แม่นาก ตอนที่ 4
แรงระเบิด ทำให้มากตกน้ำ จมดิ่ง หมดสติ และขณะที่กำลังจะสิ้นใจ เสียงกรีดรองของนากก็ดังเข้ามา "พี่มาก.....พี่มากจ๋า"
ในความคิดของมาก เห็นนากยืนอุ้มลูกอยู่ที่ท่าน้ำ ร้องไห้สะอื้น
"พี่รีบกลับมากหานากกับลูกนะจ๊ะพี่ พี่มาก"
ภาพนั้น ทำให้มากได้สติ สะดุ้งตื่น ทะลึ่งขึ้นเหนือน้ำ ร่างของมากไหลตามกระแสน้ำไป...
ฝ่ายจำปีวิ่งร้องไห้ออกมาจากในเรือนมาหยุดที่ชานเรือน มั่น และพวกตกใจ
มั่นถาม "จำปี!!! เอ็งจะร้องไห้ทำไม"
ทุ้ยถาม"ดีใจขนาดนั้นเชียวหรือ ผู้ชายหรือผู้หญิงกันเล่า"
จำปีร้องไห้สะอึกสะอื้น
"นากมันสิ้นใจแล้ว"
มั่นตะลึง ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น ทุกคนวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปบนเรือน
"ไม่จริง แม่นากต้องไม่ตายสิ"
มั่นตกใจ
บนเรือน ป้าเงินนั่งมองนากที่ตายตาค้าง ลำจวนจับมือนากไว้ร้องไห้โฮ ปริกน้ำตาไหลและเหงื่อท่วมตัว
"ไปสู่สุขคติเถอะนะ นากเอ๊ย"
ป้าเงินเอื้อมมือไปปิดตานาก แล้วนิ่งข่มอารมณ์ เอาชายผ้าแถบซับน้ำตา
ปริกหน้าเจื่อน
"ฉันก็พยายามสุดกำลังฉันแล้ว"
ป้าเงินเศร้า
"ช่างเถอะ นากมันทำบุญมาแค่นี้"
คนมันถึงที่ตาย ยังไงก็ต้องตาย" ป้าเงินดุจำปีกับลำจวน " เอ็งสองคนไปร้องห่างๆเลย อย่าให้น้ำตาตกโดนนังนากมัน ไม่อย่างนั้น มันจะเป็นห่วง ไปสิ"
ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วร้องไห้ดังขึ้นอีก ป้าเงินถอนหายใจ เมินหน้า กลั้นน้ำตาสุดขีด
มั่นวิ่งเข้ามาหยุดยืนมองน้ำตาไหล
"นาก!"
คนอื่นๆ ตามมั่น เข้าไปดู
ทุกคนเห็นนากลืมตาอยู่ ทุ้ยสะกิดเพื่อนทำท่าหวาดเสียว
"ทำไมไม่มีใครปิดตาให้แม่นากล่ะ อย่างนี้มันดูน่ากลัวนะพี่"
ทุกคนชะงักหันไปมอง ป้าเงินแปลกใจ
"อ้าว ข้าปิดไปแล้วนี่หว่า"
"นากมันคงมีห่วงอยู่นะพี่เงิน" ปริกว่า
ป้าเงินถอนหายใจ
"เอ็งอย่าห่วงอะไรอีกเลยนะนากเอ๊ย ไม่มีอะไรที่นี้ต้องให้เอ็งเป็นห่วงอีกแล้ว เอ็งกับลูกไปสู่สุขติเถอะนะนาก"
ป้าเงินเอามือลูบหน้านากเพื่อปิดตา ครั้งนี้ตาของนากปิดลงได้ จำปี ลำจวนยิ่งร้องไห้หนักขึ้น
"หักอกหักใจซะเถิดนังลำจวน นังจำปี ร้องให้น้ำตาเป็นสายเลือด นากมันก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก"
จำปีสะอึกสะอื้น ลำจวนเถียง
"แต่นากมันน่าสงสารนี่จ๊ะป้า มาตายตัวคนเดียวแบบนี้ ผัวก็อยู่ไกลไม่ทันได้เห็นใจ"
ป้าเงินปลง
"นากมันเลือกทางเดินของมันเอง หยุดเถียงข้าซะทีเถอะนังลำจวน ข้าเสียใจไม่น้อยกว่าเอ็งหรอก ... ไอ้มั่น เอ็งกับพวกช่วยไปตามสัปเหร่อมาที"
มั่นปาดน้ำตา
" จ๊ะป้าเงิน"
มั่นและพวกค่อยๆออกไป
"พวกเอ็งกลับไปเอาผ้านุ่งผืนก่อนที่นากมันใส่ไปงานวัดมหาบุศย์มาที วันนั้นข้าจำได้ มันนุ่งผ้าถุงผืนนั้นแล้วสวยจับใจ ข้าอยากให้นากมันสวยเหมือนกับวันนั้น ไปหามาที"
จำปีกับลำจวนปาดน้ำตา ขยับลุกขึ้นไปทำตามสั่ง
พอสองคนลับตา ป้าเงินค่อยๆหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ
เวลาเย็น ณ ป้าช้าท้ายวัด ใต้ต้นตะเคียนคู่ ทุ้ย โพล้ง เค้ง กำลังช่วยกันขุดหลุดเพื่อจะฝังนาก
สัปเหร่อเอาเฝือกไม้ไผ่มาห่อพันศพนากที่ถูกมัดตราสังข์ไว้ จำปีเอาผ้าสไบสีสวย ที่นากเคยใส่มาให้สัปเหร่อ
จำปีน้ำตาไหล
"สไบผืนนี้นากมันชอบนัก ฉันฝากลุงช่วยวางไว้ที่ข้างตัวนากมันด้วยนะจ๊ะ"
สัปเหร่อรับสไบจากจำปี แล้วหันไปสั่ง ทุ้ย โพล้ง เค้ง
"พวกเอ็งช่วยกันยกลงหลุมได้แล้ว"
ทุ้ย โพล้ง เค้ง และมั่น ช่วยกันยกศพนากลงหลุม ป้าเงิน จำปี ลำจวนร้องไห้อาลัยนาก
"ไปสู่สุขติเถอะนะนากเอ๊ย / นาก.....ฮือ"
ทุ้ย โพล้ง เค้ง และมั่นช่วยกันยกนากลงหลุด
ป้าเงิน จำปี ลำจวน ยืนกอดกันร้องไห้
หลวงตา และพระยืนสวดทำพิธีอยู่ที่หน้าหลุม
มั่น ทุ้ย โพล้ง เค้งเอาจอบช่วยกันกลบหลุม
ป้าเงินร้องไห้จนหมดสติ จำปี ลำจวนช่วยกันประคองป้าเงิน
ใต้ต้นไม้ใหญ่ เก่ง และหมึกแอบดูอยู่...
ชื่อนากถูกปักลงที่หน้าหลุม สัปเหร่อพูดกับทุกคน
"เกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา นากมันไปดีแล้วอย่าไปรบกวนเขาอีกเลย
ประเดี๋ยววิญญาณนากมันจะไม่สงบ"
ป้าเงินเศร้า
"ชีวิตคนเรานี่มันน่าขำนะ หัวหงอกต้องมาฝังหัวดำแบบนี้ นากเอ๊ยป้าจะใส่บาตรทำบุญไปให้นะลูกนะ"
เอ็งอยากได้อยากกินอะไรก็มาบอกป้านะนาก
" ป้า.... พูดอะไรอย่างนั้น นากมันตายไปแล้วถ้ามาบอกป้าก็เป็นผีนะสิ" ทุ้ยว่า
โพล้งตบหัวทุ้ย
"ป่าช้านะโว้ยไอ้ทุ้ย พูดถึงผีถึงสางเดี๋ยวก็ได้เจอดีหรอก"
โพล้งพูดจบอยู่ๆก็มีลมหมุนพัดมาวูบหนึ่ง ต้นตะเคียนคู่ลู่ลมเสียงหวิวๆ แล้วก็หายไป ทุกคนอึ้ง
"นากมันคงรับรู้ที่ป้าบอกมันแล้วล่ะ" ลำจวนบอก
"ไปดีเถอะนะแม่นาก" มั่นบอก
"จำปี ลำจวน เอ็งพาป้าเงินกับไปพักเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมพับไปอีก"
จำปี ลำจวนร้องไห้ประคองป้าไป
สัปเหร่อพูดกับมั่น
"ตรงนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วพวกเอ็งก็กลับไปเถอะไอ้มั่น"
"ขอบใจลุงมากนะจ๊ะที่ช่วยเป็นธุระให้"
"มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว"
มั่นและพวกยกมือไหว้สัปเหร่อแล้วเดินไป
สัปเหร่อยืนมองหลุมของนากแล้วแหงนมองขึ้นที่ต้นตะเคียน ถอนใจ
มือๆหนึ่งเอื้อมมาแตะไหล่ สัปเหร่อตกใจสะดุ้งเฮือก
สัปเหร่อหันหลังมาเจอมัคนายก แล้วถอนใจเฮือก
"เล่นอะไรแบบนี้ล่ะมัคนายก ฉันเกือบหัวใจวาย"
มัคนายกหัวเราะ
"อะไรว่ะเป็นสัปเหร่อดันกลัวผี"
"พูดแบบนี้หมายความว่ามัคนายกไม่กลัวผีใช่มั๊ย"
"กลัวสิว่ะ ใครจะไม่กลัว ยิ่งผีตายทั้งกลมแบบนังนากเนี้ย เค้าว่าเฮี้ยนกันนัก"
"ก็ใช่นะสิ นี่ฉันยังหวั่นๆใจอยู่"
"เอ็งหวั่นใจอะไรว่ะ"
"ก็พวกไอ้มั่นนะสิ ฉันบอกให้มันหาที่หลังป่าช้าฝังนังนาก มันดันเลือกที่ตรงนี้ ไอ้ฉันก็มัวแต่ยุ่งๆไม่ได้มากำชับมันให้ดี"
"แล้วทำไมว่ะที่ตรงนี้มันเป็นยังไง"
สัปเหร่อไม่พูดอะไรทำหน้าส่งสัญญาณให้มัคนายกมองที่ต้นตะเคียนคู่
"ต้นตะเคียนคู่ ฝังนังนากไว้ใต้ตะเคียนคู่รึ"
สัปเหร่อพยักหน้ามัคนายกอึ้ง
บนเรือนป้าเงินในบรรยากาศเงียบเหงาและวังเวงและมืดสลัวยามค่ำคืน เสียงร้องไห้ปนสะอื้นดังขึ้นแว่วๆเป็นระยะๆ
ประตูห้องป้าเงินแง้มเปิดออกช้าๆเสียงดังแอ๊ด..... ป้าเงิน ชะแง้มองซ้ายแลขวาเหมือนมองหาต้นเสียง คนร้องไห้ยังดังแว่วอยู่ไม่ขาด
"เสียงใครร้องไห้อยู่แถวนี้"
ป้าเงินเอาตะเกียงมือขึ้นส่องไปรอบๆ ชะงักเห็นที่มุมหนึ่ง ร่างหญิงสาวคนหนึ่งจากด้านหลังเป็นหญิงสาวผมยาวนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่
"นั่น....ใครน่ะ ใช่เอ็งรึเปล่านาก"
ป้าเงินจ้องไปที่มุมหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ และยังคงร้องไห้ไม่หยุด แล้วค่อยๆหันหลังมา
ป้าเงินเอามือทาบอก
หญิงสาวที่นั่งกอดเข่าร้องไห้หันมา ... จำปี
ป้าเงินทั้งตกใจ ทั้งโมโห
"โอ๊ย...นังจำปี!!นังบ้า!! เกือบทำข้าหัวใจวายแล้วมั๊ยล่ะนังนี่ ขวัญเอ๊ยขวัญมา"
ลำจวนรีบวิ่งออกมาจากห้อง
ลำจวนตกใจ
"มีอะไรจ๊ะป้า เสียงดังจนฉันตกใจหมดเลย"
"ก็นังจำปีนะสิ ทำข้าตกใจ"
จำปีร้องไห้ฮือ
"ก็ฉันคิดถึงนากมันนี่ป้า ชีวิตนากมันอาภัพนัก"
ป้าเงินถอนใจเศร้า
ป้าเงินหน้าเศร้านั่งคุยอยู่กับจำปี ลำจวน
"นี่ถ้าข้าไม่ใจอ่อนยอมยกนากมันให้ไอ้มาก นากมันคงไม่ตาย"
ป้าเงินพูดจบก็ร้องไห้ตาม
"อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิป้า คิดในแง่ดี นากมันยังโชคดีนักที่ได้ครองรักกับพี่มากก่อนตาย... จำปี เอ็งเลิกร้องไห้ได้แล้วยิ่งเอ็งร้องป้าเงินก็จะยิ่งคิดถึงนากมัน"
"ก็เพราะอย่างนี้ไงเล่า ฉันถึงออกมานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวไม่อยากให้ป้าเงินเห็น"
"เอ็งร้องไห้เงียบเสียเมื่อไหร่"
ร้องระงมไปทั้งบ้านจนข้าตกอกตกใจคิดว่านังนากมันมาลาข้าเสียอีก"
จำปี ลำจวนเข้ามายืนเบียดป้าเงิน
"เอ็งจะมาเบียดข้าทำไม ไป...ไปนอนพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้ามาใส่บาตรให้นากมัน"
ป้าเงินจะเดินไป
"คืนนี้ขอฉันนอนกับป้าด้วยคนนะ"
"ฉันด้วยคนจ๊ะ"
ป้าเงินเดินเข้าห้องไป ลำจวน จำปีรีบเข้าห้องแล้วปิดประตูทันที
อ่านต่อหน้า 2
แม่นาก ตอนที่ 4 (ต่อ)
หัวสะพานในเวลาเช้า ป้าเงิน จำปี ลำจวน มารอใส่บาตรพระ เรือของหลวงพ่อล่องมาที่หัวสะพาน
ป้าเงินหน้าเศร้า
"นิมนต์เจ้าค่ะหลวงพ่อ"
เรือของหลวงหยุดที่หัวสะพาน ลำจวน จำปี ส่งข้าวของให้ป้าเงินๆใส่ข้าวปลาอาหารลงในบาตร
" ใส่บาตรอุทิศให้นากรึโยมเงิน"
"เจ้าค่ะ หลวงพ่อ"
"ดีแล้วล่ะ หมั่นทำบุญทำกุศลจะได้ช่วยลดแรงกรรมนะโยม"
ป้าเงินยกมือขึ้นไหว้
มั่นวิ่งกระหืบกระหอบมาที่หัวสะพาน
"นิมนต์ขอรับหลวงพ่อ"
ลำจวน จำปี ป้าเงินหันไปมองมั่น
มั่นยกถาดอาหารขึ้นอธิษฐานแล้วใส่อาหารลงในบาตร หลวงพ่อรับบาตรเสร็จแล้วเด็กวัดก็พายเรือออกไป
มั่นเดินเข้ามาไหว้ป้าเงิน จำปี ลำจวนยืนยิ้ม
จำปีถาม " มาใส่บาตรให้นากเหมือนกันเหรอจ๊ะ"
"ฉันมาใส่บาตรให้นากแทนไอ้มากน่ะ"
"นากมันคงดีใจนะที่เอ็งยังมาใส่บาตรให้" ลำจวนบอก
"ถ้าเป็นไอ้มาก นากมันคงดีใจกว่านี้"
"ไอ้มากมันจะรู้บ้างไหมว่านังนากเมียมัน..." ป้าเงินชะงักแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด "กลับกันเถอะนังจำปี นังลำจวน ข้าจะไปกรวดน้ำที่บ้าน"
ลำจวน จำปีพาป้าเงินไป จำปีหันมาหามั่น
"อย่าลืมกรวดน้ำด้วยล่ะ"
มั่นยืนพยักหน้า
ต่อมา ป้าเงินนั่งคู้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในมือป้าเงินถือขันเงินใส่น้ำ
ป้าเงินยกขันเงินใส่น้ำขึ้นเหนือหัว อธิษฐาน แล้วค่อยๆเทลงบนใบไม้ให้ลงไปที่ดินโคนต้นไม้ใหญ่
"ป้าอุทิศผลบุญผลกุศลให้เอ็งแล้วนะนากเอ๊ย"
ใต้ต้นตะเคียนคู่ที่ป่าช้า วิญญาณของนากยืนอุ้มลูกอยู่ที่ใต้ต้นตะเคียนคู่ ดูซีดเซียวและหมองเศร้า ผลบุญผลกุศลของป้าเงินที่อุทิศให้ บังเกิดเป็นแสงระยิบระยับจากบนอากาศลงมาที่วิญญาณของนาก นากค่อยๆเงยหน้ายิ้มเศร้ารับแสงสีทองประกายเพชรที่ตกลงมา จากวิญญาณที่ไม่เด่นชัด เริ่มกระจ่างขึ้นเล็กน้อย ...
วิญญาณของนากรับรู้ถึงผลบุญผลกุศลที่ป้าเงินอุทิศให้ ยิ้มเศร้า นากค่อยๆย่อตัวลงกราบป้าเงิน พูดเสียงเย็น
"นากจะไม่ลืมพระคุณของป้าเงินเลยจ๊ะ"
ครู่หนึ่งก็มีแสงสีเงินระยิบระยับโปรยลงมาที่นากอีกครั้ง นากยิ้มเศร้า
"ขอบใจนะจ๊ะพี่มั่น ที่อุทิศส่วนกุศลให้ชั้น"
เช้าเดียวกัน ที่ตลาด... ปริกเดินเอามือปิดหน้าหลบผู้คน ปริกเดินผ่านแม่ค้าขายปลาตากแห้ง
"มานี่ ๆ"
ปริก สะดุ้ง ยิ้มแหย
"อะไร"
แม่ค้าถาม
"จริงหรือเปล่าที่เค้าว่าแกทำคลอดนังนากจนมันตายน่ะ"
ปริกตั้งท่าจะพูดก็มีเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
"ไหนว่าเก่งนักเก่งหนาไงล่ะยัยปริก ทำไมนังนากมันถึงตายล่ะ"
ทิพย์ แม่ลูกดก อุ้มลูกกระเตงเข้าเอวมา1คน จูงมาอีก2คน เดินเข้ามาหาปริก
"ว่าไงล่ะยัยปริกตอบมาสิ"
ปริกฉุน
" ใครมันจะไปเหมือนเอ็งล่ะนังทิพย์ ออกลูกหัวปีท้ายปี ฉีกผ้าอ้อมกันไม่ทันเชียว อย่างเอ็งมันก็คลอดง่ายสิ อย่างนังนากมันท้องสาวแถมยังไม่ครบเก้าเดือนอีก"
"อ้าวไม่ครบเก้าเดือนแล้วมันเจ็บท้องจะคลอดแล้วรึ"
"ก็ใช่นะสิ ข้าเองก็ยังงงอยู่เลย ตอนที่ไอ้มั่นมาตามข้านังนากมันก็ตกเลือดมาแล้ว"
"อ้าวแล้วนากมันตกเลือดได้ยังไงล่ะ" ทิพย์ถาม
"ข้าก็ไม่รู้ มันตกบันไดหรือหกล้มอะไรสักอย่างล่ะมั้ง ข้าว่ามันคงแท้งก่อนที่ข้าจะไปถึงแล้วด้วยซ้ำ"
อีกมุมหนึ่ง จำปี ลำจวนมาซื้อของที่ตลาดได้ยินพอดี มองหน้ากัน
ต่อมา จำปี ลำจวนเดินขึ้นเรือนมาเจอกับป้าเงิน
"กลับกันมาแล้วเหรอ ได้อะไรมาบ้างล่ะ"
"ก็ได้ตามที่ป้าสั่งนั้นแหละจ๊ะ" ลำจวนบอก
"วันนี้ที่ตลาดมีแต่คนพูดถึงเรื่องนาก" จำปีบอก
ป้าเงินชะงักนิ่ง แล้วทำเป็นไม่สนใจ ลำจวนทนไม่ไหวรีบรายงาน
"บางก็ว่าน่าเห็นใจนาก บางก็ว่ากลัวนากมัน เค้าว่าตายทั้งกลมมันจะเฮี้ยน"
"ก็พวกปากหอยปากปู อย่าไปฟังเลย ฟังแล้วก็ไม่สบายใจเปล่าๆ"
"แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งนะป้าเงิน ฉันได้ยินป้าปริกพูดกับนังทิพย์ว่านากมันอุ้มท้องไม่ครบเก้าเดือน แล้วฉันก็มานับๆดูนากมันก็ท้องแค่เจ็ดเดือนจริงๆด้วยนะป้า ป้า ปริกแกว่านากมันแท้งตั้งแต่ป้าปริกยังไม่ไปถึง"
ลำจวนนึกได้
"จริงสิวันที่นากมันจะคลอด ไอ้มั่นมันก็บอกกับฉันว่านากหกล้มที่หน้าเรือน แล้วนากมันก็เจ็บท้องไอ้มั่นเลยไปตามป้าปริก"
"จะ7 เดือน 9 เดือน มันก็ตายไปแล้ว เรียกคืนมาได้หรือ"
ลำจวนกับจำปีตกใจ ป้าเงินอารมณ์ขึ้น สองคนถอยไปยืนเกาะกัน ป้าเงินพยายามสงบ
"เพราะไอ้มากทีเดียวเชียว นากมันถึงได้ตาย"
สองคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
"อ้าวป้าทำไมไปโทษทิดมากล่ะ"
"ก็ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้มากมันต้องไปเป็นทหาร นังนากมันจะตายมั๊ยล่ะ ถ้ามันอยู่ดูแลนังนาก นากมันคงไม่แท้งลูก นากมันก็คงไม่ตาย" ป้าเงินร้องไห้ "ข้าล่ะเจ็บใจจริงๆ พวกเอ็งก็เหมือนกันเข้าข้างไอ้มากมันดีนักเห็นดีเห็นงามกันไปหมด"
"อ้าวป้าทำไมโทษกันอย่างนี้ล่ะ พวกฉันก็เสียใจที่เรื่องมาเป็นแบบนี้" ลำจวนบอก
"ไม่รู้ล่ะ ข้าไม่อยากพูดกับพวกเอ็งแล้ว"
ป้าเงินหงุดหงิดเดินหนีไป จำปี ลำจวนคอตก
เช้าเดียวกัน ที่เรือนขุนเพชร พิมยืนเคาะประตูเรียกพี่ชายอยู่ที่หน้าห้อง
"พี่เพลิง"
เสียงเพลิงตะโกนตอบออกมาจากในห้อง
"ไสหัวไปให้พ้น อย่ามากวนใจข้า"
พิมยังคงเคาะประตูเรียก
"พี่เพลิง!!แม่ให้ฉันมาตามไปกินข้าว"
เพลิงโมโหเปิดประตูออกมา ตวาด
"เอ็งรีบไส่หัวไปเลยนะนังพิม ขืนเอ็งยังกวนใจข้าอยู่อีก ข้าเตะเอ็งตกเรือนแน่"
พิมโวยวายใส่
"เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ ไอ้พี่เพลิงหาเรื่องฉันแต่เช้าเลยนะ นี่ถ้าแม่ไม่ให้ฉันมาตามพี่ จ้างให้ฉันก็ไม่มาเรียกให้เสียปากฉันหรอก"
"เอ็งพูดจบรึยัง"
"ยัง!! แม่สั่งให้ฉันมาตามพี่ไปกินข้าว"
เพลิงเสียงดัง "เออ!! ข้ารู้แล้ว"
พิมค้อนตาใส่แล้วหันหลังจะเดินไป หมึก กับเก่งก็รีบเข้ามาหาเพลิง พิมชะงักหันไปมองหมึกกับเก่ง
"ว่าไงว่ะไอ้หมึกไอ้เก่ง"
หมึก และเก่งรีบพาเพลิงเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู
พิมรู้สึกสงสัย เลยแอบฟังอยู่หน้าห้อง
ในห้อง เพลิงนั่งคุยกันอยู่กับหมึกและเก่ง
"นากนางฟ้าของพี่เพลิงมันตายแล้วนะ" หมึกบอก
เพลิงผงะ ตกใจ เพลิงเอามือกุมขมับ
"ฉันเห็นเค้ายกมันลงหลุมกับตา" เก่งบอก
"แย่แล้วมั๊ยล่ะ มันตายได้ยังไงว่ะ"
"มันคงตายเพราะแท้งลูกน่ะพี่" เกงบอก
"คงแท้งตอนที่เราฉุดมันน่ะพี่เพลิง"
เพลิงโมโห
"เป็นเพราะมันเอ็งทีเดียวที่ทำรุนแรงนังนากมันถึงได้ตาย"
"พวกฉันก็ทำตามที่พี่สั่งนั้นแหละ" เก่งบอก
เพลิงโมโหลูกน้อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หงุดหงิด
"แล้วมีใครสงสัยข้ารึเปล่า"
"ไม่มีหรอกพี่ นังนากมันคลอดลูกตายเองไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย" หมึกบอก
"โธ่นากเอ๊ย....เอ็งไม่น่าเลย นี่ถ้าเอ็งยอมข้าตั้งแต่แรกเอ็งคงไม่ตาย"
"ไม่รู้ว่านังนากมันจะแค้นเรารึเปล่านะพี่ เค้าว่าผีตายทั้งกลมมันเฮี้ยนนะพี่" เก่งว่า
"จะพูดทำไมวะ กูยิ่งกลัวอยู่"
"ไม่ต้องกลัวหรอกพี่ ฉันมีวิธี"
หมึกกระซิบข้างหูเพลิง เพลิงยิ้มมีแผน
พิมเดินมาอย่างรีบร้อนเจอกับบ่าวในเรือน
" เอ็งไปบอกคนเรือให้ช่วยเตรียมเรือให้ข้าที"
"คุณพิมจะไปไหนหรือเจ้าค่ะ"
"ข้าจะไปที่พระโขนง"
"ไปทำอะไรหรือเจ้าค่ะ"
"เอ็งไม่ต้องมาถามมาก ฉันสั่งให้ไปทำอะไรก็ไปทำ เร็วเข้า"
"เจ้าค่ะๆ"
บ่าวรีบวิ่งลงเรือนไป พิมมองตามอย่างร้อนใจ
ภายในวัดมหาบุศย์ พิมเดินมากับคนรับใช้
"คุณพิมมาที่พระโขนงทำไมกันเจ้าคะ ที่หัวตะเข้ก็มีวัดให้ทำบุญเยอะแยะไป"
"เอ็งไม่ต้องถามมาก เดินตามฉันมาเถอะ"
พิมเห็นมัคนายกกับสัปเหร่อ พิมคิดๆแล้วรีบกระซิบบ่าวรับใช้ บ่าวพยักหน้าแล้วเดินไปหามัคนายกกับสัปเหร่อ
พิมแอบซุ่มอยู่ที่ใต้ต้นไม้คอยมองดูคนรับใช้ที่เข้าไปคุย
ครู่หนึ่ง บ่าวเดินอย่างเร็วกลับมา พิมดึงคนรับใช้เข้ามาถาม
"ว่ายังไงได้เรื่องมั๊ย"
คนรับใช้พยักหน้า
"รีบเล่ามาเร็ว"
"สองคนนั้นเค้าบอกว่าแม่นากตายไปแล้วฝังอยู่ที่ป่าช้าหลังวัดนี่เองเจ้าคะ คุณพิม"
พิมตกใจเอามือทาบอก
"เอ็งถามเค้าหรือเปล่าว่าแม่นากตายได้ยังไง"
"ถามเจ้าค่ะ เค้าบอกว่าแม่นากคลอดลูกตายเจ้าค่ะ ตายทั้งที่ลูกยังอยู่ในท้องเลยนะเจ้าคะ"
พิมอึ้งไม่พูดอะไร หันหน้าไปอีทาง เห็นมั่นถือดอกไม้และข้าวของในมือ
พิมบอกคนรับใช้
"เอ็งไปรอที่เรือ อีกเดี๋ยวข้าตามไป"
คนรับใช้พยักหน้าแล้วเดินออกไป พิมชะเง้อคอมองดู แอบตามมั่นไปห่างๆ
อ่านต่อหน้า 3
แม่นาก ตอนที่ 4 (ต่อ)
หน้าหลุมศพของนาก มั่นปักธูปและวางดอกไม้ไว้ที่หน้าหลุมของนาก พิมแอบดูอยู่ที่มุมหนึ่งเผลอเหยียบใบไม้เสียงดัง มั่นหันมามองเจอพิม
" เอ็งมาทำอะไรที่นี่"
"ข้าก็มาทำบุญนะสิถามได้"
"เอ็งมาทำบุญที่ป่าช้านี่รึ"
พิมนึกได้ อึกอัก
"ข้าทำบุญเสร็จข้าก็เดินมาเรื่อยเปื่อย พอดีข้าเห็นเอ็งข้าก็เลยตามมาดู แหม....
นี่ถ้าไม่รู้ข้าต้องนึกว่าเอ็งมาเส้นไหว้เมียเอ็งเป็นแน่ ดูอาลัยอาวรณ์จริงนะ"
"ปากแม่นี่เน่าหนอนไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ขนาดคนตายไปแล้วเอ็งยังจะเอามาพูดถึงอีก"
พิมโมโหแต่พยายามระงับ
"ข้ามาเซ่นไหว้นากแทนไอ้มาก นากมันน่าสงสารนัก เพิ่งได้อยู่กินกับพี่ข้าไม่นานก็ต้องมาตายจากกันหน้าลูกก็ยังไม่เห็น เอ็งว่าน่าเศร้ามั๊ยล่ะ"
พิมรู้สึกผิด
"ฉันขอโทษ"
มั่นชะงักหันไปมองหน้าพิม
"ขอโทษเรื่องอะไร"
พิมอึกอัก ไม่กล้าพูดความจริง
"ฉันขอโทษที่ฉันพูดถึงแม่นากไม่ดีไง ฉันเองก็นึกสงสารแม่นากอยู่เหมือนกัน"
มั่นยิ้มๆ "นี่เอ็งรู้จักสงสารคนอื่นเค้าเป็นเหมือนกันด้วยรึ"
"ฉันก็คนนะมีหัวจิตหัวใจ ใจฉันไม่ได้ดำเหมือนเอ็งหรอก พ่อมั่น"
มั่นชะงัก ที่พิมพูดดีขึ้น พิมมองหน้ามั่นแล้วเมิน
"ไปละ"
พิมเดินออกไป มั่นมองตามแปลกใจ
"เห็นใจคนอื่นก็เป็นด้วยหรือนี่ แม่พิม"
พิมรีบเดินจ้ำมาที่เรือ ชะงักหันกลับไปมองที่วัด
" แม่นากตายจริงๆด้วย เฮ้อ เวรกรรมจริง พี่เพลิงเอ๊ย"
"คุณหนูพูดอะไรขอรับ"
พิมชะงัก หันไปงงๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง
"กลับกันเถอะ ประเดี๋ยวจะร้อนแดด"
คนรับใช้ช่วยจับมือ พิมก้าวขึ้นเรือ เรือเริ่มพายออกจากท่า
พิมนิ่งใช้ความคิด คนรับใช้ถาม
" ออกมานานอย่างนี้ถ้าคุณพวงจันทร์ถามบ่าว จะให้บ่าวตอบว่าไปไหนกันมาเจ้าค่ะ"
"เอ็งก็บอกว่าข้าให้เอ็งมาไหว้พระที่วัดเป็นเพื่อนก็แล้วกัน"
" จะดีหรือเจ้าค่ะ ถ้าคุณพวงจันทร์รู้ว่าบ่าวโกหกมีหวังหลังลาย"
"ข้าไม่ได้ให้เอ็งโกหกสักหน่อย เราก็มาวัดกันจริงๆแล้วเมื่อครู่ข้าก็ไหว้พระแล้ว"
"จริงด้วยเจ้าค่ะ"
พิมนิ่งใช้ความคิด
เด็กวัดยืนมุงกันเต็ม มากนอนไม่ได้สติอยู่ที่ในศาลาวัดแห่งหนึ่ง เหล่าเด็กวัดช่วยกันปฐมพยาบาลให้ มากมีบาดแผลเต็มตัว
เณรยืนมองอย่างสงบ
"ทำไงดีขอรับเณร กระผมช่วยขึ้นมาจากกอสวะที่ลอยมาติดท่าน้ำขอรับ"
"พยุงขึ้นไปไว้บนกุฏิก่อน"
"ขอรับ เณร"
เด็กวัดช่วยกันประคองมากขึ้นไป เณรมองตามอย่างสงบ
ที่เรือนหลวงณรงค์วันเดียวกัน พ่อใหญ่ถึกนั่งคุยอยู่กับหลวงณรงค์
"มีอะไรกับฉันหรือ พ่อใหญ่ถึก"
"กระผมจะมาหาไอ้มากน่ะขอรับ จะมาส่งข่าวเรื่องทางบ้านของมัน"
หลวงณรงค์นึกๆ
"ไอ้มาก อ๋อไอ้มากที่เป็นทหารเกณฑ์ใช่มั๊ย"
"ขอรับคุณหลวง กระผมจะมาส่งข่าวว่าเมียมันคลอดลูกตายขอรับ"
"น่าเวทนาไอ้มากมันนัก เมียมาตายตอนที่มันออกรบ"
"แล้วนี่กระผมจะส่งข่าวให้ไอ้มากมันได้อย่างไรขอรับ"
"ไว้ฉันจะให้คนส่งข่าวไปบอกมันก็แล้วกัน"
มุมหนึ่งของห้อง ชมนาดยืนฟังอยู่
ต่อมา ชมนาดเดินเข้ามาหาหลวงณรงค์ พร้อมยกน้ำชามาให้
"เมื่อสักครู่คุณพ่อมีแขกหรือคะ"
"ก็ไม่ใช่แขกที่ไหนหรอก พ่อใหญ่ถึกที่ทุ่งพระโขนงน่ะ"
ชมนาดอยากรู้
"พ่อใหญ่ถึกมาพบคุณพ่อด้วยเรื่องอะไรหรือค่ะ"
"ก็เรื่อง" ครั้นมองหน้าชมนาดนึกรู้ทัน "ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องชาวบ้านน่ะ"
"ลูกได้ยินพ่อใหญ่ถึกพูดถึงคนชื่อมาก ใช่นายมากที่เคยช่วยงานที่เรือนเราหรือเปล่าค่ะคุณพ่อ"
หลวงณรงค์มองไม่พอใจ
"ใช่แล้ว ลูกติดใจอะไรหรือชมนาด"
ชมนาดทำไม่สนใจ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณพ่อ ลูกแค่นึกสงสัยเท่านั้น ... รับน้ำชากับจันอับดีกว่าค่ะ"
ชมนาดเปลี่ยนเรื่องทันที หลวงณรงค์มองสังเกต แต่ชมนาดทำไม่รู้ไม่ชี้
หมึกกับเก่งเดินมาหยุดที่หน้ากระต๊อบเล็กหลังหนึ่ง เก่งหยุดมองที่กระต๊อบ
"นี่ที่เหรอวะไอ้หมึก"
"ที่นี่แหละ"
เก่งมองรอบๆ ดูไม่เหมือนสำนักเรืองวิชาอาคม ดูเหมือนบ้านรกๆมากกว่า
"ทำไมมันดูซอมซ่ออย่างนี้วะ เอ็งแน่ใจนะว่าไอ้หมอคงคนนี้มันมีวิชาดี"
"แน่ใจสิวะ ชาวบ้านแถวนี้เค้านับถือหมอคงคนนี้ทั้งนั้นแหละเอ็ง"
"เออไหนๆก็มาถึงแล้ว วิชาดีหรือไม่ดีเดี๋ยวก็ได้รู้กัน"
หมึก และเก่งเดินเข้าไป
แท่นบูชาเล็กๆมีหัวกะโหลกและมีตุ๊กตาดินปั้นตั้งบูชาอยู่ หมอคงนั่งอยู่ที่หน้าแท่นบูชา
เก่ง หมึก นั่งมองไปรอบๆรู้สึกกลัว
"พ่อหมอ ข้ามีเรื่อง"
หมอคงยกมือห้ามไม่ให้พูด หมึกชะงัก หมอคงป้องหู เหมือนฟังเสียงกระซิบ
"อะไรนะ เออๆ ข้ารู้แล้ว นังโหงพรายเอ็งไปเฝ้าบ้านให้ดี ... เอ้า ว่าต่อไป เอ็งมีเรื่องอะไร"
หมึก และเก่งมองหน้ากัน เก่งพยักหน้าให้หมึกพูด
"ฉันจะให้พ่อหมอช่วยไปสะกดวิญญาณคนตายสักหน่อยจ๊ะ"
หมอคงหัวเราะ
"เรื่องแค่นี้เองเหรอวะ ผีอะไรของเอ็ง ถึงได้ทำท่าวิตกขนาดนั้น"
"ผีตายทั้งกลมจ๊ะ"
หมองชะงักหันมามองหน้าหมึกแล้วยิ้ม
"ตายทั้งกลมหรือ ดีๆ ข้าชอบ" หมอคงยิ้มเจ้าเล่ห์ "แบบนี้ก็ดีสิวะข้าจะได้เอาลูกมันมาทำลูกกรอก แล้วก็จะเอาน้ำมันพรายจากมันด้วย"
หมึก เก่งมองหน้ากันยิ้ม
ต่อมา หมึก เก่งนั่งคุยอยู่กับเพลิงอยู่ในห้อง
"เป็นยังไงได้เรื่องมั๊ยไอ้หมึก ไอ้เก่ง"
หมึกบอก
"ไม่ต้องห่วงพี่เพลิง พ่อหมอรับปากแล้วว่าจะจัดการให้"
"ว่าแต่ไอ้หมอคงที่เอ็งว่าวิชาอาคมมันขลังรึเปล่าวั"
"โอ๊ยพี่เพลิงไว้ใจได้ หมอคงคนนี้เก่งที่สุดแล้ว ไม่เชื่อถามไอ้เก่งมันดูได้เลย"
"จริงพี่ นี่แค่พ่อหมอเห็นฉันกับไอ้หมึก พ่อหมอทักขึ้นเลยว่ามีเรื่องมาให้ช่วย พี่คิดดูสิ ถ้าไม่มีวิชาจริงจะรู้ได้อย่างไร"
"ขนาดนั้นเลยหรือวะ"
"พ่อหมอเลี้ยงโหงพรายไว้ด้วยนะพี่ มิน่าถึงได้รู้ล่วงหน้าว่าฉันสองคนจะไปขอความช่วยเหลือ"
"นี่พ่อหมอยังบอกอีกนะพี่ ว่าจะเอาน้ำมันพรายกับลูกกรอกของนังนากมัน"
ทันใด ... พิมผลักประตูเข้ามาอย่างแรง
ทุกคนตะลึง
ยืนชี้หน้าด่าเพลิงและพวก
"พวกพี่มันชั่วจริงๆ ทำให้นังนากมันตายแล้วยังจะไปรังควานวิญญาณเค้าอีก"
หมึก เก่งก้มหน้าหดหัวไม่กล้ามองพิม
"ใครบอกว่าข้าทำให้นากมันตาย มันตายของมันเองต่างหาก พวกข้าไม่เกี่ยวสักหน่อย"
"ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันได้ยินกับหูว่าพี่กับไอ้สองตัวนี้เป็นต้นเหตุให้แม่นากตาย"
เพลิงโมโห
"เออข้าทำ แล้วจะทำไม เอ็งไม่ต้องมาสาระแนเรื่องของข้า เอ็งไม่ใช่แม่ เอ็งไม่ต้องมาสั่งสอนข้า"
"เออฉันไม่ใช่แม่ แต่ฉันก็ไม่อยากให้พี่ไปทำชั่ว"
"หุบปากไปเลยนังพิม ขืนเอ็งพูดอีก ข้าจะ ข้าจะ..."
เพลิงเงื้อมือ แต่ไม่กล้าตบ พิมจ้องหน้า
"ถ้าพี่กล้าก็ทำสิ เอาเลย"
เพลิงไม่กล้า เปลี่ยนเป็นผลักพิมเซไป
"อย่ามายุ่งเรื่องของข้า"
เพลิงโมโหเดินไป หมึก เก่งรีบเดินตามไป พิมด่าไล่หลังไป
" หืม...ไอ้คนใจร้าย คนตายแล้วก็ยังไม่ละไม่เว้น คอยดูเถอะผีจะหักคอพวกเอ็ง"
พิมตะโกนด่าตามหงุดหงิด
ที่ป่าช้าเวลากลางคืน หมอคงเดินนำหน้าเก่ง หมึก และเพลิง ทั้งสามท่าทางกลัวเดินเกาะชายเสื้อหมอคงไว้ตลอด
"พวกเอ็งจะกลัวทำไมวะ มากับข้า หมอคงไม่ต้องกลัว"
"แหม เรื่องกลัวผีนี่มันอยู่ในสายเลือดน่ะพ่อหมอคง" หมึกว่า
"จะกลัวทำไมวะแค่ผี เอ็งดูข้านี่ ข้าไม่เห็นจะกลัวเลย"
หมอคงหันกลับมาใส่พระเต็มคอไปหมด
"พ่อหมอแน่ใจนะว่าไม่กลัว" เพลิงถาม
"เออสิวะ"
"ทำไมพ่อหมอใส่พระเต็มคออย่างนั้นล่ะ" เก่งถาม
หมึกพูดต่อ "ขาดแค่ตะกรุดกับผ้ายันต์นะพ่อหมอ"
หมอคงเปิดเสื้อขึ้นมาในเสื้อเป็นเสื้อยันต์และมีตะกรุดห้อยเต็มไปหมด
"ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องกลัวผีๆมันต้องกลัวข้า"
หมอคงหัวเราะ อยู่ๆก็มีเสียงหมาหอนดังขึ้น ทั้งหมดชะงักตัวแข็ง
"ทำไมมันต้องมาหอนกันตอนนี้ด้วยวะ" เพลิงบอก
"เค้าว่าหมามันหอนเพราะมันเห็นผีนะพี่เพลิง" เก่งว่า
หมึกตบหัวเก่ง
"อย่าพูดสิวะ คนยิ่งกลัวๆอยู่"
"มีข้าอยู่พวกเอ็งไม่ต้องกลัวหมอคงซะอย่าง"
หมอคงมองไปรอบๆ
อ่านต่อหน้า 4
แม่นาก ตอนที่ 4 (ต่อ)
เวลาเดียวกัน มัคนายกอยู่กับสัปเหร่อภายในโบสถ์ ลมพัดมาอย่างแรง ต้นไม้ด้านนอกลู่ลมเสียงหวีดหวิวระงมไปทั่ว
"นี่มันลมอะไรกันวะ" มัคนายกบอก
"ไม่มีวี่แววจะมีฝนอยู่ๆลมก็พัดมายังกับพายุ"
"ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ"
"ไม่มีอะไรหรอก ฟ้าฝนเอาแน่นอนอะไรไม่ได้หรอก"
ครู่หนึ่งก็มีเสียงหมาหอนดังขึ้น
"แล้วแบบนี้เอ็งว่ามันมีอะไรมั๊ยว่ะ" มัคนายกว่า
"ดูท่าคืนนี้มันจะไม่ปกติซะแล้วนะ"
มัคนายกมองหน้ากันกับสัปเหร่อ
ที่วัดอีกแห่งหนึ่ง ในกุฎิของเณร มากนอนรักษาตัวอยู่ เณรเอายามาป้อนมาก มากกินยาแล้วกระอักเลือดออกมาแล้วหมดสติไป
ภาพในฝัน มากเดินอยู่ในที่มืด ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ ครู่หนึ่งมากก็เห็นเงาจางๆ เป็นเงาผู้หญิงยืนอุ้มลูกร้องไห้ หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองมาก
"พี่มาก"
มากตกใจ รีบเข้าไปหา แต่นากอุ้มลูกหายไป เสียงร้องไห้ดังชัดกว่าเดิม
"นาก.....ใช่นากหรือเปล่า"
มากนอนเหงื่อไหลท่วมตัว นอนเพ้อเรียกนาก “นาก.....นาก.....รอพี่ด้วย”
เณรเห็นท่าไม่ดี จึงเอาสายสิญจน์มาคล้องคอให้มาก เณรเอาขันน้ำมนต์มาให้มากกิน
เณรหลับตาสวดมนต์ ครู่หนึ่งมากก็สงบลง
ท้องฟ้ามืดมิด ลมพัดแรง มีสายฟ้าฟาดสว่างเป็นเส้นแยก เสียงฟ้าร้อง กึกก้องไปทั่วทุ่งพระโขนง
ป้าเงินกำลังสวดมนต์อยู่ในเรือน จำปี ลำจวนนั่งอยู่ในห้องกับป้าเงิน
ลมพัดแรง กระโชกหน้าต่างเรือนที่เปิดไว้ ปิดเข้ามาอย่างแรงดังปังไล่กันแทบทุกบาน
จำปี ลำจวนนั่งสวดมนต์อยู่ด้านหลังป้าเงิน พอหน้าต่างปิดปัง สองสาวสะดุ้งด้วยความตกใจทั้งคู่โดดกอดกันกลม
ป้าเงิน ลืมตาขึ้น ป้าเงินหันไปหาจำปี และลำจวน
"เอ็งสองคนมัวแต่นั่งทำอะไรกัน ลมแรงอย่างนี้ทำไมไม่ไปปิดหน้าต่าง"
"ก็ฉันกลัวนี่ป้า" จำปีบอก
"วันนี้ลมแรงพิกล"
"เอ็งสองคนที่ท่าจะบ้ากันไปใหญ่ กลัวอะไรไม่เข้าเรื่องกะอีแค่ลมพัด"
ป้าเงินหันมองออกไปที่หน้าต่าง
ท้องฟ้านอกหน้าต่าง เมฆครึ้ม เหมือนจะมีพายุใหญ่
ต้นตะเคียนคู่สั่นไหวเพราะแรงลม หมอคง เก่ง หมึก ช่วยกันขุดที่หลุมของนากทั้งที่ฝนตก
จอบของหมอคงขุดไปกระทบอะไรบางอย่าง
หมอคงสั่งทุกคน
"หยูด!"
หมอคงหยุดขุดแล้วโยนจอบทิ้งไว้ข้างๆ ยกมือขึ้นพนมแล้วสวดคาถาเป่าไปที่หลุม
หมอคงเอามือโกยดินออกจนเจอเฝือกที่ห่อศพไว้
หมึก เก่ง เพลิง มองที่หลุมแล้วรู้สึกกลัว
เพลิงถึงกับติดอ่าง "เจออออศพ แล้วววววว เหรอพ่อหมอ"
หมอคงยิ้ม
"เออเจอแล้ว พวกเอ็งไม่ต้องกลัวไปหรอก ข้าน่ะปราบผีมาเยอะแล้ว"
หมึกติดอ่างเหมือนกัน "จะๆๆๆๆๆทำอะๆๆๆๆไรก็รีบๆๆๆๆทำเถอะจ๊ะ พวกๆๆๆๆๆฉันกลัว"
"รีบไม่ได้โว๊ย ข้าต้องทำพิธีอีกเยอะ พวกเอ็งช่วยข้าตัดเฝือกที่ห่อศพออกเร็วเข้า"
เก่งติดอ่างบอก "ฉันๆๆๆไม่ๆๆๆๆกล้าๆๆๆๆหรอกจ๊ะ"
"ไอ้ตาขาว พวกเอ็งนี่มันกลัวไม่เข้าเรื่อง"
หมึก เก่ง ยืนกอดกันด้วยความกลัว เพลิงยืนลุ้นกล้าๆกลัวๆ
หมอคงปัดดินที่กลบเฝือกออกจนหมด เอามีดตัดเฝือกออกอย่างแรงทันที
เสียงฟ้าร้องก็ดังเปรี้ยงขึ้น ศพของแม่นากก็กระเด้งลุกขึ้นมานั่งทันที
หมอคงตกใจสะดุ้ง แต่เพลิง หมึก เก่ง ตกใจมากกว่าช๊อกร้องกันเสียงลั่น “เฮ้ย!!”
บรรยากาศฝนฟ้าคะนอง มั่น และพวกนั่งกินเหล้ากันอยู่ในเรือน ทุกคนเศร้าใจ
โพล้งถาม
"ไอ้มั่น เอ็งจะบอกไอ้มากมันยังไง"
"ข้าว่าพี่มากคงต้องโกรธพวกเราที่ดูแลนากมันไม่ดี ทำให้นากมันต้องตาย" เค้งบอก
"ยังไงคนก็ตายไปแล้ว พูดไปก็ไม่ได้อะไรหรอกว้า รอไอ้พี่มากกลับมาข้าว่ามันคงเข้าใจ"
"ข้ากลัวแต่ไอ้มากกลับมาจะทำใจไม่ได้ตายตามนากมันไปนะสิ" ทุ้ยบอก
"เออนั้นสิข้าก็คิดเหมือนกับไอ้ทุ้ย ไอ้มากรักแม่นากมาก ถ้าขาดแม่นากไอ้มากอยากไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีกก็ได้" โพล้งว่า
เค้งบอก
"รึว่าเราจะไม่บอกไอ้มาก"
"เรื่องแบบนี้ปิดไม่ได้หรอกโว๊ย ยังไงก็ต้องบอก"
"ข้าละกลุ้มจริงจริ๊ง.... เวรกรรมอะไรของนากมันนะถึงได้อายุสั้นอย่างนี้" โพล้งว่า
"ไอ้โพล้งมืดค่ำอย่างนี้เอ็งอย่าพูดถึงนากมันบ่อยนักเลย ข้ารู้สึกกลัวๆชอบกล" ทุ้ยว่า
"พูดก็พูดเถอะ พวกพี่ว่าวิญญาณนากมันยังจะอยู่รอพี่มากหรือเปล่า" เค้งว่า
"ไอ้เค้ง ข้าพึ่งบอกว่าอย่าพูด เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวได้วิ่งกันป่าราบหรอกเอ็ง"
มั่นถาม "เอ็งกลัวนากมันรึไอ้ทุ้ย"
"กลัวสิ ผีนะไม่ใช่คน"
"นากมันเป็นคนดี ตายไปแล้วมันก็ต้องเป็นผีที่ดีข้าเชื่อมันคงไม่มาหลอกเอ็งหรอก"
มั่นหน้าเศร้า
ที่หลุมศพของนาก หมอคงคุมสติได้หันไปพูดกับเพลิงและพวกที่กลัวจนตัวสั่น
"ไม่ต้องกลัว ข้าเจอมาเยอะ ... เอ็งจะลองดีกับข้าใช่มั๊ย"
หมอคงสีหน้าขึงขังเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบสายสิญจน์ขึ้นมาหนึ่งม้วน บอกกับหมึกและเก่ง
"พวกเอ็งไปหาไม้มาปักสี่เสาเอาสายสิญจน์ล้อมนังนากเอาไว้"
หมึก เก่งกลัวไม่กล้า
" เร็วสิวะ รีบทำตามที่พ่อหมอบอก" เพลิงบอก
หมึก เก่ง จำใจต้องทำตาม หาไม้ไผ่ใกล้ๆนั้นมาปักไว้สี่มุมแล้วเอาสายสิญจน์ล้อมร่างของนากไว้
เสียงหมาหอนดังขึ้น
ต้นตะเคียนคู่ลู่ลมเสียงหวีดหวิวอื้ออึงไปหมด หมึก เก่ง รีบกระโดดเข้ามาอยู่หลังหมอคง
ป้าเงินๆนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา แล้วลุกขึ้นมานั่ง จำปี ลำจวนที่นอนอยู่ที่พื้นก็ลุกตามป้าเงินขึ้นมา
จำปีถาม
"เป็นอะไรจ๊ะป้า ลุกขึ้นมานั่งทำไม"
"นอนไม่หลับหรือจ๊ะป้าเงิน"
"ข้าบอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้แต่ว่าใจมันวูบๆพิกล"
"หรือว่าป้าจะเป็นโรคลม เดี๋ยวฉันละลายยาลมมาให้ป้ามั๊ยจ๊ะ" จำปีว่า
"ไม่ต้องๆ ข้าไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เอ็งคิดหรอกนังจำปี เพราะพวกเอ็งมานอนเบียดข้าน่ะสิ ข้าถึงได้นอนไม่หลับ"
มุ้งหลังเล็กนิดเดียว แต่คนนอนเบียดกันแน่น จำปีกับลำจวนยิ้มเขินๆ ป้าเงินล้มตัวลงนอน สีหน้าวิตก
ฝนเริ่มสงบ หมอคงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
"ฝนหยุดสักที ข้าจะเริ่มทำพิธีต่อล่ะนะ"
"รีบๆเถอะจ๊ะพ่อหมอ ฉันอยากออกไปจากที่นี่เต็มทีแล้ว"
หมึก/ เก่งบอก"ฉันด้วย"
"เออ อีกเดี๋ยวก็เสร็จพิธีแล้ว เอ็งดูสิวิชาข้าแน่มั๊ยล่ะ ศพนังนากไม่กล้าแผลงฤทธิ์เลย
ฟ้าฝนยังต้องหยุดให้ข้าทำพิธีเลย"
เพลิง หมึก เก่ง มองหน้ากันพยักหน้าคล้อยตามหมอคง
"พ่อหมอนี่เก่งจริงๆเลยจ๊ะ รีบทำพิธีต่อเถอะ"
หมอคงยิ้มพยักหน้าแล้วก็พนมมือบริกรรมคาถา
หมอคงล้วงมือเข้าไปที่ย่ามแล้วหยิบเทียนกับไม้ดขึ้นมา
"จะทำอะไรน่ะพ่อหมอ" เพลิงถาม
หมอป๋อคงยิ้มร้าย
"ข้าจะเอาน้ำมันพรายจากนังนาก"
เพลิง หมึก เก่งมองลุ้น
หมอคงล้วงมือเข้าไปในย่ามอีกทีแล้วหยิบถ้วยดินเผาเล็กๆให้หมึก
" เอ็งช่วยข้ารองน้ำมันพรายที่คางนังนาก"
หมึกกลัวตัวสั่น
"ไม่นะ ฉันไม่"
"เอ็งนั่นแหละ ข้าจะแบ่งให้เอ็งไปแตะสาวบ้าง รับรอง หยดเดียว วิ่งตามมารอถึงบ้านเลย"
หมึกทำท่าลังเล
" เร็ว!"
หมึกจำใจต้องรับถ้วยดินเผาจากหมอคงมา
หมอคงเอาเทียนที่จุดไฟแล้วขึ้นมาจ่อที่หน้าของนาก
"ขอน้ำมันพรายให้ข้าเถอะนะนังนาก"
เสียงหมาหอนยาวดังขึ้น หมอคงบ่นๆ
"ไอ้หมาพวกนี้มันจะหอนอะไรกันนักหนาวะ เดี๋ยวข้าจับย่างกินให้หมดหรอก"
เสียงหมาหอนหยุดนิ่งเงียบสงัด
"อ้าวทีนี่เงียบเป็นป้าช้าเชียวนะเอ็ง"
เก่งบอก
"ก็นี่มันป่าช้านะพ่อหมอ"
"เออจริงของเอ็ง"
ยอดตะเคียนลมพัด โยกไปโยกมา
หมอคงบอก
"เร็วๆสิวะไอ้หมึก"
หมึกยื่นมือไปสุดแขน แต่ไม่กล้าเข้าใกล้นาก ทุกคนลุ้น หมอคงเริ่มเอาเทียนไปจ่อ
ที่ปลายคางของนาก เสียงหมาหอนไม่หยุด อยู่ๆลมก็พักกรรโชกมาวูบหนึ่งจนเปลวไฟ
ที่เทียนดับ หมึกตกใจปล่อยมือถ้วยหล่นแตก ทุกคนตกใจ
หมึกถูกทุกคนรุมด่า
เพลิงบอก
"ไอ้หมึก เอ็งทำบ้าอะไรวะข้าตกใจหมด"
" ก็ฉันกลัวนี่พี่"
"เอ็งทำของแตกแบบนี้มันเป็นลางนะโว้ย" เก่งบอก
"ก็ข้าตกใจนี่ อยู่ๆลมก็พัดเทียนดับแบบนี้ ... พ่อหมอ ฉันว่าเรากลับไปตั้งหลักกันก่อนดีกว่ามั๊ย"
"ใช่ๆๆ กลับไปตั้งหลักก่อนเถอะพ่อหมอ วันนี้ดูลมฟ้าจะไม่เป็นใจ"
" ไม่ได้!! ทำพิธีแล้วต้องทำให้เสร็จ ถ้าไม่อย่างนั้นวิญญาณมันจะตามไปเล่นงานพวกเอ็งกับข้าได้"
เพลิง และพวกได้ยินหมอคงขู่ก็ยิ่งกลัว
ท้องฟ้าอันมืดมิดไม่เห็นดวงจันทร์ วัดแห่งหนึ่งที่มากรักษาตัวอยู่ ในกุฎิมากนอนอยู่กับพื้น กระสับกระส่ายมากเพ้อเรียกนาก
ในความฝัน มากเดินมาที่หน้าวัด เห็นร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในมุมมืดใต้ต้นไม้ ผู้หญิงยืนก้มหน้าอุ้มลูกร้องไห้อยู่ มากรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นคือนาก
"นาก....นั่นนากใช่มั๊ย"
ผู้หญิงที่อุ้มลูกในมุมมืดใต้ต้นไม้ค่อยๆเลื่อนออกมาจากมุมมืด มากๆยิ้มดีใจ
"นาก"
นากค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้เขตของวัด ทันใดนั่นก็มีไฟลุกโชนขึ้นเป็นเส้นขวางนากเอาไว้
นากเอามือกันเปลวไฟ นากร้องกรี๊ด....
มากตกใจ "นาก!"
นากค่อยๆเลื่อนถอยออกไป ร้องครวญ
"พี่มาก......ช่วยนากด้วย พวกมันทำร้ายนาก พี่มาก"
มากจะวิ่งฝ่ากองไฟออกไปหานาก แต่ก็มีเสียงแว่วดังขึ้น " โยม....โยม" มากชะงัก
"โยม....โยม"
มากค่อยลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง กระหายน้ำ
"น้ำ ขอน้ำให้ฉันหน่อยเณร"
เณรรีบไปหยิบน้ำมาให้มากดื่ม
ที่ป้าช้า หมอคงพยายามจะจุดเทียนแต่จุดเท่าไหร่ก็ไม่ติด
"ทำไมไม่ติดวะ"
"สงสัยเทียนคงเปียกน้ำมั่งพ่อหมอ ฉันว่าพ่อหมอรีบสะกดวิญญาณนังนากมันก่อนเถอะ" เพลิงบอก
"เดี๋ยวสิโว้ย ให้ข้าเอาของอาถรรพณ์จากตัวมันซะก่อน"
หมอคงเปลี่ยนใจไม่จุดเทียน แต่หยิบมีดหมอที่มีตัวอักษรอาคมอยู่บนมีดขึ้นมา
"เอาลูกในท้องเอ็งก่อนก็แล้วกันนังนาก"
"จะทำอะไรกันพ่อหมอ"
"ข้าจะเอาลูกในท้องมันมาทำลูกกรอก"
เพลิง หมึก เก่งมองหน้ากันกลัวมากกว่าอย่างอื่น
หมอคงหยิบคัมภีร์ใบลานขึ้นมา หมอคงพนมมือสวดบริกรรมคาถาอีกครั้ง
เพลิงและพวกเงียบไม่กล้าส่งเสียง หมอคงบริกรรมคาถา
อยู่ๆก็มีนกแสกบินมาเกาะที่ต้นตะเคียนนกแสกร้อง “แสกๆ”
"นกแสกจ๊ะพ่อหมอ" เก่งบอก
"ก็แค่นกเอ็งจะกลัวทำไมวะ"
เสียงตุ๊กแตร้องทักขึ้น “ตั๊บๆๆๆๆแก” เพลิง เก่ง หมึกเบียดเกาะแขนกันกลมหมอป๋องบริกรรมคาถาเสร็จก็เป่าไปที่มีด 3 ครั้ง
"ฮ่าอ่าฮ่า คราวนี้ล่ะทุกคนต้องโจษจันถึงข้าหมอคงจอมขมังเวทย์"
หมอคงชูมีดหมอขึ้น มองศพนาก
"ยกลูกของเอ็งให้ข้าเถอะวะ"
หมอคงพูดจบ ลมก็พัดมาอย่างแรง ใบไม้ปลิวว่อน หมอคงไม่รอช้าเอาปลายมีดจรดที่ท้องของนาก
ทันใดฟ้าแล่บแปล๊บ แล้วมีเสียงฟ้าผ่าตามลั่นขึ้น หมอคงเงยหน้าขึ้นมอง
นากลืมตาขึ้น ตาเบิกโพลงอย่างน่ากลัว ทุกคนตะลึง!!!
อ่านต่อตอนที่ 5