อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่12
ยิ่วเชียนยังคงคุยอยู่กับเยี่ยนเจ๋อ เขาเล่าถึงเรื่องอันซีให้ฟัง
“ฉันบอกเธอว่า ฉันจะกลับแล้ว และจะไม่กลับมาอีก แต่ว่าเธอไม่มีการตอบสนอง”
“ฮิ โธ่เด็กน้อย ความรักของนายมันระดับประถมชัดๆ เฮ่อ อย่างนี้ไม่ไหวนะ ฉันจะบอกให้ เรื่องความรักจะซับซ้อนและมีรายละเอียดมากกว่าการเจรจาทางธุรกิจซะอีก”
“ยกตัวอย่างเช่น”
“ตัวอย่างเช่น ถ้าเธอยังไม่รีบซื้อสินค้าชิ้นนี้จากนาย นายต้องทำให้เธอรู้ว่า ผ่านหมู่บ้านนี้แล้วจะไม่มีร้านนี้อีก เธอไม่รั้งฉันไว้ใช่มั้ย ฉันจะบอกเธอนะ ชีวิตนี้เธอไม่มีทางได้พบผู้ชายที่ดีอย่างฉันอีก ก็เหมือนตอนนี้ นายต้องทำให้เธอรู้ว่า การจากไปของนายเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุด”
“ว้าว นายสองคนพี่น้อง ช่างเหมือนกันจริงๆ”
“เฮ่อ เป็นยังไง จะให้ฉันสอนวิธีการจีบสาวมั้ย นายกับเธอพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว”
“ฉันบอกเธอว่า ฉันจะจีบเธอ”
“โน โนๆๆๆๆ ความรักเป็นสิ่งสวยงามที่สุด ความรักจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยบรรยากาศที่คลุมเครือ นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย”
“รอเดี๋ยวนะ”
ยิ่วเชียนหยิบโทรศัพท์มากดปุ่มอัดเสียงเยี่ยนเจ๋อ
“เอาล่ะ ดี ก่อนอื่น นายต้องพยายามหาโอกาสเข้าใกล้ ไม่ว่าจะเป็นการสบตาหรือทางร่างกาย จากนั้น นายต้องรู้ก่อนว่าส่วนไหนของนาย ที่สามารถดึงดูดเธอได้ นอกจากนี้คำว่าฉันรักเธอ ฉันชอบเธอประโยคเหล่านี้ นายห้ามพูดเด็ดขาด ถัดไป นายต้องสร้างบรรยากาศ แต่ว่า ต้องทิ้งเธอให้อยู่ที่นั่นคนเดียว แล้วเธอก็จะมาหานายเอง นายก็ประสบความสำเร็จ แต่ฉันคิดว่า เวลานี้ไม่เหมาะที่นายจะมีความรัก วันนี้ฉันได้รับข่าวจากโรงพยาบาลเหินเซิงว่าทุกอย่างราบรื่น หัวหน้าก็พอใจมาก ดังนั้นถ้านายกลับไปทำงานพรุ่งนี้ ฉันเชื่อว่าเขาต้องมอบหมายงานใหม่ให้นายทำ”
“แต่หัวหน้ายังไม่ไว้วางใจฉัน”
“เฮ้อ อย่าคิดมากเลย ตั้งใจทำงานให้ดีก็พอ”
ยิ่วเชียนมองเยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ
ที่บริษัทโอเชี่ยน เยี่ยมเจ๋อกับยิ่วเชียนมาเคาะประตูห้องทำงานของหมิงเย่
“เข้ามา”
ทั้งสองเปิดประตูเข้าไป เยี่ยนเจ๋อทัก
“หย่งชิงมาได้ไง”
“ฉันเพิ่งไปทานข้าวกับแม่มา กลับมาแล้วเหรอ”
หย่งชิงทักยิ่วเชียน ยิ่วเชียนเดินไปตรงหน้าหมิงเย่
“หัวหน้า”
“กลับมาแล้วเหรอ เอามาสิ”
ยิ่วเชียนส่งแฟ้มงานให้ “นี่คือข้อมูลจากการสำรวจหมู่บ้านภูล่าน นอกเหนือจากประชากรแล้ว ยังมีสภาพของที่ดิน ในหมู่บ้านภูล่านนอกจากผู้ใหญ่บ้านที่มีอิทธิพลแล้ว ยังมีเจ้าของที่ดินชื่อเจียงไห่โค่ ที่ดินส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเป็นของเขาทั้งหมด”
“อื้ม เธอเดาถูกว่าฉันมีโปรเจ็คใหม่ที่หมู่บ้านภูล่าน ดังนั้นเธอจึงศึกษาหาข้อมูลเองทั้งหมด ดูเหมือนจะทำถูกแล้วที่ให้เธอลาพักร้อน คนเราต้องมีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วจะคิดได้อย่างชัดเจนว่า ต้องทำยังไง ถึงจะเป็นที่ไว้วางใจในการมอบหมายงานให้”
“ครับ”
“นี่คืองานโปรเจ็คแล็บท็อปที่เธอทำก่อนหน้านี้ คนที่รับช่วงต่อไม่มีความสามารถพอ ฉันจะมอบให้เธอจัดการต่อ”
เยี่ยนเจ๋อหันมาบอกยิ่วเชียน
“ยิ่วเชียน ยินดีด้วย”
“หัวหน้า ขอโทษครับ ผมรับงานนี้ต่อไม่ได้ ผมยังมีวันลาพักร้อน ผมต้องการลาพักช่วงหนึ่ง”
“ยิ่วเชียน นายเพิ่งลาพักร้อนกลับมาไม่ใช่เหรอ” เยี่ยนเจ๋อเตือน
หย่งชิงเซ็ง รู้ความคิดของยิ่วเชียนทันที
“ไม่เป็นไร เขาต้องการลาพักร้อนก็ปล่อยเขา บริษัทเรามีคนมีความสามารถมากมาย ถ้าเขาไม่อยากทำ คนที่อยากทำยังมีอีกมาก”
“ขอบคุณหัวหน้าครับ ถึงผมจะลาพัก แต่โปรเจกต์ของหมู่บ้านภูล่าน ผมจะยังคงติดตาม งั้นผมขอตัวก่อนครับ”
“ยิ่วเชียน” หย่งชิงเรียก แต่ยิ่วเชียนเดินออกไปเลย
หมิงเย่มองหน้าเยี่ยนเจ๋ออย่างไม่พอใจ เยี่ยนเจ๋อรีบตามยิ่วเชียนออกไป
“ยิ่วเชียน เซี่ยยิ่วเชียน นายกำลังทำอะไร งานแล็บท็อปที่นายทำค้างไว้ หัวหน้าให้โอกาสแล้ว นายยังไม่คว้าไว้ นายมาลาพักตอนนี้เท่ากับว่าไม่เชื่อฟังคำสั่งเขานะ”
“ฉันเคยบอกนายแล้ว ฉันจงรักภักดีกับบริษัทและหัวหน้า เขาจะเชื่อใจฉัน หรือสงสัยฉันก็ได้ ฉันจะไม่ตอบโต้เพื่อเป็นการพิสูจน์ ความเชื่อใจต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การต่อสู้”
“เฮ่อ แล้วนายจะไปไหนอีกเนี่ย”
“หมู่บ้านภูล่าน”
“เฮ่อ เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
“อืม”
“ถึงต้องขัดใจหัวหน้านายก็ไปเหรอ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ เดินออกไป
หมิงเย่นั่งดูงานอย่างไม่พอใจ หย่งชิงพยายามปลอบ
“เอาน่าคุณแม่ จ้างคนไม่สงสัย ถ้าสงสัยต้องไม่จ้าง นี่คือสิ่งที่แม่เคยพูดไว้นี่คะ อีกอย่าง ยิ่วเชียนก็รับปากแล้วว่าจะติดตามข่าวของหมู่บ้านภูล่าน แม่อย่าโกรธไปเลยค่ะ”
“ในเมื่อเธอมองออกว่าฉันโกรธ เขาก็ต้องรู้ว่าฉันโกรธ เขาจงใจขัดคำสั่งฉันแบบนี้ นี่คือสัญญาณของการก่อความวุ่นวาย”
เยี่ยนเจ๋อเข้ามา “หัวหน้า ยิ่วเชียนไม่ได้เจตนาขัดใจคุณนะครับ”
“เอาน่า คุณแม่ แม่เคยบอกว่าผู้หญิงเราไม่ควรปล่อยให้ผู้ชายมีอิทธิพลต่ออารมณ์”
“ฮิๆๆ ยัยเด็กโง่ นี่คือปัญหาเดียวกันมั้ยล่ะ เธอน่ะ ถ้าฉันมีลูกสาวล่ะก็ ฉันต้องเลือกอย่างเธอแน่นอน”
“งั้นคุณแม่ก็ต้องเชื่อลูกสาวคนนี้ ฉัน หูหย่งชิง ขอยืนยันว่าเซี่ยยิ่วเชียนลาพักไม่ใช่เพราะต้องการขัดใจคุณแม่”
“ฮิๆๆ” หมิงเย่หัวเราะ
เยี่ยนเจ๋อมองหย่งชิงอย่างสงสัย ก่อนจะเดินตามออกไปข้างนอก
“เธอรู้อะไรมาใช่มั้ย”
“อะไร”
“ทำไมเธอกล้ายืนยันว่าเขาไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เขาไปทำอะไรที่หมู่บ้านภูล่าน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“การเม้าท์ไม่ใช่นิสัยของผู้หญิงเท่านั้นสินะ”
“ฉันเป็นที่ปรึกษาของบริษัทโอเชี่ยนนี่ เธอรู้มั้ยว่ามีคนมากมายมาหาฉันเพื่อซุบซิบนินทาให้ฟัง”
“เขาเจอรักแรกพบของเขา”
“เซี่ยยิ่วเชียนเหรอ”
“ตอนที่ฉันได้ยิน ก็รู้สึกเหมือนพี่นั่นแหละ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกเท่านั้น”
“มิน่าล่ะ ฉันคิดว่าเขาเป็นคนมีความรักร้อนแรง ไม่คิดว่าจะเป็นรักแรกพบ”
“แค่รักแรกเท่านั้น”
“แต่ดูเหมือนรักแรกของเขาจะมั่นคงมาก เธอไม่เป็นห่วงเหรอ”
“เป็นห่วงอะไร กลัวจะสูญเสียแฟนปลอมๆ เหรอ ยิ่วเชียนไม่ใช่คนโง่ งานกับความรัก สุดท้ายเขาจะรู้ว่าต้องเลือกอะไร จริงสิใกล้ถึงวันครบรอบวันตายของพ่อพี่แล้ว ปีนี้พวกพี่จะบริจาคเงินให้สมาคมการดูแลเด็กแห่งเอเชียมั้ย”
“ใช่ มีอะไร”
“มีแบรนด์เสื้อผ้าอยากให้ฉันเป็นตัวแทนซื้อเสื้อผ้าไปบริจาคให้โครงการของเด็กๆ ฉันรับปากแล้ว ฉันอิจฉาพี่จริงๆ ที่มีพ่อเป็นหมอและทุ่มเทเพื่อสังคมขนาดนี้”
“จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อแม่ฉันไม่ชอบ ไม่งั้นจะมาแต่งงานกับพ่อเธอเหรอ ฉันก็ชอบพ่อเธอนะ ทั้งรวย และรักลูกสาวมาก”
“ใช่ เสียดายที่ท่านไม่อยู่แล้ว”
“ใช่ เสียดาย เอาล่ะฉันไปทำงานล่ะ ไปก่อนนะ”
เยี่ยนเจ๋อเดินออกไป
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่12 (ต่อ)
ขณะที่ยิ่วเชียนนั่งทำงานอยู่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากหย่งชิง
“ฮัลโหล”
“อย่าลืมรายงานความคืบหน้าของความรักคุณนะ ยิ่วเชียน”
“คุณจะรู้ไปทำไม”
“ไม่ทำไมหรอก ชีวิตเจียมเนื้อเจียมตัวของคุณ ฉันจะเข้าร่วมด้วย อย่าลืมบอกความคืบหน้าให้ฉันรู้ด้วย ไม่งั้น ฉันจะโทรไปถามคุณทุกวัน” หย่งชิงวางสายไป
อันซีนั่งเหงาๆ อยู่ที่บ้าน ยกขาขึ้นมาดูแผล พลันนึกถึงคำพูดของยิ่วเชียน
“ใกล้ถึงหนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยแกะมันออก เจ็บมั้ย”
อันซีนึกถึงเรื่องนี้แล้วพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา
“เฮ่อ มีสติหน่อย”
อันซีเดินลงมาข้างล่าง หยาเอินทัก
“อ้อ อันซี ไปทำงานแล้วเหรอ”
“ใช่”
จื้อหลิงทัก “เอ๊ะ อันซี คุณเซี่ยบอกว่าแผลของเธอแกะได้แล้ว เอ๊ะ ไม่มีรอยแผลเป็นเลย ว้าววิเศษจริงๆ คุณเซี่ยช่างเป็นคน”
จื้อหลิงยังพูดไม่จบ เหม่ยเหวินเอาแผ่นแป้งทำอาหารปิดปากจื้อหลิงไม่ให้พูด อันซีขำๆ
“บ๊ายบาย” อันซีเดินออกไป
“เหม่ยเหวินเธอทำอะไร” จื้อหลิงโวย
“ฉันบอกแล้วไงว่าเธอมันโง่ ทำไมต้องพูดถึงเขาต่อหน้าอันซีด้วย”
“พี่เหม่ยเหวิน พี่ยังคัดค้านไม่ให้คุณเซี่ยจีบอันซีเหรอ” หยาเอินสงสัย
“ฉันคัดค้าน ความเห็นของฉันสำคัญมากเหรอ อันซีเป็นคนยอมแพ้เองและบีบให้เขาหนีไป ดังนั้นต่อไปห้ามพูดถึงเขาต่อหน้าอันซีอีก เพราะตอนนี้อันซีเสียใจก็ไม่ใช่ ทุกข์ใจก็ไม่เชิง”
“อย่างนี้นี่เอง แต่เธอควรพูดดีๆ กับฉันสิ ชีวิตในบ้านพักที่ขาดคุณเซี่ย แม้แต่ฉันยังรู้สึกแปลกๆ” จื้อหลิงบอก
“เธอคิดว่าคิดแบบนั้นคนเดียวเหรอ พวกเราก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน เขาเป็นผู้มีพระคุณของเย่จือไห่นะ” เหม่ยเหวินย้ำ
อันซีเดินมาหยิบของ ได้ยินที่เพื่อนๆ พูด เธอนึกถึงยิ่วเชียนวันที่เขาที่แต่งตัวเตรียมพร้อมไปดึงต้นหอมแล้วเศร้า พูดกับตัวเอง
“ผู้มีพระคุณไปจากบ้านพัก ฉันไม่มีทางคิดถึงเขาอีก”
อันซีเดินหิ้วตะกร้าอย่างห่อเหี่ยวมาตามทาง เจออาปู้เข้าพอดี ก็นึกถึงคำพูดของยิ่วเชียนอีก
“ถึงสายพันธุ์ของมันจะอยู่ที่ฝรั่งเศส แต่บรรพบุรุษของมันมาจากประเทศอังกฤษ”
อันซีวางตะกร้าเอาหมวกบังหน้าเดินเลี่ยงอาปู้ไป
“เฮ่อ อาปู้ แกอย่าเข้ามานะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก อย่าเข้ามานะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก แกอย่าเข้ามา อย่าเข้ามาๆๆ”
คืนนั้น อันซีนั่งอยู่ที่เก้าอี้สนามหน้าบ้าน พร้อมขวดเบียร์ นั่งเอนตัวไปมา พลันตาฟาดเห็นยิ่วเชียนเดินมา
“พี่ชาย คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันยังดื่มเบียร์ไม่หมดเลย เฮ้อ จึ๊ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไหนบอกว่าจะไม่กลับมาอีก ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันมีชีวิตของฉัน เฮ้อ ไหนบอกว่าไม่กลับมาแล้ว”
อันซีโมโหตัวเองที่คิดถึงยิ่วเชียนตลอดเวลา
ตอนเช้า อันซีนอนหลับอยู่บนเตียง มีขวดเบียร์เกลื่อนห้อง ยิ่วเชียนเดินเข้ามาในห้องเตะขวดเบียร์ แล้วเข้ามาปลุกอันซี
“ฮัลโหล”
อันซียังหลับตา รำคาญ หันหน้าไปอีกทาง ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ฮัลโหล”
อันซีหงุดหงิดเอาผ้าห่มคลุมหน้า ยิ่วเชียนขำ
“พี่เหม่ยเหวิน วันนี้ฉันไม่ทำงาน ทำไมต้องมาปลุกฉันด้วยเล่า เมื่อคืนกว่าฉันจะนอนหลับได้ ทำไมต้องมาปลุกฉันแต่เช้าด้วย”
อันซีลืมตาขึ้นมา เห็นหน้ายิ่วเชียนชัดๆ เขากำลังก้มมองเธออยู่ คิดว่าตัวเองตาฝาด
“คุณยังไม่ปล่อยฉันไปอีกเหรอ”
“ฉัน”
อันซีได้สติ กัดแขนตัวเองก็เจ็บ รู้ว่าไม่ได้ฝันไป ลองจับยิ่วเชียนดูก็เป็นคนเป็นๆ ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้
“หะ คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ที่นี่ห้องของฉันนะ”
“เป็นห้องคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ตอนฉันจ่ายเงินค่าห้องให้พี่เหม่ยเหวินไง เฮ่อ”
อันซีรีบลุกจากเตียง ยิ่วเชียนยิ้มเอ็นดู อันซีลงมาชั้นล่าง ร้องเรียกคนในบ้าน
“พี่เหม่ยเหวิน พี่เหม่ยเหวิน ๆ จื้อหลิง หยาเอิน จื้อหลิง เหม่ยเหวิน”
ยิ่วเชียนตามลงมา
“พี่เหม่ยเหวิน จื้อหลิง หยาเอินล่ะ พวกเขาไปไหนกันหมด”
ยิ่วเชียนหัวเราะ รู้ว่าทุกคนหายไปไหน
หยาลู่นั่งทำงานอยู่ จื้อหลิงเดินเข้ามาหา
“จื้อหลิง มาแต่เช้าเลย”
“ตอนนี้นายมีสอนมั้ย”
“ไม่มี”
“งั้นดีเลย”
หยาเอินกับเหม่ยเหวินเดินเข้ามา หยาลู่แปลกใจ
“หะ หยาเอิน พี่เหม่ยเหวิน”
หยาเอินเล่า “วันนี้คุณเซี่ยขอให้เราช่วยเหลือ ปล่อยให้เขาได้ใกล้ชิดกับอันซี”
“อ้อ แล้วทำไมจื้อหลิงถึงยอม”
“เพราะว่าคุณเซี่ย ยิ้มให้ฉันไงล่ะ”
“แล้วพี่เหม่ยเหวินพี่ล่ะ”
“โธ่เอ๊ยฉันก็รู้สึกสับสนเหมือนกัน แม้ฉันไม่รู้ว่าเซี่ยยิ่วเชียนจะพึ่งพาได้มั้ย แต่ว่า ข้างกายของอันซีไม่มีผู้ชายคนไหนดีเท่าเขาอีกแล้ว”
“อีกอย่างหลายวันที่คุณเซี่ยไม่อยู่ อันซีเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขอบตาก็ดำเพราะนอนไม่หลับ” จื้อหลิงเล่า
“เฮ้อ ตอนนี้สิ่งที่ฉันเป็นห่วงที่สุด คือแฟนตัวปลอมที่น่ากลัวเหมือนนางมารร้ายที่บอกว่า เมื่อไหร่ที่จำเป็นถึงจะเป็นแฟนกัน จุดนี้ทำให้ฉันรู้สึกกังวลมาก” เหม่ยเหวินกลุ้ม
“แต่อันซีปฏิเสธไปแล้ว เขายังไม่ยอมแพ้ ดูเหมือนคุณเซี่ยจะชอบอันซีจริงๆ แล้วล่ะ” จื้อหลิงบอก
“หวังว่าเขาจะจริงใจนะ” เหม่ยเหวินภาวนา
“พูดถึงการกลับมาครั้งนี้ เหม่ยเหวิน ฉันอยากกินซุปเป็ดย่างกะทันหันเลย” จื้อหลิงบอก
“เฮ่อ เธอเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย นึกถึงแต่เรื่องกินตลอดไม่กลัวอ้วนเหรอ”
“ฉันอยู่ในวัยเจริญเติบโตนี่นา”
“เธอกล้าพูดเนาะ”
หยาเอินพึมพำขึ้น “คุณเซี่ยบอกว่าต้องการใกล้ชิดอันซี แล้วอันซีจะยอมอยู่กับเขาตามลำพังเหรอ”
ทุกคนต่างมองหน้าหยาเอิน
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่12 (ต่อ)
อันซีเตรียมอาหารให้ยิ่วเชียน เขาเดินรอๆ อยู่จนอันซีถือจานอาหารมาตั้งที่โต๊ะ เขาลงนั่งทันที อันซีวางแล้วจะเดินหนีไป ยิ่วเชียนพูดขึ้น
“เอ่อ ช้อนส้อม”
อันซีหันกลับไปหยิบช้อนส้อมให้แล้วจะเดินไป
“กาแฟ”
อันซีชะงัก ไปชงกาแฟ พลางหันมามองชายหนุ่ม ยิ่วเชียนเงยหน้ามาพอดี เธอรีบหันกลับ จากนั้นนำกาแฟไปเสิร์ฟให้ชายหนุ่ม อันซีเผลอจ้องตายิ่วเชียน แล้วชะงัก รีบปิดตา ยิ่วเชียนขำท่าทางของหญิงสาว
“นั่งลงกินด้วยกันสิ”
“ขอบคุณ เถ้าแก่เนี้ยยังมีงานต้องทำ”
อันซีจะเดินผ่านไป ยิ่วเชียนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ทำทีแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์
“ประเมินผลบ้านพักในไต้หวัน เย่จือไห่ เจ้าของบ้านพักบริการไม่ดี แสดงความคิดเห็นหน่อยดีกว่า”
“เฮ่อ”
อันซีถอยหลังไปช้าๆ แล้วจะคว้าโทรศัพท์ยิ่วเชียนมา แต่เขาหลบได้ทัน
“อะไรเนี่ย ยังแย่งโทรศัพท์ของลูกค้าด้วย”
“เดี๋ยวก่อนๆๆ”
อันซีพยายามหลบตาไม่จ้องตาเขา ยิ่วเชียนขำ
“เฮ่อ คุณจะทำอะไรของคุณ”
“กินข้าวเช้าไง”
อันซีจำต้องนั่งลงที่โต๊ะอาหารกับยิ่วเชียน กินอาหารไม่พูดไม่จา ยิ่วเชียนเหลือบมองยิ้มๆ กินอาหารด้วย อันซีมองหน้าเขาด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามหลบตา ยิ่วเชียนยิ้ม
“เธออยากถามใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงกลับมา”
อันซีหน้าบึ้ง คิดในใจ
“คุณคงคิดว่าฉันอยากพูดจนทนไม่ไหวสินะ ฮึ ฉันไม่ถามหรอก วันนี้ฉันจะอดทนไม่พูด”
อันซีกินไม่หยุด ไม่ยอมพูดยอมจาจนสำลัก ยิ่วเชียนตกใจยื่นน้ำให้
“อันซี”
อันซีจะหยิบแก้วแต่เผลอไปจับโดนมือยิ่วเชียน ทั้งสองอึ้ง แล้วอันซีรีบหยิบแก้วน้ำไปจากชายหนุ่ม ดื่มอั้กๆ แต่ยังสำลักไม่หยุด ยิ่วเชียนลุกจะเข้าไปช่วย อันซีถอยหนี ห้าม แต่ยังสำลักอยู่ ยิ่วเชียนเป็นห่วง
“เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“พอแล้วๆๆ ขอบคุณมาก เฮ่อ”
อันซีเดินหยิบแก้วน้ำไปวางแล้วหยิบแก้วใหม่มาให้ยิ่วเชียน
“เธอไม่เป็นไรนะ”
อันซีไม่ตอบ เดินออกไป ยิ่วเชียนรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“การประเมินผลบ้านพัก ควรเพิ่มไปในรายการโปรดของฉัน”
อันซีชะงัก เดินมานั่งที่โต๊ะ ประชด หลบตา ไม่กล้ามองหน้าเขา แต่แล้วก็รวบรวมความกล้า จ้องหน้ายิ่วเชียน ยิ่วเชียนงง ว่าอันซีจะทำอะไร อันซีจ้องตาได้สักพักก็ทนไม่ไหววิ่งหนีออกไป ยิ่วเชียนแปลกใจว่าอันซีเป็นอะไร เขานึกถึงคำพูดของเยี่ยนเจ๋อ
“นายต้องพยายามหาโอกาสเข้าใกล้ ไม่ว่าจะเป็นการสบตาหรือทางร่างกาย นายต้องรู้ก่อนว่า ส่วนไหนของนายที่สามารถดึงดูดเธอได้”
ยิ่วเชียนขยับตาตัวเองไปมาอย่างงงๆ
“สายตาของฉัน ไม่มีภูมิคุ้มกันเหรอ ไม่มั้ง”
อันซีเปิดประตูบ้านออกมา เห็นยิ่วเชียนยืนอยู่ที่รถ ยิ่วเชียนถือหัวฉีดล้างรถอยู่
“มีอะไรอีก จะทำอะไร”
“ฉันค้นพบอะไรใหม่ๆ อยากให้เธอช่วยตรวจสอบหน่อย”
“อะไรเหรอ”
“ช่วยฉันล้างรถ”
อันซีอึ้ง เดินเข้าไปหายิ่วเชียนสายตาล่อแล่ก พลางคิด
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการทำอะไร ฉันไม่ยอมรับ คุณเลยคิดจะกลั่นแกล้งฉัน คิดจะใช้วิธีนี้เล่นงานฉัน ทำให้ฉันดูแย่ ดังนั้นฉันต้องลงมือก่อน”
อันซีแย่งหัวฉีดมา แล้วฉีดน้ำใส่ยิ่วเชียนmyomu
“นี่อันซี อันซีเธอทำอะไร”
“ฮ่าๆๆ”
อันซีหยุดฉีด ยิ่วเชียนเปียกปอน เขาสะบัดผมที่เปียก อันซีตะลึงในความหล่อ เธอมองไปทั่วร่างของเขา เสื้อผ้าเปียกทำให้เห็นหุ่นแข็งแรงของเขา ทั้งสองสบตากัน แล้วอันซีก็ตื่นจากภวังค์ ถือหัวฉีดบิดไปมาอยู่คนเดียว ยิ่วเชียนไม่ได้เปียกปอนอย่างที่เธอจินตนาการ ยิ่วเชียนเข้ามาแย่งหัวฉีดไป
“เธอทำอะไร ยังไม่รีบทำงานอีก”
อันซีอึ้งๆ ยิ่วเชียนแย่งหัวฉีดไปฉีด พอหันกลับมาก็จินตนาการว่าอันซีแต่งตัวเซ็กซี่ถือฟองน้ำมาช่วยล้างรถ ยิ่วเชียนตะลึง ฉีดน้ำค้าง อันซีโบกมือเรียกตรงหน้า
“นี่ คุณเป็นอะไร จะล้างรถไม่ใช่เหรอ พิลึกคนจริงๆ”
ยิ่วเชียนได้สติ รีบหยิบสายยางจะล้างรถ อันซีเดินผ่านไปหยิบฟองน้ำมาขัดรถ ยิ่วเชียนมองๆ
“อันซี”
“หืม”
“ตรงนี้ๆ”
“อ้อ” อันซีขัดตามที่ยิ่วเชียนบอก
“ช่วยดูตรงนี้หน่อย”
อันซีมองตามแล้วเห็นเงาสะท้อนของทั้งสองสะท้อนจากกระจกรถ ทั้งสองอยู่ให้ล้กันมาก อันซีอึ้ง รีบสะบัดหน้าไปอีกทาง หักห้ามใจ ไม่อยากจะมองหน้าเขาอีก ยิ่วเชียนตามมามอง อันซีก็หันหน้าหนีไปอีกทาง ยิ่วเชียนก็ตามมามองอีก อันซีรีบหันหน้าหนี จนขาไปชนรถร้องลั่น
“โอ๊ย โอ๊ยเจ็บมาก โธ่เอ๊ย”
อันซีทิ้งฟองน้ำเดินเข้าบ้านไป ยิ่วเชียนแปลกใจ พึมพำ
“สายตาของฉัน มีเสน่ห์กับเธอมากเหรอ จริงเหรอเนี่ย หรือว่าสายตาของฉัน จะดุเกินไป หรือว่า หรือว่า เธอจะแคร์ฉันจริงๆ” ยิ่วเชียนยิ้มดีใจ
อันซีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ท่าทีของเธอดูหวาดๆ ขณะตะโกนถามออกไป
“ใคร”
“จะใครอีกล่ะ ไม่ต้องดูแล้ว พี่เหม่ยเหวินไม่อยู่ ไม่มีใครช่วยเธอเอาบันไดแล้ว บ้านพักทั้งหลังมีแต่เธอกับฉันเท่านั้น”
อันซีทำใจต้องเปิดประตู แกล้งทำหน้าระรื่น
“ไฮ มาหาใครคะ”
“เอ่อ จะมาหาใครได้ล่ะ”
“ฮิๆๆ อ้าวพี่เหม่ยเหวินกลับมาแล้วเหรอ”
ยิ่วเชียนหันไปมองตาม อันซีฉวยโอกาสวิ่งออกจากห้องหนีลงบันไดไป ยิ่วเชียนยิ้มวิ่งตามไป อันซีวิ่งไปแล้วเจอของกรีดขวางอยู่ตรงบันได ยิ่วเชียนวิ่งมาอีกทาง
“คิดว่าฉันจะหลงกลครั้งที่สองเหรอ ฉันเตรียมพร้อมแล้วล่ะ”
“บ้ากามสมชื่อจริงๆ มิน่าเจียงไห่โค่ถึงเรียกคุณว่าไอ้บ้ากาม”
“ถูกต้อง สิ่งที่ฉันถนัดที่สุดคือใช้สมอง เธอจะลองใช้ดูบ้างมั้ย”
“หะ”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาในบ้าน อันซีและเพื่อนๆ ยืนเรียงรออยู่
“ทุกคนคงรู้ว่าตอนนี้ ฉันเป็นเจ้าหนี้ของเย่จือไห่ ฉันจึงเป็นห่วงบ้านพักมากกว่าทุกๆ คน ดังนั้นตอนนี้เราควรหารือและปรับปรุงผลประโยชน์ของบ้านพักเพื่อเพิ่มกำไรให้ทุกคน”
“เย่ๆๆ” ทุกคนดีใจ
ยิ่วเชียนคิด “หารือเรื่องบ้านพัก ทีนี้เธอคงหนีไม่รอดแล้ว เริ่มจากการใกล้ชิดกัน เข้าใจกัน หูเยี่ยนเจ๋อนี่ ไม่เลวจริงๆ”
“แล้วเราควรทำยังไง” อันซีถาม
ยิ่วเชียนเปิดแฟ้ม “ก่อนอื่น ฉันต้องตรวจสอบบัญชีของพวกเธอ ว่าทำได้ดีละเอียดแค่ไหน”
“ทำได้ดีมาก”
อันซียืนยัน ทุกคนยกนิ้วโป้งให้หยาเอิน
“แต่ฉันคิดว่า ครั้งหน้าควรทำให้ละเอียดกว่านี้ อย่างเช่น งบการเงิน”
หยาเอินหน้าเสีย อันซีต้องช่วยพูด
“นี่ เราเป็นแค่บ้านพักเล็กๆ ทำไมต้องยุ่งยากด้วย”
“เพราะทุกคนคิดว่าเป็นบ้านพักเล็กๆ ดังนั้นจึงเป็นได้แค่บ้านพักเล็กๆ ตอนที่หวังหย่งฉิงขายข้าวสาร เขาพูดมั้ยว่าอยากขายข้าวสารตลอดไป หลี่เจาเฉินอยากอยู่ในโรงงานขยะของตัวเองตลอดไปมั้ย บิลเกตส์ยังอยากให้ทุกคนใช้ซอฟต์แวร์ของเขาโดยใช้โปรแกรมของเขา ดังนั้นขอให้ทุกคน ช่วยมีวิสัยทัศน์ที่ดีด้วย”
“วิสัยทัศน์เหรอ”
ทุกคนมองหน้ากันงงๆ ยิ่วเชียนกระแอม
“ไม่ต้องมองไปที่อื่น มองที่ฉันนี่”
ทุกคนหันไปมองอันซี
“มองฉันทำไม มองเขาสิ”
“พูดถึงบัญชีของบ้านพักแล้ว ฉันเห็นค่าใช้จ่ายที่มากที่สุด คือค่าใช้จ่ายบุคลากร บ้านพักมีรายได้แต่ละฤดู รายรับไม่แน่นอน แต่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัด ฉันคิดว่า ปัญหาของพวกเธอไม่ใช่เพราะรายได้ไม่แน่นอน แต่เพราะไม่เคยปรับปรุงต่างหาก”
จื้อหลิงยิ้มถาม “คุณเซี่ย คุณหมายถึงจะเพิ่มเงินเดือนเหรอคะ”
“การปลดพนักงาน”
ทุกคนอึ้ง
“คนที่ทำงานน้อยที่สุด เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น ค่อยเพิ่มกำลังคนชั่วคราว เพราะนี่คือความอยู่รอดของบ้านพัก”
เหม่ยเหวินสงสัย “คือ ขอโทษนะคะ คนทำงานน้อยที่สุดที่คุณหมายถึงคือ”
“จากการที่ฉันสังเกตมาสองอาทิตย์ บ้านพักจำเป็นต้องมีพนักงานสองคนเท่านั้น”
“ไม่รวมเถ้าแก่เนี้ยใช่มั้ย” จื้อหลิงถาม
“รวมเถ้าแก่เนี้ยด้วย”
อันซีถอนใจ เหม่ยเหวินกับจื้อหลิงหน้าเสีย เหม่ยเหวินรีบเสนอคุณสมบัติตัวเอง
“ขอโทษทีนะต้องเรียงตามลำดับอายุ เพราะว่าอาหารของบ้านพักฉันเป็นคนทำทั้งหมด บวกกับสมองทองคำของฉัน ความเป็นกันเองและใจเย็น น่ารักและสวยด้วย”
“ในส่วนของการทำอาหาร เราจ้างคนนอกได้ และอันซี ก็สามารถจัดการได้ ดังนั้น ต้องปลดออก”
เหม่ยเหวินโมโห “ดี คุณเก่ง ต่อไปคุณอย่าหวังจะรู้ข่าวอันซีจากฉันอีก”
“พี่เหม่ยเหวิน” อันซีปราม
“ฉัน”
“งั้นฉัน ฉันมีเพื่อนฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ดังนั้นฉันพูดได้หลายภาษา” จื้อหลิงเสนอบ้าง
“ตอนนี้ประเทศเหล่านี้ เริ่มพูดภาษาจีนกลางกันแล้ว ปลดออก”
จื้อหลิงร้องลั่นซบอันซี อันซีโกรธ
“ฮือๆๆ อันซี ความรักที่ฉันมีต่อคุณเซี่ยหายไปหมดแล้ว”
หยาเอินยกมือถามถึงตัวเอง
“เธอ คงไม่ต้องให้ฉันพูดอะไรมากสินะ ปลดออก”
หยาเอินอึ้ง หยาลู่รีบปลอบ แล้วบอกคุณสมบัติของตัวเอง
“เอ่อ ฉันวาดรูปเก่ง และมีฝีมือหลายอย่าง ภาพวาดในบ้านพักฉันเป็นคนวาดทั้งหมด”
“นายไม่ใช่พนักงานของบ้านพัก ดังนั้นฉันไม่เคยคิด แต่ถ้าใช่ล่ะก็ ฉันจะปลดนายเป็นคนแรก”
ทุกคนต่างเรียกหาอันซีเป็นที่พึ่ง
“อันซี”
“ไม่ได้ๆๆ คนในบ้านพักจะขาดพวกเขาไม่ได้” อันซีย้ำ
“ฉันบอกเธอแล้วว่า”
“บ้านพักของฉันจะขาดพวกเขาไม่ได้”
“ถ้าหากลดค่าใช้จ่ายบุคลากรไม่ได้ งั้นคงต้อง พัฒนาแหล่งที่มาของรายได้”
“เย่ๆๆ” ทุกคนร้องดีใจ
อันซียิ้มแย้มพลางว่า
“ดีมาก อย่างนี้ถูกต้องแล้ว”
ทุกคนแปะมือกันอย่างดีใจ ยิ่วเชียนจับแขนอันซีหันมา มืออันซียังตั้งค้างอยู่ ยิ่วเชียนรีบแปะมือกับเธอหน้าตาเฉย หยาลู่มองอึ้ง อันซีอึ้งไปก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
“พรุ่งนี้ก่อนประชุม ทุกคนต้องคิดสิ่งที่ตัวเองเชี่ยวชาญมา ไม่อย่างงั้น”
ยิ่วเชียนยังพูดไม่ทันจบ อันซีก็เดินเข้าไปจ้องหน้าเอาเรื่อง
ยิ่วเชียนยิ้มๆ ไม่พูดต่อเดินขึ้นห้องไป แล้วหยุดแอบมองพวกอันซีปรึกษากัน ยิ้มขันในความอารมณ์ดีของคนกลุ่มนี้
อ่านต่อหน้า 4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่12 (ต่อ)
อันซีนั่งซ่อมแซมตุ๊กตาปลาการ์ตูนอยู่ในห้อง ยิ่วเชียนมาเคาะประตู
“ใครนะ”
อันซีเย็บเสร็จ เดินถือตุ๊กตาติดมือไปเปิดประตูด้วย
“อ้อ เซี่ยไต้ซือ คุณมีปัญหาอะไรจะปรึกษาฉันอีก”
ยิ่วเชียนยิ้ม “ยังมีอีกหนึ่งปัญหา”
“ปัญหาอะไร”
“นี่ไง”
ยิ่วเชียนชี้ที่ตุ๊กตาปลาการ์ตูนที่อันซีถืออยู่ อันซียิ้มๆ
“หะ ปัญหาอะไร”
“ฉันเคยบอกให้เธอลองคิดดู ว่าทำไมปลาการ์ตูนของเธอ ถึงมาอยู่ที่ฉันได้ตั้งนาน”
อันซีหน้าเจื่อนพูดไม่ออก ก้าวถอยหลัง ยิ่วเชียนก้าวรุก
“ว่ายังไงล่ะ
“ฉันไม่ได้คิด”
“ทำไมไม่คิดล่ะ”
“ฉันไม่อยากคิดนี่”
“สมองของเธอกระทบกระเทือน หรือสมองไม่มีรอยหยักกันแน่ ลองคิดดูสิ ว่าเพราะอะไร”
“หรือว่า เขาจะชอบฉันตั้งแต่แรกเห็น” อันซีพึมพำเบาๆ โดยเอาตุ๊กตาบังหน้าไว้
ยิ่วเชียนยื่นหน้าเข้าไปหา “ถูกต้อง”
“เป็นไปได้ยังไง เราเพิ่งรู้จักกันเองนะ”
“เวลาที่เรารู้จักกัน นานกว่าที่เธอคิดซะอีก”
ยิ่วเชียนเดินรุกไล่จนอันซีถอยหลังล้มไปบนโซฟา
“เฮ้ย”
อันซีเอาตุ๊กตาปิดหน้า ไม่อยากจ้องตาเขา พึมพำกับตัวเอง
“นานกว่าที่ฉันคิดเหรอ เขาเป็นโรคจิต หรือพวกชอบสะกดรอยตามกันแน่”
ยิ่วเชียนมองท่าทางหลบตาของอันซีแล้วคิดๆ
“หรือว่าเธอแคร์สายตาฉันจริงๆ ด้วย”
ยิ่วเชียนหยุดคิด หันมาพูดกับอันซี
“กลับมาเรื่องของบ้านพัก ฉันต้องการให้เธอคิดเรื่องราวของเย่จือไห่”
“ยังต้องคิดอีกเหรอ มีอะไรนักหนาให้ฉันต้องคิดอีกล่ะ”
“เพราะมีเรื่องราวมากมายให้ต้องคิด นอกเหนือจากเครือของโรงแรม จากโรงแรมชั้นนำของโลก เบื้องหลังต้องมีเรื่องราวที่น่าประทับใจ เพื่อให้แขกยินดีกลับมาใช้บริการอีก”
“เรื่องราวของบ้านพักเหรอ”
“อื้ม ถ้าไม่มีล่ะก็ แต่งขึ้นมาสักเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม โอเค้”
“แบบนี้ก็เป็นการโกหกสิ”
“ในโลกนี้คนที่หาเงินเร็วที่สุด ก็คือคนโกหก”
“ฉันไม่มีทางโกหก บ้านพักของเรามีเรื่องราวอยู่แล้ว พ่อฉันบอกว่า ตอนพ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน เคยเห็นชายฝั่งที่สวยที่สุดของที่นี่ และแสงจันทร์ที่สวยที่สุด แม่ฉันพูดอย่างประทับใจว่า ที่นี่เหมาะกับการกลับมาอยู่ตอนแก่ชรา สักวันท่านจะต้องกลับมา”
“ดังนั้นพ่อของเธอ เลยสร้างบ้านพักที่หมู่บ้านภูล่าน”
“ใช่”
“เธอเชื่อเรื่องราวที่พ่อเธอพูด ถึงรอจนทุกวันนี้ เชื่อว่าสักวัน แม่ของเธอจะกลับมา”
“ใช่”
“เธอเขียนให้เป็นเรื่องราว และลงเว็บไซต์ของบ้านพัก ทำให้คนอยากรู้อยากเห็น และพูดถึงมันปากต่อปาก บ้านพักของพวกเธอ ถึงเวลาที่ควรปรับปรุงแล้วล่ะ”
“ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปหาหยาลู่”
“ทำไมต้องไปหาเขา” ยิ่วเชียนฮึดฮัด
“ก็เว็บไซต์นี้เขาเป็นคนทำนี่”
“ฉันรู้จักนักออกแบบ”
“ไม่ได้ หยาลู่ไม่ต้องเสียเงินจ้าง คุณไปจ้างคนอื่นทำ ยังสู้หยาลู่ทำไม่ได้เลย”อันซีพูดพลางจ้องหน้ายิ่วเชียนนิ่ง ชายหนุ่มจ้องตอบ อันซีนึกขึ้นได้ รีบเอามือปิดตาตัวเอง
วันรุ่งขึ้นทุกคนนั่งโต๊ะปรึกษาหารือกัน และพยายามช่วยหยาลู่คิดเรื่องเรื่องที่จะออกมาเป็นวาดรูป
“ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเย่จือไห่ของเราไง” เหม่ยเหวินบอก
“ใช่ เธอก็รู้สึกเหรอ ถึงตอนนั้นเธอวาดรูปเรือใส่ตรงนี้ก็ได้” จื้อหลิงบอกหยาลู่
“รูปห่านด้วย”
เหม่ยเหวินร้องเพลง ยิ่วเชียนยืนฟังพอใจในความสามารถ จื้อหลิงเอารูปถ่ายให้ยิ่วเชียนดู ยิ่วเชียนส่ายหัว ในขณะที่อันซีโชว์ตุ๊กตาที่ระลึกที่เธอทำเอง
“ฉันทำเอง ฉันทำหนึ่งอาทิตย์ แล้วยังมีหัวเห็ด ปลาการ์ตูนตัวใหญ่ด้วย สวยมั้ยล่ะ”
“อื้ม”
“อ่ะนี่” หยาเอินยื่นตุ๊กตาที่ตัวเองทำ ให้ยิ่วเชียนดู
“เธอเป็นคนทำเหรอ”
“ใช่ ตั้งหนึ่งอาทิตย์แน่ะ”
อันซีงอนๆ ที่ยิ่วเชียนไม่ชมตุ๊กตาของเธอ ยิ่วเชียนขำๆ
ทุกคนมาดูหยาลู่วาดภาพ จื้อหลิงรินน้ำให้หยาลู่ หยาลู่ส่งให้อันซีดื่มก่อน ยิ่วเชียนไม่พอใจคว้าแก้วจากอันซีมาดื่มเองหน้าตาเฉย ไม่อยากให้อันซีดื่มของหยาลู่ เพราะหึง เหม่ยเหวินยิ้มๆ
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน หยาลู่ นายตั้งค่าเว็บไซต์ ฉันจะติดต่อช่างภาพ ฉันต้องการภาพถ่ายบางส่วนของทุกคนที่นี่ สิ่งสำคัญคือ ฉันต้องการเน้นลักษณะพิเศษของบ้านพัก” ยิ่วเชียนสรุป
“เย่ๆ ดีจังๆๆ” ทุกคนร้อง
“ได้ถ่ายรูปแล้ว” จื้อหลิงดีใจ
“เย่จือไห่” เสียงทุกคนจอแจ
ยิ่วเชียนเผลอมองท่าทางน่ารักของอันซี อันซีหันมาสบตาพอดี ยิ้มๆ ยิ่วเชียนจ้องตาอย่างเปิดเผย ทั้งสองต่างเขินๆ
อันซีเดินออกมาจากในบ้านอย่างหงุดหงิด เขินๆ ยิ่วเชียนตามมา
“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย”
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะจีบเธอ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่อยากมีความรัก ตอนนี้ก็เหมือนกัน คุณไม่จีบฉัน ได้ใช่มั้ย”
“ไม่ได้ ถ้าเธอเห็นฉันเป็นแค่ลูกค้า ฉันก็จะเป็นแค่ลูกค้าทั่วไป แต่ครั้งนี้ ฉันวางแผนช่วยเธอปรับปรุงบ้านพัก เธอยอมรับความช่วยเหลือของฉันแต่โดยดี ถ้าเธอยังปฏิเสธฉันล่ะก็ แสดงว่าเธอต้องการเอาเปรียบฉัน”
“นี่ คุณลูกค้า มีแบบนี้ด้วยเหรอ เหมือนคุณเลี้ยงข้าวหมูสับฉัน พอฉันกินหมดแล้ว คุณก็มาเก็บเงินฉันอีก อย่างงั้นเหรอ”
“ของฟรีไม่มีอยู่ในโลกหรอก คราวหน้าก่อนจะกิน ต้องใช้สมองคิดดูก่อน เพราะเหยื่อบางชนิด ไม่สามารถกัดได้”
“ได้ ฉันจะจัดโปรแกรมพิเศษที่สุดให้คุณ เช่น คุณต้องการล้างรถ ฉันจะล้างให้คุณฟรี”
ยิ่วเชียนส่ายหัว
“งั้นเอางี้ ฉันจะทำอาหารทะเลให้คุณกิน อาหารทะเลมื้อใหญ่ด้วยเอ้า”
ยิ่วเชียนส่ายหน้า
“ฉันไม่ต้องการ ถ้าเธอยังปฏิเสธฉันล่ะก็ งั้นเธอต้องจำเรื่องหนึ่งไว้ให้ขึ้นใจ”
“เรื่องอะไร”
“เธอเป็นหนี้บุญคุณฉัน ความรู้สึกนี้จะติดอยู่ในใจ ฝังลึกๆ ฝังลึกๆ จนลึกสุดใจของเธอ และสักวัน ฉันจะทวงมันกลับมา”
“ว้าว คุณนี่บ้ากามสมชื่อจริงๆ เฮอะ”
อันซีทำหน้ารับไม่ได้ ก่อนเดินหนีไป
ยิ่วเชียนยิ้มอารมณ์ดีที่ได้พูดจาใกล้ชิดกับอันซีเพียงลำพัง
อ่านต่อตอนที่ 13