"ป๋อ ณัฐวุฒิ" กับ "กล่องชา 24 สาขา 2"
ครอบครัวคือสิ่งสำคัญ
นักแสดงรุ่นกลางมากฝีมือ คุณพ่อลูกสอง "ณัฐวุฒิ สะกิดใจ" จัดงานทำบุญเลี้ยงพระเปิดร้านอาหาร “กล่องชา 24 สาขา 2” ริมถนน ขาขึ้นจากภาคใต้มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี ทำให้เกิดคำถามว่า จะเบนเข็มไปทำธุรกิจเต็มตัวแล้วหรือ ป๋อ ณัฐวุฒิ เปิดใจให้ฟังว่า...
"ที่มาทำร้านอาหาร ไม่ใช่ทำธุรกิจไว้รองรับ แล้วจะไม่แสดง เรามีสัญญากับช่อง 3 เพิ่งเซ็นครั้งที่สองไปปีกว่าเอง อยู่ช่อง 3มา 6 ปีแล้วนะ การเปิดร้านอาหารหรือทำธุรกิจ คือความสุขของเราที่จะโอบอุ้มครอบครัวไปด้วยกัน ครอบครัวเราก็กลางๆ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แล้วเราก็ไม่มีความสุขถ้าเราไปได้คนเดียว อยากอุ้มพี่สาวไปด้วย อุ้มหลานๆ ไปด้วย ให้เขามีความสุขด้วย นั่นคือที่มา
"กล่องชา 24" เป็นธุรกิจของครอบครัว ทำกับพี่สาว ในสาขาแรกลองผิดลองถูก ทำไปสองปี จนเรามั่นใจว่าเราแม่นแล้ว แม่นเรื่องอาหาร แม่นเรื่องเครื่องดื่ม ตอนนี้ครอบครัวเราโตขึ้น ก็ขยับขยาย สาขาแรกมีฟีดแบคที่ดี ลูกค้าประจำมีมากมาย ร้านแรกมี 2 คูหา มีสเต็กแซลมอน โอ้โห.เด็ดมาก
ก็เลยเปิดสาขา 2 เพราะสาขาแรกขายดี จากเดิม 2 คูหา ตอนนี้มี 8 ห้องเลย ที่เลือกตรงนี้เพราะพี่สาวมาหาทำเล แล้วอยากได้ มาคิดโปรเจ็กท์กันว่าทำงานร่วมกันไหม เราก็บอกว่า "ได้ ทำให้ดีนะ" ตรงนี้มันอยู่ริมถนน เป็นเหมือนรับแขกบ้านแขกเมือง ใครไปเที่ยว ก็เป็นจุดพักรถด้วย คนจะมาแวะดื่มกาแฟก่อนกลับกรุงเทพฯ สวนกระแสนิดหนึ่ง เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี
พื้นที่ตรงนี้ เช่าครับ เล็กๆ ทำไม่เป็น ต้องใหญ่เลย เราเน้นสบายๆ โล่งๆ เซลฟ์เซอร์วิส เหมือนร้านสตาร์บัค จ่ายตังค์เสร็จเดินมาที่โต๊ะ พออาหารออกมาก็ไปรับเอง ทาร์เก็ตหลักคือนักท่องเที่ยว คนที่มาเที่ยวชะอำ หัวหิน ประจวบฯ ลงใต้ พอจะกลับกรุงเทพฯ ต้องเดินทาง 12 ชั่วโมง ตรงนี้คือจุดพักรถที่ดี สอง.อยากให้เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดเพชรบุรีด้วย ในเพชรบุรี เวลาจะหาร้านนั่งมันมีไม่เยอะมาก อาจจะเป็นหนึ่งร้านที่คนจะมาแวะเวียนได้ เวลามีแขกอะไรต่างๆ ก็สะดวกที่จะพาแขกมา เป็นเหมือนร้านที่จะต้อนรับ
หน้าร้าน มีพนักงานต้อนรับชื่อว่า TEA BOX ตัวใหญ่มาก เป็นสัญลักษณ์ ตั้งใจเลย เหมาะกับคุณน้องคุณหนู ที่มากันเป็นครอบครัว อยากให้ลูกๆ ได้ถ่ายรุปกับหุ่นยนต์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง เราโตที่นี่ ก็อยากมีส่วนช่วยพัฒนาจังหวัดนี้ด้วย ให้คนมาเที่ยวกันเยอะๆ ทุกคนจะได้มีงานมีการทำที่ดี เงินทองก็ไหลเวียน อยากจะพัฒนาเพชรบุรีให้เจริญ ส่วนใหญ่คนจะผ่านไปเที่ยวชะอำ หัวหิน เพชรบุรีมีของดีอยู่มากมาย ก็อยากจะให้แวะมา ก่อนไปที่อื่นต่อ
อีกเป้าหมายหนึ่งคือ ให้เพชรบุรีเป็นจุดพักรถ คนไปเที่ยวชะอำ หัวหิน เราอยากให้เขาเดินทางปลอดภัย ก็มีร้านกาแฟไว้สักร้านหนึ่งให้เขามาแวะพักดื่มกาแฟ อีกชั่วโมงครึ่งหรือสองชั่วโมงก็จะเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ เขาจะได้เดินทางอย่างปลอดภัย ไม่ใช่รวดเดียวเลย มันน่าจะมีจุดพักรถที่ดี อย่างน้อยก็ได้มาพักผ่อนนิดหนึ่งช่วยลดอุบัติเหตุ"
เรื่องการแข่งขัน ตอนนี้เป็นอย่างไร
"ในเพชรบุรีมีร้านกาแฟเยอะมาก เราไม่ได้โอ้อวดว่าร้านเราเป็นร้านที่อร่อยที่สุดนะ เราก็เทสต์มาเยอะ สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจก็คือว่า เราทำร้านมาสองปีแล้ว ในร้านแรกมีแค่สองคูหา แต่มีลูกค้าประจำมากมาย แล้วมีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวเยอะ เรามั่นใจว่าเราผ่านช่วงยากมาแล้ว เราได้ทดลอง ลองผิด ลองถูกทุกอย่าง ตอนนี้เราเลยมั่นใจเปิด 8 คูหาเลย"
ความคาดหวังกับธุรกิจนี้
"อยากให้พี่สาวมีสุขภาพที่ดี มันจะเป็นธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมๆ กับครอบครัว อย่าไปหวังรวย บางทีรวยแล้วทำให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันยุ่งมาก ทุกคนยุ่ง เอาแค่พวกเราอยู่ได้แฮปปี้ ให้ร้านมันส่งตัวเองได้ ส่งลูกไปเรียนหนังสือที่ธรรมศาสตร์ได้ ตอนนี้เรามีหลานเรียนธรรมศาสตร์แล้ว เรามีเงินมีทองไม่เดือดร้อน เจ็บไข้ได้ป่วยมีเงินรักษา อย่างนี้ดีกว่า"
ลงทุนกับร้านนี้ไปเท่าไร
"ก็ใช้ได้เลยทีเดียว งบบานปลายไปพอสมควร โดนต่อว่าใช้งบไปกับโต๊ะเยอะ สาขานี้ใหญ่กว่าที่แรก ก็เต็มที่นะครับ เป็นธุรกิจของครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ครอบครัวเราจะทำได้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ๆ ได้ มีห้องวีไอพีไว้ต้อนรับ บรรยากาศไม่แออัด นั่งสบาย ทุ่มงบไปเป็นล้าน ผสมผสานหลายไอเดีย ถ้าสาขาสองได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แน่นอนครับ สาขาสาม สาขาสี่มาแน่นอน แต่ตอนนี้ช่วยมาอุดหนุนสาขาสองก่อน นะครับ ใครที่มาไม่ถูก ง่ายมากครับ เข้ากูเกิลแมพ พิมพ์คำว่ากล่องชา 24 สาขา 2 เจอเลย หรือถ้ามาจากชะอำ กลับกรุงเทพฯ ก่อนถึงเพชรบุรี 1-2 กิโลก็จะเจอแล้ว
ที่มาทำธุรกิจ เพราะเราคิดว่า เราจะเดินไปคนเดียวไม่ได้ คนรอบกายเต็มไปหมด ทำยังไงถึงจะช่วยเขาได้ เราจะเดินไปคนเดียว เรามีความสุขหรือ เราไม่ได้มีเงินเยอะมากนะ แต่เรามีรายได้ คนรอบข้าง เราก็อยากให้เขามีความสุขด้วย แม่ไม่ได้เกี่ยวกับเงินทอง แต่เดินในร้านมีความสุขมาก แม่อยากมีเกียรติยศ ไม่ได้ต้องการเงินทองอะไร ต้องการความภาคภูมิใจ
พี่กับพี่สาว เราร่วมกัน ร้านนี้จะไม่เปิดเลยถ้าเราไม่ผ่านร้านแรกมา เพราะค่าที่ ร้านริมถนนค่อนข้างสูง แต่เรามั่นใจเพราะพี่สาวบอกว่าทำได้ อยู่ในจุดที่ไปง่ายมาง่าย เคยมีคนไปที่ร้านแรก แล้วหาไม่เจอเยอะมาก ร้านเก่าลงทุนให้หมด ทำได้เท่าไรพี่สาวได้หมด ครอบครัวก็ได้ด้วย ร้านนี้ก็เหมือนกัน แต่คนละครึ่งกับพี่สาว เราก็เลยเต็มที่เลย มีหุ่นยนต์ด้วย"
คิดจะทำอะไรอีกไหม
"จริงๆ มีโปรเจ็กท์เยอะมากนะ โปรเจ็กท์ใหญ่ยักษ์เกี่ยวกับละครก็มีนะ แต่ยังไม่ทำดีกว่า ไม่มีเวลา เอาเวลาไปส่งลูก แล้วเล่นกับลูก ส่วนเรื่องเป็นผู้กำกับ ก็มีไปคุยบ้าง แต่ต้องเป็นเรื่องที่เราอยากทำด้วย แล้วเราจะทำได้ดี ตอนนี้ขอเวลาคิดนิดหนึ่ง ยังอยากเล่นละคร มีความรักละคร ขออนุญาตเล่นละครจนกว่าจะโอเค. ถึงเวลาที่จะต้องไปทำอย่างอื่นต่อ"
ตอนนี้ถ่ายละครเรื่องอะไรอยู่บ้าง
"ที่กำลังถ่ายทำอยู่คือ "เงินปากผี" เขาถ่ายกันไปแล้ว แต่คิวพี่เดือนหน้า ต้องหล่อหน้าด้วย มีซิลิโคน ตอนนี้ถ่าย "ตะวันยอแสง" อยู่ ไม่โหดนะ น้ำตาลจะโหด เรื่องนี้ถือว่าพักผ่อนนิดหนึ่ง ไปตากอากาศ มีเรื่อง "เงินปากผี" นี่ล่ะ ถ้าจะโหด สตางค์เขาอยากทำให้ดีที่สุด ขอให้จบ "ตะวันยอแสง" ก่อน ถ้าถ่ายสองเรื่องโฟกัสจะสวิง เรื่องนอนในโลงก็เสียวๆ อยู่เหมือนกัน เป็นคนอยากเล่นแนวนี้อยู่นานแล้ว ไม่รู้ว่าสตางค์จะให้ทำขนาดไหน หนักใจตอนบู๊กับพี่เต๋านี่ล่ะ ยอมแพ้พี่เต๋าก่อนเลยดีกว่า หนักใจตรงที่จะทำยังไงให้ตัวละครตัวนี้อยู่ในใจคนให้ได้ คือเราไม่ได้ต้องการจะทำให้ดูเละๆ แล้วกลัว ความกลัวของคนมีหลายแบบ แต่อยากให้กลัวโดยความรู้สึกว่าคนๆ นี้มันน่ากลัว ก็ยากอยู่เหมือนกัน"
งานแสดงกับงานร้านอาหาร แตกต่างกันมากไหม
"ธุรกิจงานร้านอาหารเป็นงานที่พี่ถนัด ไม่มีใครรู้พี่เคยทำงานร้านอาหารตอนอยู่ที่อังกฤษ หมูมาก อย่างโซนนี้เสิร์ฟคนเดียวได้เลย เอาเมนูวาง ปั๊ปๆๆ คิดวางแผนได้หมดว่าจะทำยังไง พี่เป็นนักแสดงที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา เพราะว่าอยู่โน่นต้องคุยกับคนที่ไม่รู้จัก อารมณ์ดีตลอดเวลา เราทำงานหนักกับการทำเซอร์วิสมายด์ งานแสดงก็เป็นเซอร์วิสมายด์ งานร้านอาหารก็สบายมากสำหรับเรา ขอแค่ควอลิตี้ พี่สาวเขาแม่นแล้ว ทำงานมาสองปี เปลี่ยนคนหมักไม่ได้นะ สเต็กหมูพริกไทดำ เปลี่ยนคนหมัก กินปั๊บรู้เลย เหมือนแม่ทำกับลูกทำ แม้จะเป็นสูตรเดียวกันก็ไม่เหมือนกัน
ส่วนร้าน "ไวท์สตอรี่" ที่ "เอ็มควอเทียร์" อันนั้นเกิดจาก เอ๋ชอบกิน กินจนเจ้าของร้านชวนหุ้น เราก็โอเค. ส่วนร้าน "กล่องชา 24" มีคนมาติดต่อทำเฟรนไชส์เหมือนกันนะ แต่เราไม่ใช่ธุรกิจขนาดนั้น ตอนนี้ดีเลวเราควบคุมได้ เป็นครอบครัว อยู่ที่คุณภาพ ถ้าไม่ได้ จะเสียใจ เสียชื่อเสียงด้วย หลานก็เสียสละมาก มาช่วยแม่ตั้งแต่เพิ่งจบปริญญาตรีราชภัฎจนตอนนี้ทำมา 2 ปีแล้ว ร้านนี้ก็เป็นร้านเขาไปเลย"
ลูกๆ เป็นอย่างไรบ้าง
"น้องเภา ตอนนี้มีคนติดต่อมาให้ไปถ่ายโฆษณาแล้ว อายุ 4 เดือนแต่ใส่ชุดเด็ก 8 เดือน ตัวเป็นหมีเลย เภากับภูไม่เหมือนกัน เภาจะยิ้มเก่ง ภูจะหน้าบึ้ง เชื่อว่างานพรีเซนเตอร์ต้องถ่ายทำสะดวกแน่นอน เพราะภูไม่ค่อยยิ้ม ถ่าย100 ครั้งจะยิ้ม2ครั้ง แต่เภายิ้มแย้มแจ่มใสรับแขก ตอนนี้บ้าจี้ชอบจี๋ๆ สนุก ตอนนี้เอ๋มีความสุขมากเพราะว่าเภาหน้าเหมือนเขา พอถ่ายรูปก็เอารูปมาเปรียบเทียบกัน
น้องภูไม่อิจฉาน้องเลย คอยเรียกหาน้อง ไปโรงเรียนกลับมาก็จะหอมน้อง ไม่หวงน้อง แต่จะเจ้ากี้เจ้าการ ถ้าไปหาเขา เขาก็จะให้ไปเล่นกับน้องเภา เหมือนมัคคุเทศก์ที่บ้าน นี่ตู้ใหม่ นี่คือน้องเภา น้องของภู เล่นสิครับ เล่นกับน้องเภา เขาชอบให้คนเล่นกับน้อง แต่ไม่ชอบให้ใครเล่นกับเขา เอ๋บอกว่าภูเหมือนพี่ พี่มีสองบุคลิก มีความกวนด้วย แต่เภาเหมือนเอ๋ อะไรน่ารักไปทางตัวเองหมด
ภูโตขึ้น 3 ขวบครึ่งแล้ว เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว บอกให้ไปทางซ้าย จะไปทางขวา คิดต่างตลอดเวลา หมอบอกว่านี่ล่ะสมองกำลังพัฒนา พ่อกับลูกทะเลาะกันตลอด งอนเรื่องไม่เอาพ่อ จะเอาแม่ เวลามีลูกสองคน พอมีคนที่สอง คนโตจะอ้อนแม่มากกว่าเดิม มามี๊... พ่อป้อนข้าว ไม่เอา จะให้มามี๊ป้อน พี่น้อยใจทุกวัน เสียใจมาก หมั่นไส้เอ๋กับลูก สามคนไปนอนเตียงเดียวกันเลย เราก็นอนอีกเตียงหนึ่ง (สองเตียงติดกัน) เป็นช่วงที่พ่อต้องเข้มแข็งมากที่สุด"
อยากมีลูกสาวบ้างไหม
"พอแล้วครับ สองคนกำลังพอดี สามคนเป็นภาระ เดี๋ยวเราจะเลี้ยงเขาได้ไม่ดี เอาแค่นี้ล่ะ ให้ครอบครัวเราค่อยๆ ไปดีกว่า กับเอ๋ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเลย ตอนนี้ยิ่งลูกเข้า ร.ร.ยิ่งหนัก ไปส่งลูกแล้วก็ต้องรอรับกลับ กลับมาก็ป้อนข้าว อยู่กับลูกจนกล่อมลูกหลับ กว่าจะได้เจอกันก็สามทุ่ม-สี่ทุ่ม ไม่มีสวีทวี้ดวิ้วอะไรเลย ไม่มีน้อยใจภรรยา แต่เวลาที่มีให้กันมีน้อยลง ไปอยู่กับลูกส่วนใหญ่ ไม่ใช่จะทุ่มเทให้ลูกมาก แต่มันต้องทำ ถ้าเราไม่มีแม่ พวกเราแย่เลย ทุกสิ่งอันพันละน้อย แม่หมด เอ๋เขาอยากทำงานนะ แต่ละคร ต้องใช้เวลา ใครจะไปส่งลูกไปรับลูก ถ้าถ่ายดึก ร่างกายก็ไม่ไหวอีก"
