พลตำรวจตรีเจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมด้วยพันตำรวจเอกคมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 , ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อเข้าตรวจสอบห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา บริเวณชั้น6 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ที่นายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จ.ภูเก็ต และพังงา คอที่เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม โดยมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไปนำขึ้นไปตรวจสอบ
พลตำรวจตรีเจริญ ได้กล่าวก่อนเข้าตรวจสอบห้องควบคุมเพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุที่มาตรวจซ้ำ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ พฐ. เพื่อต้องการพิสูจน์ทราบว่าคำให้การของพยานก่อนหน้านี้ตรงกับที่เกิดเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ การตรวจที่เกิดเหตุสามารถทำได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งการทำสำนวนคดีมีกรอบเวลาไม่เกิน30วัน แต่หากไม่แล้วเสร็จก็สามารถขอขยายเวลาเพิ่มเติมได้ 30 วัน อีก2ครั้ง โดย การตรวจสอบห้องควบคุมผู้ต้องหาครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด
ด้าน นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย ได้เดินทางมาที่ดีเอสไอเช่นเดียวกัน พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ตนเองได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าเกิดความบกพร่องในระบบ Server ของกล้องวงจรปิด บริเวณทางเดินเข้าออกของห้องควบคุมผู้ต้องหา ขณะที่ตัวเองได้ทราบจากสื่อมวลชนว่าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พฐ. จะเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงเดินทางมาที่ดีเอสไอเพื่อขอเข้าไปดูที่เกิดเหตุด้วย แต่หากไม่สามารถเข้าไปดูได้ ก็ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนเป็นผู้ตัดสินความบริสุทธิ์ใจของดีเอสไอเอง
ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานให้ มีการชันสูตรพลิกศพครั้งที่2 โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี , โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้าร่วมผ่าพิสูจน์นั้น กระทรวงได้ให้ตนเองเซ็นยินยอมในการผ่าพิสูจน์ แต่ไม่มีรายชื่อของสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ที่ได้ร้องขอเข้าร่วมด้วย ทำให้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเสียความรู้สึก เนื่องจากมองว่าดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงและมีคุณภาพ แต่ปล่อยให้เซิฟเวอร์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างไร
พลตำรวจตรีเจริญ ได้กล่าวก่อนเข้าตรวจสอบห้องควบคุมเพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุที่มาตรวจซ้ำ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ พฐ. เพื่อต้องการพิสูจน์ทราบว่าคำให้การของพยานก่อนหน้านี้ตรงกับที่เกิดเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ การตรวจที่เกิดเหตุสามารถทำได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งการทำสำนวนคดีมีกรอบเวลาไม่เกิน30วัน แต่หากไม่แล้วเสร็จก็สามารถขอขยายเวลาเพิ่มเติมได้ 30 วัน อีก2ครั้ง โดย การตรวจสอบห้องควบคุมผู้ต้องหาครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด
ด้าน นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย ได้เดินทางมาที่ดีเอสไอเช่นเดียวกัน พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ตนเองได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าเกิดความบกพร่องในระบบ Server ของกล้องวงจรปิด บริเวณทางเดินเข้าออกของห้องควบคุมผู้ต้องหา ขณะที่ตัวเองได้ทราบจากสื่อมวลชนว่าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่พฐ. จะเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงเดินทางมาที่ดีเอสไอเพื่อขอเข้าไปดูที่เกิดเหตุด้วย แต่หากไม่สามารถเข้าไปดูได้ ก็ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนเป็นผู้ตัดสินความบริสุทธิ์ใจของดีเอสไอเอง
ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมได้ประสานให้ มีการชันสูตรพลิกศพครั้งที่2 โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี , โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้าร่วมผ่าพิสูจน์นั้น กระทรวงได้ให้ตนเองเซ็นยินยอมในการผ่าพิสูจน์ แต่ไม่มีรายชื่อของสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ที่ได้ร้องขอเข้าร่วมด้วย ทำให้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเสียความรู้สึก เนื่องจากมองว่าดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงและมีคุณภาพ แต่ปล่อยให้เซิฟเวอร์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างไร