เพลิงพ่าย ตอนที่ 1
ท้องฟ้าเหนือบ้านวิเศษมฆวัน ค่ำคืนนี้ ดูลึกลับ และแปลกประหลาดเหลือล้ำ ราวกับมีสิ่งผิดปกติสิงสถิตอยู่ เสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ผสมเสียงอีกา เสียงสัตว์กลางคืนร้องดังระงม ปนเสียงลมที่พัดหวีดหวิวชวนหลอนและน่าขนลุกขนพองเหลือแสน
รูปปั้นนางฟ้ากลางสวนสองตัวหันหลังให้กัน ตัวแรกค่อยๆ หมุนไปยังตัวที่สองที่ด้านหลัง ฟ้าแลบแปลบ ใบหน้าของนางฟ้าด้านหนึ่งมีรอยร้าวแตกหรือบิ่น ชำรุด ที่ตามีคราบน้ำตะไคร่สีดำไหลเป็นรอยเหมือนคราบน้ำตา เสียงนกการ้องดัง
ดวงตาของตุ๊กตาบาร์บี้ อันเป็นสัญลักษณ์ของความสวยในอุดมคติของเด็กผู้หญิง และเห็นหน้าของตุ๊กตาซึ่งมือของใครบางคนกำลังบรรจงสางผมให้มันอยู่
ใครคนหนึ่งซึ่งนั่งหันหลัง ก้มหน้า ผมยาวสยายลงมาปิดหน้า จึงไม่เห็นหน้าชัดเจน รู้แค่ว่าเธอกำลังสางผมให้ตุ๊กตาตัวนั้น
"ฉันจะต้องสวยเหมือนเธอให้ได้ ลูซี่จ๋า"
เสียงฟ้าร้องดังครืนใหญ่อีกครั้ง แสงจากฟ้าแลบ เผยให้เห็นว่าเป็น เวฬุรีย์ ที่นั่งก้มหน้าก้มตาสางผมตุ๊กตาอยู่บนเก้าอี้โยกข้างหน้าต่าง เงาของเธอมีสภาพดั่งปีศาจมากกว่าคน
บนฟากฟ้าระหว่างนี้ พระจันทร์ดวงโตถูกก้อนเมฆดำทะมึนบดบังอยู่เหนือบ้านวิเศษมฆวัน บรรยากาศยิ่งดูหลอกหลอน ลึกลับ และน่ากลัวเหลือคณา
ภายในคฤหาสน์ นายแพทย์มฆวัน หมอศัลยกรรมมือหนึ่งของประเทศ กำลังสนทนาอยู่กับ นวลนภา ผู้เป็นเมียและเป็นแม่ของเวฬุรีย์ นวลนภาเคยเป็นอดีตนางพยาบาลมาก่อน
"จะจัดงานวันเกิดได้ยังไง ในเมื่อ…"
"ฬุรีย์เป็นคนขอให้จัดงานเองนะคะ เราน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ" นวลนภาบอก
"แต่ผมว่าสภาพจิตใจแกยังไม่พร้อม"
"ฬุรีย์เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านมาตั้งแต่ 5 ขวบ แกไม่ยอมออกมาเจอผู้คนเลย เรียนก็เรียนแต่ในบ้าน ไม่มีสังคม ไม่มีเพื่อน ไม่มีอนาคต หรือ คุณอายคนคะ"
"ถึงยังไงผมก็ไม่เห็นด้วย คุณก็รู้ว่าลูกเราเป็นยังไง จู่ๆมาเจอคนเยอะๆแบบนี้ ปรับตัวไม่ทันหรอก"
"จัดงานให้น้องเถอะค่ะคุณพ่อ"
ไอลดา ลูกสาวคนโตของมฆวันและนวลนภา เธอนุ่มนวล อ่อนโยน และผูกพันกับพ่อมาก
"ลดารู้ว่าฬุรีย์มีความหวังอะไรบางอย่างในวันเกิดปีนี้ ฬุรีย์เคยบอกกับลดาเสมอว่าอยากจะมีงานวันเกิดเหมือนคนอื่นๆเมื่ออายุครบ 20 มันเป็นสิ่งที่ฬุรีย์รอคอยมาตลอดชีวิตเลยนะคะคุณพ่อ"
"เราก็จัดเฉพาะในครอบครัวเหมือนทุกปีก็ได้นี่ จะจัดไปทำไม เพื่อนฝูงก็ไม่มีสักคน"
"เราก็จัดพร้อมกับลดาเลยสิคะ ลูกเราทั้ง 2คนเกิดวันเดือนเดียวกันแต่คนละปี คุณจำไม่ได้เหรอคะ"
"ลดาเองก็ไม่กล้าจะจัดงานวันเกิด กลัวน้องจะน้อยใจ จัดงานให้น้องเถอะนะคะ คุณพ่อ"
มฆวันถาม
"แน่ใจเหรอว่า ฬุรีย์พร้อมจะเจอผู้คนแล้ว"
"เราต้องกล้าให้โอกาสลูกนะคะ"
"นะคะคุณพ่อ นะคะ"
"งั้นก็ตามใจคุณกับลูกก็แล้วกัน"
นวลนภาจับมือไอลดาอย่างดีใจ แต่มฆวันคิดตรงกันข้ามไม่มั่นใจในตัวฬุรีย์เลย
วันใหม่ บุญปลูกกำลังทำกับข้าว ลอร่าเข้ามาบอกข่าวของเจ้านายด้วยความภาคภูมิใจ
"ห๊ะ! คิดดีแล้วเหรอ จะจัดงานวันเกิดให้คุณฬุรีย์"
ลอร่าสวนขึ้นทันที
"ทำไม! ป้ามีปัญหาอะไร"
"ข้าไม่มีปัญหาหรอก แต่กลัวว่าเจ้านายเอ็งจะมีปัญหาน่ะสิ" บุญปลูกบอก
"มีอะไร! ป้าพูดแบบนี้อยากมีปัญหาใช่ไหม ฉันจะไปฟ้องคุณฬุรีย์เดี๋ยวนี้"
"โธ่...อีนี่ พูดนิดพูดหน่อยก็เอาแต่สาระแนไปฟ้องเจ้านาย วันๆเอาแต่สอพอ งานการเคยคิดจะหยิบจะทำบ้างไหมห๊ะ...อีละออ"
ลอร่าร้องกรี๊ด ร้องไห้ปล่อยโฮอย่างบ้าครั่งปนสะอื้น
"ป้าปลูกจะด่าฉันเป็นวัวเป็นควายหรือเป็นสัตว์เลื้อยคลานยังไงฉันทนได้ แต่มาเรียกฉันว่า อีละออฉันรับไม่ได้ ฉัน…ลอร่า ลอร่า ลอร่า ลอร่า"
"อีละออ อีละออ อีละออ"
ลอร่าแค้นจัด
"ฉันจะไปฟ้องคุณฬุรีย์ ว่าป้าบุญปลูกบอกว่าคุณฬุรีย์หน้าเหมือนผี ยังกระแดะอยากจะมีงานวันเกิดกะเขา คราวนี้…ป้าเตรียมตัวตกงานได้เลย"
"อีตอแหล!"
บุญปลูกด่าพร้อมกับคว้ามะนาวลูกโตเขวี้ยงใส่ แต่ลอร่าหลบ มะนาวเลยไปคาปากออมที่เดิน
เข้ามาพอดี ออมตาเหลือก ลอร่าหัวเราะด้วยความสะใจ บุญปลูกเลยเอาสากกะเบือยัดปาก ลอร่าทั้งเจ็บทั้งแสบเพราะสากกะเบือมีแต่พริก
บุญปลูกวิ่งไปเอามะนาวออกจากปาก ออมหายใจสะดวกขึ้น ทั้งคู่สะใจที่ลอร่าลงไปชักกับพื้น
เลือดกลบปาก
นวลนภานั่งเปิดดูหนังสือเกี่ยวกับการพยาบาลผู้ป่วยอยู่คนเดียว ใครบางคนค่อยๆ เดินมาด้านหลังจนถึงตัวเธอ นวลนภารู้สึกตัว หันไปตกใจในตอนแรก แต่พอเห็นว่าใครก็โล่งอก
"โธ่...ฬุรีย์ แอบมาเงียบๆ ไม่ให้สุ้มให้เสียง แม่ตกใจหมด"
เวฬุรีย์ซึ่งมีผ้าบางๆ คลุมหน้าเดินเข้ามา
"แม่คะ ช่วยดูหน่อยว่าฬุรีย์สวยหรือยัง"
เวฬุรีย์ค่อย ๆ ปลดผ้าออก นวลนภามองอย่างแปลกใจ แต่แล้วก็เข้าไปประคองใบหน้าเวฬุรีย์ไว้
"สวยจ้ะลูก ลูกแม่สวยจริงๆ"
เวฬุรีย์ยิ้มปลื้ม เชื่อคำพูดปลอบใจของนวลนภา
"จริงเหรอคะแม่ หนูสวยแล้วเหรอคะ"
"สวยจ้ะ ลูกแม่สวยในสายตาแม่เสมอ"
"เอาจริงๆ สิคะ ฬุรีย์สวยหรือยัง"
"สวยสิจ๊ะฬุรีย์ ลูกสวยมาก"
"ถ้างั้น...หนูก็เจอพี่วุฒิได้แล้วใช่ไหมคะ"
นวลนภาอึ้งไปนิดหนึ่ง มองเวฬุรีย์อย่างเห็นใจ สีหน้าครุ่นคิดตัดสินใจ
ภายในห้อง เวฬุรีย์ใช้นิ้วที่เรียวงามปาดไปบนหน้าจอไอแพดที่มีรูปเคลื่อนไหวของชายอันเป็นที่รัก
เธอมองภาพนั้นด้วยความสุข
"อีกไม่กี่วัน เราก็จะได้เจอกันแล้วนะคะพี่วุฒิ"
ไอลดาแอบมองน้องด้วยความห่วงใย เสียงฝีเท้าของลอร่าเดินมาจากทางด้านหลังของไอลดา
เวฬุรีย์หันไปมอง ไอลดารีบหลบเข้ามุม
"คุณฬุรีย์จะมีอะไรให้ลอร่ารับใช้คะ" ลลร่าพูดแบบปากบวมและเจ่อ
"ปากแกโดนอะไรมา"
"พญามดง่ามกัดค่ะ ลอร่าแพ้เลยเป็นอย่างนี้"
เวฬุรีย์ยื่นแค็ตตาล็อคเครื่องสำอางให้ลอร่า
"ซื้อมาให้หมดนี่"
"จะซื้อมาทำไมมากมายก่ายกองคะ หน้าที่จะแต่งก็มีแค่ครึ่งเดียวเอง"
ไม่ทันที่ลอร่าพูดจบ เวฬุรีย์ถีบปากซ้ำเข้าไปอีก ลอร่าร้องโอดโอย
"ลอร่ากำลังจะบอกว่า แต่งแค่ครึ่งเดียวก็สวยแล้วค่ะ"
"ในงานวันเกิด ฉันจะต้องสวยที่สุด เพื่อพี่วุฒิ ฉันต้องสวยกว่ามัน!"
"สวยค่ะสวย"
เวฬุรีย์มุ่งมั่นจะเอาชนะไอลดาด้วยการได้หัวใจวุฒิมาครอบครอง
วันใหม่ในบรรยากาศสนุกสนาน บุญปลูก ออม ผ่อนศักดิ์ช่วยกันจัดดอกไม้และอุปกรณ์ต่างๆอย่างขยันขันแข็ง จนเกือบเสร็จสมบูรณ์
ผ่านเวลาสู่กลางคืน แขกร่วมงานเริ่มทยอยเข้ามาในบ้านวิเศษมฆวัน นวลนภากำลังต้อนรับแขกอยู่หน้างาน
"สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ เชิญข้างในเลยนะคะ"
ป้ายในงาน “สุขสันต์วันเกิด เวฬุรีย์-ไอลดา”
นวลนภามองไปที่ชั้นบนอย่างเป็นรอคอยใครบางคน
ตุ๊กตาบาร์บี้ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง เวฬุรีย์กำลังบรรจงเขียนคิ้วอยู่อย่างตั้งใจ ให้เหมือนกับหน้าตุ๊กตา
"ฉันจะต้องสวยเหมือนเธอให้ได้"
เวฬุรีย์มองไปที่ตุ๊กตาตัวนั้น แล้วแต่งหน้าต่ออย่างตั้งใจ
บริเวณโถงบ้าน นายแพทย์มฆวันกำลังคุยอยู่กับพลตรีทวีวัชร นายทหารใหญ่และคุณหญิงเพ็ญโพยม ทั้งคู่คือ พ่อและแม่ของวุฒิ
ทวีวัชรบอก
"หนูไอลดาทำงานเก่งจริงๆ นะครับคุณหมอ ผมไปที่คลินิกวันก่อน ได้รับบริการดีมาก"
"ดิฉันก็ประทับใจหนูลดาเหมือนกัน ไม่ถือตัวว่าเป็นลูกคุณหมอเลย คุณหมอเลี้ยงลูกได้ดังใจเลยนะคะ"
"ขอบคุณครับ ยัยลดาแกเพิ่งจบเลยไฟแรงน่ะครับ"
"ได้ข่าวว่าวันนี้หนูฬุรีย์จะออกงานเป็นครั้งแรกด้วย ไม่เห็นแกนานมากแล้ว" เพ็ญโพยมบอก
"ใช่ครับ วันนี้แกครบยี่สิบพอดี เป็นสาวแล้วน่ะครับ เลยอยากแต่งตัวสวยๆ ออกงาน"
เพ็ญโพยมหัวเราะๆ
"หนูฬุรีย์โตขึ้นคงจะสวยไม่แพ้หนูลดาเลยนะคะ"
มฆวันชะงักเจื่อนไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา ทวีวัชรเหมือนจะรู้ จึงรีบแก้ไขสถานการณ์
"บังเอิญนะครับ ลูกสาวคุณหมอทั้งสองคนถึงจะห่างกันสองปี แต่เกิดวันเดียวกันพอดี จัดงานพร้อมกันไปเลยไม่เปลือง ฮ่าๆ"
นวลนภาร้อนใจเข้ามาหามฆวัน
"คุณคะ ... ขอโทษท่านกับคุณหญิงนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ตามสบายครับ"
มฆวันถามนวลนภา
"มีอะไรเหรอคุณ"
นวลนภาดึงมฆวันออกไป เพ็ญโพยมมองตามอย่างสนใจ ทวีวัชรตำหนิเพ็ญโพยม
"คุณไม่น่าไปพูดอย่างนั้นเลย"
เพ็ญโพยมหันกลับมา
"ฉันพูดอะไร"
"ก็เปรียบเทียบหนูฬุรีย์กับหนูลดาไงล่ะ คุณก็รู้นี่ว่า..."
"อ๊ะ...อย่าลืมว่าคุณหมอเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่ง ป่านนี้อาจจะแปลงโฉมลูกสาวคนเล็กให้สวยเลิศกว่าพี่สาวแล้วก็ได้ ถึงได้จัดงานวันเกิดเปิดตัวเสียใหญ่โตขนาดนี้ แต่พูดก็พูดเถอะนะ เปลี่ยนหน้าแล้วไม่รู้จะเปลี่ยนนิสัยได้หรือเปล่า"
"จุ๊ๆๆ คุณก็...นั่นมันเรื่องนานมาแล้วนะ"
"นานแค่ไหนฉันก็ยังจำได้ ตาวุฒิเกือบแย่เพราะเด็กนั่น"
"ลืมๆ ไปซะเถอะน่า ... เอ๊ะ แล้วตาวุฒิไปไหนล่ะเนี่ย"
"คงเตรียมเซอร์ไพรส์หนูลดาอยู่ละมั้ง"
"เดี๋ยวผมไปดูดีกว่าว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์บ้าง"
ทวีวัชรเดินหนีไปหยิบแก้วไวน์ เพ็ญโพยมมองตามพลางทำเสียงจึ๊กจั๊กหมั่นไส้
ที่มุมหนึ่ง มฆวันแยกออกมาคุยกับนวลนภา
"มีอะไรเหรอคุณ"
"ไม่รู้ยัยฬุรีย์เป็นยังไงบ้างนะคะ แกเก็บตัวอยู่ในห้องนานแล้ว ไม่ออกมาซะที"
"ไม่ต้องห่วงหรอกคุณ นี่ออกงานครั้งแรก แกก็ต้องใช้เวลาแต่งตัวสักหน่อย"
"ฉันกลัวว่าแกจะไม่มั่นใจ แล้วก็ไม่กล้าออกมาน่ะสิคะ"
"ให้ลูกลองทำอะไรเองบ้างเถอะน่า"
"คุณก็รู้นี่คะว่าจิตใจฬุรีย์บอบบางแค่ไหน ฉันว่า...ฉันไปดูแกดีกว่า"
นวลนภาจะเดินออกไป แต่แล้วก็ชะงัก ทุกคนฮือฮา เมื่อเห็นใครบางคนลงบันไดมา ทั้งนวลนภากับมฆวันก็หันไปมองอย่างปลาบปลื้ม ไอลดาที่ก้าวเท้าลงจากบันได ยกมือไหว้แขกผู้ใหญ่ในงาน
"สวัสดีค่ะ"
สักพักเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นอีก พร้อมกับเสียงกรี๊ดของสาวๆ ทุกคนแหวกทางเป็นสองข้าง ให้วุฒิเดินเข้ามาตรงกลาง พร้อมกับของขวัญกล่องเล็กๆ
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับลดา"
"ขอบคุณค่ะพี่วุฒิ"
สาวๆ ปลื้ม ทุกคนตบมือชื่นชมไอลดากระซิบกับวุฒิ
"เราน่าจะรอฬุรีย์ลงมาก่อนนะคะ"
"พี่เตรียมของอีกชิ้นให้ฬุรีย์แล้วครับ"
ไอลดายิ้มออกมาได้ นวลนภาเข้ามาหาไอลดา
"น้องเป็นยังไงบ้างลดา"
"ลดาก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ฬุรีย์ไม่ยอมให้ใครเข้าไปในห้องเลย เมื่อกี้ลดาไปเรียกให้ออกมาพร้อมกัน ฬุรีย์ก็ไล่ให้ลดามาก่อน"
"งั้นแม่ไปตามเอง"
นวลนภารีบขึ้นบันไดไปไอลดามองตามเป็นห่วง
นวลนภาขึ้นมาถึงหน้าห้อง เคาะประตูเรียก
นวลนภาฬุรีย์...นี่แม่เองจ้ะ
เวฬุรียืซึ่งกำลังทาลิปสติกอยู่ถึงกับชะงักด้วยความหงุดหงิด
"มีอะไรคะแม่"
"เปิดประตูให้แม่เข้าไปหน่อยนะจ๊ะ"
"อย่าเข้ามาค่ะแม่ ฬุรีย์ยังไม่เสร็จ"
"แม่เข้าไปช่วยหนูแต่งตัวดีไหมจ๊ะ"
"ไม่ต้อง หนูแต่งเองได้"
"งั้นให้แม่เข้าไปดูหน่อยสิ แม่อยากเห็นว่าหนูสวยแค่ไหน"
เวฬุรีย์ตวาด
"บอกว่ายังไม่เสร็จยังไม่เสร็จไงคะ แม่อย่ามาเร่งหนูได้ไหม"
"แม่ไม่ได้เร่งนะจ๊ะฬุรีย์ แต่แม่อยากจะช่วยหนูแต่งตัว"
"บอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องสิคะ อย่าทำฬุรีย์เสียเวลาได้ไหมคะ"
"จ้ะๆ งั้นรีบหน่อยนะจ๊ะ ทุกคนอยากเจอหนูแล้วนะ"
เวฬุรีย์ถอนใจแบบรำคาญ
"ค่ะๆ"
นวลนภากลับออกไป แต่ใจยังนึกห่วง
เวฬุรีย์ส่องกระจกมองตัวเอง แล้วมองตุ๊กตาบาร์บี้
ก่อนจะมองกลับมาที่หน้าของตัวเองอย่างมั่นใจ
อ่านต่อหน้า 2
เพลิงพ่าย ตอนที่ 1 (ต่อ)
ไอลดาต้อนรับแขกในงานอย่างคล่องแคล่ว ยกมือไหว้แขกผู้ใหญ่ในงาน
"สวัสดีค่ะคุณอาฤทัย"
"ไม่เจอกันนานเลย หนูลดาเรียนจบแล้ว อาดีใจด้วยนะจ๊ะ" ฤทัยบอก
"ขอบคุณค่ะ คุณอาทานอะไรหรือยังคะ"
"เรียบร้อยแล้วจ้ะ ตามสบายนะหนูลดา"
ไอลดาเข้ามาทักเพื่อนๆ
"หวัดดีจ้ะจุ๊บ ต๋อม ดีใจที่ตัวเองมาได้"
จุ๊บบอก
"ก็ปีนี้ลดาจัดวันเกิดปีแรก เราต้องมาอยู่แล้ว"
"ที่จริงงานนี้จัดให้น้องมากกว่าจ้ะ ฬุรีย์ครบยี่สิบแล้ว"
ต๋อมบอก
"ไม่เคยเห็นหน้าน้องสาวลดาซักที ดีใจที่วันนี้จะได้เจอกัน"
"ฉันก็ดีใจที่ฬุรีย์ยอมออกงาน"
"แล้วเมื่อไรตัวเองจะออกเรือนล่ะ" จุ๊บถาม
จุ๊บมองไปทางวุฒิที่กำลังมองมาทางไอลดา
"บ้า...ฉันเพิ่งเรียนจบเอง ขอทำงานก่อนสิ"
ต๋อมบอก
"งานน่ะทำเมื่อไรก็ได้ แต่แต่งงานต้องรีบนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้หนุ่มเพอร์เฟ็คท์อย่างพี่วุฒิน่ะหายาก สาวแท้สาวเทียมจ้องรอเพียบ"
"ยัยต๋อมก็พูดไป ลดาน่ะกลัวซะที่ไหน พี่วุฒิเขารอลดามาตั้งแต่ห้าขวบแล้วจ้ะ"
ไอลดาค้อนเพื่อนปะหลับปะเหลือก แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นนวลนภา ซึ่งกลับลงมาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ไอลดาขอตัวเพื่อนออกมา
"เป็นยังไงบ้างคะแม่"
"ฬุรีย์ยังไม่เสร็จจ้ะ ไม่ยอมให้แม่เข้าไปดู แม่เป็นห่วงจัง เพราะนี่ก็เลยเวลามามากแล้ว"
"ลดาว่าฬุรีย์คงตั้งใจมากน่ะค่ะแม่ อยากให้ออกมาดูดีที่สุด เรารอให้กำลังใจตอนฬุรีย์ออกมาดีกว่าค่ะ"
นวลนภาพยักหน้ายอมรับ แต่ยังไม่วายห่วงอยู่ลึกๆ
ภายในครัว ปอเปี๊ยะถูกทอดอยู่ในกระทะ เสียงเพลงแนวแดนซ์ดังลั่นครัว บุญปลูกซึ่งแต่งตัวแบบใบเตยกำลังเต้นไปทำครัวไปอย่างเมามันส์ ออมพรวดเข้ามาหน้าตาตื่น
"ป้าๆ"
บุญปลูกถึงกับทำตะหลิวหล่น หันมาด่า
"ว้าย...ตาเถร เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง อะไรวะนังออม"
"ปอเปี๊ยะได้หรือยังล่ะป้า"
"แค่ถามหาปอเปี๊ยะยังกับทำผัวหาย เดี๋ยวปั๊ด"
"ก็แขกรอกินอยู่นี่ มากันเต็มงานเลย"
"สงสัยมารอดูคุณลดาน่ะสิ"
"ฉันว่ารอดูคุณฬุรีย์มากกว่านะป้า"
"ระวังปากหน่อยนังออม"
บุญปลูกหยิบตะหลิวใหม่มาตักปอเปี๊ยะใส่จาน
"เสร็จแล้วนี่ไง"
"แล้วมันฝรั่งกับไก่ทอดล่ะ"
"โอ๊ย...เอาทีละอย่างสิวะ ข้ามีแค่สองมือ ไม่มีใครช่วยเลย"
"ฉันก็อยากจะช่วยหรอกนะ แต่แค่เสิร์ฟนี่ก็แทบจะเป็นลิงอยู่แล้ว"
"แล้วนังลอร่ามันไปไหนวะ"
"จะไปไหนล่ะป้า มันก็คงไปประจบคุณฬุรีย์อยู่น่ะสิ"
"เฮ้ย....ไม่ได้นะ ทำไมไม่มาช่วยกันวะ ข้าจะเป็นลมตายอยู่แล้วเนี่ย ทำคนเดียวไม่ทัน เอ็งไปเรียกมันมาหน่อยซิ"
"ไม่เอา เดี๋ยวโดนคุณฬุรีย์ด่าเอา แถมอะไรต่อมิอะไรลอยมาอีก"
ออมรีบถือจานวิ่งออกไป บุญปลูกถึงกับปาดเหงื่อซิก
ในห้อง เวฬุรีย์ส่องกระจก หมุนซ้ายหมุนขวาอย่างพอใจ เห็นการแต่งตัวที่เซ็กซี่ในชุดเปลือยไหล่ของเธอ
"ในที่สุด...ฉันก็สวยเหมือนเธอแล้ว"
เวฬุรีย์วางตุ๊กตาลง แล้วตะโกนเรียก
"ลอร่า... ลอร่า นังลอร่า"
เวฬุรีย์ลุกไปเตะลอร่าที่ปลายเตียง ให้ลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย
"ว้าย...เสร็จแล้วเหรอคะคุณฬุรีย์"
"ก็เสร็จแล้วน่ะสิ แกดูซิฉันสวยไหม"
"ต้องสวยแน่ๆ ค่ะ"
ลอร่าขยี้ตา แต่พอเห็นหน้าฬุรีย์ก็ถึงกับผงะ ตะลึงงัน
"คะ...คะ...คุณฬุรีย์"
ฬุรีย์หมุนตัวไปมา
"สวยใช่ไหมล่ะ"
ลอร่าอึกอัก
"สะ...สะ...สะ..สวย...สวย...มาก"
"กว่าจะพูดออกมาได้ เป็นอะไรยะ"
"คือ...ลอร่าตะลึงอยู่ค่ะ คุณฬุรีย์สวย....สวยจริงๆ"
"แกว่าพี่วุฒิจะชอบฉันไหม"
"ชอบสิคะ ใครเห็นใครก็ต้องชอบ"
"ฉันรอพี่วุฒิมาหลายปี ตั้งแต่เขาไปเรียนที่อังกฤษ วันนี้ฉันจะได้เจอเขาแล้ว"
เวฬุรีย์ส่องกระจกมองตัวเองอย่างภาคภูมิใจและตื่นเต้น แววตาฝันๆ
ลอร่าได้แต่แอบกลืนน้ำลายอย่างลำบากใจ
แขกเข้ามาในงานจนเต็มพื้นที่ มฆวันดูนาฬิกาข้อมือ พลางบ่นกับนวลนภา
"นี่ก็ดึกแล้วนะ ทำไมฬุรีย์ยังไม่ลงมาอีก เกรงใจแขกผู้ใหญ่มารอนานแล้ว"
"รออีกหน่อยเถอะค่ะ"
"ผมจะไปบอกฬุรีย์เอง ให้เวลาอีกสิบห้านาที ไม่อย่างนั้นจะให้ยัยลดาเป่าเค้กคนเดียว"
"คุณคะ"
มฆวันไม่ฟังนวลนภา ทำท่าจะขึ้นบันไดไป แต่แล้วเขากลับหยุดกึก เมื่อมีเสียงรองเท้าส้นสูงก้าวลงมาจากบันไดชั้นบนทีละขั้น
นวลนภาร้องตะโกนอย่างดีใจ
"มาแล้วค่ะ เวฬุรีย์มาแล้ว"
ไอลดาหันไปส่งสัญญาณให้ผ่อนศักดิ์เบาเพลงจากเครื่องเสียงลง แล้วเปลี่ยนเป็นเพลงหวานๆ ที่ต้อนรับการมาของเวฬุรีย์ ทุกคนชะเง้อมอง การก้าวเดินลงบันไดของเธอ
ลอร่าลงมายืนสวยอยู่ตรงบันได หลายคนผิดหวัง
"คุณฬุรีย์มาแล้วค่า"
ทุกคนชะงัก หันความสนใจไปที่บันไดห้องโถง ทั้งห้องเงียบกริบอย่างรอคอยเวลา เวฬุรีย์ก้าวลงมาตามขั้นบันได ท่วงท่ามั่นใจกรีดกรายราวกับนางแบบ ทุกคนมองไปอย่างตะลึงงัน และตื่นตระหนก
เวฬุรีย์ก้าวลงมาถึงชานพักบันได เห็นใบหน้าของเธออย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ใบหน้านั้นเละน่าเกลียดน่ากลัว แต่ถูกเครื่องสำอางโปะอย่างหนา ปากแดงแปร๊ด ทั้งการแต่งหน้าเข้มจัดเหมือนตุ๊กตาที่ทำให้เธอน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น เธอมองกราดไปที่ทุกคนอย่างภาคภูมิใจ แล้วไปหยุดอยู่ที่วุฒิ พลันสายตาก็เปลี่ยนไปเป็นหวานซึ้ง
เวฬุรีย์พึมพำกับตัวเอง
"พี่วุฒิ...ฬุรีย์มาแล้วค่ะ"
วุฒิมองเธอด้วยสายตาตกตะลึง เวฬุรีย์ยิ้มให้เขา แต่แล้วก็เห็นเขาหันไปยิ้มกับไอลดาที่อยู่ข้างๆ แล้ววุฒิก็จับมือไอลดาไว้ด้วยความดีใจ ที่เวฬุรีย์ยอมปรากฏตัวครั้งแรก
พลัน... เวฬุรีย์หน้าเหยเก เม้มปากแน่นเบะปากเหมือนจะร้องไห้ เสียงนินทาก็ดังขึ้น หลายคนเบือนหน้าหนี
"ตายละ ทำไมแต่งหน้าอย่างนี้/ นึกว่าศัลยกรรมแล้ว/ ไม่น่าเลย/น่ากลัวจัง/พี่น้องกันไม่เห็นเหมือนกันเลย"
เวฬุรีย์สูญเสียความมั่นใจ เสียงอื้ออึงขึ้นเรื่อยๆ ในความคิดของเธอ ...เสียงหัวเราะของเด็กในอดีตดังเข้ามาหลอกหลอนเธอซ้ำ
"ฮ่าๆๆ อีหน้าผี นังปีศาจหน้าเละ หน้าตาทุเรศ น่าเกลียดว่ะ"
เมื่อตอนที่เวฬุรีย์ อายุ 5 ขวบ เธอกอดตุ๊กตาบาร์บี้ไว้ในอ้อมแขนถูกเด็กเอาก้อนหินขว้างใส่ เธอพยายามปัดป้อง
เด็กชาย 1บอก
"ไป๊... อีหน้าผี นังปีศาจ โคตรน่าเกลียดเลย"
เด็กหญิง 1 บอก "น่ากลัวยิ่งกว่าผีในหนังอีก"
"อย่านะ ฉันเจ็บ"
เด็กชาย1บอก"เฮ้ย...ผีเจ็บเป็นด้วยว่ะฮ่าๆๆ"
เด็กชาย 2 บอก"ผีหลอกอ่ะดิ มันแกล้งทำเป็นเจ็บ"
เด็กหญิง1บอก"หน้าตาไม่เห็นเหมือนพี่สาวเลย เค้าสวยกว่าแกเยอะ"
เด็กหญิง2 บอก"น่าเกลียดอย่างนี้ตายซะได้ก็ดี ไม่น่าเกิดมาเลย"
เด็กๆ รุมเอาก้อนหินขว้างเวฬุรีย์ด้วยความเกลียดชัง เธอได้แต่ปัดป้องและร้องไห้โฮอย่างหมดทางสู้
"ช่วยด้วย...ช่วยด้วย... ฮือๆ"
เสียงซุบซิบของคนในงานดังขึ้น ปนกับเสียงหัวเราะและเสียงเยาะเย้ยของเด็กๆ ในอดีต ยังดังสับสนอื้ออึงในห้วงความคิดของเวฬุรีย์
นวลนภารีบเข้าไปหาลูกสาว แทบจะประคองด้วยความดีใจ
"ฬุรีย์ลูกแม่ ลงมาสิลูก ทุกคนรอหนูอยู่นะ"
"ไม่ต้อง"
เวฬุรีย์สะบัดตัวออกจากนวลนภา แล้วก้าวลงมา แต่ด้วยความไม่มั่นใจ ทำให้เธอก้าวพลาด สะดุดเท้าตัวเอง กลิ้งตกลงมาจนถึงพื้นชั้นล่าง
เสียงกรีดร้องตกใจของคนในงาน ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะที่กลั้นไม่อยู่ของหลายๆ คน
"ฬุรีย์! ลูกแม่"
มฆวันเรียก "ฬุรีย์"
"ฬุรีย์...โธ่" ไอลดาบอก
วุฒิได้แต่มองเวฬุรีย์อย่างสงสาร
นวลนภากับมฆวันถลาเข้าไปประคองลูกสาวขึ้นมา ไอลดาปรี่เข้าไปดู
"เป็นยังไงบ้างฬุรีย์" ไอลดาถามอย่างเป็นห่วง
เวฬุรีย์ผลักทุกคนออก
"อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้น!ไป๊"
เวฬุรีย์วิ่งขึ้นบันไดไป
"ฬุรีย์"
"ฬุรีย์...ลูก"
นวลนภารีบตามลูกสาวขึ้นไป ไอลดาตามไปด้วย
เวฬุรีย์เข้ามาในห้อง ปิดม่านหน้าต่างทุกบานแล้วหยิบตุ๊กตาบาร์บี้ขึ้นมาดึงทึ้งผม ทุบใบหน้าของมันอย่างเคียดแค้นและเกลียดชัง ก่อนที่จะขว้างมันใส่กระจก
"ฉันเกลียดแก! อีหน้าสวย ฉันเกลียดแก"
ภาพของคนในงานหัวเราะเยาะ และภาพที่วุฒิกับไอลดายืนยิ้มจับมือกัน บาดลึกในหัวใจเวฬุรีย์
เธอทุบกระจกจนแตกเป็นรอยร้าว สะท้อนใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเวฬุรีย์ เธอมองหน้าตัวเองในกระจก กรีดร้องออกมาแล้วดึงทึ้งผมตัวเองอย่าบ้าคลั่ง "แอร๊ย..."
มฆวันทุบประตูห้องอย่างร้อนใจ
"ฬุรีย์...ลูก เปิดประตูหน่อยลูก"
เสียงกรีดร้องยังดังออกมา นวลนภาช่วยทุบประตูห้อง
"ฬุรีย์ นี่แม่เองนะ เปิดประตูให้แม่เข้าไปหน่อย"
"ลดาไปเอากุญแจมานะคะ"
"รีบไปเลยจ๊ะลดา"
ไอลดาวิ่งออกไป
เวฬุรีย์มองหน้าตัวเองที่บิดเบี้ยวในกระจกอย่างจงเกลียดจงชัง เกลียดที่สุดในชีวิต!
"ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก นังเวฬุรีย์ อีหน้าผี อีหน้าเละ หน้าอัปลักษณ์ ไม่มีใครน่าเกลียดเท่าแกอีกแล้ว แกเกิดมาทำไม ฉันเกลียดแก"
เวฬุรีย์หยิบเศษกระจกที่แตกขึ้นมา กรีดไปที่ใบหน้าเละของตัวเอง แล้วกรีดร้องดังโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
อ่านต่อหน้า 3
เพลิงพ่าย ตอนที่ 1 (ต่อ)
เสียงร้องโหยหวนดังลั่นออกมา นวลนภากับมฆวันตกใจ
"ฬุรีย์... เป็นอะไรไปลูก ฬุรีย์...ลูกแม่"
นวลนภาทุบประตูรัวๆ ส่วนมฆวันพยายามบิดลูกบิดให้เปิดออก
"เปิดประตูสิฬุรีย์ พ่อบอกให้เปิด!"
ไอลดาวิ่งเข้ามาพร้อมกับกุญแจ
"กุญแจมาแล้วค่ะ"
มฆวันบอก "รีบเปิดเลยลูก"
ไอลดาเปิดประตูมือไม้สั่น
ทันทีที่ประตูเปิดออก ทุกคนก็ตกใจแทบสิ้นสติ
"ฬุรีย์"
เวฬุรีย์นอนจมกองเลือด ใบหน้าของเธออาบไปด้วยเลือดจากกระจกที่กรีด เธอนอนตาเหม่อลอยเหมือนคนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว
"ฬุรีย์...ทำไมถึงทำอย่างนี้ล่ะลูก ฬุรีย์ลูกแม่"
มฆวันเข้ามาประคองเวฬุรีย์ขึ้นมา
"ผมจะพาลูกไปห้ามเลือดก่อน"
มฆวันอุ้มเวฬุรีย์ขึ้นมา ไอลดากับนวลนภารีบตามไป
มฆวันอุ้มเวฬุรีย์ที่เลือดอาบหน้าออกมา ทุกคนตกใจเบือนหน้าหนี
"นายผ่อน นาย"
ผ่อนศักดิ์เข้ามา พอเห็นก็ตกใจหน้าซีด
"เอารถออกเร็ว"
"ครับคุณหมอ"
ผ่อนศักดิ์วิ่งออกไป มฆวันตามไป ไอลดาจะตามไปด้วย นวลนภาหันไปบอก
"ลดา...ลูกอยู่ส่งแขกก่อนนะจ๊ะ"
"แต่...ลดาเป็นห่วงน้อง"
"คุณพ่อดูแลอยู่ น้องคงไม่เป็นอะไรมากแล้ว เดี๋ยวแม่จะโทรส่งข่าว"
"ค่ะแม่"
ไอลดามองตามน้ำตาไหล วุฒิเข้ามาประคองไอลดาจากด้านหลัง
"พี่วุฒิคะ...ฬุรีย์"
"ไม่เป็นไรนะลดาฬุรีย์อยู่ในมือคุณอาหมอแล้วต้องไม่เป็นอะไรแน่"
ไอลดาพิงซบวุฒิอย่างหมดแรง
ในห้องฉุกเฉิน มฆวันคลินิกตอนดึก แสงไฟที่ส่องออกมาจากห้องห้องหนึ่ง พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนของเวฬุรีย์ดังลั่น
เวฬุรีย์ดิ้นพราดอยู่บนเตียงคนไข้
"ปล่อย...ฉันอยากตาย ปล่อยฉัน แอร๊ย..."
นวลนภาช่วยจับตัวเวฬุรีย์ไว้
"อย่าฬุรีย์ อย่าทำอย่างนี้เลยลูก"
ผ่อนศักดิ์เข้ามาพร้อมกับเชือก
"มาแล้วครับคุณหมอ"
ผ่อนศักดิ์ส่งเชือกให้ มฆวันเอาเชือกมามัดมือเวฬุรีย์ไว้กับเตียง
"ไม่เอา...ปล่อย...อย่า...แอร๊ย"
มฆวันฉีดยาให้ เวฬุรีย์ดิ้นพราดๆจนสักพักค่อยๆ สงบลงอ่อนแรง มฆวันถอนใจเฮือก นวลนภามองลูกอย่างสงสาร ผ่อนศักดิ์มองถึงกับสั่น เหงื่อแตกซิก
"นายผ่อนออกไปก่อน"
"ครับ"
ผ่อนศักดิ์ออกไป มฆวันมองเวฬุรีย์อย่างอ่อนใจ
"พ่อจะทำแผลให้ลูกนะฬุรีย์ อยู่นิ่งๆ นะลูก"
เวฬุรีย์น้ำตาไหล แต่แววตายังกร้าว นวลนภาลูบผมฬุรีย์เบาๆ
"รับรองไม่เจ็บนะลูก"
มฆวันทำแผลให้เวฬุรีย์ โดยมีนวลนภาเป็นลูกมือ มฆวันเตรียมล้างมือแล้วสวมถุงมือ นวลนภาเตรียมอุปกรณ์
เวฬุรีย์เหม่อลอย แต่แววตาคิดอะไรอยู่ในใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับลงเพราะฤทธิ์ยา
วุฒิช่วยไอลดาส่งแขกกลับจนเกือบหมด
"สวัสดีครับคุณอา ขอโทษด้วยนะครับที่งานขลุกขลักไปหน่อย"
"ไม่เป็นไรจ้ะ อาเข้าใจ" ฤทัยบอก
"ขอบคุณค่ะคุณอา ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ"
ฤทัยตบแขนไอลดาเบาๆ แล้วเดินไป จุ๊บกับต๋อมออกมา
"ขอบใจนะจ๊ะจุ๊บ ต๋อม"
"ทำใจให้สบายนะลดา สู้ๆจ้ะ" จุ๊บบอก
"ฉันเอาใจช่วยนะแก" จ๋อมบอก แล้วบอกกับวุฒิ "ฝากพี่วุฒิดูแลลดาด้วยนะคะ"
"ไม่ต้องห่วงครับ"
ทั้งสองยกมือไหว้วุฒิ
ไอลดาพยักหน้า จุ๊บกับต๋อมเดินออกไป วุฒิเข้ามาหาไอลดา
"พี่จะกลับแล้วนะ ลดาจะได้พักผ่อน"
"ขอบคุณนะคะพี่วุฒิ ถ้าไม่ได้พี่วุฒิช่วย ลดาไม่ไหวแน่ๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกลดา เรื่องแค่นี้เอง"
ไอลดาตาแดงๆ จะร้องไห้
"ลดาเป็นห่วงฬุรีย์ค่ะ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ไม่น่าเลย"
วุฒิจับมือไอลดาไว้อย่างปลอบโยน
"มันเป็นอุบัติเหตุนะ ไม่มีใครตั้งใจให้มันเกิดขึ้น คุณพ่อลดาดูแลฬุรีย์แล้ว ลดา
อย่าคิดมากจ้ะ"
ไอลดาพยักหน้า วุฒิบีบมือไอลดาเบาๆ อีกครั้ง
เวลาต่อมา วุฒิเข้ามาในบ้านพร้อมกับพ่อกับแม่ เพ็ญโพยมทำท่าขนลุก
"ต๊าย...ลูกสาวคนเล็กของหมอมฆวัน โตขึ้นน่าเกลียดน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก เห็นแล้วขนลุก"
"คุณก็...ไปพูดถึงแกอย่างนั้นได้ยังไง เด็กมันเลือกเกิดไม่ได้"
"ฉันไม่ได้หมายถึงหน้าตา ฉันหมายถึงนิสัยต่างหากล่ะ แค่สะดุดล้มก็ต้องเรียกร้องความสนใจ ถึงกับกรีดหน้าตัวเองที่แย่อยู่แล้วให้ยิ่งแย่ไปอีก"
"ฬุรีย์น่าสงสารนะครับคุณแม่"
"แม่ไม่เห็นว่าน่าสงสารเลย ถ้ายังทำตัวมีปัญหาแบบนี้ สงสารคุณหมอกับคุณนวล แล้วก็หนูลดามากกว่า ที่ต้องมาคอยแก้ปัญหาซ้ำๆ ซากๆ ให้ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว"
"ถ้าฬุรีย์ได้รับการผ่าตัดแล้ว อาจจะดีขึ้นก็ได้นะครับ ตอนนี้คุณอาหมอก็แค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น"
"แม่ก็อยากจะรอดู ว่าความสวยจะทำให้จิตใจสวยขึ้นบ้างหรือเปล่า"
ทวีวัชรแอบสบตากับวุฒิอย่างอ่อนใจกับอคติของเพ็ญโพยม
ออมช่วยบุญปลูกเก็บถาดและจานเข้ามาในครัว
"เสียดายว่ะ ของที่เตรียมมาก็ต้องเป็นหมันไปหมดน่ะสิ ลิเกเลิกก่อนเวลาซะงั้น"
"ทำไงได้ล่ะป้า เรื่องมันลงเอยแบบนึกไม่ถึง ตกใจกันไปทั้งงาน ใครจะมีอารมณ์จะไปฉลองต่อล่ะ"
ผ่อนศักดิ์กลับมาอย่างเหนื่อยอ่อน
"คุณฬุรีย์เป็นไงบ้างวะไอ้ผ่อน" บุญปลูกถาม
"น่าสงสารคุณฬุรีย์ แกดิ้นพราดๆ จะไม่ยอมให้คุณหมอทำแผลเลย ต้องฉีดยาให้สงบ"
"โอ๊ย...คนอะไรน่ากลัว อารมณ์รุนแรงเหลือเกิน กรีดหน้าตัวเองก็ทำได้"
"ก็คุณฬุรีย์หน้าเละอยู่แล้วนี่ป้า จะกรีดลงไปอีกกี่แผลก็คงไม่ทำให้แย่กว่าเดิมนักหรอก" ออมบอก
"ดูพูดเข้านังออม อย่าให้คุณๆ ได้ยินเชียวนะ แกได้ออกไปหางานใหม่แน่"
"ไม่กลัวหรอก จะได้ไปให้พ้นๆ คุณฬุรีย์ซะที ที่อยู่นี่ก็เพราะคุณผู้ชายคุณผู้หญิง แล้วก็คุณลดาเท่านั้นแหละ"
"นินทาอะไรเจ้านายกันยะ"
บุญปลูกกับออมหันไปมองอย่างหมั่นไส้ เห็นลอร่าเดินเท้าสะเอวเข้ามา
"พูดความจริงโว้ย ไม่ได้นินทา" ออมบอก
"ฉันได้ยินแกว่าคุณฬุรีย์ เดี๋ยวจะฟ้อง"
"ฟ้องเลยอีลอสระเอีย"
"หนอย...อีออม อีหมาหัวเน่า"
ลอร่าเอาของกินที่เหลือขว้างใส่ ออมเอาน้ำที่เหลือในแก้วต่างๆ สาดกลับ ทั้งสองสาดใส่กันไปมา บุญปลูกเอาถาดมากันไว้
"เฮ้ยๆ อย่ามาทะเลาะกันในนี้ ของพังหมดแล้วโว้ย"
"ก็อีลอมันหาเรื่องก่อนนี่ป้า"
"มันนินทาเจ้านาย ฉันยอมไม่ได้"
"โว้ย...เละไปหมดแล้ว พอซะที"
ผ่อนศักดิ์รีบก้มหลบออกไป เหลือบุญปลูกคอยห้ามกันความวุ่นวาย
นวลนภาประคองเวฬุรีย์เข้ามาในห้อง เวฬุรีย์มีผ้าก๊อซปิดแผลที่ใบหน้า พอนั่งบนเตียงแล้ว นวลนภาก็สัมผัสกอดลูกสาวเบาๆ ที่แผ่นหลัง
"ฬุรีย์... แม่เชื่อ..เชื่อว่าเราต้องช่วยลูกได้ เรา...แม่...คุณพ่อแล้วก็พี่ลดา เราต้องช่วยลูกได้"
"ไม่จริงหรอกค่ะแม่ หนูไม่ต้องการฟังเรื่องโกหกอีกต่อไป หนูไม่ต้องการ"
"มันไม่ใช่เรื่องโกหกนะลูก มันเป็นเรื่องที่...คุณพ่อของหนูกับแม่พยายามอยู่เราต้องทำได้"
ฬุรีย์กอดแม่ร้องไห้
"แม่คะ มันไม่ใช่ความผิดของหนูนะ หนูไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทำไมละคะแม่ ทำไม"
"แม่ตอบไม่ได้ ไม่มีอะไรในโลกที่ถูกต้องไปเสียทุกอย่างหรอกลูก"
"หนูเกลียดคนทั้งโลก เกลียดตัวของหนูเอง หนูน่าจะตายตั้งแต่...ตั้งแต่ตอนที่หนูเกิด"
"ฬุรีย์ อย่าพูดอย่างนี้อีกเลย หนูจะทำให้แม่ไม่มีความสุขเหลืออยู่นะลูก
"อย่าทิ้งหนูไปนะแม่ หนูรักแม่ แม่ต้องรักหนู รักให้มากๆ กว่าใครในโลกเลย"
นวลนภาจูบลูก
"ฬุรีย์... แม่รักหนู หลับเสียเถอะ หลับตาให้สนิท แล้วพรุ่งนี้จะดีขึ้นเอง"
"แม่สัญญาแล้วนะ"
"จ้ะ แม่สัญญา"
ฬุรีย์พยายามข่มตาหลับลง นวลนภาลูบผมของลูกแผ่วเบาด้วยความสงสาร
ในห้องนอน มฆวันนั่งอ่านตำราเกี่ยวกับว่านและสมุนไพรอย่างเคร่งเครียด นวลนภาเดินเข้ามา
"ฬุรีย์เป็นยังไงบ้าง"
"หลับไปแล้วล่ะค่ะ"
"แย่นะ ไม่ดีขึ้นเลย สำหรับจิตใจของลูก"
"มีทางไหนที่จะช่วยลูกได้บ้าง เราต้องช่วยลูกนะคะคุณ คุณเท่านั้นที่จะช่วยฬุรีย์ได้ ไม่อย่างนั้นแกก็จะเป็นอย่างนี้ สิ่งแวดล้อม ผู้คน และสังคมทำให้แกต้องเป็น..."
มฆวันถอนหายใจ ลุกขึ้นไป ยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง
"เราต้องใช้เวลา อย่าลืมสิฬุรีย์เพิ่งอายุครบยี่สิบ ที่ผ่านมาเรารอให้ผิวหนังและสรีระของแกเปลี่ยนจนเต็มที่ก่อน"
"งั้นคุณก็กำหนดวันผ่าตัดเลยสิคะ ก่อนที่เราจะเสียลูกไป ฉันกลัว...กลัวว่า เมื่อจิตใจของฬุรีย์เสียไปแล้ว เราจะเสียแกไปทั้งหมด...ทั้งชีวิตของแกเอง"
"ผมกำลังพยายาม และเราก็มีของสำคัญอีกอย่างนึงที่ต้องรอ"
นวลนภามองหน้ามฆวันอย่างเข้าใจ
อ่านต่อหน้า 4
เพลิงพ่าย ตอนที่ 1 (ต่อ)
ตอนสาย เวฬุรีย์ซึ่งมีผ้าปิดแผลที่หน้านอนพลิกตัวไปมา เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ใครน่ะ"
" พี่เอง"
ไอลดาสวมใส่สร้อยที่วุฒิให้เมื่อคืน เธอยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกล่องของขวัญ
"ไปให้พ้น"
"ฬุรีย์...ให้พี่เข้าไปหน่อยเถอะ"
"ฉันไม่อยากเจอหน้าแก"
"พี่เอาของขวัญวันเกิดที่พี่วุฒิฝากมาให้"
เวฬุรีย์กลอกตาไปมาคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าเหี้ยม
"งั้นเข้ามาก็ได้ ประตูไม่ได้ล็อค"
ไอลดาดีใจรีบเปิดประตูเข้ามา
"ฬุรีย์...เป็นยังไงบ้าง"
"ไหนล่ะ ของขวัญ"
ไอลดายื่นของขวัญให้ เวฬุรีย์เอาของนั้นขว้างไปโดนหัวไอลดา
"โอ๊ย"
ไอลดาจับหน้าผากตัวเอง พอเอามือออกก็เห็นเลือดตัวเองไหลเปรอะมือ
"ฬุรีย์ ทำไมถึงทำอย่างนี้"
เวฬุรีย์มองอย่างสะใจ
"ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามายุ่งกับฉัน"
"พี่ขอโทษที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น พี่เสียใจ"
"ไม่ต้องมาเสแสร้ง แกจัดงานวันเกิดเพื่อจะฉีกหน้าฉัน ให้คนมาหัวเราะเยาะฉัน ฉันรู้"
"พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ"
"แกไม่มาเป็นแบบฉัน แกไม่มีวันเข้าใจหรอกนังลดา ของขวัญนั่นให้พี่วุฒิเอามาให้ฉันเอง แกไปให้พ้น"
เวฬุรีย์เอาของอื่นในห้องขว้างไอลดาอีก ไอลดาหลบวูบ
"ฬุรีย์"
"ฉันเกลียดแก ออกไป ออกไปซะ"
ไอลดามองเวฬุรีย์อย่างเสียใจ แล้วเก็บของขวัญออกจากห้องไป
ไอลดาเดินเครียดออกมา หน้าผากมีเลือดไหล นวลนภาที่เดินมาเห็นเข้าก็ตกใจ
"ลดา...โดนอะไรมาลูก"
ไอลดาจับหน้าผากตัวเองพยายามส่ายหน้าฝืนยิ้ม
"ลดา...ซุ่มซ่ามเดินไปชนเสาค่ะ"
นวลนภามองไปที่ห้องของเวฬุรีย์อย่างเข้าใจ
"อย่าหลอกแม่เลยลดา...ลดาอย่าโกรธน้องเลยนะลูกนะ"
"ลดาไม่โกรธหรอกค่ะ แต่เสียใจมากกว่า มันเป็นความผิดของลดาเองที่ฝืนจัดงานนี้นี้ขึ้นมา ทั้งที่คุณพ่อเตือนแล้ว"
"อย่าโทษตัวเองเลยลดา ไม่มีใครตั้งใจให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ลดาต้องสงสารน้อง เข้าใจน้องนะ ถ้าลดาเป็นฬุรีย์ก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน"
"ค่ะแม่ ลดาให้อภัยน้อง ลดาเข้าใจฬุรีย์ค่ะ"
"แม่อยากขอร้องอะไรอีกอย่างนึง"
ทั้งคู่ต่างสบสายตากันและกัน ไอลดากล่าวออกมาเหมือนกับให้คำมั่นสัญญา
"ลดารู้ค่ะ ลดาจะรักฬุรีย์ให้มาก มากกว่าตัวของลดาเอง อย่างที่แม่เคยบอกเสมอ"
"แม่ไม่ได้ขอร้องมากเกินไปใช่ไหม"
"ไม่หรอกค่ะ ลดาทำได้ค่ะแม่ แม่อย่าห่วงเลย"
นวลนภากอดไอลดาไว้
"ขอบใจจ้ะลดา ขอบใจลูก มา...เดี๋ยวแม่พาไปทำแผลนะ"
นวลนภาประคองไอลดาออกไป
บริเวณหน้าเรือนต้นไม้ซึ่งดูลึกลับน่ากลัว ใครบางคนเดินมา แล้วเอากุญแจมาไข ประตูเรือนต้นไม้เปิดออก เห็นเป็นอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้ สมุนไพรแปลกๆ รวมทั้งว่านสารพัดชนิด
ใครคนนั้นเดินมาถึงต้นไม้ต้นหนึ่ง คือว่านอสรพิษ ซึ่งมีสีสันและลักษณะหงิกงอแปลกตาออกแนวหลอนเหมือนต้นไม้ผีสิง
มฆวันมองมันอย่างพิจารณา ก่อนจะยิ้มออกมา เขาสวมถุงมือ แล้วใช้กรรไกรตัดกิ่งของมันอย่างระมัดระวัง ยางของมันไหลออกมา มฆวันรีบหาภาชนะมารองรับว่าน
"คุณคะ"
มฆวันชะงัก ทำให้ว่านหล่นลงพื้น ไปโดนจิ้งจกตัวหนึ่งแถวนั้น เกิดเป็นฟองฟู่ขึ้นมา แล้วมันก็ถึงกับหงิกงอเปื่อยยุ่ยไปทันทีเหมือนถูกน้ำกรดอย่างแรง
"เข้ามาทำไมไม่ให้สุ้มให้เสียงน่ะคุณ"
"ขอโทษค่ะ ฉันไม่นึกว่าคุณกำลังยุ่ง"
"มีอะไรเหรอ"
"ฉันจำได้ว่าวันนี้ครบกำหนดที่ว่านอสรพิษโตเต็มที่สำหรับจะใช้สกัดได้แล้ว" นวลนภามองไปที่ว่าน "นั่นใช่ไหมคะ"
"ใช่ แต่เรายังต้องรอสารเคมีที่มณไทไปหาซื้อจากอเมริกามาก่อน อีกสามวันผมถึงจะสกัดได้ ระหว่างนี้เราต้องระวังไม่ให้ใครมาแตะต้องว่านนี้เป็นอันขาด"
"ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าว่านอสรพิษต้นเดียวกันนี่ จะมีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ อยู่ที่ว่าเราจะใช้อะไรจากมัน"
"ผมถึงไม่อยากให้ใครมายุ่มย่ามในนี้ เพราะพิษจากยางของมันร้ายกาจมากเราต้องใช้สารเคมีบางอย่างผสมเข้าไป แล้วสกัดสารพิษออกมาก่อน ถึงจะใช้ประโยชน์จากมันได้"
"อีกไม่กี่วันแล้วสินะคะ เมื่อมณไทกลับมา คุณจะได้ใช้มันช่วยลูกของเรา"
"ผมหวังว่าสูตรที่ผมคิดค้นขึ้นมาจะได้ผลกับผิวของฬุรีย์"
"ฉันก็หวังอย่างนั้นค่ะ"
นวลนภามองว่านนั้นอย่างมีความหวัง แต่มฆวันยังหนักใจไม่น้อย
ไอลดาซึ่งมีพลาสเตอร์ปิดแผลที่หน้าผากนั่งเล่นไอแผดเหม่อๆ อยู่ วุฒิเข้ามา
"ลดา... เป็นยังไงบ้าง ชอบของขวัญของพี่หรือเปล่า"
ไอลดาจับสร้อยที่สวมอยู่
"ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะพี่วุฒิ"
"พี่ดีใจที่ลดาชอบ แล้วฬุรีย์ล่ะ"
"ฬุรีย์อาการไม่ค่อยดีเลยค่ะ"
"แย่เลยเหรอครับ"
ไอลดาพยักหน้าฃ
"สภาพจิตใจน่ะค่ะ พี่วุฒิไปเยี่ยมฬุรีย์ด้วยกันนะคะ"
"ฬุรีย์พร้อมจะเจอคนอื่นหรือยัง"
"ฬุรีย์อยากเจอพี่วุฒิค่ะ พี่วุฒิเอาของขวัญไปให้ฬุรีย์ด้วยตัวเองนะคะ"
วุฒิมองไอลดาอย่างไม่แน่ใจ เพราะไม่อยากเจอฬุรีย์
เวฬุรีย์นอนเซ็งๆ อยู่คนเดียว เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ใครน่ะ"
"พี่วุฒิเองครับฬุรีย์"
ฬุรีย์ชะงักเมื่อได้ยินชื่อวุฒิ สีหน้าตื่นเต้นดีใจสุดขีด
"พี่วุฒิ... รอเดี๋ยว"
วุฒิกับไอลดามองหน้ากันอย่างไม่สบายใจ ฬุรีย์หยิบตุ๊กตาขึ้นมาพูดด้วยอย่างตื่นเต้น
"ในที่สุด...ฉันจะได้เจอพี่วุฒิแล้วลูซี่ ดูซิฉันสวยหรือยัง"
ฬุรีย์รีบส่องกระจกจัดผมเผ้าให้ดูดี แล้วเอาผ้ามาคลุมหน้า ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
ประตูค่อยๆ เปิดออก วุฒิถือกล่องของขวัญ สีหน้ายิ้มแย้ม เหมือนโลกทั้งโลกของฬุรีย์สดใสขึ้นมาทันที แต่พอเห็นไอลดาที่อยู่ด้านหลัง ฬุรีย์ก็ชะงัก ชักสีหน้า
"อ้าว...พี่ลดา เมื่อกี้เห็นคุณแม่เรียกหาไม่ใช่เหรอ"
ไอลดารู้ว่าฬุรีย์โกหก แต่ตีเนียนไปด้วย
"จริงด้วย ลืมไปเลย ... พี่วุฒิคุยกับฬุรีย์ไปก่อนนะคะ"
ไอลดาออกไป วุฒิมองตามงงๆ
"เข้ามาสิคะพี่วุฒิ"
ไอลดาออกมาแล้วปิดประตู สีหน้าโล่งใจเหมือนคนทำภารกิจลุล่วงแล้ว แต่ในแววตาก็แอบเจือความ
เศร้าอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ
วุฒิยืนอึกอักอยู่ เวฬุรีย์รีบเข้ามาดึงมือวุฒิไว้อย่างดีใจจนลืมตัว
"ฬุรีย์ดีใจจังที่ได้เจอพี่วุฒิอีก ดีใจที่สุดในชีวิตเลยค่ะ"
วุฒิท่าทางอึดอัด รีบยื่นกล่องของขวัญให้เวฬุรีย์
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้ะฬุรีย์"
"ขอบคุณค่ะ"
เวฬุรีย์ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา วุฒิมองอย่างเป็นห่วง
"แผลฬุรีย์เป็นยังไงบ้าง"
"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ คุณพ่อทำแผลให้แล้ว อีกไม่นานก็หาย แต่ไอ้แผลตั้งแต่เกิดนี่สิคะ มันไม่หายซะที"
เมื่อเห็นวุฒิจ้องหน้า เธอกลับหันหลังให้เขา
"เดี๋ยวคุณอาหมอก็รักษาให้หายได้นะครับ ฬุรีย์ไม่ต้องกลัว"
"แต่ฬุรีย์ไม่อยากให้พี่วุฒิเห็นหน้าฬุรีย์ตอนนี้ เพราะฬุรีย์ยังไม่สวยค่ะ"
"พี่เห็นฬุรีย์มาตั้งแต่เด็กแล้วนะ พี่ไม่เคยมองว่าฬุรีย์สวยหรือไม่สวยเลย พี่มองแต่ว่าฬุรีย์เป็นน้องสาวที่พี่รักเสมอ"
เวฬุรีย์แอบกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเจ็บใจ
"น้องเหรอค่ะ"
เวฬุรีย์หันกลับมาทางวุฒิ
"แล้วพี่ลดาละคะ พี่วุฒิคิดยังไงกับพี่ลดา"
วุฒิพยายามเลี่ยง
"ทำไมฬุรีย์ถามอย่างนี้"
เวฬุรีย์จับมือวุฒิไว้อย่างคาดคั้น
"ฬุรีย์อยากรู้นี่คะ ตอบฬุรีย์มาก่อนสิคะ ว่าพี่วุฒิคิดยังไงกับพี่ลดา เหมือนที่คิดกับฬุรีย์หรือเปล่า ตอบฬุรีย์มาก่อนสิคะ"
วุฒิลำบากใจ
"ฟังพี่นะฬุรีย์ ความรู้สึกที่พี่มีให้กับลดาและฬุรีย์...มันเป็นคนละอย่างกัน"
ฬุรีย์กรีดร้องออกมาอย่างรับไม่ได้
"แอร๊ย...เพราะฬุรีย์หน้าตาน่าเกลียดใช่ไหมคะ พี่วุฒิถึงไม่รักฬุรีย์อย่างที่รักลดาใช่ไหมคะพี่วุฒิ! ใช่ไหม"
วุฒิมองเวฬุรีย์อย่างตกใจ
อ่านต่อตอนที่ 2