xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 11

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 11 

กลางคืน ปทุมวดีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น น้ำนั่งบีบนวดให้อย่างเอาใจ
 
“ไปตามมิวให้ฉันหน่อย”
น้ำลุกไปตามประภาพรรณ สักพักประภาพรรณก็เดินตามน้ำเข้ามา
“มีอะไรคะ คุณแม่สามี”
“พรุ่งนี้เตรียมตัวไปธุระข้างนอกกับฉัน”
ประภาพรรณแปลกใจ แต่ก็ดีใจที่ปทุมวดียอมให้ตามออกไปข้างนอก
“ได้ค่ะ”
ประภาพรรณนึกในใจ
“ไปกับมิวไม่ได้เข้าบ่อนแน่ คุณแม่สามี”
ปทุมวดีเห็นน้ำทำท่าเหมือนจะพูดอะไร
“เอ่อ น้ำขอไปกับคุณหญิงด้วยได้มั้ยคะ”
“ก็ดีนะ”
ปทุมวดีคิดได้ว่าไปหลายคนอาจวุ่นวาย จะแกล้งประภาพรรณไม่สะดวก รีบเปลี่ยนใจ
“อะ อย่าดีกว่า ให้มิวไปคนเดียวก็พอแล้ว”
“น้ำไม่ต้องไปหรอก พี่ดูแลคุณแม่สามีคนเดียวก็เหลือแหล่ อยู่บ้านคอยรับใช้คุณพ่อกับคุณกรดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะพรุ่งนี้ถ้ารับใช้คุณๆ เสร็จแล้ว น้ำขออนุญาตคุณหญิงออกไปข้างนอกซื้อของใช้ส่วนตัวหน่อยนะคะ”
ปทุมวดีพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำยิ้มนิดๆ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

เช้าวันรุ่งขึ้น รถยนต์ของปทุมวดีเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสมาคมอนุรักษ์ช้างไทย ปทุมวดี ประภาพรรณลงจากรถ
“วันนี้คุณแม่สามีไม่ไป”
“วันนี้ ฉันจะอยู่ที่นี่ หล่อนก็ต้องอยู่กับฉัน แล้วก็เพื่อนๆ ฉันด้วย”
ปทุมวดีหัวเราะ มองประภาพรรณด้วยสายตาสมเพช

น้ำค่อยๆ เดินขึ้นไปที่หน้าห้องนอนประภาพรรณ มองรอบๆ แล้วแอบเข้าไปในห้อง เดินดูห้องของประภาพรรณและพันกรอย่างใจเย็น ลูบไล้บนที่นอน หยิบเสื้อผ้าของประภาพรรณมาทาบกับตัว ยิ้มให้ตัวเองกับชุดเสื้อผ้าของประภาพรรณในกระจกอย่างสวยงาม
“สักวันหนึ่ง ทุกอย่างในห้องนี้ต้องเป็นของฉัน”
น้ำเดินไปที่รูปคู่ของประภาพรรณที่ถ่ายกับพันกร จ้องรูปแล้วเอามือไปบังรูปของประภาพรรณไว้ เหลือแต่รูปของพันกร เธอยิ้มหวานให้รูปของพันกร
“รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย”
น้ำจูบรูปของพันกรอย่างหลงใหล

ปทุมวดีเดินนำประภาพรรณเข้ามาในสมาคม คุณหญิงในสมาคมทั้งราตรี สายสมร รัตนา มารศรี ส่งสายตาเหยียดหยามประภาพรรณทันทีที่เห็นหน้า
“อุ๊ยตาย สะใภ้ตัวแสบ ยังหน้าด้านหน้าทนไม่ล้มหายตายจากไปซะที”
ปทุมวดียิ้มร้าย ชอบใจที่ราตรีพูด ประภาพรรณได้แต่อดทน ไม่ตอบโต้
“คุณพี่น่าจะพาน้ำมามากว่านะคะ ยังพอจะคุยภาษาคนกันรู้เรื่องบ้าง”
“เหรอคะ คุณน้อง”
พวกคุณหญิงหัวเราะชอบใจที่ราตรีพูดเหน็บประภาพรรณ ราตรีเดินเข้าไปใกล้ประภาพรรณ
“แต่คนนี้ ไม่รู้จะพูดภาษาอะไรถึงจะรู้เรื่อง”
ประภาพรรณหน้าตึง รู้สึกถึงความไม่เป็นมิตรอย่างรุนแรงจากทุกคน ปทุมวดี ราตรี หลิ่วตาให้กันที่เริ่มถากถางประภาพรรณได้ตามแผน
คุณหญิงอมราเข้ามาในสมาคม ด้วยท่าทางที่สง่างาม เดินมาหยุดตรงหน้าประภาพรรณ มองหัวจรดเท้า
“เบื่อที่สุด พวกแต่งตัวไม่รู้จักกาลเทศะ ที่นี่ สมาคมของผู้ดี ไม่ใช่เวทีของพวกนางร้ายนะ”
ปทุมวดี ราตรี และพวกคุณหญิงปรบมือชอบใจ อมรายังจ้องหน้าประภาพรรณอย่างไม่ละสายตา
“โลว์คลาส ไม่มีชาติตระกูล”
ประภาพรรณรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง โกรธแต่ก็ต้องยืนเฉยๆ อมรายังจ้องหน้า
“มือไม้แข็ง ไม่มีสัมมาคารวะ ฉัน คุณหญิงอมรา นายกสมาคมอนุรักษ์ช้างไทย หล่อนเดินเข้ามา ทำไมไม่ยกมือไหว้”
ราตรีรีบเสริม
“คนไม่มีการศึกษา มาจากถังขยะสกปรกๆ จะรู้จักมารยาทผู้ดีได้ยังไงล่ะคะคุณพี่หญิงอมรา”
ปทุมวดีกับพวกคุณหญิง หัวเราะเยาะประภาพรรณด้วยความขบขัน ประภาพรรณมองพวกคุณหญิงอย่างแค้นใจ มองไปทางปทุมวดีก็เห็นปทุมวดีสะใจ เธอพยายามตั้งสติ รู้ว่าคงตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้แน่นอน

แท็กซี่ขับมาจอดหน้าบ้านเก่าของเสริมบุญ น้ำลงจากรถรีบเดินเข้าไปในบ้าน เจอแห้งและลูกน้องเก่า 2 คนของเสริมบุญ
“โอ้โห นึกว่าได้ดีแล้วจะลืมพวกเราซะแล้วเว้ย”
น้ำยิ้มเหี้ยมกับลูกน้องทุกคน แต่ตั้งใจพูดกับแห้งเพราะเห็นว่าน่าจะใช้งานได้
“จะลืมได้ยังไง ฉันมีอะไรให้พวกแกช่วย แกสนใจมั้ยไอ้แห้ง”
“ได้เลยพี่น้ำ”
น้ำเข้าไปรวบรวมของบางอย่างของเสริมบุญ พวกรูปถ่ายเก่าๆ เอกสาร เงินที่ซ่อนไว้และของบางอย่างที่คิดว่าจะเอาไปใช้ แล้วโยนเศษเงินให้แห้งกับลูกน้องเก่านิดหน่อย ลูกน้องรีบแย่งกันตะครุบเงิน
“ตอนนี้มีเท่านี้ก่อน”
แห้งและลูกน้องเก่ามองน้ำรอฟังคำสั่งอย่างตั้งใจ
“ช่วงนี้เก็บตัวให้ดี ทำตัวให้พร้อม อย่าเสือกไปมีเรื่องกับตำรวจล่ะ มีงานแล้วจะติดต่อมา เข้าใจมั้ย”
“ได้เลย พี่จะตั้งแก๊งใหม่ชะมะเนี่ย”

น้ำพยักหน้า ยิ้มเหี้ยม




สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 11 (ต่อ)  

ปทุมวดีนั่งจิบน้ำชากับพวกคุณหญิง ให้ประภาพรรณยืนเซ็งๆ อยู่ข้างๆ เหมือนเป็นเด็กรับใช้
 
ประภาพรรณไล่มองคุณหญิงแต่ละคนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่รู้จะรังเกียจหรือเวทนาดี อมราเห็นไม่พอใจ
“หล่อนมองพวกฉันทำไม มีปัญหาเหรอ”
ประภาพรรณเฉย ไม่พูดอะไร ราตรีต่อว่า
“ทำตัวน่ารำคาญที่สุด พูดอะไรก็ไม่พูด ไม่มีปากหรือไง”
ปทุมวดีรีบเสริมขึ้นมา
“โถๆ คุณน้องขา คุณน้องเห็นหน้าแค่วันเดียวยังเบื่อ ยังรำคาญ แล้วคุณพี่ล่ะค่ะ ต้องเจอมันทุกวัน คิดดูแล้วกันว่าจะรู้สึกสะอิดสะเอียน ขยะแขยงแค่ไหน”
ราตรีสมทบด้วยการทำหน้าตา ท่าทางเหมือนประภาพรรณเป็นก้อนอะไรที่สกปรกมาก
“ขยะอย่างหล่อนน่ะ อีกไม่นานโดนทิ้งแน่”
ปทุมวดีหัวเราะชอบใจ หันมาจ้องหน้าประภาพรรณ
“รอให้โดนทิ้งไม่ไหวหรอกค่ะคุณน้องราตรี นี่คุณพี่ไล่ออกจากบ้านทุกวันยังไม่ไปเล้ย หน้าด้านที่สุด”
พวกคุณหญิงหัวเราะเยาะประภาพรรณกันใหญ่ ประภาพรรณฟังที่ปทุมวดีพูดรู้สึกเศร้าและเสียใจมาก ได้แต่อดทนเพราะเคยรับปากพันกรไว้ว่าจะยอมปทุมวดี เธอพยายามฝืนไม่ให้น้ำตาไหลต่อหน้าคนพวกนี้อย่างสุดชีวิต
“เพื่อคุณกร อดทนไว้ไอ้มิว นับหนึ่งถึงร้อยไว้”

ดวงแก้วและบุหงาขับรถป้ายแดงที่เสี่ยเป้ซื้อให้เข้ามาจอดที่ด้านหน้าสมาคม สองแม่ลูกหงุดหงิด ลงจากรถมายืนอยู่ด้านหน้าอาคาร
“ไม่รู้จะเรียกมาหาสวรรค์วิมานอะไร คุณกรก็ไม่ได้มาด้วย”
“อย่าบ่นเลยนังแพน เอาใจนังคุณหญิงหน่อย เผื่อจะมีข่าวดีหรือลาภลอยอะไร อีกอย่างเราก็มีรถป้าแดง ก็น่าจะมาอวดสักนิด”
สองแม่ลูกยิ้มให้กันแล้วเดินเชิดหน้าชูคอเข้าไปด้านในสมาคมด้วยท่าทางแบบผู้ดี โดยเฉพาะบุหงาที่ทุกย่างก้าวของเธอ ราวกับพญาหงส์ เธอตั้งใจแต่งตัวหรูหราชุดแบรนด์เนมใหม่ ปทุมวดีดีใจมากที่เห็นบุหงา พวกคุณหญิงยิ้มให้สองแม่ลูกอย่างชื่นชม
“ขอบคุณหนูแพน กับคุณดวงแก้ว ที่อุตส่าห์มานะคะ”
“คุณหญิงป้าเป็นคนสำคัญที่สุดของแพน ยังไงก็ต้องมาค่ะ”
“หนูแพนสวยเหมือนนางฟ้ามาจากสวรรค์เลย”
ปทุมวดีชื่นชมบุหงาแล้วหันไปมองประภาพรรณ
“แล้วดูอีกคนซิ ไม่รู้หลุดมาจากนรกขุมไหน”
ประภาพรรณยืนนิ่ง ตั้งสติด้วยความอดทน บุหงาถือโอกาสมองประภาพรรณด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ราตรีรีบเสริมขึ้นมา
“เหมือนหงส์ผู้สูงศักดิ์ กับอีกา ที่ใครๆ ก็รังเกียจ”
ราตรีหันมาหาปทุมวดี แต่พูดกระทบไปถึงประภาพรรณ
“หนูแพนสวยสง่า ดูดีมีชาติตระกูล การศึกษาก็ดี กิริยามารยาทก็งดงาม ดูกี่ครั้งๆ ก็เหมาะจะเป็นสะใภ้ของคุณพี่ที่สุดค่ะ”
พวกคุณหญิงปรบมือด้วยความชอบใจอีกครั้ง อมรามองประภาพรรณอย่างสมเพช ประภาพรรณยืนนิ่ง หายใจหนักเพื่อควบคุมอารมณ์ พยายามสุดชีวิตที่จะไม่แสดงความอ่อนแอออกมา อมราปรายตาพูดกับประภาพรรณ
“พูดอะไรไป คนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไร้สกุลอย่างหล่อนคงไม่เข้าใจซินะ”
ประภาพรรณหายใจถี่ๆ แทบจะคุมอารมณ์ไม่อยู่

ภายในห้องประชุมสมาคมอนุรักษ์ช้างไทย อมรานั่งเป็นประธาน ปทุมวดี ราตรี และทุกคนเตรียมพร้อมเริ่มประชุม ประภาพรรณยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง
“เริ่มประชุมนะคะ ทุกคน”
ปทุมวดี อมรา ราตรี ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้กัน แล้วอมราก็แสร้งพูดภาษาอังกฤษ
“The agenda for today is about the Baby elephant and how to protect them.”
ปทุมวดี ราตรี เหลือบมองประภาพรรณ
“As we all know that elephant populations in Thailand continue to decrease.”
ราตรีอวดภูมิ พูดต่อจากอมราทันที
“That’s because nowadays they are considered to be commercial animals.”
อมราแอบมองประภาพรรณ ยิ้มสะใจที่ประภาพรรณทำหน้างง ไม่เข้าใจเรื่องที่พูดกันเลย
“Yes, you’re right! Baby elephants are forced to perform on the street for money!”
ประภาพรรณเริ่มทนไม่ไหว จะเดินออกไปนอกห้อง
“มิวขออนุญาตออกไปข้างนอกค่ะ”
“ห้ามไปไหนทั้งนั้น เสียมารยาทที่สุด”
ปทุมวดีจ้องหน้าประภาพรรณ จนเธอต้องกลับไปยืนที่เดิม ปทุมวดียิ้มร้ายที่สั่งลูกสะใภ้ได้

ตอนเย็น พันกรกลับมาถึงบ้าน เห็นน้ำรดน้ำต้นไม้อยู่ เขาเดินผ่านเลยแกล้งทักทายเสียงดังลั่น
“ขยันเชียวนะ”
น้ำตกใจสะดุดขาตัวเองล้มไปกองกับพื้น พันกรรีบเข้าไปพยุง
“เป็นอะไรรึเปล่า”
น้ำทำเป็นเกรงใจ แสดงความเจียมเนื้อเจียมตัว
“น้ำไม่เป็นอะไรค่ะ คุณกร”
พันกรช่วยพยุงน้ำลุกขึ้นมา
“ไม่เป็นไร ฉันช่วยเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
พันกรช่วยประคองน้ำให้เดินกลับไปในบ้าน แต้วเดินมาเห็นรู้สึกหมั่นไส้น้ำมาก รีบเดินมาเข้ามาช่วยประคองน้ำแทนพันกร
“แต้วช่วยค่ะคุณกร”
น้ำไม่พอใจที่แต้วเข้ามาขัดจังหวะ แต่รีบกลบเกลื่อน
“ขอบคุณค่ะพี่แต้ว”
“ไม่เป็นไร”
พันกรเห็นว่าแต้วเข้ามาช่วยประคองน้ำก็เลยเดินกลับเข้าไปในบ้าน น้ำเห็นพันกรเดินออกไป เลยผละตัวออกจากแต้ว แต้วงง
“อ้าว ไม่เป็นอะไรแล้วเหรอยะ เมื่อตะกี้ยังเดินไม่ได้อยู่เลย”
“น้ำไม่เป็นไรแล้วพี่แต้ว น้ำเดินเองได้”
แต้วจ้องหน้าน้ำอย่างไม่ไว้ใจ
“ถ้าแกคิดจะงาบคุณพันกรเป็นผัว แกเลิกคิดได้เลยนะ”
น้ำเก็บอาการไม่ให้โมโหที่แต้วรู้ทัน
“ทำไมพี่แต้วพูดแบบนั้น น้ำไม่ได้คิดอะไรกับคุณกรนะคะ”
“ไม่คิดก็ดี เพราะคุณกรเธอมีเจ้าของแล้ว”
“น้ำรู้ค่ะว่าพี่มิวเป็น”
“ไม่ใช่นังมิว คุณแพนต่างหากที่จะได้ป็นสะใภ้ตัวจริงของบ้านนี้”
น้ำแกล้งตกใจที่แต้วพูด
“เหรอคะ น้ำไม่รู้จริงๆ ว่าคุณกรกับคุณแพนเขา”
“งั้นก็รู้ไว้ซะ แล้วอย่าคิดอาจเอื้อมจะเล่นของสูง”
“น้ำไม่กล้าหรอกค่ะ น้ำเป็นแค่คนอาศัย ไม่ทำอะไรแบบที่พี่แต้วบอกหรอก น้ำขอตัวไปช่วยพี่สมหมายต่อนะ”
น้ำเดินออกไป แต้วมองน้ำอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก

“ฮีโธ่ น้ำเป็นแค่คนอาศัย พูดซะหรู ก็ไอ้คนใช้เหมือนกันล่ะวะ”




สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 11 (ต่อ)  

ป้าม้วน ป้าบัวเผื่อน น้อยนั่งทำงานอยู่ในครัว แต้วหงุดหงิดเดินเข้ามานั่งกระแทกแรงๆ ป้าม้วนรีบถาม
 
“เป็นอะไรนังแต้ว อารมณ์เสียคิดถึงไอ้กล้ารึไง”
“ไม่ใช่เรื่องพี่กล้าหรอกป้า ฉันหมั่นไส้อีนังน้ำต่างหาก”
“แกไปหมั่นไส้เด็กมันเรื่องอะไรวะ”
น้อยได้ทีรีบแหย่แต้ว
“เด็กมันสาวกว่าสวยกว่าก็ต้องอิจฉาเป็นธรรมดาล่ะป้า”
“อีน้อย”
“พี่กล้าก็ไม่อยู่แล้ว ยังจะไปหึงเด็กมันอีก อย่าไปอคติกับมันเลยนังแต้ว”
แต้วตบโต๊ะเบาๆ มองทุกคน น้ำเสียงเคร่งเครียด
“ทุกคนฟังให้ดี ฉันจะบอกให้ว่านังน้ำ มันไม่เอาพี่กล้าของฉันหรอก มันหวังสูงกว่านั้น”
“แกว่าพี่กล้าเตี้ยเหรอนังแต้ว”
“โอ๊ย อีน้อย เมื่อไหร่แกจะหายโง่สักทีวะ ฉันหมายถึงว่านังน้ำ มันหวังจะงาบคุณกรไปทำผัวโว้ย ระวังกันให้ดีเถอะ”
“อีแต้ว เอ็งนี่ท่าจะเพี้ยนใหญ่แล้ว”
“ป้าม้วนคอยดูเหอะ นังน้ำมันจะวิ่งแซงนังมิวกับคุณแพน ถ้ามันกลายมาเป็นสะใภ้บ้านนี้ เราทุกคนก็ต้องเรียกมันคุณน้ำ คุณน้ำ แหวะ”
ทุกคนขำๆ ส่ายหน้ากับความคิดของแต้วที่พูดออกมา
“อีนี่ บ้าไปแล้ว”
น้อยบ่นไม่เชื่อ

กลางคืน ประภาพรรณนอนร้องไห้เงียบๆ อยู่บนเตียง พันกรอาบน้ำเสร็จออกมา หญิงสาวรีบปาดน้ำตาแต่ก็ยังดูหน้าซึมๆ พันกรเดินมานั่งบนเตียง เห็นภรรยาเศร้าๆ ก็เป็นห่วง เอามือจับที่หน้าผาก
“มิวไม่สบายรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“กลุ้มใจอะไร เล่าให้ผมฟังได้นะ”
ประภาพรรณส่ายหน้า ไม่อยากเล่าเรื่องที่โดนปทุมวดีกับพวกงคุณหญิงโขกสับให้พันกรฟัง กลัวสามีไม่สบายใจ พันกรหรี่ตามองหน้าภรรยา
“หรือว่าทะเลาะกับคุณแม่”
ประภาพรรณลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วสวมกอดพันกรด้วยความรัก
“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่มิวไม่ได้เป็นอะไรค่ะ สงสัยจะคิดถึงคุณกรมากไป”
พันกรดีใจดึงประภาพรรณเข้ามาหอมแก้มไปหนึ่งฟอด
“ไม่เป็นอะไรผมก็สบายใจ แล้วพรุ่งนี้มิวต้องออกไปไหนหรือเปล่า”
ประภาพรรณแอบถอนหายใจเบาๆ ไม่ให้พันกรสังเกต
“ถ้าคุณแม่สามีชวน ก็คงไปค่ะ”
พันกรพยักหน้ายิ้มๆ สบายใจ
“ผมดีใจนะ ที่มิวกับคุณแม่สงบศึกกันซะที ต่อไปผมจะได้ทำงานสบายใจ ไม่ต้องคอยห่วงมิวกับคุณแม่อีก”
พันกรกอดประภาพรรณย่างมีความสุข หญิงสาวแอบถอนหายใจอีกรอบ

ตอนเช้า ปทุมวดียิ้มระรื่นเดินนำประภาพรรณเข้ามาในสมาคมอนุรักษ์ช้างไทย ราตรียิ้มทักทาย บุหงา ดวงแก้วยกมือไหว้ปทุมวดี ปทุมวดีรับไหว้ทุกคนอย่างสนิทสนมคุ้นเคย ราตรีแกล้งทำท่าเหมือนเพิ่งเห็นประภาพรรณ แล้วจิกตาดูแคลนใส่
“ต๊าย สะใภ้หนังช้าง ก็มาด้วย นึกว่าจะไม่กล้ามาซะแล้ว”
ปทุมวดี บุหงา ดวงแก้วต่างหัวเราะชอบใจ
“หมายความว่าอย่างไรคะคุณน้อง พี่เคยได้ยินแต่รองเท้าหนังช้าง”
ราตรีเดินวนรอบๆ ตัวประภาพรรณ
“คุณพี่ขา หนังช้างมันเป็นยังไง หนังหน้าสะใภ้คุณพี่ก็เป็นอย่างนั้นละค่ะ ทั้งหนา ด้าน ทน เหมือนหนังช้างไงคะ”
“ถูกใจคุณพี่จังเลย พูดง่ายๆ ที่เขาเรียกว่าหน้าด๊านด้านใช่มั้ยคะ”
ปทุมวดีกับราตรีหัวเราะเยาะประภาพรรณกันอย่างสนุกสนาน แล้วเดินออกไป ประภาพรรณไม่ตอบโต้ ไม่แสดงสีหน้าใดๆ กลับมีอาการเหม่อลอยค่อยๆ เดินไปหาที่นั่ง นึกถึงคำพูดของพันกร
“ผมดีใจนะ ที่มิวกับคุณแม่สงบศึกกันซะที ต่อไปผมจะได้ ทำงานสบายใจ ไม่ต้องคอยห่วงมิวกับคุณแม่อีก”
บุหงา ดวงแก้วเห็นประภาพรรณดูซึมๆ เลยกระซิบกระซาบกัน
“นังมิว มันเริ่มออกอาการทดท้อต่อชีวิตแล้วแม่ สนุกจริงๆ”
“วันนี้แกก็จัดให้หนักๆ อีกสักดอก ให้ขวัญกระเจิงออกจากร่างไปเลย”
“ได้เลย เดี๋ยวอีแพนจัดให้”
บุหงา ดวงแก้ว มองประภาพรรณ ยิ้มร้าย บุหงาเดินเข้าไปด้านหน้าประภาพรรณซึ่งนั่งเหม่อลอยอยู่ โน้มตัวเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“แกเชื่อฉันมั้ยว่าในที่สุด แกก็ต้องแพ้ฉัน”
ประภาพรรณไม่สนใจบุหงา มองผ่านไปราวกับบุหงาเป็นอากาศธาตุ บุหงาโมโห
“จองหองนักนะแก พูดด้วยยังจะทำเฉย”
ประภาพรรณลุกขึ้นจะเดินหนีด้วยความรำคาญ
“จะไปไหน”
บุหงาเดินมาขวางประภาพรรณแล้วออกคำสั่ง
“เช็ดรองเท้าให้ฉันเดี๋ยวนี้”
ประภาพรรณจ้องหน้าบุหงาอย่างไม่เกรงกลัว
“บอกให้เช็ดรองเท้าฉันให้สะอาดเดี๋ยวนี้ไง”
ประภาพรรณฮึดกลับมาเป็นคนเดิม ตวาดบุหงากลับไป
“จะมากไปแล้วนะ ฉันไม่ใช่ขี้ข้าเธอนะแพน เป็นพวกพิการ ง่อยเปลี้ยเสียขาหรือไงถึงทำเองไม่ได้ ไปให้แม่เธอเช็ดให้ซิไป๊ ว่างๆ อยู่นี่ แล้วก็ไปให้พ้นๆ หน้าฉันซะที รำคาญ เห่าอยู่ได้”
บุหงากระทืบเท้า กรีดร้อง โมโหอย่างแรงที่โดนประภาพรรณตอกกลับชุดใหญ่ วิ่งแจ้นไปในห้องประชุม ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปหาปทุมวดี อมรา ราตรี ดวงแก้วก็ตกใจไปด้วย
“เป็นอะไรจ๊ะหนูแพน”
“คุณหญิงป้าขา มิวค่ะ นังมิวมันด่าแพนค่ะ”
ปทุมวดีของขึ้นทันที
“มันคิดว่ามันเป็นใคร ถึงกล้ามาด่าหนูแพนของป้า”
บุหงาแกล้งสะอึกสะอื้นต่อ
“แพนจะให้มิวช่วยเช็ดรองเท้าให้หน่อย เพราะแพนเจ็บมือค่ะ เลยทำเองไม่ถนัด”
บุหงาแกล้งเจ็บข้อมือ จับข้อมือตัวเองเบาๆ
“แพนขอให้ช่วยแค่นี้เองค่ะ มิวก็ด่าว่าแพนเสียๆ หายๆ ยังลามปามถึงคุณแม่ดวงแก้วด้วยนะคะ ว่าวันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่เมาท์นินทาคนอื่น แล้วมันก็บอกให้แม่ดวงแก้วมาเช็ดรองเท้าให้แทนค่ะ”
ปทุมวดีโกรธมาก
“ถ้าไม่เชื่อฟังกัน ไม่ยอมตามใจหนูแพน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้”

ปทุมวดีเดินไปหาประภาพรรณด้วยความโมโห อมรา ราตรีรีบเดินตาม บุหงา ดวงแก้วมองหน้ากัน ยิ้มให้กันด้วยความสะใจแล้วเดินตามไป




สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 11 (ต่อ)  

ปทุมวดียืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าประภาพรรณ บุหงาทำเป็นเจ็บข้อมือสำออยอยู่ข้างๆ
 
“หล่อนต้องเช็ดรองเท้าให้หนูแพน เดี๋ยวนี้”
ประภาพรรณทำหน้าเบื่อหน่ายมองหน้าบุหงาแล้วก็มองหน้าปทุมวดี
“ฉันบอกให้หล่อนเช็ดรองเท้าให้หนูแพนเดี๋ยวนี้ ไม่รู้เหรอว่าหนูแพนเธอเจ็บข้อมือ”
“มือก็มีตั้งสองมือ ถ้าเจ็บมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ใช้ได้นี่คะ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นง่อย”
บุหงา ดวงแก้ว กรีดร้องด้วยความเจ็บใจ
“คุณหญิงป้าขา ดูมันพูดสิคะ มันหาว่าแพนเป็นง่อย”
“ก้าวร้าว ไม่มีมารยาท พี่หญิงต้องจัดการมันให้น้องนะคะ”
ปทุมวดีจ้องหน้าประภาพรรณจะเอาเรื่องให้ได้ อมรา ราตรีก็ลุ้นให้ปทุมวดีเล่นงานประภาพรรณ
“ยอมไม่ได้นะคะคุณพี่ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”
“คุณหญิงคงต้องแตกหักกับนังเด็กต่ำๆ คนนี้แล้วล่ะค่ะ”
ปทุมวดีหายใจหนักๆ สร้างความมั่นใจ
“ถ้าหล่อนไม่ทำตามที่ฉันสั่ง ก็ไม่ต้องมานับถือฉันเป็นแม่สามีอีก และฉันจะไม่นับหล่อนเป็นสะใภ้บ้านนรินทร์จรรยาอีกต่อไป”
ราตรี อมรา ดวงแก้วสะใจ ประภาพรรณมองเหม่อออกไปข้างนอกไกลๆ ด้วยความท้อแท้ที่โดนบีบคั้นจากปทุมวดี แล้วก็ตัดสินใจก้มลงเช็ดรองเท้าให้บุหงาอย่างช้ำใจ ปทุมวดียิ้มอย่างผู้ชนะ
“ก็แค่เนี้ย”
ทุกคนมองประภาพรรณด้วยความพอใจเย้ยหยัน ประภาพรรณฝืนอดทนไม่ปริปาก ปทุมวดีและคุณหญิงทั้งหลาย เดินคุยกันกระหนุงกระหนิงกลับไปที่ห้องประชุม ประภาพรรณพยายามเดินเลี่ยงไปทางตรงกันข้าม บุหงาเห็นว่าคุณหญิงทุกคนเดินไปกันหมดแล้ว รีบเดินตามประภาพรรณไป
“เดี๋ยว แกฟังฉันนะ อีโง่ ถึงตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ที่บ้านนรินทร์จรรยา แต่ฉันจะเขี่ยแกให้ออกไปจากชีวิตพี่กร แล้วจะเอาพี่กรมาทำผัวซะ แกเตรียมตัวโดนผัวทิ้งได้เลย”
ประภาพรรณฟังที่บุหงาพูดอย่างไม่แสดงอาการใดๆ
“นี่ที่คุณโดนจับได้ที่เชียงรายยังไม่เข็ดอีกเหรอ”
“ฉันไม่สนหรอก”
“ฟังฉันให้ดีๆ เหมือนกันนะ เธอไม่มีทางได้คุณกรไปทำผัวแน่ๆ ขอย้ำ ไม่ มี ทาง”
ประภาพรรณจ้องเขม็ง จนบุหงาเองยังต้องขยาด แต่ก็ยังทำเป็นเชิดหน้าไม่ยอมเสียฟอร์ม

น้ำยิ้มแย้มอยู่ในครัวช่วยป้าบัวเผื่อนกับน้อยทำอาหาร แต้วนั่งซังกะตาย
“คุณหญิงไม่อยู่ คุณแพนไม่อยู่ บ้านนี้มันเงี้ยบเงียบนะป้าม้วน”
“นั่นสิ ข้าก็เบื่อเหมือนกัน ไม่มีอะไรทำ งีบดีกว่า”
น้ำได้ทีรีบสืบเรื่องบุหงา
“พี่แต้วจ๊ะ ตอนที่คุณแพนเขามาอยู่ที่นี่ เขาอยู่นานมั้ยจ๊ะ”
“แกจะรู้ไปทำไม”
ป้าบัวเผื่อนรำคาญเลยตอบเสียเอง
“ยอกย้อนนะแก เด็กมันถามดีๆ อยู่ไม่นานหรอก เห็นว่าจะออกไปทำร้านเสื้อผ้าหรืออะไรสักอย่าง”
“งั้นคุณแพนก็รวยอะสิจ๊ะป้าบัวเผื่อน มีเงินเปิดร้านด้วย”
“นังแต้ว ตกลงคุณแพนของแกรวยมั้ยวะ”
น้อยอดปากไว้ไม่ได้ขอร่วมวงด้วย
“รวยก็ไม่ต้องมาไล่ตามจับคุณพันกรหรอกป้า ถามได้”
น้ำฟังข้อมูลด้วยแววตากร้าว
“นังน้อย เอ็งลามปามคุณแพนของข้าอีกแล้วนะ เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย”
แต้วเดินไปผลักไหล่น้อยที่กำลังตำน้ำพริกอยู่ น้อยชูสากขึ้นมา
“มาเลยนังแต้ว สากเผ็ดๆ จิ้มตาสักทีมั้ย แกจะได้ตาสว่าง จะบอกให้นะ คุณแพนของแกน่ะไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหนหรอก คุณมิวต่างหากที่แกควรจะปกป้อง”
“นังคุณมิวเนี่ยนะ ฝันไปเหอะ”
ป้าม้วนลืมตาขึ้นอย่างรำคาญที่แต้วกับน้อยทะเลาะกันอีกแล้ว
“โอ๊ย เลิกกัดกันซะที”
น้ำครุ่นคิดอะไรในใจ

ตอนเย็น พันกรเข้ามาในบ้าน วางมือถือและพวงกุญแจรถไว้บนโต๊ะ แล้วเอนตัวลงนอนบนโซฟา ก่ายหน้าผากคิดเรื่องงาน น้ำเอาน้ำส้มคั้นสดๆ มาเสิร์ฟให้
“น้ำส้มคั้นสดๆ ค่ะคุณกร”
“ขอบใจนะ”
พันกรผุดลุกขึ้นนั่ง คว้ากุญแจรถ
“คุณกรเพิ่งเข้ามาจะออกไปอีกแล้วเหรอคะ”
“ไม่ได้จะไปไหนหรอก ฉันจะไปเอาซองเอกสารที่รถ”
“ให้น้ำไปเอาให้ก็ได้นะคะ”
พันกรคิดนิดหนึ่งแล้วหยิบกุญแจรถให้
“ซองอยู่ในช่องเก็บของด้านคนนั่งนะ เปิดรถเป็นมั้ย”
พันกรขยับเข้ามาใกล้น้ำ แล้วสอนให้กด
“กดตรงนี้นะ พอหยิบเอกสารเสร็จก็กดล็อกตรงนี้”
น้ำเขินที่ได้ใกล้ชิดพันกร ยืนเคลิ้มอยู่ไม่ออกไปสักที พันกรมองน้ำงงๆ ว่าเป็นอะไร
“น้ำ ไปเอาได้แล้ว”
น้ำ สะดุ้งจากภวังค์
“ค่ะๆ”
น้ำมาเปิดรถพันกร ขึ้นไปนั่งตรงที่ข้างคนขับ แล้วหลับตาพริ้ม จินตนาการว่าได้นั่งเคียงข้างพันกรบนรถ เธอมองหน้าชายหนุ่มอย่างมีความสุข
“น้ำอยากไปเที่ยวที่ไหน ผมจะพาน้ำไปเที่ยวทุกที่ ผมจะทำให้น้ำเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก”
“จริงๆ นะคะ คุณกรอย่าหลอกน้ำนะคะ”
“ผมรักน้ำนะ”
น้ำเขินสุดฤทธิ์นั่งบิดไปมา แต้วเดินมาเห็นน้ำนั่งม้วนไปมาดูท่าเขินๆ อยู่คนเดียวก็สงสัย ยืนดูอยู่สักพักทนไม่ไหว
“น้ำ น้ำ มาทำอะไรบนรถคุณกร”
น้ำรู้สึกตัวอีกทีก็ตกใจที่เห็นหน้าแต้วในระยะประชิด
“ตกใจหมดเลยพี่แต้ว น้ำมาเอาของให้คุณกรน่ะ ไปแล้วจ้ะ”

น้ำหยิบซองเอกสารรีบเดินออกไป
 
จบตอนที่ 11 


กำลังโหลดความคิดเห็น