“ไก่ วรายุฑ” เผยมีความสุขทำละคร “เจ้าบ้าน เจ้าเรือน” ย้ำเลือก “ติ๊ก” ไว้ในใจตั้งแต่แรก

ได้รับกระแสตอบรับมากทีเดียว สำหรับละคร “เจ้าบ้าน เจ้าเรือน” ซึ่งกำลังออกอากาศ อยู่ทางไทยทีวีสีช่อง 3 อยู่ในขณะนี้ ผู้จัด “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” เผยว่าทุ่มเทกับละครเรื่องนี้มากอย่างใจเย็น และเชื่อในเรื่องเจ้าบ้าน เจ้าเรือนว่าคนดูจะต้องชอบ ลั่นคนและวิญญาณที่หล่อที่สุดต้อง “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” เท่านั้น! เลือกและเล็งไว้ตั้งแต่อ่านนิยายครั้งแรก

“เรียกว่า สมกับการรอคอยมากกว่า สำหรับละครเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเรือน ตั้งแต่อ่านนวนิยาย จนหยิบให้คนเขียนบท ติดต่อนักแสดง จนทุกอย่างลงตัว เป็นละครที่พี่ใจเย็นมาก เพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด แล้วการถ่ายทำ ก็กินเวลานานหลายเดือน แต่พอออกอากาศมาแล้ว ก็สมใจที่สุด ตั้งแต่ตัวตั้ง ที่จะมาเป็นเจ้าบ้าน เจ้าเรือน คือติ๊ก เจษฎาภรณ์เลย เป็นอะไรที่ลงตัวมาก เคยทำผีอีเฟือง ในเรื่องแค้นเสน่ห์หา มาเรื่องนี้ เป็นผีรูปหล่อ เป็นผีที่มาเล่าถึงชีวิตของตัวเองที่ผ่านมาว่าทำอะไรไปบ้าง และในอดีตคือพี่ติ๊กเป็นคนเจ้าชู้มาก เราเล่าเรื่องตั้งแต่ยุครัชกาลที่5 จนมายุคที่พี่ติ๊กยังมีชีวิตอยู่ในช่วง รัชกาลที่ 7 ส่วนยุคของศรีริต้าจะเป็นช่วง รัชกาลที่ 9 ปัจจุบัน ติ๊กก็ยังวนเวียนอยู่ในความเป็นเจ้าบ้าน เจ้าเรือนจนมาเจอคนที่จะมาปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากความเป็นเจ้าบ้าน เจ้าเรือนจากเรือนหลังนี้ ที่พี่ทำละครเรื่องนี้ เพราะส่วนตัวเชื่อว่า วิญญาณ เจ้าบ้าน เจ้าเรือนมีจริง อยากให้คนดู ดูแล้วรู้สึกตรงนี้ด้วย อยากทำให้คนดูรู้ว่าบ้านทุกหลังที่เป็นของคนไทยเนี่ยจะมีเจ้าบ้าน เจ้าเรือนคอยดูแลคุ้มครองอยู่ ถ้าทำความดีก็จะได้ดี เราสามารถนำประสบการณ์ตรงมาใส่ในเรื่องพวกนี้ได้ ที่เลือกพี่ติ๊กตั้งแต่พี่อ่านละครเลย พี่คิดนะว่าใครที่หล่อจนผู้หญิงหลงใหล ทั้งสมัยก่อน จนเป็นผีก็ยังหล่อ ก็ต้องเป็นติ๊ก คนเดียวเท่านั้น ทุกครั้งที่พี่ทำละคร จะมีความสุขกับมันทุกครั้ง เจ้าบ้าน เจ้าเรือนก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีความสุขมาก ได้ร่วมงานกับนักแสดงมีฝีมือมากมาย ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ให้แง่คิด ต่าง ๆ ได้ทำเสื้อผ้าสวย ๆ ให้นักแสดง ให้กับท่านผู้ชมได้เห็นกัน อย่างศาลเจ้าบ้านในเรื่องที่พี่ติ๊กอยู่ ก็ให้ฝ่ายศิลปกรรมทำให้ จำลองให้เหมือนของจริงที่สุด มีการตกแต่งภายใน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ติดผ้าม่าน เปรียบเสมือนบ้านจิ๋วหลังหนึ่ง ตั้งใจทำให้ออกมาสมจริงที่สุดเลย มีส่งพี่ติ๊ก ไปเรียนเต้นรำ เรียนเล่นเปียโน อย่างปุยฝ้าย เขาก็ร้องเพลงได้อยู่แล้ว พอถึงตอนที่เข้าฉากกับติ๊ก แล้วร้องเพลง มันเป็นอะไรที่ลงตัว ส่วนจอย รินลณี ก็ถ่ายทอด อารมณ์ของเมียหลวง ที่ต้องเก็บความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม พี่มั่นใจว่าคนดูละครเรื่องนี้ต้องชอบ ยิ่งดู ก็จะยิ่งรัก ละครเรื่องนี้สอนอะไรหลายท่านผู้ชมหลายอย่างมาก มันเป็นเรื่องเวร เรื่องกรรม ซึ่งพี่เป็นคนไทย พี่อยากให้ผู้ชมได้เห็นสิ่งนี้ด้วย ฝากติดตามละครเจ้าบ้านเจ้าเรือนด้วย ขอบอกว่า จะสนุกมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่มีแผ่วแน่นอน”