เพิ่งจะมีโอกาสได้เล่นละครกับผู้จัดคนเก่ง “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” เป็นครั้งแรก สำหรับพระเอกที่หล่อตลอดกาล อย่าง “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ในละครเรื่อง “เจ้าบ้าน เจ้าเรือน” ซึ่งเริ่มออกอากาศ ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ ทางช่อง 3
"ดีใจนะครับที่มีโอกาสได้เล่นละครเรื่องนี้ ผมได้รับการติดต่อมานานพอสมควร แต่ด้วยจังหวะเวลา ด้วยคิวของผม ทำให้ทุกอย่างต้องรอเวลาเพื่อความลงตัว พี่ไก่ติดต่อล่วงหน้ามาเป็นปีเลยครับ บอกกับผมเลยว่า ถ้าผมไม่เล่น พี่ไก่ ก็จะไม่ทำละครเรื่องนี้ ผมก็มีความรู้สึกว่า พี่ไก่เขารอผมจริง ๆ พอได้อ่านนิยาย ได้อ่านบท ก็ตกลงรับเล่นครับ โดยส่วนตัว จะไม่ค่อยรับละครซ้อนกัน กว่าจะตกลงรับเล่นเรื่องนี้ ก็ต้องเคลียร์คิวกันพอสมควรเลยครับ แต่ถึงแม้พี่ไก่ จะรอผมนานสักแค่ไหน ก็ไม่เคยกดดันผมเลยครับ ชอบที่ละครเรื่องเจ้าบ้าน เจ้าเรือน มีทั้งบทรัก บทดราม่า อยู่ด้วยกัน แล้วนักแสดงแต่ละท่านที่ผมต้องเข้าฉากด้วย ก็มีในหลายรูปแบบ คือมันเป็นทั้งละครในยุคพีเรียด และยุคปัจจุบัน ซึ่งผมจะต้องเป็นวิญญาณ ในรูปแบบ เจ้าบ้าน เจ้าเรือน มันยากมากในการที่ต้องเล่นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน ในอดีต ผมมีภรรยาหลายคน ซึ่งในบท ถ้าได้สัมผัสกับเขาแล้วเนี่ย จะรู้ว่า ไรวินท์ เป็นคนที่มีเสน่ห์จริง ๆ ซึ่งตัวจริง ผมก็ไม่ได้เป็นขนาดนั้น ซึ่งในเรื่องก็เป็นคนมีฐานะปานกลาง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ใคร ๆ ก็อยากเข้าหาเขา เขามีเสน่ห์ตรงไหน อาจจะเป็นเพราะว่า เขามีความพิเศษในการเข้าหา ผู้หญิงแต่ละคน ไรวินท์ดูมั่นคง สามารถดูแลผู้หญิงของเขาแต่ละคนได้ ซึ่งในส่วนของวิญญาณ ก็จะเป็นเหมือนอีกอารมณ์หนึ่ง คือตัวของไรวินท์ จะเป็นแบบผ่านร้อน ผ่านหนาวมาหมดแล้ว คือเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นิ่งขึ้น การเล่นให้แตกต่าง อย่างตอนแรก ๆ ที่เข้าฉาก ผมมีความรู้สึกว่าตัวไรวินท์เนี่ยเล่นยาก แต่พอเล่นไปจริง ๆ ตัวในพาร์ทที่เป็นวิญญาณเล่นยากกว่าครับ คือจะดูนิ่ง ๆ กว่า ผมก็จะคอยถามพี่บุ๋ม ผู้กำกับ กับพี่ไก่ วรายุฑ ว่าให้ผมเล่นประมาณไหน จะดูแข็งไปไหม เพราะเดี๋ยวก็จะโดนว่าอีก ว่าเล่นแข็งเหมือนหุ่นยนต์ การเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้คือต้องอ่านบท ศึกษาบทให้เยอะ ๆ คุยกับผู้กำกับให้มาก ๆ ว่าสิ่งที่เขาต้องการให้ผมถ่ายทอดออกมาคือยังไง หรือคำพูดบางคำ ต้องพูดยังไง เพราะภาษาค่อนข้างยาก ในละคร มันจะเป็นช่วงยุค ปลาย ๆ ของรัชกาลที่ 5 จนถึงยุคของปัจจุบันเลย ผมจะก็อาศัย ดูเรื่องการพูด กริยาท่าทางของคนสมัยก่อน หรือแม้กระทั่งการโพสต์ท่าถ่ายรูป ก็ต้องไปดูของเก่า ๆ ด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานมากขึ้น ผมก็พยายามทำงานให้เต็มที่ สมกับที่ผู้จัดรอคอย และหวังว่า ผู้ชมก็คงจะชอบละครเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันนะครับ ฝากติดตามด้วยครับ"
เพิ่งจะมีโอกาสได้เล่นละครที่มีหลายบทบาทในตัวละครเดียวกัน สำหรับ ศรีริต้า เจนเซ่น กับบทของแพรขาว หญิงสาวที่ต้องพานพบกับเรื่องประหลาด ของจิตวิญญาณเจ้าบ้านเจ้าเรือน ซึ่งถือว่า เป็นความแปลกใหม่ สำหรับการเป็นนักแสดงของเธอ
"เรื่องนี้มีสองพาร์ท แบบหนัก ๆ เลยค่ะ กับภาคปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่ผิดหวังกับชีวิตครอบครัว เพราะสามีไปมีผู้หญิงอื่น จนต้องหอบลูก หนีมาเช่าบ้านอยู่ อีกพาร์ทหนึ่ง ก็จะเป็นเรื่องที่ได้พบเห็นวิญญาณของเจ้าบ้าน เจ้าเรือน ซึ่งก็รับบทโดยพี่ติ๊ก แล้วพี่ติ๊ก ก็จะพาริต้า ย้อนเข้าไปสู่ในยุคของอดีต เพื่อให้ได้เห็น ความเป็นมาเป็นไป ว่าทำไม วิญญาณของพี่ติ๊ก ของต้องมาเป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือน ไม่ได้ไปผุดไปเกิด จะเป็นเรื่องของคนกับจิตวิญญาณ ตอนแรกเราเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นยามเฝ้าบ้าน คอยมาดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ คอยช่วยเหลือเรา ช่วยเหลือลูกของเรา จากความเป็นความตายหลายครั้ง จนตอนหลังรู้ว่าพี่ติ๊ก ไม่ใช่คน เป็นวิญญาณ เจ้าบ้านเจ้าเรือน ที่เราอาศัยอยู่ ก็ช็อคอยู่เหมือนกัน ซึ่งพาร์ทที่ริต้า ทะลุมิติไป บุคลิก จะเป็นแบบ สาวสมัยใหม่ ที่อยากรู้ อยากเห็นเรื่องราว ในอดีต พาร์ทนี้ จะสนุกกว่าพาร์ทที่เป็นชีวิต ปัจจุบันค่ะ เพราะภาคปัจจุบัน ริต้า จะร้องไห้หนักมาก ยิ่งตอนที่สามี จะมาแย่งลูกไป ต้องเถียงกัน ตีกัน เพื่อแย่งลูกตลอดเลยค่ะ รู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจที่พี่ไก่ให้ริต้าได้มีโอกาสรับบทนี้ เพราะในส่วนที่เป็นพาร์ทของการเล่าเรื่องในอดีต เวลาที่พี่ติ๊ก พาริต้า ไปดูเรื่องราวเก่า ๆ ริต้า ก็จะมีโอกาสได้แต่งชุดละครพีเรียดด้วย รู้สึกประทับใจกับตรงนี้มากเหมือนกันค่ะ ริต้าไม่เคยเห็นละครเรื่องไหนเป็นแบบนี้ให้มนุษย์ไปรักกับเจ้าที่ ทำออกมาได้คลาสสิก ละมุนละไม มีความรักที่ดี อยากให้ลองติดตามกันดูว่าเขาจะรักกันได้ไหม เป็นละครที่สะท้อนภาพอะไรหลายอย่างมาก เห็นกฎแห่งกรรม พอริต้าไปไหนมาไหนริต้าก็จะไหว้เจ้าที่เจ้าทางตลอดกลายเป็นว่าเราก็เชื่อไปเลย จากที่เราไหว้อยู่แล้ว ริต้าว่าเป็นละครที่ทำให้คนดูเห็นภาพชัดขึ้นค่ะ เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกับพี่ติ๊ก หลายคนก็รอกุ๊กกิ๊กกับพี่ติ๊ก แต่สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่แบบที่คิดนะคะ แต่ขอบอกว่า มันอะไรที่โรแมนติกมากเลยค่ะ ส่วนกับบทแม่ก็ดีนะคะ ริต้าว่าการได้ถ่ายทอดความรู้สึกในบทบาทแม่ มันก็เป็นความรักอีกแบบหนึ่ง ที่แม่ยอมตายแทนลูกได้ ในใจมีแต่ลูก ทำทุกอย่างเพื่อลูก การทำงานเรื่องนี้จึงเป็นละครที่ริต้า ได้บทบาทในหลายรูปแบบจริง ๆ ค่ะ ฝากติดตามผลงานละครของริต้าด้วยนะคะ"