xs
xsm
sm
md
lg

“คิง-สมจริง” จับคู่เคมีใหม่ “เต๋อ-มาร์กี้” ลงละครรีเมค “ผู้กองยอดรัก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข่าวละคร "ผู้กองยอดรัก"
 

“คิง-สมจริง” จับคู่เคมีใหม่ “เต๋อ-มาร์กี้”
ลงละครรีเมค “ผู้กองยอดรัก”

“ผู้กองยอดรัก” ละครโรแมนติกคอเมดี้ยอดฮิตที่เคยสร้างความประทับใจให้คนดูมาแล้วหลายครั้ง และล่าสุดก็กำลังจะกลับมาสร้างความประทับใจไม่รู้เบื่ออีกครั้งบนหน้าจอช่อง 3 โดยผู้จัดฯ คิง-สมจริง ศรีสุภาพ แห่งค่ายกู๊ด ฟีลลิ่ง ที่เวอร์ชั่นนี้ได้จับคู่พระนางเคมีใหม่อย่าง “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” และ “มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า” ให้มาร่วมกันถ่ายทอด “เรื่องราวความรักต่างชนชั้นของ “ไอ้พัน” พลทหารหนุ่ม เลือดสุพรรณ กับ ผู้กอง “ฉวีผ่อง” คนสวย ความรักที่มาพร้อมบทพิสูจน์หัวใจ และอุปสรรคมากมาย ที่ต้องร่วมกันฝ่าฟันไปให้ได้

“นอกจากพระนางที่เคมีลงตัวแล้วยังมีการเสริมทัพนักแสดงมาเพิ่มสีสัน และ ประชันบทบาทกันแน่นจอ อาทิ เดี่ยว-สุริยนต์ , เอ๋-มณีรัตน์ , อุ๋ย บุดด้าเบลส , บอม-กันตพัฒน์ , โอ๊ค-กีรติ , อ๊อฟ-ศุภณัฐ , หนุ่ม-สันติสุข , ท้อป-ดารณีนุช , บ๊อบ-ทูน , ต่อง-สาวิตรี , จาตุรงค์ มกจ๊ก , ไอซ์-อภิษฎา ฯลฯ เพียงแค่เห็นรายชื่อนักแสดงก็เรียกว่าไม่ธรรมดาแล้วสำหรับผู้กองยอดรักเวอร์ชั่นนี้ โดยเฉพาะ มาร์กี้ ที่เรียกว่าเป็นผู้กองฉวีผ่องได้อย่างตรงใจ ยิ่งตอนใส่ยูนิฟอร์มทหารเข้าไปแล้วยิ่งดูใช่ที่สุด นี่แหละผู้กอง ส่วน เต๋อ นี่เรารอเค้ามานานถึง 3 ปี เพราะเหตุผลที่ว่า “คาแร็กเตอร์ของเต๋อ คือ พัน น้ำสุพรรณ” ที่ชัดเจน แต่ที่ต้องรอถึง 3 ปี เป็นเพราะเรื่องนี้ทุกคนที่เป็นทหารเกณฑ์จะต้องตัดผมหัวเกรียนจริงๆ ซึ่งตอนนั้น เต๋อเค้ามีรับงานที่ต้องทำต่อเนื่องอยู่ ซึ่งเราเข้าใจเพราะยังมีนักแสดงที่จะมาเป็นแก๊งทหารเกณฑ์เพื่อนพระเอก อีก 4 คนคือ บอม // โอ๊ค // อ๊อฟ และอุ๋ย บุดด้าเบลส และทุกคนก็จะต้องตัดผมเหมือนกัน มันไม่ง่ายเลย กว่าจะได้แต่ละคนมาร่วมงาน แต่พอได้มามันคือความลงตัวที่สุดที่เราจะสามารถทำได้ เรียกว่าเมื่อทุกอย่าง พร้อมและลงตัวจริงๆ มันก็เกิดเป็นผู้กองยอดรักในเวอร์ชั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งการดำเนินเรื่องราวส่วนใหญ่ ก็จะยังคงเสน่ห์ของเนื้อหาเดิมไว้ แต่จะมีเพิ่มรายละเอียดและสร้างคาแร็กเตอร์ใหม่ๆ ให้ตัวละครดูมีอะไร มากขึ้น ส่วนภารกิจของทหารเราก็จะขยายให้เพิ่มขึ้น คนดูจะได้เห็นหน้าที่ของทหารที่มีมากกว่าการอยู่แต่ ในกองพันเท่านั้น มันจะมีการปฏิบัติภารกิจที่ทหารจะต้องไปทำ ไปรับใช้ ไปช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น เช่นการไปออกหน่วยแพทย์ทหารเคลื่อนที่ ไปช่วยขุดลอกคูคลอง ไปปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น ซึ่งเราก็ระดมทีมเขียนบทมาช่วยกันคิด ให้มันมีอะไรใหม่ๆ ที่ทันยุคทันสมัยมากขึ้น บวกกับนักแสดง ที่เราได้มาก็เก่งๆ ทั้งนั้นทำให้หมดห่วงเรื่องการแสดง อย่างพ่อแม่ของฉวีผ่องนี่เราได้พี่บ๊อบกับพี่ต่องมา ซึ่งทั้ง 2 คนเค้าเคยแสดงเป็นพัน และ ฉวีผ่อง กันมาแล้วในเวอร์ชั่นเก่าที่เป็นภาพยนตร์ ส่วนพ่อแม่ของพัน ที่เป็นคนสุพรรณ ก็ไม่มีใครชัดเจนเท่าพี่หนุ่ม-สันติสุข และท็อป-ดารณีนุช อีกแล้ว ด้านผู้กำกับฯ เรื่องนี้ได้ “กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ” ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เคยกำกับหนังมาก่อน เค้าก็จะมีมุมมองอะไรใหม่ๆ มีอะไรทีน่าสนใจมานำเสนอ ให้คนดูได้ชมกันอย่างแน่นอน ส่วนสถานที่เรื่องนี้เราก็ได้รับการสนับสนุนเรื่อง สถานที่ถ่ายหลัก ๆ ที่กรมทหารราบที่ 11 บางเขน และเรื่องของอาวุธ ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ จากกองทัพจริงๆ มาใช้ในการเข้าฉากเพื่อความสมจริงด้วยครับ”

คราวนี้มาฟังถึงบทบาทของนางเอกสาว มาร์กี้ กันบ้างกับการรับบท “ผู้กองฉวีผ่อง” ซึ่งแว่วมาว่า เป็นครั้งแรกสำหรับการรับบทคนในเครื่องแบบทหาร ที่ทำเอาสาวกี้ถึงกับเกร็งไปเหมือนกันเมื่อต้องมาใส่ ชุดยูนิฟอร์มทหารในเรื่องนี้
“ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้มาเล่นละคร “ผู้กองยอดรัก” นี่คือดีใจมากค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่นี่ดีใจมาก ตื่นเต้นมากกว่าเราอีก คือกี้รู้ว่าผู้กองยอดรักทำเป็นละครมาหลายครั้งแล้ว แต่ตัวกี้เองยังไม่เคยมีโอกาสได้ดูใน เวอร์ชั่นก่อน ๆ ก็เลยไม่ได้กดดันอะไรมากค่ะ มันเป็นความตื่นเต้นมากกว่าที่เรื่องนี้จะได้แต่งยูนิฟอร์มของ ทหาร ซึ่งเป็นเรื่องแรกเลยที่ได้ใส่ ได้รับบททหาร ก็เกร็งนะ เรียกว่าแค่ใส่ชุดทหารกี้ก็เกร็งแล้ว คือเรา ไม่รู้จะทำตัวยังไง ชุดดูขลังมาก บังคับให้กี้เรียบร้อยไปเลย ไม่กล้าเล่น ไม่กล้าทำท่าอะไรแปลก ๆ กลัวจะผิด กลัวจะทำให้ยูนิฟอร์มเสีย ช่วงแรกที่ใส่นี่นิ่งเลยมีมาดขึ้นมาทันที กลายเป็นช่วยให้กี้เข้าถึงความเป็นผู้กองไป โดยอัตโนมัติเลย แต่พอใส่ไปซักพักก็ชิน รู้สึกสวยดี ในชีวิตจริงคงไม่มีโอกาสได้ใส่แน่ค่ะ สำหรับการร่วมงานกับพี่เต๋อนี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่จะได้ทำงานด้วยกันเต็มตัวยาวๆ แบบนี้ ปกติเจอกันตามงานบ้างนิดหน่อย ดีค่ะ พี่เต๋อคือดูใช่พันมาก คิดว่าคงสนุก แค่เห็นหน้าก็ยิ้มแล้วอ่ะค่ะ ด้วยความที่พี่เต๋อเป็นคนน่ารัก เจอกันวัน ฟิตติ้งนี่เข้าขาเลย คุยสนุก คุยได้ไม่มีเบื่อ แป๊ปเดียวสนิทกันเลย ทำให้เวลาเข้าฉากยิ่งสบายเลยแข่งกันเอามุก มาขาย และทุกคนที่เล่นด้วยกันนี่คือสายฮามาเองจริง ๆ อย่างเดียวเลยที่เป็นอุปสรรคคือเค้าชอบมามุกสด ซ้อมกับเอาจริงเล่นไม่เหมือนกันซักรอบเดียว แล้วกี้ก็เส้นตื้นไง คอยจะหลุดขำ ต้องคอยจิกตัวเองเอาไว้ ไม่งั้น หลุดกันกระจาย เรียกว่าคนดูจะได้ทั้งความสนุกสนาน และได้เห็นแง่มุมของทหารที่คอยรับใช้ประชาชน รวมถึงได้ลุ้นเรื่องราวความรักของพันกับผู้กองด้วยว่าจะสมหวังกันได้ยังไง คิดว่า “ผู้กองยอดรัก” เวอร์ชั่นนี้ คงเป็นละครที่ทุกคนจะได้ดูกันอย่างมีความสุข มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปพร้อม ๆ กันแน่นอนค่ะ”

มาถึงพระเอกร้อยล้าน “เต๋อ-ฉันทวิชช์” กันบ้างกับการร่วมงานละครของช่อง 3 เป็นเรื่อง แรกกับละคร “ผู้กองยอดรัก” ที่ดูแล้วว่าเป็นงานถนัด แต่เจ้าตัวบอกว่ากดดันและต้องศึกษาบท ทำการบ้านอย่างหนักเลยทีเดียว
“คือ พัน น้ำสุพรรณ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นคนสุพรรณ ซึ่งตัวละครตัวนี้ต้องพูดเหน่อ เพราะ พี่คิงบอกว่ามันเป็นเสน่ห์ของพระเอกเลย พันจะเป็นผู้ชายซื่อ ๆ จริงใจ ในแววตาและคำพูด เค้าพูดเหน่อ โดยไม่ได้อาย พูดเหน่อเป็นธรรมชาติของพันเลย ก็น่ารักดีครับ แต่ก็ทำเครียดเลยนะ คือผมขอพี่คิงเลย ว่าขอไปอยู่ ไปฟัง ไปซึมซับสำเนียงของจริงเลยได้มั้ย พี่คิงเลยจัดให้ไปอยู่กับชาวบ้าน ที่สุพรรณเลย ไปใช้ชีวิตอยู่ 2 วันกับ 1 คืน ไปกับอุ๋ย บุดด้าเบลส ซึ่งในกองพันจะมีผมกับอุ๋ยที่ต้องพูดเหน่อกัน 2 คน ซึ่งการไปอยู่ที่นั่นได้ผลเลยนะ ทำให้เราเริ่มจับสำเนียงได้ แล้วก็ได้ลองฝึกพูด ได้ฝึกคุยกับชาวบ้าน คือเราก็ต้องหาจุดที่จะเหน่อว่าควรจะประมาณไหนถึงจะออกมาใกล้เคียง และเป็นไปได้มากที่สุด เรียกว่า หลังจากกลับมาก็ฝึกพูดทุกวัน พูดในชีวิตประจำวันเลย เจอใครก็พูดกับเค้าหมด มันจะได้ชินปาก พูดจนตอนนี้เริ่มติด พอให้พูดไม่เหน่อก็จะกลายเป็นเหน่อซะงั้น 555 ส่วนการทำงานกับที่นี่ก็ดีครับ คือได้ ทำงานกับคนใหม่ๆ ทีมใหม่ๆ ทุกคนน่ารักและเป็นกันเองมาก อย่างนักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วยกันบ่อย ๆ ก็มีนางเอก มาร์กี้ เค้าเป็นนางเอกแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนนะ เค้าคล้ายผมมาก เป็นนางเอกที่ไม่ห่วงสวย ไม่มีกำแพง พูดคุยกันแปปเดียวก็สนิทเลย ไม่มีมาเก้อเขินกัน ไม่มีฟอร์มกัน ทำให้เคมีเวลาเข้าฉากด้วยกัน เลยดีมากๆ เพราะไม่ว่าเราจะส่งมุกอะไรไปก็รู้เลยว่ากี้จะส่งเสริมมุกนั้นต่อให้มันดีขึ้น หรือกับแก๊งเพื่อนผม ทุกคนนี่คือใช่หมด ทุกคนคุยกันเฮฮา เวลาว่างคือนั่งเมาท์กัน ก็ยิ่งสนิทกันเร็ว ทำให้เวลาเล่นไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องเกร็ง มันก็เลยยิ่งสนุกมากขึ้นไปอีก เวลามากองเป็นเวลาที่มีผมสนุกและมีความสุขมาก เหมือนไม่ได้มาทำงาน อย่างเดียวที่หนักที่สุดของเรื่องนี้คือตอนที่ต้องฝึกหนัก กลางแดดร้อนเปรี้ยงๆ นี่แหละ ที่ทรมานและโหดสุดๆ เรียกว่าร่างกายต้องพร้อมเลย เพราะเวลาเข้าฉากผมซึ่งเป็นทหาร ก็ต้องฝึกจริง ตากแดดจริงๆ โดนทำโทษก็ต้องโดนทำจริงๆ เหมือนที่ทหารจริงๆ ที่มาเข้าฉากเค้าทำกัน ก็อาศัยดูจากเค้า สังเกตท่าทางเค้า กิจกรรมที่เค้าทำ เค้าฝึก เค้าทำท่ายังไง ถือปืนยังไง เราต้องดูเพราะเราก็ต้องฝึกเหมือนกัน บอกได้เลยว่าโหดมาก ขนาดเราเข้าฉากแปปๆ เรายังเหนื่อยเรายังร้อน รู้เลยว่าทหารเกณฑ์ เค้าหนักกว่าเรา ร้อนกว่าเรา แต่เค้าอดทนกว่าเรามาก เห็นเค้าแล้วไม่กล้าบ่นเลยครับ ยังไงก็อยากจะฝาก “ผู้กองยอดรัก” เวอร์ชั่นนี้ ไว้ด้วยนะครับเพราะถึงจะผ่านการทำมาหลายครั้ง จนทุกคนรู้จักตัวละคร รู้จักเรื่องราวกันดีแล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้จะใส่รายละเอียดที่ทันสมัยและวัยรุ่นกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นอะไรที่อยู่ในยุคสมัยนี้มากๆ แต่เรื่องราวก็จะยังคงความสนุกสนานเฮฮา มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้คนดูแบบจัดเต็ม เรียกว่า ผู้กองยอดรักในเวอร์ชั่นนี้จะต่างไปจากที่ผ่านมาอย่างแน่นอนครับ”



















กำลังโหลดความคิดเห็น