคย ต่างกับใจเริงที่มีคุณสมบัติด้านนี้อยู่ในระดับดีเลิศ...และด้วยความใกล้ชิด...กอปรกับความขาดแคลนเร้นๆในใจของฤกษ์ ทำให้เขาหลวมตัวได้เสียกับใจเริงในคืนหนึ่ง...และในครั้งต่อๆไป...ที่แม้หัวใจของฤกษ์ยังคงเป็นของพิม...แต่เรื่องอย่างว่านั้นเล่า...ตอนนี้ ใจเริงคือผู้กำชัยชนะไปแล้วอย่างขาดลอย !
ด้วยสัญชาติญาณ พิมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ฤกษ์เองก็รู้สึกผิดที่ทรยศต่อครอบครัว พิมยื่นข้อเสนอให้ฤกษ์เลือกระหว่างเธอกับใจเริง..และก็เป็นดังคาด ฤกษ์เลือกพิม...และกำลังจะไปบอกเลิกใจเริง แต่พิมที่เครียดกับลูกมาหลายวันเกิดเป็นลม ฤกษ์กับพิมพาพิมพาไปหาหมอ และที่โรงพยาบาลนั้นเองที่ฤกษ์กับพิมได้พบกับใจเริงที่เดินหน้าระรื่นออกมาจากห้องตรวจครรภ์ พร้อมกับความจริงที่ว่า...เธอกำลังตั้งท้อง !
เหมือนฟ้าฟาดลงตรงกลางดวงใจพิมาลา...สิ่งที่เคยสร้าง ฝันที่เคยมีพังคลืน...แม้ฤกษ์จะยืนยันว่าเขาจะรับแต่ลูก ไม่รับแม่คือใจเริง...แต่พิมยามนี้...ไม่อาจทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้...พิมขอหย่าขาดจากฤกษ์ทันที แต่ฤกษ์ไม่ยอม เฝ้างอนง้อพิมต่างๆนานาหวังความเห็นใจ......แต่พิมก็ยังยืนยันจะหย่าขาด...บ้านทั้งบ้าน...ชีวิตของทั้งคู่เหมือนกำลังถูกเพลิงพายุโหมกระหน่ำเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง เป็นเพลิงที่เกิดจากใจที่เป็นบุญของพิมาลาโดยแท้...และเวลานี้...เธอก็เข้าใจแล้วว่าการกระทำความดีนั้น หากขาดการพิจารณาไตร่ตรองที่ถูกต้องเหมาะสม... มันจะส่งผลเช่นไรกับชีวิต !!!แม้พิมจะรู้ว่าสามีอันเป็นที่รักของเธอเป็นเพียงขอนไม้ที่ถูกคลื่นซัดไปตามกระแสธารเชี่ยวอย่างมิได้ตั้งใจจะออกนอกลู่....หากความจริงในวันนี้..มันยากเกินจะทนแบกรับ...
ความจริงจังของพิมที่ยืนยันจะหย่า ทำให้ฤกษ์ต้องยอมรับในที่สุด...ชีวิตของเขาเหมือนดิ่งลงจากที่สูงทันทีที่จรดปากกาเซ็นต์ชื่อลงในทะเบียนหย่า...จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ทิ้งบ้านที่เคยเป็นเรือนหอ กลับไปอยู่บ้านเดิมของตน ฤกษ์จำต้องยอมรับใจเริงเข้ามาอยู่ร่วมชายคาอีกครั้งที่บ้านพ่อ เมื่อใจเริงได้กลับมายืนในตำแหน่งผู้ชนะ เธอก็เผยตัวตนที่แท้จริงคือความหยิบหย่ง มักง่าย มือเติบ และอีกสารพัดที่ทำให้คนในบ้านรู้สึกเหลือฝืน...ฤทธิ์ออกปากกับฤกษ์ให้ยื่นคำขาดกับใจเริงว่าถ้าคลอดลูกแล้ว ขอให้ใจเริงออกไปจากบ้านหลังนี้เสีย...ฤกษ์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตกอยู่ในนรกกับการต้องร่วมชีวิตกับใจเริงจริงๆ
ด้านพิมหลังหย่าขาดกับฤกษ์ ก็มีเทิดพันธุ์เข้ามาดูแล เริ่มต้นจากความสงสาร...กลายเป็นความรัก...หากเทิดพันธุ์ก็ต้องอดทนเพราะการรักผู้หญิงที่หัวใจตายแล้วอย่างพิมนั้น จะต้องใช้เวลา...ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะเป็นฝ่ายรอ....ระหว่างที่เทิดพันธุ์รอ...เขาก็มีมาลัยวรรณคอยเป็นเพื่อน คอยให้ความหวัง...เทิดพันธุ์เอ็นดูมาลัยวรรณเหมือนน้องสาว...ฤกษ์รู้ข่าวความสนิทสนมของพิมกับเทิดพันธุ์ กลัวว่าจะเสียพิมไป พยายามจะมาขอคืนดี ใจเริงตามมาอาละวาด ขู่จะทำให้ตัวเองแท้งถ้าฤกษ์ยังมาข้องเกี่ยวกับพิมอีก ฤกษ์ทำร้ายชีวิตตัวเอง กินเหล้าเมายาจนล้มป่วย...ฤทธิ์กับผ่องใสขอให้พิมมาเยี่ยม พิมจึงพบว่าสิ่งที่น่าเศร้ายิ่งกว่าการที่ผัวทรยศเมียคือการที่แม่ทิ้งลูก เพราะหลังจากคลอด ใจเริงก็ประชดฤกษ์ด้วยการทำตัวเป็นสาวอีกครั้ง ออกเที่ยว ไม่สนใจลูกผัว พิมให้สติฤกษ์ว่าอย่าทำบาปซ้ำสอง ด้วยความรักที่ฤกษ์มีต่อพิม เขาจึงพยุงชีวิตขึ้นอีกครั้งด้วยการเป็นพ่อที่ดีของลูก...ส่วนพิมเองก็ค้นพบว่าหัวใจตัวเองยังไม่สามารถตัดฤกษ์ออกไปได้อย่างถาวร…
ความรักของพิมและฤกษ์กำลังเจอกับแบบทดสอบครั้งยิ่งใหญ่ผ่านการเข้ามาของผู้หญิงที่ชื่อ “ใจเริง”หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและเล่ห์เหลี่ยมพิมจุดชนวนปัญหาด้วยการทำดีแบบด้อยปัญญาพาใจเริงเข้ามาอยู่ในบ้านในขณะที่ฤกษ์พ่ายแพ้ต่ออัตตาของตนจนกลายเป็นเหยื่อของมารอย่างใจเริงเบื้องหลังของเพลิงบุญที่แท้จริงกลับเป็นพิม…ที่เป็นเชื้อไฟให้ใจเริงเผาไหม้ทำลายครอบครัว ฤกษ์…สถาปนิกที่เก่งที่สุด หากแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรักษาบ้านตัวเองเอาไว้ได้ เพลิงครั้งนี้จะมอดดับลงได้อย่างไร…ติดตามได้ใน “เพลิงบุญ”
คาแร็กเตอร์ตัวละคร
พิมาลา มิตรอมร (Remorse + Sympathy Style): ราณีแคมเปน (เบลล่า)
รูปร่างเล็ก ยิ้มหวาน ไม่แต่งหน้าจัด แต่งตัวค่อนข้างมิดชิด มีรสนิยมดีติดไปทางเรียบโก้ อายุประมาณ 25 ปี เป็นคนจิตใจดีมีบุคลิกของ “คนขี้สงสารบวกคนเห็นอกเห็นใจคนอื่น ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนบางครั้งเกินกำลัง กลายเป็นเบียดเบียนตัวเอง เป็นคนแสดงออกแบบตรงๆ เสียใจก็ร้องไห้ ดีใจก็ยิ้ม ไม่ซับซ้อน เป็นคนนำเสนอแต่ด้านดีๆ (มองบวก) แต่เป็นคนจิตใจหนักแน่น ไม่หูเบา จนกว่าจะได้เจอกับตาตัวเอง
ครอบครัว : พ่อชื่อ “พจน์” แม่ชื่อ “มาลี” น้องสาวชื่อ “มาลัยวรรณ” (วรรณ) มีบ้านอยู่ชานเมือง ครอบครัวอยู่อย่างเรียบง่าย แม่มีลูกตอนอายุมากแล้ว ประกอบกับเป็นคนหัวอนุรักษ์นิยม พิมจึงถูกเลี้ยงมาให้อยู่ในกรอบอันดีงามตามแบบหญิงไทย..ไท๊ย..ไทย ถึงแม้บุคลิกภาพนอก และงานที่ทำจะดูเป็นผู้หญิงทันสมัย แต่ความคิดหลายๆอย่างของพิมยังยึดขนบอันดีงามของไทย โดยเฉพาะการปรนนิบัติสามี และเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่ดี เข้าทำนอง “ดาบก็แกว่งเปลก็ไกว” งานนอกบ้านก็ทำได้ดี ปรนนิบัติสามีไม่มีบกพร่อง
การศึกษา และ การงาน: จบปริญญาโททางด้านจิตวิทยาการปรึกษาจากเอแบค ปริญญาตรีทางด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำงานเป็น “นักจิตวิทยาการปรึกษา” ให้กับบริษัท “Girls talk” บริษัทที่ตั้งตนเป็นผู้บำบัดปัญหาความรักให้กับหญิงสาว พิมทำหน้าที่เป็น ดีเจรายการวิทยุ และพิธีกรรายโทรทัศน์ช่วง “พิมาลาไขปัญหาหัวใจ” ทำหน้าที่ให้คำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่โทรศัพท์เข้ามาปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับความรัก (คล้ายๆพี่อ้อย พี่ฉอด แต่ไม่ดังเท่า) จุดเด่นของพิมคือการพูดที่เรียบๆ สบายๆ ฟังแล้วสบายใจ สอดแทรกหลักจิตวิทยาที่เรียนมาเข้าไปอย่างกลบกลืน เข้าใจง่าย ตามสโลแกน “ทุกปัญหามีทางออกขอแค่บอกพิมาลา”
คำจำกัดความ: พิมเป็นเหมือนแม่พระเพราะ “ความดี” ที่ทุกคนยกย่อง แต่ในทางกลับกัน ..มันคือภาระที่เธอต้องเหนื่อยแบกเอาไว้บนบ่า และไม่กล้าที่จะวาง
ฤกษ์ พินิจพันธ์ (Determination Style): ณวัฒน์กุลรัตนรักษ์ (ป้อง)
หน้าตาดี สมาร์ท รูปร่างดีสมวัย ไม่พูดมาก แต่พูดแต่ละทีคนต้องฟัง แววตามุ่งมั่น แต่งตัวสบายๆแต่จะจริงจังเป็นพิธีการเมื่อจำเป็น ฤกษ์คือเป็นคนชัดเจนในตัวเอง คำไหนคำนั้น เชื่อมั่นในตัวเอง ชอบการควบคุม และมั่นใจว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างได้ใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย และทำตามจุดมุ่งหมายนั้นอย่างเคร่งครัด ทุ่มเท และตั้งใจ ทำให้ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
ครอบครัว : พ่อชื่อ “ฤทธิ์” แม่ชื่อ “ไข่มุก” เป็นลูกคนเดียว พ่อเป็นสถาปนิกรุ่นบุกเบิก แม่ทำบัญชีให้พ่อ ครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ แม้จะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่มีที่ดิน และมีสมบัติเก่าอยู่พอประมาณ..แต่ด้วยความที่พ่อแม่เป็นคนสมถะ ฤกษ์จึงถูกเลี้ยงมาแบบนั้น คนนอกจึงดูไม่ออกว่ารวย
การศึกษา และ การงาน: ปริญญาตรีคณะสถาปัตย์ ศิลปากร ทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทพ่อ ด้วยความเป็นคนหน้าตาดี กล้าพูด กล้าแสดงออก จึงหุ้นกับเพื่อน “เปรม” ทำบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์เล็กๆ ให้กับช่องเคเบิ้ลเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างบ้าน มีคนติดตามอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทำให้บริษัทพลอยได้งานใหญ่ๆ งานดีๆไปด้วยเพราะชื่อเสียงของฤกษ์ (จากรุ่นพี่ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร..กลายเป็นสถาปนิกเกร๋ๆ มีทั้งเงินและชื่อเสียง ใจเริงยิ่งเสียดายและอยากได้มากขึ้น)
คำจำกัดความ: สำหรับฤกษ์...สิ่งที่เขาคิดเสมอคือ ... ไม่มีอะไร..ที่ควบคุมไม่ได้ .. แม้แต่ผู้หญิงอย่างใจเริง (และความมั่นใจนี้เองทำให้เขาต้องพอกับการเปลี่ยนแปลงและการเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่)
ใจเริง มนต์ประสิทธิ์ (Envy): เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ
สวย เซ็กซี่ แววตาเป็นประกายสดใส ยิ้มร่าเริง หัวเราะเสียงกังวาน มั่นใจ พูดเก่ง พูดจาสนุกสนาน น่าฟัง แต่งตัวดี รสนิยมหรู ทุกอย่างต้องแบรนด์เท่านั้น .. ไม่พอใจที่เห็นคนอื่นมีความสุขมากกว่าตัวเอง” และเธอจะต้องดีกว่าคนอื่นเสมอ .. นี่คือ ใจเริง อารมณ์รุนแรง อยากได้ต้องได้ เป็นคนชอบพูดตรงๆ ชัดเจน ไม่เก็บอารมณ์ และไม่เก็บอาการ ชอบเป็นคนควบคุม และครอบงำคนอื่น มักจะไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี (อยากได้ของของคนอื่น และคิดว่ามันดีกว่าของตัวเองเสมอ) และคิดว่า.. “ฉันคือคนที่สมควรได้มัน” .. “สิ่งนั้นมันต้องเป็นของฉัน”
ครอบครัว : พ่อชื่อ “ธเนศ” แม่ชื่อ “วิไล” ใจเริงเป็นลูกคนเดียว ที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ อยากได้อะไรก็ได้ พ่อทำธุรกิจสวนก่อสร้างในยุคเฟื่องฟู รวยงานการรับงานราชการ แต่พอหมดอำนาจ ไม่ได้ทำบริษัทบารมีต่างๆก็หมดไปด้วย พ่อตายไปพร้อมกับทิ้งหนี้สินไว้ก้อนโต ทำให้เริงต้องขายทุกอย่างใช้หนี้ให้พ่อ และไม่นานแม่ก็ตาย เริงไม่มีที่พึ่งจะมีก็แต่ “ป้าวิลาวรรณ” พี่สาวของแม่ที่ฐานะไม่ได้ดีมาก เริงจำต้องไปอยู่กับป้าในบ้านเช่าหลังเล็กๆ เหมือนตกนรกทั้งเป็นในขณะที่ชีวิตของพิมและฤกษ์ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดความอิจฉาพลุ่งพล่าน
การศึกษา และ การงาน: จบมัธยม 6 ต่ออนุปริญญาทางด้านเลขา 2 ปีจากอเมริกา กลับมาแต่งงานกับ “เทิดพันธ์” ไม่ได้ทำงาน จนหย่ากันจึงต้องหางานทำ เป็นเลขาเจ้าของโรงงานอยู่ไม่นานก็ทนไม่ได้ลาออก และมาติดสอยห้อยตามฤกษ์ ตื๊อขอเป็นเลขาจนสำเร็จและได้เป็นมากกว่าเลขาฯ
คำจำกัดความ: ไม่มีอะไรที่ใจเริงอยากได้..แล้วไม่ได้ !!!
เทิดพันธ์ วงศ์กรวิก: หลุยส์สก๊อต
หนุ่มเพลย์บอย สามีของใจเริง เทิดเป็นลูกชายของเพื่อนนักธุรกิจของธเนศ (พ่อเริง) เทิดเป็นลูกคนเดียว ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทำให้เริงทิ้งฤกษ์มาแต่งงานกับเทิด นิสัยของทั้งสองคนเหมือนกันมาก อยากได้ต้องได้ รักสนุก รักสบาย ใช้เงินเป็นเบี้ย มีเท่าไหร่ก็หมด แต่งงานกันไปได้แค่ไม่กี่ปีก็ต้องเลิกกัน เพราะ 2 คนพากันเที่ยว จนเทิดไม่ได้ทำงานทำการ ธุรกิจ “นำเข้า ส่งออก” เจ๊ง จนพ่อแม่ไม่อยากช่วย ตัดท่อน้ำเลี้ยง บ้านเก๋ที่เป็นเรือนหอก็ถูกยึด .. และที่ร้ายที่สุดคือ เทิดมีอะไรกับ “แพรว” เลขาหน้าใส (แต่ร้ายลึก) เริงรับไม่ได้หย่าจากเทิดทันที
ระหว่างที่มีปัญหาเทิดและเริงมาปรึกษาพิมเป็นระยะๆ (ตอนพิมเรียนโท) แม้ไม่มาก แต่ทำให้เทิดและพิมได้รู้จักกัน หลังจากหย่ากับเริง..เทิดมีโอกาสได้มาเจอพิมอีกครั้ง ความเป็นคนมีน้ำใจของพิมทำให้เทิดประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นความรัก...และความรักครั้งนี้คือความรักที่แท้จริง ไม่ใช่รักแบบ “หลง” เหมือนครั้งใจเริง
มาลัยวรรณ มิตรอมร: วันสิริ อ่องอำไพ (บัว)
น้องสาวของพิมFood Stylist และนักโภชนาการรุ่นใหม่ไฟแรง วรรณชอบการทำอาหารและสนใจเรื่องการตกแต่งอาหาร มีอาชีพอิสระรับออกแบบเมนู และสร้างสรรค์อาหารให้ร้านอาหารต่างๆ ในขณะเดียวกันก็เป็น Food Stylist จัดอาหารสำหรับถ่ายนิตยสาร และ งานโฆษณาต่างๆนานา
วรรณเป็นคนร่าเริง สดใส กล้าพูด กล้าแสดงความเห็น (ต่างจากพิม) อาจจะเพราะแม่ลดความเข้มงวดลง และตัวเองแอบดื้อตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่เหมือนกับพิมคือเป็นคนมีมารยาท รู้จักวางตัวเวลาเข้าสังคม แม้จะเป็นเด็กทันสมัยแต่ก็ดูรู้ว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี
วรรณเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ ที่ความรักมาเป็นอันดับสองรองจากงาน .. ชีวิตนี้ไม่คิดจะมีสามีถ้ายังดูแลตัวเองไม่ได้ วรรณเคยเห็นฤกษ์เป็นแบบอย่างของผู้ชายที่ดี แต่เมื่อฤกษ์ปันใจและทำให้พี่สาวต้องผิดหวัง วรรณพลอยเข็ดขยาดผู้ชายไปด้วย ยิ่งรู้ว่าเทิดพันธ์ผู้มีประวัติเลวร้ายเรื่องผู้หญิงมาจีบพี่สาวตัวเอง จึงทำตัวเป็น “กันซี” สุดฤทธิ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทิดพันธ์พิสูจน์ให้เห็นว่ารักพิมจริงๆ จึงค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นเข้าใจ เห็นใจ..และรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. (สินะ)
เปรม บริรักษ์: เปรมณัชสุวรรณานนท์ (เป๊ก)
เพื่อนรัก เพื่อนเลิฟของฤกษ์ เป็นสถาปนิกที่ชอบทำรายการโทรทัศน์ จึงชวนฤกษ์มาทำรายการบ้าน ป้อนช่องเคเบิ้ล เป็นรายการสั้น ๆ ประมาณ 15 นาที ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เปรมเป็นคนสนุกสนาน แพรวพราว เจ้าเสน่ห์ รักสนุก ไม่ผูกพันอย่างแท้จริง เปรมคิดเสมอว่าผู้หญิงคือดอกไม้ที่แสนงามและน่าชื่นชม และรอให้ผู้ชายมาชื่นชม เราจึงไม่ควรหยุดแค่ดอกใดดอกหนึ่ง จะทำให้ดอกไม้ดอกอื่นๆเสียใจ (ฮา)
เปรมเป็นเหมือนที่ปรึกษา เป็นกระจก และเป็นสัญญาณเตือนภัยให้กับฤกษ์ โดยเฉพาะภัยจากใจเริง เปรมอ่านขาดตั้งแต่แรก แต่ด้วยอัตตาทำให้ฤกษ์ไม่เชื่อ และหลงเข้าไปในวังวนของเกม เปรมก็ทำหน้าที่เพื่อนที่แสนดีคอยประสานรอยร้ายระหว่างพิมกับฤกษ์ ทำให้เขารู้จักกับ “หมี่” เจ้านายของพิม ผู้หญิงที่ทำให้เขาอยากจะหยุดและใช้ชีวิตอยู่กับเธอตลอดไป
ปารมี พงศกรณ์:
เจ้าของบริษัท “Girls Talk” ผู้หญิงเก๋ เท่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมุมมองที่ร่วมสมัย เป็นหญิงเก่ง แกร่ง และน่าเกรงขาม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษา และเป็นลมใต้ปีกที่แสนวิเศษของผู้ชาย
ผู้หญิงเพอร์เฟคที่หวงแหนความโสดอย่างที่สุด ปารมีมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี ไม่เดือดร้อนที่ไม่มีแฟน แต่ด้วยความสวย เก๋ แอบเซ็กซี่นิดๆของเธอทำให้มีหนุ่มมาตามจีบมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “เปรม” ทั้งสองคนเจอกันก็เหมือน “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” รู้ทันกันไปทุกเรื่อง หมี่เคยประกาศไว้แล้วว่าจะไม่มีวันใจอ่อนกับเสือผู้หญิงอย่างเปรมเป็นอันขาด แต่ด้วยความจริงใจและจริงจังของเขา ทำให้เธอเริ่มใจอ่อน (อย่างคาดไม่ถึง)
หมี่เป็นที่ปรึกษาที่ดีของพิม และเป็นคนที่ทำให้เธอเห็นว่า “ความรักเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ” เพราะหมี่เองตอนที่ตัดสินใจแต่งงานกับเปรม เธอก็เตรียมพร้อมสำหรับความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เธอไม่แคร์!! ถ้ามันจะต้องเจ็บ ก็ต้องเจ็บ แต่ตอนนนี้ยังไม่เจ็บ ก็แฮปปี้กันไปก่อนแล้วกัน (ฮา)
ผ่องใส : วาสนาพูนผล
แม่เลี้ยงของฤกษ์ เป็นลูกพี่ลูกน้องของภรรยาเก่าฤทธิ์ สุดท้ายเข้ามาดูแลครอบครัวฤทธิ์จนเกิดเป็นความรัก ผ่องใสมีความเป็นแม่สูง แม้ว่าจะไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฤกษ์ แต่ก็เอ็นดูและคอยดูแลฤกษ์มาตลอด ผ่องใสมองใจเริงออกว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี ได้แต่คอยเตือนฤกษ์อยู่ห่างๆ
ฤทธิ์ พินิจพันธ์: นพพลโกมารชุน
พ่อฤกษ์ เป็นผู้ใหญ่ใจดี ยึดมั่นในความถูกต้อง สถาปนิกรุ่นเก๋าทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง ฤทธิ์รักพิมเหมือนลูกสาว เมื่อเกิดเรื่องใจเริง จึงต้องออกหน้ามาเป็นกาวใจให้ลูกชายกับลูกสะใภ้หลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จ
มาลี มิตรอมร : สุปราณีเจริญผล
แม่ของพิม เป็นคนหัวอนุรักษ์นิยม มีลูกช้า พอมีลูกก็เลยเลี้ยงลูกแบบที่ตัวเองได้รับการอบรมมา มาลีเป็นแม่บ้านปลูกผักกินเอง (ช่วยทำกับวรรณ) ทำบ้านเป็น “สวนครัว” เล็ก ๆ แต่มากพอจะกินกันได้ทั้งครอบครัว มาลีเป็นส่วนสำคัญที่กรอบความคิดให้พิมเป็นคนใจอ่อน และชอบช่วยเหลือคนจนตัวเองต้องเดือดร้อน เมื่อใจเริงแย่งฤกษ์ไป ลึกๆ มาลีแอบรู้สึกผิด
พจน์ มิตรอมร: ศุกลศศิจุลกะ
พ่อของพิม ข้าราชการเกษียร เคยทำงานอยู่กระทรวงคมนาคม .. คำติดปาดคือ “ทางย่อมเริ่มต้นจากที่ที่ไม่มีทางเสมอ” พ่อจึงเป็นตัวบาลาสซ์ที่ทำให้วรรณมีความคิดอิสระออกนอกกรอบ แม้จะถูกเลี้ยงมาแบบเดียวกับพิมและพิมเองก็ยังมีจุดที่เปลี่ยนตัวเองได้ ปรับให้ตัวเองออกจากกรอบที่ครอบได้ด้วยคำว่า “ความดี” ทั้งมาลีและพจน์เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้พิมฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และเรียนรู้ที่จะอยู่ต่อไป อย่างเข้มแข็ง
สุรทิน ทิพมาศ:
ไฮโซหนุ่ม หล่อ รวย (เลว) เพื่อนสนิทของเทิดพันธ์ เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เป้าหมายใหม่ของใจเริง แต่ สุรทินไม่ใช่หมูที่จะเคี้ยวง่าย ใจเริงจึงถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี การจากไปของสุรทินทำให้ใจเริงพบกับจุดเปลี่ยนที่ตกต่ำของชีวิต เพราะเขาปรนเปรอเธอด้วยเงินทอง (ยิ่งกว่าเทิดพันธ์) และถีบเธอลงจากสวรรค์โดยไม่ให้ตั้งตัว เริงรับไม่ได้ที่จะกลับไปจนอีกครั้ง เขาเป็นคนแนะนำลูกค้าให้กับเธอ..ทำให้ใจเริงรู้จักอาชีพใหม่ที่ทำให้เธอได้เงินมาอย่างง่ายดาย นั่นคือ ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าระดับ VIP เป็นสาวเอสคอร์ทไฮโซคอยรับแขกตามโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว เงินที่ต้องแลกมาด้วยศักดิ์ศรี แต่เธอก็เลือกที่จะเดินด้วยความเต็มใจ
พิศวาส (พิซซี่): ปวีณ์นุชแพ่งนคร (ปุกกี้)
เลขาของหมี่..ช่างเม้า ช่างนินทา ช่างสอดรู้สอดเห็น เป็นคนแต่งตัวจัดและหมกหมุ่นกับการหาวิธีมัดใจผัว เช่น กินคอลลาเจน พร้อมกับขมิบก้น และอัพเฟซบุคด้วยรูปที่ลวงโลก เพื่อให้สามีเห็นค่า เพราะสามีเจ้าชู้มากกกก นางต้องแอ๊ปสวยแอ๊ปมีความสุข แอ๊ปผัวหลงให้ผู้หญิงอื่นๆเห็น จะได้ไม่มายุ่ง พิซซี่แอบปลื้มที่ฤกษ์ดูรักพิม และไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง พอมารู้เรื่องใจเริงก็ถึงกับชอค
แอ๊ด:
คนใช้ในบ้านพิม..อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก รักพิมมาก พอพิมแต่งงานมาอยู่กับฤกษ์ แม่ส่งแอ๊ดมาดูแล แอ๊ดเป็นคนมีความซื่อสัตย์ คอยฟัดกับใจเริงแทนเจ้านายอยู่เสมอๆ แอ๊ดเกลียดใจเริงเข้าไส้ คอยเตือนพิมอยู่เนืองๆ แต่เจ้านายก็มองโลกในแง่ดี พยายามออกตัวและแก้ตัวแทนเริงอยู่บ่อยๆ จนหลังๆเริ่มเห็นด้วย พอพิมจับได้ย้ายกลับมาอยู่บ้าน พิมขอให้แอ๊ดอยู่ดูแลฤกษ์ไปก่อน แอ๊ดจำต้องอยู่และคอยส่งข่าวเริงกับฤกษ์ให้พิมเป็นระยะๆ
ตัวละครรับเชิญ
พรรณราย:
แม่ของใจเริง เป็นคนตามใจทุกคนบนโลก โดยเฉพาะลูกและสามี ไม่เคยขัดใจ ขัดใจคนไม่เป็น
พรพรรณ :
ป้าของใจเริง พี่สาวของแม่ เป็นคนมีน้ำใจ สมถะอยู่อย่างพอเพียง ตอนที่เริงตกอับหย่ากับเทิด และหมดตัว จึงเอื้อเฟื้อให้ที่พัก ช่วงเวลานี้เองที่เริงรู้สึกว่าตัวเองตกนรกในขณะที่พิมแต่งงานมีทุกอย่างบ้านใหญ่โต ฤกษ์ก็ดูแลดี เอาใจ ความอิจฉายิ่งพลุ่งพล่าน
วิลาวรรณ:
ลูกสาวของพรพรรณ ปากร้าย ใจยักษ์ (ไม่เอาแม่มาเล้ย) เกลียดใจเริง หมั่นไส้อย่างแรง ชอบด่าว่า “ตกอับแล้วยังไม่เจียมตัว” วิลาวรรณเป็นตัวกระตุ้นให้ใจเริงต้องหาทางออกจากนรกนี้ไปให้ได้ และเป้าหมายใหม่คือบ้านของพิม
แพรว :
เลขาเทิดพันธ์ หน้าใส ร้ายแบ๊ว ทำดีทุกอย่างสุดท้ายก็ต้องการจะจับเทิด และเขี่ยใจเริงทิ้ง แต่พอรู้ว่าเทิดไม่ได้รวยแล้ว เพราะโดนพ่อแม่ตัดหางปล่อยวัด จึงทิ้งเทิดไปอีกคน
รัตน์ วงศ์กรวิก :
พ่อของเทิด นักธุรกิจค้าที่ดิน มีสมบัติเก่ามากมาย แต่ไม่ชอบอวดรวย เป็นคนใจแข็ง .. ตอนเห็นลูกเอาแต่เที่ยวไม่ทำงาน ก็ตัดเงินเลี้ยงดูทันที แต่พอเห็นว่าเริ่มกลับตัวได้ก็ขายที่และเอาเงินมาช่วย (ทำให้เทิดกลับมารวยเหมือนเดิมตอนจีบพิม..เริงยิ่งแค้น)
รายชื่อนักแสดง
ณวัฒน์กุลรัตนรักษ์ (ป้อง): ฤกษ์
เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ : ใจเริง
ราณีแคมเปน (เบลล่า): พิมาลา
หลุยส์สก๊อต: เทิดพันธุ์
วันสิริอ่องอำไพ (บัว): มาลัยวรรณ
เปรมณัชสุวรรณานนท์ (เป๊ก): เปรม
อัฐมา ชีวนิชพันธ์ (โบวี่): หมี่
ปวีณ์นุชแพ่งนคร (ปุกกี้): พิซซี่
นพพลโกมารชุน: ฤทธิ์
วาสนาพูนผล: ผ่องใส
ศุกลศศิจุลกะ: พจน์
สุปราณีเจริญผล: มาลี