เรื่องย่อละครเวที "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล 2015"
บทประพันธ์ :มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
บทละคร คำร้อง และทำนอง : สุรุจ ทิพากรเสนี
กำกับการแสดง :เกรียงศักดิ์ ศิลากอง
กำกับดนตรี : ผศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ (ศิลปินศิลปาธร)
รายพระนาม
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงร่วมแสดงในบท “นางนิวฮูลู่”
บทบาท - นักแสดง
กัญภัส ศรีณรงค์ (ป่าน Vie Trio) รับบทเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีซูสี พระพันปี (ซูสีไทเฮา)
สุรุจ ทิพากรเสนี รับบทเป็น ลิเลียนยิง มหาขันที (ผู้บังคับการขันทีราชสำนัก มหาจักรวรรดิชิง)
ภานุรุจ พงษ์พิทักษ์กุล รับบทเป็น ยุงลู (มหาเสนาบดีแห่งคณะบริหารสูงสุด มหาจักรวรรดิชิง)
ตันติกร เมืองหนองหว้า รับบทเป็น พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งมหาจักรวรรดิชิง
นภัส จิรา รับบทเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินี ซูอัน พระพันปี (ซูอันไทเฮา)
ณัฏฐนันท์ รอยศรี รับบทเป็น พระเจ้าตุงจี่ฮ่องเต้
มัชฌิมา มีบำรุง รับบทเป็น พระนางเจียซุนฮองเฮา
ณัชพงศ์ อัศวกาญจน์ รับบทเป็น พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ พระราชนัดดา ในพระนางซูสีไทเฮา
เกรียงศักดิ์ ศิลากอง รับบทเป็น อันเตไฮ ผู้บังคับการขันทีพระราชสำนัก มหาจักรวรรดิชิง
ผู้ผลิต :The Musicals Society of Bangkok ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต
ราคาบัตร : 5,000 / 3,000 / 2,500 / 1,500 และ 1,000 บาท
วัน - เวลา - สถานที่ :1- 3 และ 8 - 10 พฤษภาคม 2558 ณ ศาลาดนตรีสุริยะเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต 30 พฤษภาคม (รอบเดียวเท่านั้น) ณ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย รัชดาภิเษก
เรื่องย่อและคาแร็กเตอร์
สมเด็จพระจักรพรรดินีซูสี พระพันปี (ซูสีไทเฮา) นามเดิม "หลันเอ๋อร์" หรือ “นางกล้วยไม้น้อย” ที่หลังจากบิดา ได้สิ้นชีวิตลง นางจึงรับภาระในการดูแลนางนิวฮูลู่ ผู้เป็นแม่กับเบญจมาศน้องสาวไว้ แลหมายมั่นว่าจะต้องทำให้ครอบครัวสุขสบายให้จงได้ วันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง นางได้เลือกทางเดินที่จะทำให้ฝันของนางเป็นจริง แลจำต้องทิ้งความสุขในหัวใจตนไว้เบื้องหลัง หลังจากที่เฝ้าคอยด้วยความอดทนอยู่ในพระราชวังต้องห้ามอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ถึงเจ็ดเดือน
นางกล้วยไม้น้อย ซึ่งบัดนี้คือ "นางกำนัลเยโฮนาลา" ก็ได้เฝ้าพระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ ณ พระราชวังฤดูร้อนยวนมิงยวน ทั้งสองต่างตกตะลึง แลพึงใจในความสง่างามของกันและกัน ยิ่งได้สนทนากัน พระเจ้าเซียนเฝ็ง ก็ยิ่งต้องพระทัยในความเฉลียวฉลาดของนาง พาให้เกิดเป็นรักแรกพบ ความสุขใดเล่าจะเท่าการได้อยู่กับคนที่รัก ในสถานที่อันสวยงามดั่งสวรรค์สร้าง พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ประทับอยู่ด้วยนางกำนัลเยโฮนาลาหลายทิวาราตรี ทรงฝากคำมั่นสัญญาไว้ว่าจะทรงรักและยกย่องนางแต่เพียงผู้เดียว ทั้งยังทรงแต่งตั้งนางขึ้นเป็น "พระสนมเยโฮนาลา" ตั้งแต่บัดนั้น พระสนมเยโฮนาลานั้นคิดว่าชีวิตของนางคงมีความสุขเสียที
หากแต่การณ์ไม่เป็นเช่นนั้น พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ ทรงสถาปนา นางสะโกตา ขึ้นเป็นฮองเฮา อันนางสะโกตานี้เป็นบุตรีของ ท่านมูฟัน ที่ปรึกษาราชการของสมเด็จพระจักรพรรดิ เป็นขุนนางที่มีอำนาจวาสนาที่สุดคนหนึ่งในแผ่นดิน หัวใจของพระสนมเยโฮนาลานั้นเจ็บช้ำสุดประมาณ ด้วยวาจามังกรอันศักดิ์สิทธิ์ยังมิอาจถือเป็นสรณะได้ แล้วในใต้หล้านี้จะไปเชื่อน้ำคำใครได้อีก นางจึงทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งอำนาจ อำนาจเท่านั้นที่จะบันดาลให้ได้ทุกอย่าง แล้วความปราดเปรื่องของนางก็ส่งผล นางได้ให้กำเนิดพระราชบุตรพระองค์แรกแห่งรัชกาล นางจึงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "พระนางเยโฮนาลา ฮองเฮาตะวันตก" พระมเหสีขั้นสอง รองจาก “พระนางสะโกตา ฮองเฮาตะวันออก” เมื่อพระนางได้รับสถาปนาขึ้นเป็นฮองเฮา มีอำนาจวาสนาดังที่ต้องการ พระนางก็ทรงหมายพระทัยว่าจะทรงมีความสุข แต่การณ์ก็กลับไม่ได้เป็นดั่งนั้น พระนางยังคงต้องต่อสู้ชีวิตอยู่ทุกขณะจิต จวบจนวาระสุดท้าย
"ดุจเรือลำน้อยล่องกลางสายชล
น้ำเชี่ยวไหลวนเป็นเกลียวหมุนไป
ความทุกข์โถมถั่ง ดั่งคลื่นซัดใจ
สุดจะทนไหว หัวใจหาใช่หินผา
อนาจนักชีวิตเป็นดั่งสงคราม
ทุ่มเททุกยามฟันฝ่าปัญหา
หลายปีที่ผ่าน ไม่มีสักครา จะสุขอุรา
ต้องทนสู้ชีวาร่ำไป" ( เพลง ชีวิตนี้ฤๅคือสงคราม )
ลิเลียนยิง - ขันทีที่เดินทางไปยังบ้านของนางนิวฮูลู่ เพื่อไปคัดเลือกนางในนั้น เมื่อได้สนทนากับ "กล้วยไม้" ก็ให้จับใจในความเฉลียวฉลาดของนางยิ่งนัก
อันสาวงามทั่วกรุงปักกิ่งนั้น หาเพียงสักคน ที่จะสู้ความสง่างามแลความปราดเปรื่องของนางได้ไม่ ทั้งสองจึงได้ปวารณาตัวแก่กันว่า จะดูแลเกื้อกูลกันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แลนางกล้วยไม้นั้นได้มอบแพรขาวให้ลิเลียนไว้เป็นที่รฦก แทนคำสัญญา แลลิเลียนยิงนั้น ก็ได้เก็บรักษาแพรผืนนี้ติดตัวไว้ตลอดเวลา ภายใต้ความอ่อนโยนของแพรน้อยผืนนี้ ได้ซ่อนเร้นความลับ เอาไว้
อันแพรขาวนี้ สารพัดประโยชน์ หากแต่ ในกาลต่อมา แพรขาวนี้กลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ความลับ และความตาย
ยุงลู - เมื่อได้ย้ายมาอยู่ ที่ตรอกตะกั่ว กรุงปักกิ่ง "กล้วยไม้" ก็ได้พบบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง นามว่า "ยุงลู" ทายาทตระกูลนักรบธงสีขาว ( 1 ใน 8 สีธงแห่งกองพลของมหาจักรวรรดิชิง) ความสง่างาม และแววตาอันเฉลียวฉลาดของกล้วยไม้ ทำให้ยุงลูได้เผลอมอบหัวใจให้กับนางไปตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน แลหลังจากนั้นไม่นาน นางกล้วยไม้น้อยก็ได้จากตรอกตะกั่วเพื่อเข้าไปอยู่ในพระราชวัง ชีวิตนางได้ผันเปลี่ยนไปจากสามัญชนมาสู่การเป็นพระราชวงศ์
แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็พาให้ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง หากแต่กล้วยไม้น้อยที่เขาได้เคยรู้จัก บัดนี้ดำรงพระอิสริยยศถึงทีสมเด็จพระจักรพรรดินี
ทว่าหัวใจของเขานั้น มิได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เพียงแต่เขาเลือกที่จะแสดงออกมาเป็นความจงรักภักดีอย่างสุดหัวใจ
พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ - สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 9 แห่งมหาจักรวรรดิชิง เป็นราชโอรสองค์ที่ 4 ของ จักรพรรดิเตากวง
หลังจากพระเจ้าเตากวงได้สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ ก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกร เมื่อทรงมีพระชนมายุเพียง 19 พรรษา และต้องทรงไว้ทุกข์เป็นเวลานานถึง 27 เดือน ตามราชประเพณี ก่อนที่จะมีการคัดเลือกนางในและสถาปนาพระอัครมเหสี
วันหนึ่ง “พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้” เสด็จประพาสอุทยานพระราชวังฤดูร้อน ยวนมิงยวน จึงได้พบนางกำนัลเยโฮนาลา ทั้งสองต่างตกตะลึง แลพึงใจในความสง่างามของกันและกัน ยิ่งได้สนทนากัน พระเจ้าเซียนเฝ็งก็ยิ่งต้องพระทัยในความเฉลียวฉลาดของนางกำนัลเยโฮนาลา พาให้เกิดเป็นรักแรกพบความสุขใดเล่า จะเท่าการได้อยู่กับคนที่รัก ในสถานที่อันสวยงามดั่งสวรรค์สร้าง พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ประทับอยู่ด้วยนางกำนัลเยโฮนาลาหลายทิวาราตรี ทรงฝากคำมั่นสัญญาไว้ว่าจะทรงรักและยกย่องนางแต่เพียงผู้เดียว ทั้งยังทรงแต่งตั้งนางขึ้นเป็น "พระสนมเยโฮนาลา" ตั้งแต่บัดนั้น
สมเด็จพระจักรพรรดินี ซูอัน พระพันปี (ซูอันไทเฮา) - ด้วยเหตุผลทางการเมือง “พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้” จำต้องประทานตำแหน่งฮองเฮา ให้แก่ "นางสะโกตา" บุตรีของ ท่านมูฟัน ที่ปรึกษาราชการสมเด็จพระจักรพรรดิ ขุนนางที่มีอำนาจวาสนาที่สุดคนหนึ่งในแผ่นดิน
หลังจากที่ “พระนางสะโกตา” ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นฮองเฮา “พระสนมเยโฮนาลา” ก็ตั้งมั่นที่จะขีดชะตาชีวิตตน แล้วความปราดเปรื่องของพระนางก็ส่งผล ด้วยจากนั้นไม่นาน พระนาง ก็ให้กำเนิดพระราชบุตรพระองค์แรกแห่งรัชกาล พระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้จึงได้สถาปนาพระนางขึ้นเป็น “พระนางเยโฮนาลาฮองเฮา” พระมเหสีขั้น 2 แลพระนางเยโฮนาลานั้น ประทับอยู่พระตำหนักทางด้านทิศตะวันตก ชาววังทั้งปวงจึงขานพระนามว่า "พระนางฮองเฮาตะวันตก"
ส่วน “พระนางสะโกตาฮฮงเฮา” ที่ได้รับการการสถาปนาเป็นพระอัครมเหสี นั้น ประทับอยู่ ณ พระตำหนักทางด้านทิศตะวันออก ชาววังจึงขานพระนามว่า "พระนางฮองเฮาตะวันออก"
พระเจ้าตุงจี่ฮ่องเต้ / พระนางเจียซุนฮองเฮา
“พระเจ้าตุงจี่ฮ่องเต้” สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 10 แห่งมหาจักรวรรดิชิง พระราชโอรส ใน “สมเด็จพระจักรพรรดิเซียนเฝ็ง” และ “พระนางเยโฮนาลา ฮองเฮาตะวันตก”
ครั้นพอพระเจ้าตุงจี่ฮ่องเต้ มีพระชนม์ได้ 17 พรรษา ก็ถึงเวลาที่จะทรงว่าราชการด้วยพระองค์เอง แลต้องมีการสถาปนาฮองเฮาตามราชประเพณี พระนางซูสีไทเฮา แลพระนางซูอันไทเฮา ก็ทรงคัดสาวงามชาติตระกูลดีมาถวาย
พระเจ้าฮ่องเต้ตุงจี่ นั้น ต้องพระทัยสาวงามนางหนึ่ง ที่พระนางซูอันไทเฮาทรงหามาถวาย นางมีนามว่า "อะลูเต" ผู้เป็นนัดดาของเจ็งอ๋อง ที่ปรึกษาราชการของพระเจ้าเซียนเฝ็งฮ่องเต้ พระองค์จึงสถาปนานางอะลูเตขึ้นเป็น “พระนางเจียซุนฮองเฮา พระอัครมเหสี”
เพื่อพระราชสวามีแลเศษสวรรค์ในพระครรภ์ พระนางจึงได้อาจหาญแข็งข้อต่อกรกับนางพญา หงส์ฟ้า
พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้ (พระราชนัดดา ในพระนางซูสีไทเฮา) - ในปี คริสตศักราช 1879 พระเจ้าตุงจี่ฮ่องเต้ ทรงว่าราชการด้วยพระองค์เองได้เพียง 3 ปี เมฆหมอกอันมืดมัวก็ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ากรุงปักกิ่ง สมเด็จพระจักรพรรดิตุงจี่ ที่ทรงมีพระชนม์เพียง 20 พรรษานั้น ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย
“สมเด็จพระจักรพรรดินีซูสี พระพันปี” ทรงเห็นชอบให้ตั้ง "ไตเทียน" บุตรของจุนอ๋อง แลนางเบญจมาศ พระโสทรขนิษฐภคินี ของพระองค์เอง ขึ้นครองบัลลังก์มังกร แลทรงพระนามว่า "พระเจ้ากวางสูฮ่องเต้"
อันเตไฮ - เมื่อครั้งที่ “นางเยโฮนาลา” เพิ่งเข้าวัง “ลิเลียนยิง” ยังเป็นเพียงขันทีชั้นผู้น้อย หัวหน้าขันทีที่ทรงอิทธิพลในราชสำนักในขณะนั้นคือ "อันเตไฮ" ผู้ล่วงรู้ความเป็นไปของทุกสิ่งในพระราชวังต้องห้าม แม้กระทั่งความลับของ "พระสนมเยโฮนาลา"