เอเจนซีส์ – ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าเอกอัครราชทูตประจำเกาหลีใต้ มาร์ก ลิปเพิร์ต ได้รับการคุ้มกันอย่าง “เพียงพอ” ก่อนถูกคนร้ายใช้มีดกรีดหน้ากลางงานเสวนาในกรุงโซล กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแถลงเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.)
คิม คีจอง ชายหัวรุนแรงซึ่งเคยเดินทางไปเกาหลีเหนือหลายครั้งระหว่างปี 1999-2007 บุกเข้าถึงตัวเอกอัครราชทูต ลิปเพิร์ต และใช้มีดกรีดเข้าที่ใบหน้าด้านขวา ขณะที่ทูตรายนี้ไปร่วมงานเสวนาเรื่องการรวมชาติเกาหลีที่จัดขึ้นในกรุงโซล เมื่อวันพฤหัสบดี (5)
บาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้าทำให้ ลิปเพิร์ต ต้องถูกเย็บถึง 80 เข็ม
ตำรวจเกาหลีใต้กำลังสอบสวนหาความเชื่อมโยงระหว่างเหตุทำร้ายร่างกายทูตอเมริกันกับการเดินทางไปเกาหลีเหนือของ คิม คีจอง
แมรี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจของคนร้าย
“เรากำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าไปในงานเสวนา ทั้งการแจกบัตรเชิญ และการตรวจสอบบุคคลก่อนเข้างาน”
คิม วัย 55 ปี ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว ระบุว่าตนต้องการประท้วงภารกิจซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ซึ่งเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์นี้
ฮาร์ฟ ปฏิเสธแนวคิดที่ว่ามาตรการคุ้มกันทูตสหรัฐฯ อาจ “หละหลวม” เกินไป โดยอธิบายว่า สำนักงานความมั่นคงทางการทูต (Bureau of Diplomatic Security) จะประเมินมาตรการคุ้มกันที่จำเป็นสำหรับทูตสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไปประจำยังประเทศต่างๆ และในกรณีของ ลิปเพิร์ต ได้รับการอนุมัติให้มีตำรวจ 1 นายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้คอยอารักขา
“ก่อนจะส่งทูตไปปฏิบัติภารกิจ สำนักงานความมั่นคงทางการทูตจะประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว” เธอกล่าว พร้อมระบุว่า เมืองหลวงเกาหลีใต้จัดว่ามีระดับภัยคุกคาม “น้อย” สำหรับนักการทูตสหรัฐฯ
.
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ได้ส่งตำรวจอีกหลายนายมาคอยอารักขาทูตสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุร้ายขึ้น และทางสหรัฐฯ จะพิจารณาว่า “จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอื่นๆ อีกหรือไม่” ฮาร์ฟ เผย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งเพิ่มมาตรการคุ้มกันทูตอเมริกันในประเทศอื่นๆ
เมื่อถามว่ากรุงโซลจะจัดเป็น “พื้นที่เสี่ยงสูง” หรือไม่นับจากนี้ เมื่อคำนึงถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่เริ่มร้อนระอุจากภารกิจซ้อมรบ รวมไปถึงกรณีภาพยนตร์ “ดิ อินเทอร์วิว” ที่เปียงยางมองว่าค่ายหนังอเมริกันดูหมิ่นเหยียดหยามผู้นำของตน ฮาร์ฟ ตอบว่า “จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ คิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น”
อาการของ ลิปเพิร์ต อยู่ในขั้นคงที่และเริ่มฟื้นตัว แต่จะต้องพักอยู่โรงพยาบาลต่อไปจนถึงวันอังคารหรือพุธหน้า (10-11 มี.ค.)
สื่อเกาหลีเหนือได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำร้ายทูตสหรัฐฯประจำกรุงโซลว่า ลิปเพิร์ต “สมควรถูกลงโทษ” และเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “คมมีดแห่งความยุติธรรม”
ลิปเพิร์ต ถูกส่งมาประจำที่กรุงโซลเมื่อปีที่แล้ว และเป็นที่ทราบกันดีว่าเขาเป็นทูตที่ไม่เคร่งพิธีรีตองและเข้าถึงได้ง่าย เขามักจะเดินจากบ้านพักมายังสถานทูตซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน และมีคนเห็นเขาจูงสุนัขพันธุ์บาสเซ็ตฮาวนด์ชื่อ “กริกสบี” เดินเล่นอยู่ใจกลางกรุงโซลอยู่บ่อยๆ
