xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 15

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 15

ภูมิกับยายนอนอยู่บนเตียง เป็นครั้งแรกที่ไม่มีอะไรมาวางกั้นกลาง
 
ภูมิแอบดีใจ กอดหมอนข้างนอนมองหน้ารามนรี
“คุณว่าพ่อผมจะเลิกกับกิ๊กได้ไหม”
“ได้ ถ้าเขายังมีใจให้กัน เพราะอย่างน้อยเขาก็ต้องมีความผูกพันกันอยู่ ก็อยู่ที่แม่คุณจะยอมปรับและเปลี่ยนตัวเองบ้างไหม”
“นั่นแหละที่ผมหนักใจ”
“เพราะปัญหาใหญ่ มันอยู่ที่แม่คุณไม่เคยรู้ตัวเอง ว่าเป็นจอมบงการ”
“ก็จริง”
“มันอาจมาจากความเคยชิน จนมองข้ามความเป็นผัวเมียไป”
“เป็นไปได้ ที่ผ่านมา แม่ทำเหมือนพ่อเป็นเลขาส่วนตัว มากกว่าเป็นสามี”
“มันก็เลยทำให้เกิดช่องว่าง และความน่าเบื่อ”
“อืม”
ภูมิกวาดตามอง จนแน่ใจ หันไปมองหน้ารามนรี
“ว่าแต่วันนี้คุณไม่กลัวผมแล้วเหรอ ไม่เห็นเอาอะไรมากั้นกลางระหว่างเรา กองพะเนินเหมือนเมื่อก่อน”
“คุณรู้ได้ไง แล้วทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วยล่ะ และตอนนี้ ฉันว่ามันไม่จำเป็นแล้ว”
“ใช่ ใช่ ผมก็คิดเหมือนคุณ แล้วมันก็เกะกะลูกตาน่าดู”
รามนรีหยิบไม้เบสบอลที่อยู่ใต้เตียงขึ้นมาชู
“แค่ไอ้นี่อันเดียวก็อยู่แล้ว”
ภูมิหุบยิ้มหน้าเซ็ง รามนรีเอาไม้เคาะที่พื้น
“นอนได้แล้วนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เข้าใจไหม”
“จะว่าไป คุณก็ไม่ได้ต่างอะไรกับแม่ผมเลย”
ภูมิงอน หันไปมองหน้ารามนรี ทั้งสองคว้าหมอนข้างที่วางอยู่ข้างๆ มากอดไว้ ก่อนหันหลังให้กัน ภูมิหน้าหงิก รามนรีอมยิ้มขำๆ

ตอนเช้า ภัทรนั่งจิบกาแฟไป อ่านหนังสือพิมพ์ไป ภูมิออกกำลังกับรามนรีเสร็จ เดินผ่านมา ภัทรรีบวางหนังสือพิมพ์ พยายามชวนคุย
“หมู่นี้ดูลูกหน้าตาสดใสขึ้นนะ”
“ครับ พอได้มาออกกำลังกายจริงจัง สุขภาพมันก็ดีขึ้นจริงๆ อาการภูมิแพ้ของผมก็ดีขึ้นมาก”
“ดีแล้วลูก”
ภัทรหันมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใคร
“ภูมิ คือ พ่ออยากจะขอบใจเรื่องเมื่อคืน ที่ภูมิยอมช่วยพ่อ”
“ผมไม่ได้ช่วยพ่อ แต่ผมกำลังช่วยแม่ ช่วยครอบครัวเรา”
ภัทรมองหน้าภูมิ ละอายใจและรู้สึกผิดในใจ
“เพราะผมยังหวัง ว่าครอบครัวเราจะไม่แตกแยก ต่างคนต่างไปเหมือนคนสมัยนี้ และผมก็เข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดเข้าใจในสิ่งที่พ่อเจอ แต่ตอนนี้ ผมยังหาวิธีที่จะเปลี่ยนแม่ไม่ได้”
“อย่าพยายามเลยลูก ไม่มีอะไรและไม่มีใครเปลี่ยนแม่เราได้หรอก”
“ต้องมีสิครับ”
ภูมิหน้าเศร้า มองพ่อ
“ขอแค่พ่อรอที่จะให้โอกาสแม่ พ่อต้องรอนะครับ”
ภูมิเดินออกไป ภัทรเครียด

ป้าผ่องกำลังทำอาหารเช้า กองแก้วยืนมอง หน้าหงิก ป้าผ่องจะหันมา กองแก้วรีบฉีกยิ้มทักทาย
“อ๊าย ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะป้าผ่อง”
“ขอบคุณค่ะ”
“รู้ไหม ว่าช่วงที่ป้าไม่อยู่แก้วเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ป้ากลับมาคราวนี้ก็ต้องทำใจหน่อยนะคะ”
“ทำใจอะไรเหรอคะ”
“ก็คุณวิรัช เดี๋ยวนี้แกไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะสิคะ”
“ทำไมเหรอคะ”
“ก็ตั้งแต่หนูเล็กหายไป เขาก็ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด บางทีก็ดุด่าว่าให้แรงๆ อย่างไม่มีเหตุผล แล้วบางทีก็มีหลงๆ ลืมๆ อีกด้วยนะคะ”
ป้าผ่องนิ่งฟังอย่างสงบ กองแก้วแอบสังเกตอาการ
“แก้วก็เลยรู้สึกเป็นห่วงป้า ว่าจะไหวไหม ถ้าไม่ก็ต้องรีบตัดสินใจแล้วกลับไป แต่ถ้าไหว ก็อยู่ช่วยกันที่นี่ แก้วจะดีใจและรู้สึกเป็นพระคุณมากค่ะ”
ป้าผ่องนิ่งคิดหน้าเครียด กองแก้ว ยืนลุ้น
“อืม ถ้าเป็นอย่างที่คุณแก้วว่า ก็น่าหนักใจนะ”
“มันเป็นไปแล้วจริงๆ ค่ะป้า”
“แต่ป้าก็ตัดสินใจแล้ว”
“ว่า”
“ว่าจะอยู่ที่นี่ไปจนตาย จะไม่ไปไหนอีกแล้วล่ะค่ะ”

ป้าผ่องหันไปทำกับข้าวต่อ กองแก้วหุบยิ้ม โกรธ

ภูมินั่งที่โต๊ะทำงาน ในห้องทำงาน โดยมีรายนรีนั่งอยู่อีกมุม รุ้งเคาะประตูยกกาแฟเดินยิ้มร่าเข้ามา
 
“กาแฟ มาแล้วค่ะคุณภูมิขา”
“ขอบคุณครับ”
รุ้งหุบยิ้มทันทีที่เห็นรามนรี รามนรีส่งยิ้มให้รุ้งด้วยแววตาเป็นมิตร แต่รุ้งเชิดใส่ ไม่ยิ้มตอบ ภูมิรู้สึกไม่ดี รีบแนะนำ
“นี่คุณเดือนฉาย ภรรยาผม”
รุ้งเชิดใส่ มองรามนรีไม่เป็นมิตร
“นี่คงจะเป็นคุณรุ้ง เลขาคุณใช่ไหมคะภูมิ”
“ใช่ครับ”
“เดี๋ยวรบกวนขอกาแฟอีกที่นะคะ ขอสูตร สอง หนึ่ง หนึ่ง เพราะฉันเป็นคนอ่อนหวานค่ะ”
รุ้งกำมือแน่น จำใจ
“ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ”
รุ้งรีบเดินออกไป รามนรียิ้มสะใจ
“ไปแกล้งเขาทำไม”
“คุณคิดว่าฉันดูไม่ออกรึไง ว่ายัยนี่ ก็อยู่ในชมรมคนตาต่ำที่มาหลงชอบคุณ”
“หือ ปากเหรอน่ะ”
“ถอยไป ฉันจะดูสิว่าคุณทำงานยังไง หรือว่ายืมแต่จมูกคุณไทหายใจตลอด”
“นี่คุณรู้ตัวไหม ว่าคุณกำลังดูถูกผมอยู่”
“ทำไม ก็ฉันดูถูกแล้วไง ไม่ได้ดูผิดสักหน่อย”
รามนรีเข้าไปดึงภูมิให้ลุกออกไปจากเก้าอี้ แล้วเข้าไปนั่งแทน
“นี่คุณกำลังทำตัวน่าเบื่อเหมือนแม่ผมไม่มีผิด ผมว่าเราไปหาเจ้าไทเลยดีกว่า”
“ไม่ได้ ฉันต้องรอกาแฟ จากแม่เลขานั่นก่อนสิ เดี๋ยวไม่สะใจ”
ภูมิส่ายหน้ามองรามนรีในมาดผู้บริหาร

รุ้งหน้าหงิก ตักกาแฟใส่ถ้วย ตักไปบ่นไป
“เป็นเมียแล้วไง แกดีกว่าฉันตรงไหน หะ”
รุ้งมองน้ำตาล เคียดแค้น เหมียวจะเดินเข้ามาชงกาแฟ เห็นรุ้งหลบแอบมอง
“นี่องค์อะไรลงหล่อนอีกแล้วเนี่ย”
“เป็นคนอ่อนหวานงั้นเหรอ”
รุ้งฉีกซองน้ำตาล แล้วเททิ้งด้วยความสะใจ
“ไม่ชอบน้ำตาลเพราะอ่อนหวาน งั้นเอาน้ำลายไปแทนก็แล้วกัน”
รุ้งบ้วนน้ำลายลงไปในถ้วยกาแฟ ก่อนเอาไปวางใส่ถาด เหมียวตกใจ
“นางบ้าทะลุองศาเดือดไปแล้วจริงๆ”
รุ้งยิ้มเหี้ยม ก่อนถือถาดเดินออกไป เหมียวออกมาจากที่ซ่อน
“แล้วใครกัน จะเป็นผู้โชคซวยจากกาแฟถ้วยนั้น ใครกันหว่า”
เหมียวครุ่นคิด

รามนรีกับภูมินั่งคุยกัน รุ้งเดินถือถ้วยกาแฟเข้ามาวางตรงหน้ารามนรี
“กาแฟ มาแล้วค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
รามนรีมองกาแฟ เอาช้อนคนไปมา
“อืม หอมมาก นี่คงเป็นอาราบิก้าพันธุ์ดี ใช่ไหมคะภูมิ”
ภูมิยักไหล่ไม่รู้
“ก็คงงั้น”
“ขออนุญาตตอบแทนเจ้านายนะคะ ใช่ค่ะมันคืออาราบิก้าพันธุ์ดีที่ดิฉันเพิ่งสั่งซื้อมา เพื่อคุณภูมิโดยเฉพาะ แต่ดิฉันโชคดีมาก ที่ได้มีบุญชงมาให้ภรรยาคุณภูมิได้ลิ้มลองก่อนใคร เชิญชิมเลยสิคะ”
รามนรีทำทียกไปที่ปาก รุ้งยิ้มเจ้าเล่ห์มองสะใจ แต่แล้วรามนรีวางถ้วยกาแฟลง รุ้งหุบยิ้ม
“ทำไมไม่ดื่มก่อนล่ะคะ”
“ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าหมอสั่งให้ดื่มกาแฟหลังอาหารเข้า กินก่อนไม่ได้”
“มา งั้นผมดื่มเองก็ได้”
รามนรีหันไปจิกตาใส่ภูมิ
“ไม่ได้ค่ะ เพราะถ้วยนี้ คือเลดี้เฟิร์ส เราต้องให้เกียรติคุณรุ้งเป็นคนดื่ม”
“มะ มะ ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่เป็นไรไม่ได้ คุณรุ้งต้องดื่ม ถือเป็นการให้เกียรติฉันกับคุณภูมิ จริงไหมคะภูมิ”
“จริงครับจริง นึกว่าให้เกียรติเรานะครับคุณรุ้ง”
รุ้งยิ้มแหย ก่อนจำใจยกกาแฟดื่ม รามนรีปรายตามองยิ้มสะใจ ภูมิมองสองสาว งงๆ

รามนรีเปิดประตูออกมาจากห้องภูมิ เพื่อจะเดินไปห้องน้ำ เหมียวเดินผ่านมาเห็น รีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณยาย”
“อ้าว สวัสดีค่ะคุณเหมียว”
“อย่าบอกนะว่า”
“ว่าอะไร”
“ว่าคุณยาย คือคนที่รุ้ง ชงกาแฟไปให้”
“ก็ใช่นะสิ”
“หะ”
“ละ ละ แล้ว คุณยายได้กินมันเข้าไปรึเปล่าคะ”
“เปล่า”
เหมียวถอนใจโล่งอก รุ้งเดินหน้าหงิกเข้ามาเห็น หลบแอบฟัง รามนรีแอบเห็นรุ้งพอดี
“ทำไม กลัวว่าฉันจะต้องกินกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำลาย หรือไม่ก็ปลายรองเท้าส้นสูงที่ใช้คนกาแฟถ้วยนั้นของฉันล่ะสิ”
รุ้งหน้าเหวอที่ถูกรามนรีรู้ทัน
“ทำไมคุณยายรู้ล่ะคะ”
รุ้งครุ่นคิด
“คุณยายงั้นเหรอ”
“ก็ไม่รู้สินะ จู่ๆ ก็อยากจะเดาว่ามันเป็นอย่างนั้น ก็เลยตัดสินใจให้เขากินของๆ เขาเข้าไปเอง”
เหมียวขำพรึด
“กินเข้าไปเอง”
รุ้งกำมือแน่นหายใจแรง ยิ่งแค้นสองสาว
“ใช่ เขาจะได้เรียนรู้ไว้ ว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นก็จะถึงตัวไง”
เหมียวหัวเราะสะใจ รุ้งสุดแค้น
“ฝากไว้ก่อน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”

รุ้งรีบเดินออกไป รามนรีแอบมองรุ้ง ยิ้มสะใจ

ไผทหน้าเหวอเมื่อฟังสิ่งที่ภูมิเล่า
 
“หะ พ่อแกมีกิ๊ก”
ภูมิพยักหน้า
“นี่แกสร้างเรื่องใส่ร้ายพ่อ เพื่อจะหาพวกรึเปล่าวะ”
รามนรีขำพรืด ภูมิฉุนกึก รู้สึกเสียหน้า
“จะบ้าเหรอ ฉันจะทำอย่างนั้นไปทำไม”
“อย่าเพิ่งโมโหสิ นี่มันเป็นแค่ข้อสงสัย เพราะคนอย่างแก อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”
ภูมิมองไผท ระงับอารมณ์
“ที่ฉันมา เพื่อให้แกช่วยคิด ไม่ได้ให้ช่วยซ้ำ”
“คนไม่มีเครดิต ก็เป็นอย่างนี้”
ภูมิมองรามนรีอารมณ์เสีย
“นี่ก็อีกคน พอกันเลย”
“แล้วพ่อแกว่าไง แกได้คุยรึยัง”
“เขาก็พยายามจะคุย แต่ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยด้วย”
“อ้าว ไม่คุยแล้วจะรู้ได้ยังไง จะแก้ปัญหาได้ไหม”
“ที่ฉันรู้ พ่อบอกว่าเบื่อแม่ที่ไม่ให้เกียรติแก ฉันก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือพ่อพูดเพื่อเอาตัวรอดกันแน่”
“แล้วตอนที่แกถูกคุณเดือนจับได้ว่ามีกิ๊ก แกพูดความจริงหรือพูดเพื่อเอาตัวรอด”
รามนรีหัวเราะสะใจ ภูมิมองเอาเรื่อง
“ถ้าฉันอยู่ไป แล้วทำให้ใครบางคนอึดอัด ฉันว่าคุณควรคุยกันให้จบ แล้วค่อยมาสรุปให้ฉันฟัง ว่าจะให้ฉันทำอะไร”
รามนรีแบมือ ขอกุญแจรถกับภูมิ
“อะไร”
“ขอยืมกุญแจรถหน่อยดิ”
“คุณจะไปไหน”
“จะไปเอากระเป๋าในรถ แล้วจะไปทำธุระ”
“ธุระอะไร”
“แล้วคุณเกี่ยวอะไร ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย”
“งั้นก็รีบไปเลยไป”
ภูมิยื่นกุญแจให้
“ขอบใจนะจ๊ะ เดี๋ยวเอามาคืนให้นะ”
รามนรีเอากุญแจใส่นิ้ว เดินกวนๆ ออกไป
“นับวัน ยัยนี่จะบ๊องๆ หนักขึ้นทุกวัน”
“ก็คงจะบ๊องพอๆ กับแกละมั้ง”
ภูมิค้อนใส่ไผท

รุ้งยืนที่หน้าอ่างล่างหน้า ในห้องน้ำของบริษัท เอามือล้วงคอให้อาเจียน หน้าเขียวหน้าเหลือง ก่อนเงยหน้ามองกระจก เหมียวเดินเข้ามา
“ไปทำอะไรมาเหรอจ๊ะรุ้ง ถึงได้มาล้วงคออ้วกโอ้กอ้ากซะขนาดนี้ หรือว่าไปกินอะไรที่น่าขยะแขยงมา”
“ไปไกลๆ อย่ามาเจ๋อ”
“ทำอย่างนี้เขาเรียกเจ๋อเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“งั้นเธอ ก็กรุณาอย่าไปเจ๋อเรื่องเจ้านายให้มาก ระวังเขาจะรำคาญเอานะ
“โอ๊ะอีนี่”
เสียงโทรศัพท์มือถือของเหมียวดัง เธอกดรับ
“ค่ะ คุณยาย จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เหมียวยิ้มเยาะให้รุ้ง
“ที่ต้องรีบไป ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ได้กลัว แต่ถ้าข้องใจ โอกาสหน้ายังมี และราตรียังยาว เข้าใจนะ”
เหมียวเดินเชิดออกไป รุ้งยิ่งแค้นรามนรี

ภูมินั่งหน้าหงิกคุยกับไผท
“สรุปว่าแกกับพ่อก็พอกัน”
“อะไร พอกันได้ไง ฉันยังโสด มีสิทธิ์ที่จะเลือกใครก็ได้”
“ฉันหมายถึง ชอบหาทุกข์ใส่ตัว หาเหาใส่หัวพอๆ กัน และดูท่า แกน่าจะหนักกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ”
“อะไร หนักอะไร”
“ก็ไหนจะเดือนฉายที่แกบอกเป็นของตาย แล้วยังประกายฟ้า ที่แกบอกว่าแค่ฮาๆ ขำๆ”
“ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม”
“ฉันว่าแกอย่าล้อเล่นกับชีวิต จะเลือกใครก็เลือกสักคน อย่ารักพี่เสียดายน้อง แกเป็นบ้าอะไร เห็นคนหน้าตาดีไม่ได้ แกจีบดะ เสียดายไปหมดเลย”
ภูมิหัวเราะก๊าก
“รู้จริงนะไอ้นี่”
“แล้วไหนจะคุณยายอีก ถามจริง แกชอบเขารึเปล่าวะ”
ภูมิหลบตา ปฏิเสธพัลวัน
“ไม่มี้ คนอย่างฉัน จะไปชอบยัยนั่นได้ยังไง ไม่ไหวหรอก”
“อ้าว ก็เห็นบอกว่าแอบเคลิ้มแอบใจสั่นกับเขาอยู่บ่อยๆ ก็นึกว่าชอบ”
“ฉันท่องไว้ ว่าเขาคือลูกจ้าง เขากับฉัน ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“ก็ดี ถ้าแกไม่ชอบ ฉันจะได้ลองจีบเขาดู”
ภูมิอึกอัก ไผทเหล่ตามอง
“ถ้าแกขอบเขา ก็จีบไปสิ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่”
“และขอบอกให้รู้ว่าผู้หญิงทุกคนลงได้รัก เขาก็ต้องคาดหวังว่าจะได้รักตอบ และผู้หญิงบางคนก็หวังมากกว่านั้น ถ้าสมมุติว่า คุณเดือนเขากลับมาก่อนเวลา เพื่อมาทวงถามความรักจากแก แกจะทำยังไง”
“อย่าสมมุติ อะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ ถึงเขากลับมา ฉันก็พลิ้วได้น่า ไม่ต้องห่วง”
“จงมั่นใจต่อไป ไอ้ปลาไหลตัวพ่อ แล้วเรื่องพ่อแก ฉันว่าแกจะต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม แกต้องคุยเพื่อให้รู้ปัญหา ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินแก้”
“นี่แหละที่ทำให้ฉันเครียด”
“คุณยาย คือคนที่จะช่วยแกได้”
“ฉันไม่แน่ใจ เพราะตอนนี้คุณยายของแก โดนแม่กับประกายฟ้าตามราวีอยู่”
“แกทำไมไม่ปกป้องเขา หรือว่าแก เล็งไปที่ประกายฟ้าเต็มที่แล้ว”
“ก็นิดนึง แต่ที่ผ่านมา ฉันก็ปรึกษาเขา เขาบอกให้นิ่งๆ ไว้ รอดูไปก่อน แต่ถ้าดูจากวันนี้ พ่อฉันคงจะยังไม่ยอมหยุด”
“พ่อลูกก็เหมือนกันเดี๊ยะ”
ภูมิย่นจมูกใส่
“ทีนี้ พอจะเข้าใจรึยัง ว่าพอมันเป็นเรื่อง ก็เครียดกันไปทั้งครอบครัว รวมทั้งเพื่อนอย่างฉันด้วย เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกเจ้าชู้กันเสียทีวะ”

ไผทส่งสายตาวิงวอน

รถหรูของภูมิจอดอยู่ รามนรีกับเหมียวเดินเข้ามา
 
รามนรีกดรีโมทเปิดประตูรถ เข้าไปที่เบาะหลัง ดึงเป้สะพายหลังที่มีภาพแต่งงานของภูมิกับตัวเองออกมา แล้วยื่นกุญแจรถให้เหมียว
“รบกวน ช่วยเอาไปคืนคุณภูมิให้ด้วยนะจ๊ะ”
“อ้าว ไม่เอารถไป แล้วทำไมไม่ให้คุณภูมิไปส่งล่ะคะ แล้วจะไปยังไงคะเนี่ย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปเองได้จ้ะ นี่ ขอถามหน่อยสิ”
“ได้เลยค่ะ”
“คุณรุ้งเลขา เขาแอบชอบคุณภูมิมานานรึยัง”
“เขาเคยเพ้อให้ฟัง ว่ามันเป็นรักแรกพบ ประมาณเห็นปุ๊บรักปั๊บเลยล่ะค่ะ”
“หือ ตาต่ำมาก”
“คุณยายพูดอะไร เหมียวได้ยินไม่ชัดเลยค่ะ”
“อ๋อ พูดว่า ถึงว่าดูท่าจะรักและหวงมาก ถึงได้กล้าเหวี่ยงวีนคนไปทั่วเลย”
“อย่าว่าแต่คุณยาย แม้แต่เหมียว ไม่รู้อะไรด้วย ก็ยังโดนยัยรุ้งเล่นงานเลย”
“ทำไงได้ก็เขารักของเขานี่ แล้วคุณภูมิเป็นไง เล่นด้วยไหม”
“ไม่เลยค่ะ”
“แน่ใจ”
“แน่ใจค่ะ ถึงคุณภูมิจะดูเจ้าชู้หนักมากแต่กับยัยรุ้งไม่มีแน่นอน เหมียวรับรองค่ะ”
“ขอบใจที่ให้ข้อมูล ฉันขอตัวก่อนนะ”
“สวัสดีค่ะคุณยาย แล้วมาบ่อยๆ นะคะ ยัยรุ้งจะได้เลิกเพ้อเสียที”
รามนรียิ้มให้ ก่อนเอาเป้สะพายหลัง เดินออกไป เหมียวมองรามนรีอย่างชื่นชม
“เป็นถึงภรรยาเจ้าของบริษัท แต่ทำตัวติดดินมากน่ารักจริงๆ เลยคุณยาย”
เหมียวยิ้มปลื้ม

ระพีกับศจี ช่วยกันเก็บของใส่กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ เพื่อย้ายไปอยู่บ้านศจี
“ถ้าไม่เกรงใจคุณแม่ ผมคงไม่กล้าไป”
“คิดมากอีกแล้วนะคะพี”
“ไม่ได้คิดมาก แค่ผมไม่อยากให้คุณด่างพร้อย จนกว่าจะถึงวันแต่งงานของเรา”
“แต่มันก็ใกล้จะถึงแล้วนี่คะ อีกไม่นาน เราก็จะเป็นคนๆ เดียวกันแล้วนะคะพี”
“ก็จริง”
“งั้นต่อไปนี้ เลิกคิดมากเสียที อย่าลืมสิว่าเรามีเรื่องอีกมากมายที่ต้องคิด ต้องทำ ไหนจะงานหมั้น แล้วยังมีปัญหาคาราคาซังที่รีสอร์ทอีก”
“อืม ก็จริงของคุณ งั้นต่อไป ผมจะไม่คิดมากแล้ว”
“ขอบคุณนะคะพี ขอบคุณที่ดีต่อกัน ที่รักกันมาตลอด ศจีรักพีที่สุดค่ะ”
ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน

สราญดี๊ด๊า เอาแก้มชนแก้ม ให้การต้อนรับประกายฟ้ากับพวงศรีอย่างขื่นมื่น
“เชิญค่ะ เชิญนั่งก่อนนะคะ นิด ไปเอาน้ำเอาท่ามารับรองแขกเร็ว”
นิดยิ้มร่า รีบเดินออกไป
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะคุณพี่ เราเรียบร้อยมาแล้วค่ะ”
“อ๊าย ไม่ได้ๆ บุคคลวีไอพี ก็ต้องต้อนรับแบบวีไอพี ขาดตกบกพร่องไม่ได้ เดี๋ยวเสียชื่อตายเลย”
“แล้วนี่พี่ภูมิ ไม่อยู่เหรอคะ”
“พี่ภูมิ เขาไปทำงานแต่เช้าแล้วจ้ะ”
“ว้า เสียดายจัง”
“ดูสิ น้องฟ้า ทำอะไรไม่งามต่อหน้าคุณแม่พี่ภูมิ ได้ยังไงกันคะ”
ประกายฟ้าแกล้งหลบตา
“ก็เขารักของเขา มันจะไม่งามตรงไหนคะคุณน้อง เอางี้นะ วันหน้า แม่จะพาหนูฟ้าไปแกรนด์โอเพนนิ่งที่ออฟฟิศรัตนคามด้วยตัวเอง ดีไหมจ๊ะ”
“ดีค่ะ ฟ้ากราบขอบพระคุณ คุณแม่มากๆ ที่เข้าใจฟ้า”
“แต่วันนี้ เราต้องรีบทำคะแนนกับคุณย่าก่อน ส่วนเรื่องพี่ภูมิเอาไว้ทีหลังเพราะมันของตาย แม่สามารถชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ได้ ไม่ต้องห่วง”
“ดีค่ะคุณแม่”
ภัทรแต่งตัวหล่อเดินเข้ามา พวงศรีกับประกายฟ้า ยกมือไหว้นอบน้อม สราญทักขึ้น
“นี่คุณจะไปไหนอีกเหรอคะ หมู่นี้ออกไปข้างนอกบ่อยจัง”
“บ่อยอะไร ผมก็แค่ไปคุยงานที่คุยค้างไว้ ยังสรุปไม่ได้ไงครับ”
“อ๋อเหรอ งั้นก็ไปเถอะค่ะ”
ภัทรยิ้ม มองประกายฟ้ากับพวงศรี
“งั้นขอตัวก่อนนะครับ จะได้รีบไปรีบมา”
ภัทรรีบเดินออกไป สราญมองสามี ยิ้มปลื้ม
“ในบรรดาสามียอดขยัน ต้องยกให้เขาคนนี้จริงๆ เลยล่ะค่ะ”
“ศรีล่ะอิจฉาคุณพี่จริงๆ เลย ที่ได้สามีดีๆ อย่างนี้”
“ของอย่างนี้ ก็อยู่ที่บุญวาสนา ว่าไหมคะคุณน้อง”
สราญหันไปหัวเราะร่ากับประกายฟ้าและพวงศรี ที่ฝืนใจแค่นหัวเราะตาม ในขณะที่ภัทรเดินผิวปากอารมณ์ดีเดินมาที่รถ เสียงโทรศัพท์มือถือดัง เขามองหน้าจอ หุบยิ้ม รีบกดรับ
“ว่าไงลูก หะ ให้พ่อไปหา ได้ลูกได้ เดี๋ยวพ่อจะรีบไปนะ”
ภัทรกดวางสาย ครุ่นคิด

จอสขับรถพาผสาน ผ่านประตูเข้าไปยังที่จอดรถในอพาร์ทเม้นท์ที่ระพีพักอยู่ รถแท็กซี่แล่นตามหลังรถผสานมาติดๆ เข้ามาจอด รามนรีเปิดประตูออกมา มองไปที่อพาร์ทเม้นท์

ย่านั่งดูตำราอาหารอยู่กับบุญปลูกและเภา
“เมื่อเช้าเภาให้พี่หวินซื้อถั่วพูมาเพียบเลยค่ะคุณท่าน กะว่าเย็นนี้จะทำยำ”
“เออ ดีๆ ฉันกำลังนึกอยากกินอยู่พอดีเลย ยำถั่วพูนี่จะว่าทำยากก็ยาก จะว่าง่ายมันก็ง่ายนะ”
“ใช่ค่ะ ยำถั่วพู หนักตรงที่ต้องใส่เครื่องเยอะ หลายอย่าง มันถึงจะอร่อย”
สราญพาประกายฟ้ากับพวงศรีและนิด เดินยิ้มร่าเข้ามาได้ยินพอดี
“อ๊าย คุณแม่อยากจะทานยำถั่วพูเหรอคะ”
ย่าพยักหน้า
“งั้นขอให้หนูฟ้าเป็นคนรับออเดอร์นี้ไปทำให้คุณแม่ทานจะได้ไหมคะ”
ประกายฟ้าหุบยิ้มหน้าเหวอ หันไปมองพวงศรี
“ก็ดี ฉันก็อยากจะชิมฝีมือหนูประกายฟ้าอยู่พอดี”
พวงศรีขยิบตาให้ประกายฟ้า
\“อ๋อ ค่ะ ค่ะ เดี๋ยวฟ้า จะทำให้คุณย่าทานสุดฝีมือเลยนะคะ”
“ศรีรับรองว่าฝีมือการทำอาหารของน้องฟ้า ต้องถูกปากคุณหญิงย่าแน่ๆ เพราะศรีสอนเขามากับมือเลยค่ะ”
“อืมดี”
สราญยิ้มร่า
“โบราณเขาว่า ดูวัวให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่ แถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนทั้งแม่ทั้งลูก โห ตาภูมินี่โชคดีจริงๆ คุณแม่ว่าจริงไหมคะ”
“อย่าด่วนสรุปนักเลยแม่สราญ รอให้หลานฉันเขาเป็นคนเลือกคนของเขาเอาเองเถอะ”
“ค่ะ คุณแม่”

สราญหลบตาต่ำ บุญปลูกับเภาสบตากันแอบขำ ประกายฟ้าหันไปมองหน้าพวงศรี แอบหนักใจ

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 15 (ต่อ)

รามนรีเข้ามาในห้องพัก เปิดกระเป๋าหยิบภาพแต่งงานออกมากางดูสักครู่
 
“มาอยู่ที่นี่ก็แล้วกันนะ”
รามนรีม้วนเก็บภาพ เอาไปเก็บไว้ที่ตู้หัวเตียง

ภูมิกับไผทนั่งอยู่ในห้องทำงานของภูมิ ภัทรเดินเข้ามาหา ไผทยกมือไหว้
“สวัสดีครับคุณพ่อ”
“อืม สวัสดี นี่เจ้าภูมิคงจะมาฟ้องอะไรไผทล่ะสิ แล้วเมื่อไหร่จะหายโกธรพ่อ แล้วคุยกับพ่อดีๆ เสียทีลูก”
“พ่อก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นสิครับ”
“ทำไมแก ไม่ยอมเข้าใจพ่อบ้างเลย”
“แต่พ่อกำลังทำผิดกับแม่ แล้วพ่อจะให้ผมอยู่เฉยๆ ได้ยังไงล่ะครับ”
“ภูมิเขาเครียด และเป็นห่วงพ่อจริงๆ นะครับ”
“พ่อรู้ แล้วถ้าพ่อจะขอให้แกเลิกยุ่งกับหนูฟ้า แล้วมารักและซื่อสัตย์กับหนูเดือนคนที่เขาเอาใจใส่ดูแลแก ยอมทำทุกอย่างเพื่อแก จะได้ไหม”
ภูมิอึ้งมองพ่อ
“ถ้าแม่แกเอาใจใส่ดูแลพ่อ ทำให้พอมีความสุขได้แค่ครึ่งหนึ่งของหนูเดือน มันก็คงจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่”
ภูมิหลบตาก้มหน้านิ่ง
“ภูมิ เกิดเป็นคน ใครๆ ก็แสวงหาความสุขกายสุขใจ พ่อก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ยังมีรักโลภโกรธหลง พ่อรู้ว่าแกไม่พอใจ แต่พ่อขอเวลาคิด และทบทวนอีกสักครั้งจะได้ไหม ว่าพ่อควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี”
ภูมิครุ่นคิด ก่อนหันไปสบตาไผท ที่พยักหน้าให้
“ก็ได้ครับพ่อ แล้วผมจะรอวันนั้น”
“ได้ งั้นพ่อขอตัวก่อนนะ”
ภัทรเดินออกไป
“แกว่าเรื่องนี้มันจะจบยังไงวะไอ้ไท”
“ไม่รู้ และไม่มีใครรู้ ต้องรอดูต่อไป”
“งั้นฉันก็คงต้องทนอยู่กับความอึดอัดใจต่อไป ใช่ไหมเพื่อน”
ไผทพยักหน้าให้

ระพี ศจี ผสาน และจอส นั่งคุยกันที่อาพร์ทเม้นท์ของระพี
“โชคดีมากเลยนะครับที่ผมเลือกมาวันนี้ เลยได้มาเจอพี่ ก่อนที่จะย้ายออกไป”
“สงสัยชาติก่อนคงจะเกี่ยวดองเป็นพี่น้องกันมาแน่ๆ นายหัว ให้ผมไปตัดสะตอในสวนมาฝากครับ”
“ขอบใจมากจ้ะ เห็นแล้วนึกอยากทานสะตอผัดกุ้งมากๆ เลย”
“ใช่ คุณแม่ของศจี ท่านทำเมนูนี้อร่อยมากๆ”
“พีคะ งั้นเย็นนี้ เราเชิญคุณผสานกับคุณจอส ไปทานข้าวที่บ้านเราดีไหมคะ”
ระพีอึกอัก ก่อนจำใจตามน้ำ
“ก็ได้ แต่ไม่ทราบว่าคุณผสานติดธุระอะไรรึเปล่า”
“โอ๊ย ไม่มีครับไม่มี สำหรับพี่พีผมว่างเสมอ ดีเสียอีก ผมจะได้ไปเยี่ยมบ้านพี่ไว้ อนาคตข้างหน้ามีอะไร เราจะได้ไปมาหาสู่ดูแลกัน”
“คุณผสาน ช่างเป็นคนจิตใจดี และมีน้ำใจจริงๆ”
ศจีชื่นชม ผสานหันไปสบตาจอสยิ้มพอใจ ระพีแอบสังเกตผสานกับจอส

สราญนั่งหัวเราะร่าอารมณ์ดี คุยกับพวงศรีอยู่ที่บ้านตัวเอง
“ป่านนี้คุณย่า คงจะรักจะหลงหนูฟ้าจนหัวปักหัวปำไปแล้วแน่ๆ”
“ไม่น่าจะพลาดนะคะ เพราะน้องฟ้า เขาเป็นคนหัวอ่อน ว่านอนสอนง่ายมาแต่ไหนแต่ไร ไปไหนก็มีแต่คนรัก”
“นั่นไง คุณพี่ถึงได้มั่นใจว่าหนูฟ้า ต้องเอาคุณย่าอยู่แน่ๆ”
“อุ้ยตาย ทำไมคุณพี่มั่นใจขนาดนี้คะ”
“มั่นใจสิคะ ก็คุณสมบัติของหนูฟ้ากับคุณน้องดีขนาดนี้ ไม่มีอะไรน่าห่วง”
สราญหยิบโทรศัพท์ มาเปิดดูดวงรายวัน
“เห็นไหมคะ วันนี้คุณพี่ดวงดีมากทำอะไรก็ดีไปหมด แต่ เอ๊ะ ทำไมเขาบอกว่าให้ระวังจะเสียของรัก และระวังพวกสิบแปดมงกุฎจะมาหลอก”
พวงศรีได้ยิน ถึงกับสำลักน้ำ สราญดึงทิชชูส่งให้
“อ๊าย เป็นไปไม่ได้ คนระดับคุณพี่ ทุกอย่างดีเพียบพร้อมไปหมด คงจะไม่มีอะไรมาทำให้คุณพี่ต้องเจอสิ่งไม่ดีได้หรอกค่ะ”
“ปากดี พูดดี คุณพี่ก็ว่าอย่างนั้นค่ะ”
“แล้วนี่ ลูกสะใภ้คุณพี่ หายไปไหนคะ”
“ไม่รู้มันหายหัวไปไหนแต่เข้า แต่ก็ดี ที่มันไม่อยู่ให้รกหูรกตาพวกเรา”

พวงศรีพยักหน้าให้สราญ

ย่าลองใจ หยิบหนังสือที่เคยให้รามนรีอ่านให้ฟัง
 
เอามาให้ประกายฟ้าอ่าน ประกายฟ้าเซ็งมาก อ่านผิดๆ ถูกๆ ย่าพูดเป็นกลอนเหมือนกับที่เคยพูดกับรามนรี
“แม้นชายใดใจประสงค์มาหลงรัก ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น อันความรักของชายนี้หลายชั้น เขาว่ารักรักนั้นประการใด”
ย่ามองประกายฟ้า หยั่งเชิงว่าจะตอบเป็นกลอนเหมือนรามนรีได้ไหม ประกายฟ้ามองงงๆ
“มีอะไรเหรอคะคุณย่า”
“เปล่าจ้ะเปล่า ย่าแค่อยากจะถาม ว่าหนูเคยได้ยินกลอนบทนี้ไหม”
“ไม่เคยเลยค่ะ”
“ถึงว่า ดูท่างงๆ”
“คุณย่าขา คนรุ่นใหม่เขาไม่สนใจใส่ใจเรื่องพวกนี้กันแล้วล่ะค่ะคุณย่า”
“เหรอ แล้วคนรุ่นใหม่ เขาสนใจอะไรกัน”
ประกายฟ้าหยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดมาโชว์ พรีเซ็นต์คล่องแคล่ว
“เรื่องน่าสนใจ มันอยู่ในนี้ค่ะ มาค่ะ คุณย่าอยากรู้เรื่องอะไรบอกมา ฟ้าจะทำให้ดูค่ะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ย่าก็พอจะรู้อยู่บ้าง”
“คุณย่าทันสมัยไม่เบาเลยนะคะเนี่ย”
“ย่าก็แค่อยากจะรู้ ก็เลยศึกษาดู แต่ย่าไม่ถึงขนาดเสพติดเทคโนโลยี”
ประกายฟ้ายิ้มแหย ก่อนเก็บโทรศัพท์
“ดูท่าเหมือนหนูจะเบื่อนะ ย่าว่าหนูไปพักเถอะ เดี๋ยวต้องเตรียมไปทำอาหารอีก จะได้ไม่เหนื่อยน”
“ขอบคุณค่ะคุณย่า งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ”
ประกายฟ้ากลัวย่าเปลี่ยนใจ รีบลุกเดินออกไป ย่ามองตาม ถอนใจ

รามนรีสะพายเป้ เดินมาตามทางของอพาร์ทเม้นท์ ก่อนนึกได้หยุดยืน
“โทรไปหาพี่พีดีกว่า”
รามนรีโทรศัพท์หาระพี แล้วเดินสบายอารมณ์ต่อไป

ภูมินั่งดูเอกสารที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รุ้งเคาะประตู ถือกาแฟเดินเข้ามาวางไว้ตรงหน้า
“คุณภูมิขา นี่ก็บ่ายแล้ว ไม่คิดจะทานข้าวบ้างเลยเหรอคะ”
“ไม่เป็นไร ขอเหมาไปมื้อเย็นเลย มื้อนี้แค่กาแฟ ก็พอ”
“ได้ค่ะคุณภูมิ”
ภูมิหยิบกาแฟไปจิบ รุ้งยังไม่ยอมไปไหน
“อ้าว มีอะไรก็ไปทำสิ มายืนมองหน้าผมทำไมเนี่ย”
“คุณภูมิ รุ้งขอถามอะไรหน่อยจะได้ไหมคะ”
“ได้สิ มีอะไรก็ว่ามา”
“คือ รุ้งอยากจะรู้ว่า ผู้หญิงคนที่มา เป็นภรรยาคุณภูมิจริงไหมคะ”
“ก็จริงน่ะสิ แล้วผมก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณถึงไม่เชื่อว่าเขาเป็นภรรยาผม”
“ก็ตั้งแต่รุ้งเป็นเลขาคุณภูมิมา ไม่เห็นมีวี่แววว่าคุณภูมิจะแต่งงานเลยนี่คะ”
“ของอย่างนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน คงเป็นเพราะบุพเพสันนิวาส ที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ ว่าแต่คุณจะเลิกถามได้รึยัง ผมจะได้กินกาแฟ”
“ค่ะ ค่ะ งั้นรุ้งไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”
รุ้งรีบเดินออกไป ภูมิมองเหนื่อยใจ

ระพี ศจี ผสาน เดินคุยกันมา จอสถือกระเป๋าของระพี เดินตามหลังมา เสียงโทรศัพท์ระพีดัง
“ใครโทรมาเบอร์แปลกๆ”
“หรือว่า หนูเล็กคะ”
“อืม ก็เป็นไปได้นะ”
ผสานหันขวับไปมองหน้าระพี รามนรีเดินยิ้มถือโทรศัพท์แนบหู ก่อนมองไปตรงหน้า เห็นผสานกับระพี
รามนรีหุบยิ้มหน้าเหวอ ยืนนิ่ง ตัวชาวาบ
“พี่พี”
รามนรีตั้งสติ ก่อนหลบวูบเข้ามุม
“นี่พี่พีก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอเนี่ย”
รามนรีมองไปเห็นผสานคุยกับระพีอย่างชื่นนมื่น
“ทำไมทุกคนพากันไปหลงคารมนายผสานกันหมดเลย”
รามนรีถอนใจ

ประกายฟ้า นั่งหน้าเครียด หลบมาคุยกับพวงศรีในสวนบ้านภูมิ
“โอ๊ย หนูจะบ้าตาย เพิ่งจะรู้ว่าคุยกับคนแก่นี่มันน่าเบื่อมาก”
“เบาๆ หน่อยสิ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า ก็เป็นเรื่องหรอก”
“ก็หนูเบื่อก็ต้องบ่นสิคะ แล้วให้อ่านโคลงกลอนอะไรก็ไม่รู้ หนูอ่านไม่เป็น”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เดาได้ ว่าแกคงเอาคุณย่าไม่อยู่ ตามที่คุณสราญคาดการณ์ไว้”
“หนูเบื่อ หนูไม่เอาแล้ว ต่อไปแม่ต้องช่วยกัน อย่าให้หนูต้องไปอยู่กับคุณย่าอีก”
“แล้วมันจะเป็นไปได้ไหม.ใจเย็นๆ ก่อนสิลูก ก่อนมา เห็นมั่นใจนักหนา ว่าจะสู้เต็มที่”
“แต่หนูว่า หนูควรจะสู้กับพี่ภูมิมากว่า ที่จะมาสู้กับยัยคุณย่าค่ะแม่”
“เอาเถอะๆ ตอนนี้เราต้องยอมตามน้ำไปก่อน อย่าผลีผลามทำอะไรให้เขาจับได้ว่าเราจัดโปรโมชั่นอยู่ ไม่งั้นอด และจบข่าวแน่”
ประกายฟ้าหน้าหงิก
“หรือถ้าเบื่อบ้านนี้จะขอบายไปหาเสี่ยอุดรก็ได้ แม่ยินดี”
“อ๊าย ไม่เอา ฟ้าไม่ชอบคนแก่ ฟ้าจะเอาพี่ภูมิ”
พวงศรีแอบยิ้ม
“งั้นก็ต้องเชื่อฟังแม่”
“ก็ได้ แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้ คือยำถั่วพูที่เขาจะให้หนูทำ แม่ก็รู้ว่าหนูทำกับข้าวไม่เป็น”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา อย่าลืมสิ ว่าแม่มีสติปัญญาเยอะ แผนแม่มีเป็นกะตั้ก”

สองแม่ลูกกระซิบกระซาบกัน

ระพี ศจี ผสาน และจอส เดินไปคุยกันไป รามนรีย่องตามไปหลบแอบฟัง ผสานลองหยั่งเชิงถามระพี
 
“พี่พีครับ ไม่ทราบว่าคุณหนูเล็ก เขาติดต่อกลับมาบ้างไหม”
“ตั้งแต่ลงประกาศไป เขาติดต่อมาแค่ครั้งเดียว แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะสายหลุดไป แล้วก็ไม่โทรมาอีกเลย”
ผสานผิดหวัง ส่ายหน้าดูน่าสงสาร
“แต่ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนกับเขากลัวและไม่อยากกลับมา ผมก็อยากจะถามคุณผสาน ว่าเคยไปทำอะไรให้เขารู้สึกไม่ดีรึเปล่า”
ผสานตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ
“ที่ผ่านมา ผมไม่เคยทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจ ผมมีแต่ยอมและตามใจเขาทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใจในความรักและความดีของผมเลยครับพี่พี”
“จริงๆครับ จอสยืนยันได้ ว่านายหัวของจอสเฝ้าแต่รักเฝ้าแต่รอคุณหนูเล็กจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอด จอสสงสารนายหัวมาก”
ศจีมองสงสาร
“น่าเห็นใจ คุณผสานจริงๆ”
รามนรีมองแค้น
“หือ ไอ้ทุเรศ มุสาทั้งนายทั้งบ่าว เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว”
“เดี๋ยวเชิญคุยกันไปก่อนนะคะ ศจีขอตัวไปเอารถมารับนะคะ”
“งั้นผมไปเอารถด้วยครับ จะได้ขับตามกันไป”
จอสวิ่งตามศจีไปที่จอดรถ
“ผมว่ามันต้องมีอะไร รอไว้เจอตัวยัยหนูเล็กเมื่อไหร่ เราจะได้รู้ปัญหาของเขา”
“ครับพี่ ถ้าเราช่วยกัน ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานเราต้องตามเขาเจอแน่ๆ”
รามนรีมองผสานแค้น
“ฝันไปเถอะ”
“ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ช่วงนี้ผมจะอยู่ที่กรุงเทพยาวเลย จะได้มีเวลาตามหายัยหนูเล็กมากขึ้น”
“ผมก็อยู่ที่นี่ พี่พีมีอะไร ก็เรียกใช้ผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับพี่”
“ขอบคุณมาก มีอะไรแล้วผมจะโทรไปนะ”
รามนรีมองระพี เซ็ง ก่อนมองไปเห็นศจีกับจอสขับรถเข้ามาจอด
“เดี๋ยวเราไปคุยกันต่อที่บ้านศจี ดีกว่านะครับ”
“ครับพี่”
ระพีกับผสาน แยกกันไปขึ้นรถ แล้วขับตามกันออกไป รามนรีหน้าเศร้า ผิดหวังอย่างแรง

ไผทนั่งทำงานอยู่ที่บริษัท ภูมิเดินเข้ามาหา
“ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย ยัยรุ้งเขาเยอะกับฉันขึ้นทุกวันเลยว่ะ”
“ก็เสน่ห์แรงนักไม่ใช่เหรอ”
“ช่วยไม่ได้ คนหล่อก็งี้ นี่เย็นแล้ว เลิกทำงานแล้ว ไปกินข้าวกับฉันได้แล้วไป”
“แกไปเถอะ ฉันขออยู่ทำงานต่อดีกว่า ขี้เกียจไป”
ภูมิรีบเข้าไปปิดคอมพิวเตอร์ เก็บเอกสาร
“ไม่ได้ แกต้องไปกินข้าวกับฉัน เร็ว”
ไผทจำใจเก็บของ
“ไม่เข้าใจ ทำไมแกชอบลากฉันไปด้วย ทั้งที่ฉันไม่ได้ขอบเลย”
“ยิ่งเกลียดยิ่งไม่ขอบอะไร จะยิ่งเจอ เข้าใจไหม”
ภูมิยักคิ้วหลิ่วตาหน้ากวนใส่ไผท

สราญนั่งอยู่ในห้องรับแขกบ้านตัวเอง พวงศรีพาประกายฟ้าเดินเข้ามา
“มาแล้วเหรอลูก มา มานั่งข้างๆ คุณแม่สิคะ”
ประกายฟ้าเดินหน้าเหนื่อย ทำเหมือนป่วยเข้ามา
“แล้วนี่เป็นอะไร คุณย่าใช้งานหนักไป รึไม่สบายคะลูก ต้องเป็นเพราะคุณแม่ ที่จงใจจะแกล้งหนูฟ้าให้ทนไม่ไหว แน่ๆ”
“อุ๊ย อย่าไปว่าคุณย่าท่านเลย ท่านเป็นผู้ใหญ่ ต้องมีใจเป็นธรรมอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“อุ๊ยตาย ช่างโลกสวยใส และจิตใจงดงาม เหลือเกินนะคะคุณน้อง”
“ทำไงได้ ก็ท่านเป็นผู้ใหญ่นี่คะ ว่าแต่เมื่อกี้ ศรีแตะตัวน้องฟ้าตัวแกร้อนรุมๆ แต่ก็ยังยืนยันจะอดทนสู้ จนศรีรู้สึกสงสารลูกจับใจในความพยายามของแก”
“ไม่เป็นไร ฟ้าทนได้ค่ะ แต่ขอพักสักครู่ เดี๋ยวฟ้าจะรีบไปทำยำถั่วพูให้นะคะ”
สราญมองสงสารประกายฟ้า พวงศรีได้ที รีบพูด
“เอาอย่างนี้ดีไหมคะคุณพี่ เรื่องยำถั่วพู คุณพี่หาคนมาทำแทนน้องฟ้าจะได้ไหม แต่เราบอกคุณย่าว่าน้องฟ้าเป็นคนทำ”
“ถ้าไม่อยากให้ความลับรั่วไหล ทำไมคุณน้องไม่ทำเองล่ะคะ เห็นว่าฝีมือดีไม่เบา”
“แต่ตอนนี้ศรีไม่พร้อม หนำซ้ำตอนนี้ยังนิ้วล็อคอีก จะหยิบจับอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ”
พวงศรีแกล้งทำนิ้วแข็งทื่อให้สราญดู รามนรีเปิดประตูเดินเซ็งๆ เข้ามา ก่อนตกใจ รีบยกมือไหว้สราญกับพวงศรี เลี่ยงเดินหลบไป สราญคิดอะไรได้
“เดี๋ยวแม่เดือนฉาย”
“ค่ะคุณนาย”
“เดี๋ยวหล่อนช่วยทำยำถั่วพูให้ฉันหน่อย”
“ได้ค่ะ”
“แต่เธอต้องไปเอามาทำที่นี่ ทำแทนหนูฟ้า เพราะเขาไม่สบาย แล้วก็ห้ามบอกใครว่าเธอเป็นคนทำ เข้าใจไหม”
ประกายฟ้าทำเป็นไม่สบายนั่งที่โซฟา หันไปมองหน้าพวงศรี ยิ้มสะใจ รามนรีมองหน้าสราญ
“จะมามองหน้าฉันทำไม หรือไม่พอใจที่ฉันใช้ หะ”
“เปล่าค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้ว และขอให้เข้าใจด้วยนะว่าต่อหน้าคุณย่า ฉันจำเป็นต้องทำดีกับหล่อน แต่ลับหลัง ฉันก็ยังรังเกียจหล่อนเหมือนเดิม”
“ค่ะ”
ประกายฟ้ากับพวงศรี ยิ้มสะใจ รามนรีเดินออกไป สราญพยักหน้าให้นิดสะกดรอยตามไป แล้วหันไปยิ้มให้ประกายฟ้ากับพวงศรี
“อ๊าย คุณพี่หัวดีหัวไวที่สุดในสามโลกเลยค่ะ”
“แน่นอนสิจ้ะ”
สราญทำหน้าฉลาดยิ้มมั่นใจ

ในห้องครัวบ้านย่า เภาหยิบถั่วพูมาวางที่เขียง เตรียมหั่น รามนรีเดินเข้ามา นิดตามมาติดๆ แอบมองข้างห้องครัว
“เดี๋ยวค่ะพี่เภา ยังไม่ต้องหั่นจ้ะ”
“อ้าว คุณเดือน มีอะไรเหรอคะ”
“คุณสราญให้ฉันมาเอาถั่วพู ไปให้คุณฟ้าทำยำให้คุณย่าที่บ้านโน้นค่ะ”
เภาวางมีด เซ็ง บุญปลูกไม่พอใจ
“จะทำ ก็น่าจะเสด็จมาทำที่นี่ก็ได้ ต้องให้คนอื่นขนไปให้ทำอีก”
“ยังจะเยอะได้อีก”
นิดมองไม่พอใจ พึมพำเบาๆ
“หืออีพวกขี้ข้า ทำเป็นปากดีไปเถอะ”
“อย่าวิจารณ์ให้มากเรื่องกันเลยน่า เขาสั่งอะไรก็รีบทำตามสั่ง เดี๋ยวคุณเดือนก็ได้เดือดร้อนอีกหรอก”
ถวิลเตือน บุญปลูกกับเภามองรามนรีด้วยความห่วงใย ก่อนจะรีบช่วยกันจัดทุกอย่างให้ นิดมองสะใจ รีบวิ่งออกไป รามนรีเดินถือของมาทางสวนบ้านภูมิ ประกายฟ้ากับพวงศรียืนดักรออยู่
“นี่เธอ”
“ลูกฉันเรียก แกไม่ได้ยินหรือไง”
“ทำไม มีอะไรก็ว่ามาสิ”
“ฉันขอถาม เพราะฉันสงสัย ว่าทำไมเธอถึงได้หนาขนาดนี้”
“ใช่ รู้ทั้งรู้ ว่าแม่เขาไม่ได้เอาแก ก็ยังจะมาหน้าด้านหน้าทนอยู่ไปทำไมให้ เขารำคาญ ถ้าเป็นฉันคงจะหนีไปนานแล้ว”
“เหรอคะ แม่ไม่เอาแต่ลูกเอา แล้วป้าจะให้ฉันทำยังไง ฉันเป็นคนกลาง ฉันหนักใจนะคะ และที่สำคัญฉันเป็นคนสู้คน ไม่ชอบหนีเสียด้วยค่ะ”
“หน้าด้าน”

“ถ้าจะพูดถึงความหน้าด้าน ฉันคงจะสู้พวกคุณไม่ได้แน่ เพราะเล่นวิ่งแร่มาหาเขาถึงบ้าน ถ้าไม่เรียกหน้าด้านก็ไม่ไหวนะคะ”

รามนรีป้องปากหัวเราะกวนๆ สองแม่ลูกเต้นเป็นเจ้าเข้า
 
“แต่ก็น่าเห็นใจ ผู้ชายไม่สนใจ ไม่อยู่ให้อ่อยเหยื่อ ก็เลยต้องเข้าทางแม่”
ประกายฟ้ากับพวงศรี โมโหจนตัวสั่น
“แก แก หาว่าฉันอ่อยผู้ชายงั้นเหรอ”
พวงศรีทนไม่ไหวปรี่จะเข้าไปตบรามนรี
“แน่จริงก็เข้ามาสิ ยำเยิมนี่ จะได้ไม่ต้องทำ เพราะฉันจะเอายำไว้ที่หน้าแก”
รามนรีทำท่าจะฟาดของไปที่พวงศรี สองแม่ร้องห้ามเสียงหลง
“อย่า"
รามนรียั้งมือไว้ มองสองแม่ลูกอย่างสะใจ

ที่ห้องรับแขกบ้านศจี ทุกคนกินอาหารเสร็จ นั่งคุยกัน ผสานเอ่ยชมเจือจันทร์
“ผัดสะตอฝีมือคุณแม่ อร่อยสมคำเล่าลือจริงๆ เลยครับ”
“จอส งี้กินจนพุงปลิ้นเลย”
“แม่ศจี คงจะไปคุยไว้เสียเยอะเลยล่ะสิ”
ศจีอมยิ้มขำๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้
“นี่ดีนะที่อาหารถูกปากคุณผสานกับคุณจอส ไม่งั้นแม่มีหวังเสียหน้าแย่”
“ก็หนูพูดความจริง ไม่ได้โม้เลยนะคะแม่ ไม่เชื่อถามพีดูก็ได้”
ระพียิ้มให้
“จริงครับ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ สุดยอดจริงๆ”
“จ้า แม่เชื่อก็ได้ แต่คราวหน้าพีต้องพยายามปรามยัยศจี อย่าให้ไปโฆษณาชวนเชื่อใครเขาอีก แม่กลัวหน้าแตกน่ะ”
“เอาเป็นว่า ผมกับจอส ยืนยันว่าอร่อย และคงจะขอสมัครเป็นลูกเป็นหลานบ้านนี้ จะได้อาศัยมากินอาหารอร่อยๆ ฝีมือคุณแม่ที่นี่อีก”
“หวังว่า คงจะยินดีต้อนรับนายหัวกับจอสนะครับ คุณแม่”
“จ้า ว่างเมื่อไหร่ ก็มากันได้เลย แม่ยินดีต้อนรับจ้ะ”
ทุกคนยิ้มให้กัน

ในห้องครัวบ้านย่า บุญปลูก เภา ถวิล ยืนคุยกัน
“บอกตามตรง ฉันไม่เชื่อว่ายัยประกายฟ้าประกายดินนั่นจะทำกับข้าวเป็น”
“แม้แต่ท่านแม่พวงหรีดนั่น ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกันพี่ปลูก”
ถวิลมองสองคนเซ็ง
“เอาอีกแล้ว หาเรื่องกันอีกแล้ว”
บุญปลูกหันไปสบตาเภา พยักหน้าให้กัน ไม่สนใจถวิล พากันเดินออกไปทางครัวบ้านภูมิ มองซ้ายมองขวา หลบสายตาผู้คน รามนรีจัดการหั่นถั่วพู และเตรียมเครื่องยำวางไว้ บุญปลูกกับเภาโผล่หัวแอบมอง
“มันผิดคำฉันไหมล่ะนังเภา”
“ไม่เข้าใจ ทำไมคุณเดือนถึงได้ยอมเขาขนาดนี้ เป็นอีเภาหน่อยไม่ได้ ได้ตายกันไปข้าง”
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาตาย แต่เป็นเวลาที่เราต้องรีบไปรายงานคุณท่าน ไป”
เภากับบุญปลูกพากันออกไป

เสี่ยอุดรพาประกันมาซื้อนาฬิการุ่นล่าสุดให้ประกันกับพวงศรีเพื่อเอาใจ
“ชอบไหมครับคุณพ่อ”
“ที่สุด ของที่สุดเลยครับเสี่ย”
“หวังว่าคุณแม่ ก็คงจะชอบเหมือนกันนะครับ”
“ขานั้นไม่มีปัญหา ของให้เป็นของฟรี ชอบหมด”
“พรุ่งนี้เป็นคิวของหนูฟ้า กับรถเบนซ์ ของเขา”
“ได้แล้วเหรอครับ ทำไมเร็วจัง”
“ผมซื้อเขาบ่อย เลยมีเซลล์ดูแลอยู่ สั่งอะไรไม่มีพลาด หมู่นี้ผมเห็นสาวๆ เขาไม่อยู่บ้าน ผมก็กลัวคุณพ่อจะเหงา ก็เลยอยากจะพามารีแลกซ์”
“ดีมากเลย ไม่มีใครรู้ใจผมเท่าเสี่ยอีกแล้ว"
“มีอะไรที่คุณพ่ออยากจะให้ผมเซอร์ไพรส์อีกเหรอครับ บอกมาได้เลย”
“ก็แบบว่า ถ้าได้ไปอาบน้งอาบน้ำนิดนึง ก็คงจะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าไม่เบานะเสี่ย”
“นึกว่าเรื่องอะไร เดี๋ยวผมจัดให้คุณพ่อเดี๋ยวนี้”
ประกันยิ้มดีใจ ก่อนกวาดตามองไป หน้าเหวอหุบยิ้ม พยายามขยี้ตามองไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นภัทร เสี่ยอุดรมองตาม
“รบกวนเสี่ยรอแป๊บได้ไหม ผมขอตัวไปทักทายเพื่อนเดี๋ยวมา”
“เชิญตามสบายครับคุณพ่อ ผมรอที่นี่นะ”
ประกันรีบเดินออกไป

รามนรีถือจานยำถั่วพู มาวางไว้ที่ตรงหน้าทุกคนในบ้านภูมิ สราญพอใจมาก
“หือ บอกเลย ว่าหน้าตาดีมากๆ”
“เดี๋ยวช่วยอธิบายวิธีทำ ให้ลูกฉันฟังหน่อยสิ”
“ทำให้ แล้วยังต้องอธิบายอีกเหรอคะ”
“นี่ เขาเป็นแขกคนสำคัญของฉัน เขาสั่งก็เหมือนฉันสั่ง หล่อนมีหน้าที่ต้องทำตามสั่ง ห้ามเถียง ห้ามขึ้นเสียง และเสียมารยาทกับแขกของฉัน”
รามนรีถอนใจ จำใจนิ่ง
“ค่ะ”
ประกายฟ้ากับพวงศรีมองหน้ารามนรี ยิ้มสะใจ

ภัทรเดินยิ้มร่าอารมณ์ดี เข็นรถเข็นที่ซื้อของจากซุปเปอร์มาร์เก็ตมาเต็มรถ มีน้องไนส์ เดินคลอเคลียไม่ห่าง ประกันโผล่ไปยืนขวางหน้าไว้
“สวัสดีครับคุณภัทร”
ภัทรหน้าเหวอมองประกัน ก่อนรีบขยับตัวออกห่างจากน้องไนส์
“เอ่อ เอ่อ”
ประกันยิ้มเจ้าเล่ห์มองน้องไนส์ก่อนหันไปมองภัทร
“มีอะไรจะเล่าสู่กันฟังบ้างไหมครับคุณภัทร”
ภัทรไม่รู้จะทำอย่างไร ก่อนตัดสินใจดึงมือประกันออกไป น้องไนส์ยืนมอง หน้าหงิก ภัทรดึงมือประกันออกมายืนคุยกัน
“คุณประกัน ผมขอร้องให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ อย่าให้คุณสราญ และคนในครอบครัวคุณรู้จะได้ไหม ไม่งั้นผมได้ตายก่อนกำหนดแน่”
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณก็น่าจะรู้นิสัยคุณสราญดี ถ้ารู้ มีหวังพังแน่”
“ในฐานะคนคุ้นเคย และคุณสราญก็ดีกับผมมาก แล้วอีกไม่นานเราก็จะต้องเป็นดองกัน บอกตามตรง ว่าผมรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่กับเรื่องนี้”
ภัทรหน้าเจื่อน ประกันทำเป็นคิดหน้าเครียด ก่อนตัดสินใจ
“แต่ไม่เป็นไร ผมยินดีจะช่วยคุณ”
ภัทรมองประกันอย่างมีหวัง
“ขอบคุณมากนะคุณประกัน ผมจะไม่ลืมความมีน้ำใจของคุณเลย”
“ไม่เป็นไร อะไรช่วยได้ก็ต้องช่วยกัน และหวังว่าวันหน้า ถ้าผมเดือดร้อน คุณภัทรก็คงจะตอบแทนผมบ้างนะครับ”
“แน่นอนครับ แน่นอน”
“โอเค งั้นเชิญคุณภัทรตามสบาย ผมไปก่อนนะ”
ประกันหันหลังให้ เดินยิ้มเจ้าเล่ห์ออกไป ภัทรเครียด

เสี่ยอุดรนั่งรออยู่ในร้านกาแฟของห้าง ประกันเดินเข้ามา
“ขอโทษทีที่ให้เสี่ยรอนาน บังเอิญเจอเพื่อนเก่ามากับกิ๊กน่ะครับ”
“เดี๋ยวนี้ มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะครับ”
“เสี่ยนี่ ช่างเป็นคนเข้าใจโลกจริงๆ”
“เราคงต้องมองอย่างเข้าใจ เพราะผู้หญิงดันเยอะกว่าผู้ชาย สมัยนี้ ไม่ว่าจะหล่อหรือไม่หล่อ ขอแค่เป็นผู้ชาย ก็เลือกได้ครับคุณพ่อ”
“จริงครับจริง”
“แต่ผมเลือกที่จะรักหนูฟ้า ถึงแม้อดีตที่ผ่านมา ผมจะผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่ผมก็เคลียร์ออกไปหมดแล้ว รอให้เจ้าคุณย่าไฟเขียว ผมจะไปสู่ขอหนูฟ้าทันที ดีไหมครับคุณพ่อ”
“ได้ได้ ถึงเวลาสมควร ผมจะพาไปคุยกับเจ้าคุณย่าเอง”
“กราบขอบพระคุณมากครับคุณพ่อ”
“เราไปกันเลยดีไหม ผมอยากจะอาบน้ำเต็มทีแล้ว”

เสี่ยอุดรีบลุกก่อนผายมือเชิญประกัน
 
จบตอนที่ 15 


กำลังโหลดความคิดเห็น