xs
xsm
sm
md
lg

มนต์รักอสูร ตอนที่ 2

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มนต์รักอสูร ตอนที่ 1

รถกระบะคันนั้น ซึ่งท้ายรถบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์ของน้ำผึ้งแล่นเข้ามาในไร่ของภูฤทธิ์ น้ำผึ้งนั่งอยู่ในรถกระบะคันดังกล่าว มีลูกน้องภูฤทธิ์เป็นขับรถ โดยภูฤทธิ์ออกมายืนคอยอยู่หน้าสำนักงานแล้ว

ทันทีรถจอดสนิท น้ำผึ้งลงรถ ภูฤทธิ์รีบเดินมาหาด้วยความเป็นห่วง สั่งลูกน้องว่า
“เดี๋ยวเอารถมอเตอร์ไซค์คุณน้ำผึ้งไปซ่อมให้เรียบร้อยนะ”
ลูกน้องรับคำ แล้วไปจัดการกับรถน้ำผึ้งตามสั่งทันที
“น้ำผึ้งต้องขอบคุณคุณวุฒิมากนะคะ อุตส่าห์ให้คนไปรับน้ำผึ้งแล้วยังมาช่วยซ่อมรถให้อีก น้ำผึ้งเกรงใจจังค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับคุณน้ำผึ้ง ผมยินดีที่จะช่วย”
ภูฤทธิ์บอกจากใจจริง น้ำผึ้งยิ้มรับ ภูฤทธิ์ถามอาการด้วยความเป็นห่วงมาก
“แล้วนี่คุณน้ำผึ้งเป็นอะไรหรือเปล่าครับ บาดเจ็บตรงไหนไหม”
น้ำผึ้งส่ายหัว ยิ้มบอกเป็นการยืนยัน
“น้ำผึ้งไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ฟกช้ำนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“คุณน้ำผึ้งยังไม่ได้เล่าให้ผมฟังเลยนะครับว่าทำไมขี่รถล้มเข้าข้างทางได้”
“พอดีน้ำผึ้งเห็นรถขับมาอย่างเร็วน่ะค่ะ น้ำผึ้งกลัวจะชนเลยหักหลบแล้วเสียหลัก”
“แล้วเจ้าของรถได้ลงมาดูคุณน้ำผึ้งไหมครับเนี่ย”
“ลงมาค่ะ แต่ไม่น่าลงมาจะดีกว่า พูดจาหาเรื่อง น่าเกลียดที่สุด”
“อยากรู้จริงๆ ว่าเป็นใคร แล้วนี่คุณน้ำผึ้งจำหน้าหรือลักษณะเด่นๆ ได้บ้างไหมครับ”
น้ำผึ้งนึกถึงเทิด รู้สึกโมโหขึ้นมาอีก
“ช่างเถอะค่ะ ก็แค่คนไม่มีเหตุผล”

เวลาเดียวกันนั้น เทิดเองก็กำลังโมโหโกรธา อยู่เช่นกัน บ่นบ้ากับผัน
“คนไม่มีเหตุผล ใช่ ใครๆ ก็มองฉันเป็นแบบนั้น”
“นายใจเย็นๆ ก่อนครับ แล้วตกลงนายให้คุณนันท์ออกโรงเรียนอีกแล้วหรือครับ”
“จะให้เรียนไปทำไมที่แบบนั้น ไม่มีความยุติธรรมให้กับเด็ก โรงเรียนแบบนี้เชิญลูกคนรวยมีเงินบริจาคแข่งกันให้ขนหน้าแข้งหลุดกันไปเถอะ”
เทิดอารมณ์เสียสุดๆ

ค่ำนั้น น้ำผึ้งหอบแฟ้มงานบัญชีเดินออกมาในห้องโถงสำนักงาน ท่าทียังดูหงุดหงิดไม่หาย ภูฤทธิ์เข้ามาเห็นก็อดทักถามอีกไม่ได้
“นี่ขนาดว่าช่างเถอะแล้วนะครับเนี่ย ยังดูหงุดหงิดอยู่เลย”
“จริงเหรอคะ”
“จริงครับ”
น้ำผึ้งเกรงใจ “ขอโทษด้วยค่ะคุณภู ผึ้งนี่แย่จริงๆ เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ วันนึงเราจะเจอใครหรือเจออะไรก็ไม่รู้ได้ ไม่มีใครอารมณ์ดีได้ทุกวันหรอกครับ”
“แต่ผึ้งก็ไม่ควรเอามันมาปนกับงานนี่คะ”
“ถ้าไม่สบายใจอยู่ก็ลองเล่าให้ผมฟังได้นะครับ”
น้ำผึ้งอึกอัก “คือ…”
“หรือว่าคุณผึ้งไม่ไว้ใจผม”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
ภูฤทธิ์คิดอะไรบางอย่าง
“อืม…งั้นเอางี้ดีกว่า”
ภูฤทธิ์ปิดแฟ้มงานน้ำผึ้งลง
“คุณภู”
“มานี่ดีกว่าครับ มีอะไรสนุกๆ ให้ทำ จะได้หายเครียด”

ภูฤทธิ์พาน้ำผึ้งออกมานั่งในมุมพักผ่อนของสำนักงานไร่ สักพักแม่บ้านก็เข็นรถใส่ถาดเค้กออกมา น้ำผึ้งมองฉงนที่เห็นมีเค้กหลายแบบหลากสีสันวางอยู่เต็มไปหมด
“นี่คือ…ยังไงคะเนี่ยคุณภู”
“งานวันนี้ของคุณผึ้งครับ”
น้ำผึ้งงงใหญ่ “คะ”
ภูฤทธิ์ยิ้มพลางอธิบายว่า “มีลูกค้าจะมาจัดเลี้ยงที่ไร่ผมน่ะครับ แล้วก็ให้เราทำพวกขนมไปเป็นของว่าง ผมว่าถ้าลูกค้าชอบกันจะเอามาวางขายเพิ่มที่ร้านกาแฟของไร่ด้วย แล้วหน้าที่ของคุณผึ้งวันนี้คือ ชิมเจ้าพวกนี้ให้ผม”
“จะดีเหรอคะคุณภู ผึ้งรับจ้างมาทำบัญชีนะ อันนี้มันก็นอกหน้าที่นะคะ”
“พนักงานที่ไหนๆเขาก็ต้องทำงานอื่นนอกเหนือหน้าที่ตามแต่ผู้บังคับบัญชาทั้งนั้นล่ะครับ ตอนนี้ผมเป็นเจ้านาย คุณผึ้งก็ต้องเชื่อผมสิ”
น้ำผึ้งขำ “มัดมือชกนี่คะ”
“ผมไม่อยากให้คุณผึ้งเครียดเกินไปนี่ มาครับ ลุยเลย วิจารณ์ให้ผมหน่อย เต็มที่เลยไม่ต้องกลัวอ้วน”
น้ำผึ้งก้มดูเค้กน่าทานตรงหน้า ใช้ส้อมจิ้มชิมแต่ละรส จนเริ่มอารมณ์ดีขึ้น

สองคนช่วยกันชิมเค้กไปคุยไปอย่างสนุกสนาน

อ่านต่อหน้า 2




มนต์รักอสูร ตอนที่ 1 (ต่อ)

จากภาพสีขาวเบลอๆ ไม่ชัด เริ่มเห็นเป็นเงารางๆ แล้วค่อยชัดขึ้นๆ จนเห็นชัดเป็นหน้าน้ำผึ้งใกล้มาก วันเพ่งมองหน้าลูกสาวแล้วยิ้มให้

“กลับมาแล้วเหรอลูก พ่อไม่เห็นได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์เลย ได้ยินแต่เสียงรถยนต์”
“คุณภูฤทธิ์มาส่งน่ะค่ะ พ่อแล้วแม่ล่ะจ๊ะ”
“ขึ้นไปหยิบยาให้พ่อ”
ลำยองเดินออกมาและไอด้วย น้ำผึ้งมองแม่ด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมคุณภูฤทธิ์ถึงมาส่งล่ะ รถมอเตอร์ไซค์เราไปไหน”
“มันเสียจ้ะ คุณภูฤทธิ์เลยเอาไปให้ที่ร้านซ่อม”
น้ำผึ้งไม่บอกถึงสาเหตุที่ทำให้รถพัง กลัวพ่อแม่ไม่สบายใจและเป็นห่วง
“แม่นึกอยู่แล้วสักวันมันต้องเกเร”
“น่าจะเอากลับมาบ้าน เดี๋ยวพ่อจะซ่อมให้เอง” วันว่า
ลำยองหมั่นไส้ผัว “แกก็พูดไป สายตาไม่ดีจะทำนั่นทำนี่”
“คนมันเคยทำ ทุกวันนี้อยู่เฉยๆ ก็เบื่อจะแย่ ดูเป็นคนไร้ประโยชน์”
“พ่ออย่าคิดอย่างนั้นซิจ๊ะ พ่อไม่สบายอยู่นะ”
“แกก็คิดอะไรเลอะเทอะให้ลูกไม่สบายใจ”
ลำยองไอโขลก อาการหนักกว่าเดิม น้ำผึ้งมองแม่เป็นห่วง
“หนูว่าแม่ไอมากกว่าเดิมแล้วนะ พรุ่งนี้ไปหาหมอเถอะ”
“แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก กินยาแก้ไอเดี๋ยวก็หาย แม่ไม่อยากให้ลูกต้องเสียเงิน เหนื่อยหาเงินสายตัวแทบขาด เก็บเงินเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว สร้างความสุขให้ตัวเองบ้างเถอะลูก”
น้ำผึ้งเข้าไปกอดแม่ข้าง พ่ออีกข้าง
“ความสุขของหนูคือพ่อกับแม่นะจ๊ะ เหนื่อยแค่ไหนหนูก็ทนได้หนูจะหาเงินให้ได้มากๆ จะได้พาพ่อไปรักษาตา พาแม่ไปหาหมอ และใช้หนี้สินให้หมด เราสามคนพ่อแม่ลูกจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสุขสบายสักที”
สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันกลม

วันต่อมา น้ำผึ้งแวะมาที่ร้านขนมแห่งหนึ่งแถวโรงเรียน ขณะกำลังจะเข้าไปในร้านก็มีคนเปิดประตูออกมาชนเข้าพอดี
ชายคนนั้นขอโทษก่อน “ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมองเขา พอเห็นว่าเป็น ศักดา ก็ยิ้มออกมา ศักดาเองก็ยิ้มตอบ
“อ้าว จ้องจนเขินแล้วเนี่ย มีอะไรติดหน้าพี่เหรอ”
“พี่ศักดา” น้ำผึ้งดีใจมาก
“จำกันได้แล้วสิเห็นน้ำผึ้งมองหน้าพี่แล้วก็ยิ้ม นึกว่าหน้าพี่เลอะอะไรซะอีก”
“ไม่มีหรอกค่ะ แล้วนี่พี่มาได้ยังไงคะ น้ำผึ้งไม่คิดเลยนะคะว่าจะได้เจอพี่ศักดาที่นี่”
ศักดาตอบกวนๆ
“ทำไมล่ะ ที่นี่ก็เป็นโรงเรียน มีนักเรียน แล้วพี่เป็นครู พี่ก็มาถูกแล้วนิ”
น้ำผึ้งขำมุกศักดา
“แต่ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนในกรุงเทพฯ ที่พี่สอนอยู่นี่คะ”
ศักดาขำ “พี่มาเที่ยวนะ คงอยู่สักพัก คิดอยู่แล้วเชียวว่าน่าจะบังเอิญเจอเรา เห็นว่าบ้านอยู่แถวนี้ ไม่คิดเลยว่าจะเจอเอาวันแรกที่มาเลย”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ แล้วนี่น้ำผึ้งรีบไปไหนรึเปล่า”
“เดี๋ยวว่าจะไปทำงานต่อที่ไร่คุณภูฤทธิ์น่ะค่ะ”
ศักดามองฉงน “ภูฤทธิ์”
“เขาเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้ที่ผึ้งไปช่วยงานทำบัญชีให้น่ะค่ะ นี่แค่ว่าจะแวะซื้ออะไรไปฝากเขา”
“งั้นให้พี่ไปส่งนะ พี่เอารถมา เดี๋ยวพี่รอตรงนี้ก็ได้”
น้ำผึ้งยิ้มดีใจ “ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวผึ้งมานะคะ”
น้ำผึ้งเข้าไปในร้าน ศักดามองตามยิ้มด้วยความเอ็นดู

ฟากเทิดนั่งหงุดหงิดกลุ้มใจเรื่องลูกชายอยู่คนเดียวในบ้าน ผันเดินเข้ามาหา เห็นท่าทีเทิดรู้ว่าผู้เป็นเจ้านายไม่สบายใจ
“นายครับ”
“มีอะไร”
“ผมเตรียมอุปกรณ์ซ่อมฝาย กับคนงานไว้พร้อมแล้วนะครับ จะได้ลงมือกันสักที”
“อืม ดี”
“นายมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าครับ”
“ก็เรื่องเจ้านันท์น่ะสิ ฉันให้มันออกจากโรงเรียนแล้ว แต่ยังหาที่เรียนใหม่ให้ไม่ได้”
“นายครับ คุณนันท์ย้ายมาหลายโรงเรียนแล้วน่ะครับ ผมเกรงว่าประวัติจะเสีย”
“แล้วจะให้ทำยังไง เรียนที่โรงเรียนไม่ได้ ถ้างั้นก็ต้องหาครูมาสอนให้ที่บ้าน”
เทิดกับผันคิดหนัก ระหว่างนี้อ้อยเดินถือถาดแก้วกาแฟมาให้เทิดได้ยินพอดี จึงรีบเสนอตัว
“นายขา อ้อยเองค่ะ อ้อยจะสอนหนังสือคุณนันท์เอง”
ผันตกใจและห้ามทันที “จะบ้าหรือนังอ้อย แกจะสอนได้ยังไง”
แต่อ้อยบอกกับผันว่า “ได้ซิพ่อ” แล้วจึงบอกกับเทิด “อ้อยสอนได้จริงๆนะนาย คุณนันท์เพิ่งจะเรียนอยู่ประถมเอง ให้อ้อยสอนคุณนันท์นะคะ นะๆ”
เทิดคิดมองผันกับอ้อยสลับกัน
“อ้อยมันสอนไม่ได้หรอกนาย” ผันเอ็ดลูกสาว “ตัวเองยังขี้เกียจเรียนแล้วจะไปสอนคุณนันท์”
อ้อยค้อนควัก “แหม! พ่อยังไงฉันก็เรียนสูงกว่าคุณนันท์ตอนนี้นะ แล้วอีกอย่างให้อ้อยสอนยังไว้ใจได้กว่าให้คนนอกมาสอนนะคะ เป็นใครก็ไม่รู้มาเข้าๆ ออกๆ ในไร่ เกิดเป็นพวกคนที่มาระเบิดฝายไร่เราเนี่ยจะยิ่งแย่นะ”
เทิดคิดตามที่อ้อยพูด
“ก็ได้ ลองดูแล้วกัน ให้ไอ้หอมมันเรียนด้วย คุณนันท์จะได้มีเพื่อนเรียน”
“ขอบคุณค่ะนาย อ้อยจะตั้งใจสอนคุณนันท์อย่างดีที่สุด”
อ้อยยิ้มแก้มแทบแตกดีใจมาก มั่นใจที่จะสอนนันท์ ผันส่ายหัวกับความดื้อด้านของลูกสาวจอมแก่น

ถึงจะออกปากอนุญาตไป แต่สีหน้าเทิดยังคงคิดหนัก

อ่านต่อหน้า 3




มนต์รักอสูร ตอนที่ 1 (ต่อ)

เย็นนั้น กลางสวนสวยดอกไม้บานสะพรั่ง ฟ้าใสยืนชื่นชมความงดงามอยู่แถวนั้น จนกระทั่งภูฤทธิ์เดินเข้ามาหา

“คุณฟ้าใสนี่ชอบดอกไม้มากเลยนะครับ”
“ค่ะ ดูดอกไม้พวกนี้แล้วทำให้ฟ้าสบายใจ แต่ถ้าฟ้ามารบกวนคุณภูฤทธิ์ฟ้าต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ ไร่ของเรายินดีต้อนรับ ก็คุณฟ้าใสเป็นลูกค้าประจำของเรานี่ครับ”
ฟ้าใสยิ้มรับ สีหน้าเจื่อนๆ
“ดอกไม้ที่คุณฟ้าใสสั่ง ผมให้พนักงานจดไว้แล้วครับว่ามีอะไรบ้าง ตอนนี้เย็นมากแล้ว เรากลับไปที่สำนักงานกันดีกว่าครับ ป่านนี้คุณน้ำผึ้งคงมาถึงที่ไร่แล้ว เชิญครับ”
“ค่ะ”
ภูฤทธิ์เดินนำออกไป ฟ้าใสมองตาม หน้าเศร้าลงทันที ก่อนจะเดินตามภูฤทธิ์ออกไป

ภูฤทธิ์ขับรถกอล์ฟนั่งมากับฟ้าใส รถของศักดาพาน้ำผึ้งมาส่ง เจอกันพอดี ภูฤทธิ์ขมวดคิ้วมองรถไม่คุ้น
น้ำผึ้งลงจากรถ พร้อมกับศักดา ฟ้าใสลงจากรถกอล์ฟเดินยิ้มไปหาน้ำผึ้ง ภูฤทธิ์ลงตามมา
“พี่ศักดาคะ นี่คุณภูฤทธิ์เจ้าของไร่แล้วก็เจ้านายของน้ำผึ้งค่ะ คุณภูฤทธิ์ค่ะ นี่พี่ศักดาค่ะ รุ่นพี่ของน้ำผึ้งเองค่ะ ตอนนี้เขาแวะมาเที่ยวที่นี่”
น้ำผึ้งเยื้อนยิ้ม แนะนำให้สองคนรู้จักกัน ทั้งสองหนุ่มยิ้มให้กัน
“พี่ศักดาคะ ฟ้าใสค่ะ เพื่อนรักของน้ำผึ้ง”
ศักดายิ้มทัก “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ฟ้าใสมองเหล่ถามแซวเพื่อน “รุ่นพี่คนนี้ใช่ไหมที่แกเคยเล่าให้ฟังอ่ะ”
น้ำผึ้งเขินที่ฟ้าใสถามตรงๆ
“นี่เราแอบเม้าท์พี่ด้วยเหรอน้ำผึ้งว่าพี่ในทางเสียหายหรือเปล่า” ศักดายิ้มขำ
น้ำผึ้งรีบปฏิเสธ “เปล่านะคะพี่ศักดา”
“มีแต่คำชื่นชมค่ะ พี่ศักดาเก่งอย่างนั้น พี่ศักดาเก่งอย่างนี้” ฟ้าใสว่า
น้ำผึ้งยิ่งเขิน “พอได้แล้วน่าฟ้า”
ฟ้าใสแกล้งเพื่อน ยิ่งทำให้น้ำผึ้งรู้สึกเขินอายที่ถูกศักดาจ้องมอง
“ผมว่าเชิญข้างในดีกว่านะครับ เชิญครับคุณศักดา”
ศักดายิ้มพลางบอกลาทุกคน เดินกลับไปขึ้นรถ
น้ำผึ้งยิ้มส่งศักดาที่ขับรถออกไป ฟ้าใสเดินเข้ามากระแซะแซวเพื่อน ภูฤทธิ์แอบมองน้ำผึ้ง

บ้านทรงยศตกอยู่ในแสงสลัวยามค่ำคืน ส่วนภายในห้องนอนของฟ้าใส น้องสาวทรงยศกำลังหวีผมอยู่หน้ากระจก กระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์ภูฤทธิ์ดีใจรีบรับสาย
“สวัสดีค่ะ คุณภูฤทธิ์”
อีกฟาก ภูฤทธิ์เดินคุยสายไปมาอยู่ในห้องนอนที่บ้าน
“เอ่อ ครับ”
น้ำเสียงของอีกฝ่าย ทำเอาฟ้าใสฉงน
“มีอะไรเหรอค่ะ”
“ผมโทร.มารบกวนเวลานอนคุณฟ้าใสหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลยค่ะ ฟ้ายังไม่ง่วงเลย” ฟ้าใสหาว รีบเอามือปิดปาก “แล้วคุณภูโทร.หาฟ้ามีเรื่องอะไรคะ”
“คือ ผมจะโทร.มาเรื่อง เอ่อ… อ๋อ เรื่องดอกไม้ที่คุณฟ้าสั่งน่ะครับ ผมให้ลูกน้องจัดการเตรียมไว้แล้ว พรุ่งนี้เช้าเอาไปส่งให้ได้เลย”
“ค่ะ คุณภูโทร.มาเรื่องนี้เหรอค่ะ”
ภูฤทธิ์อึกอัก “เอิ่ม…ก็ไม่เชิงครับ ผมแค่อยากจะถาม เรื่อง…”
ฟ้าใสลุ้น “เรื่องอะไรคะ”
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ ผมเลยไม่กล้า กลัวคุณฟ้าใสจะรำคาญ”
ฟ้าใสยิ้มเขิน “ไม่เลยค่ะ ถามมาได้เลย ฟ้าไม่มีทางรำคาญหรอกค่ะ” หญิงสาวยิ้มเขินพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า “จะถามว่าเรามีแฟนหรือยังแน่ๆ ตอบว่าอะไรดีน้า ต้องเล่นตัวนิดๆ ซินะ”
“คุณฟ้าใสครับ คุณฟ้าใส ยังฟังอยู่ไหมครับ”
“ค่ะๆ ฟังอยู่ค่ะ”
ฟ้าใสบิดตัวไปมาด้วยความเขิน
“ผมอยากรู้ว่าคุณน้ำผึ้งกับครูศักดาเขาสนิทกันมากหรือครับ”
ฟ้าใสอึ้ง ภูฤทธิ์ดับฝันกันสุดๆ
“อ๋อเรื่องน้ำผึ้ง” หญิงสาวเซ็ง ลอบถอนหายใจเบาๆ “ฟ้าไม่รู้เรื่องอะไรมากหรอกค่ะ แต่น่าจะสนิทกันนะคะ เพราะครูศักดากับน้ำผึ้งรู้จักกันมานาน เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่เรียนครูมาด้วยกัน น้ำผึ้งเองก็ชอบพูดถึงอยู่บ่อยๆ”
ภูฤทธิ์หน้าเศร้าเสียงก็เศร้า “เหรอครับ แล้วมาสอนที่เดียวกันแบบนี้ คงยิ่งสนิทกันไปอีก”
ฟ้าใสจับน้ำเสียงเศร้าๆ ของภูฤทธิ์ได้ ก็อดรู้สึกเห็นใจไม่ได้
“คุณภูฤทธิ์ก็สนิทกับน้ำผึ้งได้นะคะ เจอกันแทบทุกวัน สู้ๆนะคะ ฟ้าง่วงแล้ว แค่นี้ค่ะ”
ฟ้าใสวางสายไปทันที หัวใจเจ็บจี๊ด
ภูฤทธิ์งง “เดี๋ยวครับคุณฟ้า คุณฟ้า อะไรของเขาอยู่ดีๆ ก็ง่วง” ชายหนุ่มนึกได้ “ใช่ เราก็เจอคุณน้ำผึ้งทุกวัน ต้องเร่งทำคะแนนแล้ว”
ภูฤทธิ์ยิ้มมีความหวัง
ส่วนฟ้าใสกำลังหงุดหงิด
“คนบ้า อยากรู้เรื่องน้ำผึ้ง ชอบน้ำผึ้ง ทำไมไม่โทรไปหาเขาล่ะ โทรหาเราทำไม บ้าๆ”

ฟ้าใสปาตุ๊กตาไปใส่รูปของภูฤทธิ์ที่ติดอยู่ตรงผนังห้อง ระบายอารมณ์

อ่านต่อหน้า 4




มนต์รักอสูร ตอนที่ 1 (ต่อ)

รุ่งเช้า นันท์กับหอมนั่งรออ้อยอยู่ในห้องสมุดที่บ้าน เตรียมรอเรียน สักครู่อ้อยเดินนวยนาดออกมาในชุดสวยสมเป็นคุณครู สวมแว่นตาเสริมลุคครูอีกต่างหาก

นันท์กับหอมมองอ้อยอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะแต่งเต็มขนาดนี้
“พร้อมที่จะเรียนกันแล้วใช่ไหมคะ” อ้อยถาม
นันท์กับหอมพยักหน้า
“ดีมากค่ะ ถ้าอย่างนั้นเริ่มเรียนวิชาเลขกันก่อนเลยนะคะ”
อ้อยเปิดหนังสือ แต่แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นโจทย์ เพราะทำไม่ได้
“เร็วซิพี่อ้อยนันท์อยากเรียนแล้ว” นันท์เร่งใหญ่
อ้อยจำใจเขียนโจทย์เลขบนกระดาน ยืนงงทำไม่ถูก นันท์ต้องเป็นคนคอยบอก แต่ครูอ้อยยังเขียนผิดอีก เห็นดังนั้นนันท์ก็ยิ่งแกล้งหนัก อ้อยเลิ่กลั่กใหญ่ เขียนผิดเขียนถูก นันท์หัวเราะร่วนกับหอม

เวลาผ่านไป ครูอ้อยยืนปาดเหงื่ออยู่หน้านักเรียน
“เรามาเรียนวิชาภาษาไทยกันต่อดีกว่าค่ะ”
อ้อยอ่านวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ติดๆ ขัดๆ นันท์กับหอมฟังสีหน้าเบื่อๆ
“พี่อ้อย นันท์ไม่เข้าใจ พระอภัยมณีเป็นใคร นางยักษ์เป็นยังไง”
“พระอภัยมณีก็ต้องเป่าปี่ไงคะ”
อ้อยทำท่าเป่าปี่ นันท์ขำคิกบอกให้ทำอีก อ้อยทำท่าทางใหญ่ นันท์กับหอมหัวเราะ
นันท์กับหอมวาดหน้าอ้อยเป็นนางยักษ์ จนใบหน้าอ้อยเปรอะเปื้อน นันท์หัวเราะร่า ชอบอกชอบใจ

เทิดกับผันเดินเข้ามาในห้องสมุดที่ถูกใช้เป็นห้องเรียน แล้วพากันอึ้ง เพราะสภาพห้องเลอะเทอะไปหมด
“นี่มันอะไรกัน”
อ้อยหันหน้ามา เทิดกับผันตกใจ ที่เห็นอ้อยถูกเขียนหน้าจนเละ
“พ่อมาเรียนเรื่องพระอภัยมณีด้วยกันซิสนุกมากเลย พี่อ้อยสอนเก่งมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่อ้อยสอนแบบให้เห็นภาพเป็นผีเสื้อสมุทร พี่หอมเป็นพระอภัยเป่าปี่” นันท์หัวเราะชอบใจ
“คุณนันท์นี่มันไม่ได้เรียนแล้วครับ เล่นกันซะมากกว่า” ผันเซ็ง หันมาด่าว่าอ้อย “อ้อยแกทำอะไรเนี้ย พ่อบอกแล้วว่าแกสอนคุณนันท์ไม่ได้หรอก” แล้วหันมาบอกเทิด “นายครับหาครูคนใหม่มาสอนคุณนันท์เถอะครับ”
นันท์โวยวาย “ไม่เอานันท์จะให้พี่อ้อยสอน พี่อ้อยสอนสนุก”
“คุณนันท์ครับ อ้อยมันสอนคุณนันท์ไม่ได้หรอกครับ บวกเลขลบเลขง่ายๆ มันยัง คิดผิดคิดถูกเลย” ผันบอก
อ้อยโต้ “ฉันสอนนะพ่อ วันนี้ฉันสอนเลขคุณนันท์ด้วย”
“งั้นแกตอบพ่อมา 7 คูณ 2 ได้เท่าไหร่”
อ้อยมองผันเลิ่กลั่กตอบไม่ถูก นันท์ขำคิก
“โหพี่อ้อย 7 คูณ 2 ก็ได้ 14 ไง จะคิดนานทำไม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
นันท์ขำไม่หยุด เทิดมองนันท์ที มองผันที ผันพยักหน้ารู้กันกับเทิดว่านันท์ฉลาดกว่าอ้อย เทิดส่ายหัวระอาใจ
“เตรียมหาครูคนใหม่ได้เลย”

น้ำผึ้งสอนเสร็จ เดินออกมาพบศักดาที่สวนหย่อม และพาเขาเดินดูรอบๆ โรงเรียน
“โรงเรียนแถวนี้บรรยากาศดีจัง ถ้ามีโอกาสได้มาสอนประจำแถวนี้บ้างก็คงดีนะผึ้ง”
“ใช่ค่ะ แต่ผึ้งว่าสอนในเมืองเหมือนพี่ศักดาก็ดีนะคะ ไปมาสะดวกดีออก”
“ก็ต้องได้อย่างเสียอย่างล่ะ ผึ้งสนใจไปเป็นครูที่กรุงเทพฯเหรอ”
“ผึ้งไปไม่ได้หรอกค่ะ ต้องช่วยที่บ้านหลายเรื่อง ไหนจะพ่อแม่อีก”
“ดีแล้ว ช่วยดูแลพ่อแม่ ช่วงนี้ลำบากหน่อย แต่เดี๋ยวอะไรๆ ก็จะดีขึ้นเอง”
“ขอบคุณค่ะ แล้วนี่พี่ศักดาจะมาเที่ยวที่นี่กี่วันคะ”
“ก็น่าจะสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ก่อนจะไปที่อื่น คราวนี้ล่ะยาวเลย”
น้ำผึ้งแปลกใจ
“ไปที่ไหนคะ”
ศักดายิ้มหล่อ “อเมริกา”
น้ำผึ้งใจหายวาบ “อเมริกา ทำไมถึงไปไกลขนาดนั้นเลยคะ”
“พี่ได้ทุนน่ะ ไปเรียนโทเกี่ยวกับด้านการศึกษานี่แหละ กลับมาคงใช้ทุนเป็นข้าราชการ เอาความรู้มาพัฒนาด้านการศึกษาของประเทศ เราน่ะยังขาดบุคลากรที่มีความรู้อีกมาก ถ้าพี่ได้เป็นคนนั้นก็น่าจะดี ผึ้งคิดว่าไง”
น้ำผึ้งมองศักดาอย่างเป็นปลื้ม
“ดีสิคะ พี่ชายของผึ้งคนนี้เก่งจะตายไป”
“ชมเกินไปแล้ว แล้วผึ้งล่ะ วางแผนอนาคตจากนี้ไว้ว่ายังไง”
น้ำผึ้งนิ่งคิด “ผึ้งอยากสอบบรรจุเป็นครูให้ได้ซักที่น่ะค่ะ เที่ยววิ่งสอนพิเศษแบบนี้ ถึงจะได้เงินมันก็ไม่มีสวัสดิการอะไรรองรับ เบิกค่ารักษาพยาบาลให้พ่อแม่ก็ไม่ได้ รายได้ก็ไม่แน่นอนซักที ผึ้งอยากให้พ่อแม่สบาย ไม่ต้องมากังวลเรื่องนั้นเรื่องนี้อีก”
ศักดาเห็นใจน้ำผึ้ง พูดปลอบว่า
“ผึ้งเองก็เป็นคนเก่ง แถมยังเป็นคนดีด้วย จำที่บอกเมื่อกี้ได้ไหม ผึ้งต้องอดทนนะ ถึงมันจะลำบาก แต่อะไรๆจะดีขึ้นแน่นอน ผึ้งทำได้อยู่แล้ว”
น้ำผึ้งได้กำลังใจจากศักดา ยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่

ลำยองเดินขึ้นบันไดไปหยิบยาให้วัน ไอหนักตลอดเวลา พอตอนเดินลงรู้สึกเวียนหัว ตาพร่าเลือน และพลัดล้มตกบันไดลงมา
“ว้าย”
วันได้ยินเสียงร้องของเมียก็ตกใจ รีบลุกจากเตียง
น้ำผึ้งกลับเข้าบ้านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ร้องขึ้นสุดเสียงด้วยความตกใจถึงขีดสุด

“แม่.....”

อ่านต่อตอนที่ 3


กำลังโหลดความคิดเห็น